ซัมซุงรีบเปิดโต๊ะเจรจากับคณะกรรมการบริหารยุโรป (European Commission) หลังจากที่การต่อสู้คดีกันระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงในชั้นศาลเผยว่าซัมซุงใช้ข้อตกลง FRAND ในทางที่ผิด เพื่อบีบให้ผู้ประกอบการรายอื่นบางราย ต้องจ่ายค่าส่วยในราคาที่สูงกว่ารายอื่น
ก่อนหน้านี้ ซัมซุงได้ใช้วิธีนี้ในการบีบให้แอปเปิลต้องจ่ายค่าส่วยที่สูง หากแอปเปิลปฏิเสธที่จะจ่ายค่าส่วยที่ราคานี้ แอปเปิลจะถูกซัมซุงฟ้องแบนการขายสินค้า เนื่องจากละเมิดสิทธิบัตร แต่ตามข้อตกลง FRAND สิทธิบัตรที่ถือว่าเป็นสิทธิบัตรมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม (กรณีนี้ เทคโนโลยี 3G UMTS) เจ้าของสิทธิบัตรจะต้องเก็บค่าส่วยในราคาที่เหมาะสม ยุติธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ
Reuters บอกว่าซัมซุงได้เจรจากับคณะกรรมการยุโรปมาได้ซักพักแล้ว และซัมซุงต้องการเจรจาหาข้อตกลงกับอียู มากกว่าการโดนตั้งข้อหา เพราะหากซัมซุงแพ้คดีนี้ ซัมซุงอาจจะโดนปรับสูงถึง 17.3 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.3 แสนล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้อินเทลเคยโดนปรับไปแล้วห้าหมื่นล้านบาท
ที่มา - Reuters
Comments
ปรับโหดกว่า Intel 10 เท่าเลยทีเดียว โอ้ว
เศรษฐกิจยุโรปกำลังถดถอย อียูยิ่งร้อนๆ เงินอยู่ -..-
my blog
สร้างรถไฟความเร็วสูงในพี่ไทยได้ 2.5 รอบเลยนะจ้ะ
@TonsTweetings
ผมว่าครึ่งรอบยังไม่ได้นะ ได้แค่ 1/4 มังคับ
พูดเล่นครับ #แก้ตัวไม่ถูก
@TonsTweetings
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 700 กว่ากิโลเมตรใช้เงินประมาณ 1.7 แสนล้านครับ ถ้าจะทำคงได้สายหลัก ๆ เกือบครบกับเงิน 5.3 แสนล้าน
บางทีอาจจะได้แต่ไม้หมอนมาก็ได้นะครับ
ถ้าสร้างได้ในราคา "5.3 แสนล้านบาท" ก็รีบๆสร้างไปเถอะครับ
โดยแย่ง T_T
เรียก"ค่าส่วย"เลยเหรอครับ เรียกค่าสิทธิบัตร จะดีกว่าไหม
เรื่องนี้อธิบายมาหลายปีแล้วครับ royalty = ส่วย
@TonsTweetings
ด้วยความเคารพผมว่าผมไม่เห็นคำว่า "royalty" ที่เว็บต้นทางเลยครับ คำใกล้เคียงที่เห็นก็มี "license" ซึ่งน่าจะหมายถึง การอนุญาต,ใบอนุญาต ให้ใช้สิทธิบัตร ...หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป
ไม่ได้เข้าใจผิดครับ แต่ข่าวที่เป็นที่มา มันเป็น developing story ซึ่งรายงานเฉพาะว่า "ซัมซุงจะโดน เพราะละเมิดข้อตกลง FRAND" แต่ถ้าผมไม่เขียนส่วนอื่นเข้าไป (ที่ตามไปอ่านได้อีกจาก link ตามข่าวที่ใส่ไว้ให้แล้ว) คนที่ไม่ได้ติดตามข่าวนี้มาก็จะไม่รู้ว่า FRAND คืออะไร และเหตุผลที่ว่าทำไมซัมซุงถึงจะโดน EU เล่นครับ
ผมเลือกใช้คำว่า ส่วย แทนคำว่า ค่าไลเซ่นส์ เพราะมันประหยัดตัวหนังสือและให้ความหมายเหมือนกัน (royalty = license fee)
@TonsTweetings
OK รับทราบครับ
ผมว่าต้องใช้คำว่า loyalty มากกว่านะ royalty นี่หมายถึงราชวงศ์รึเปล่า
loyalty = ความซื่อสัตย์
royalty = ค่าส่วย ที่สมัยก่อนใช้จ่ายกับราชวงศ์จริง แต่ยุคนี้ไม่มีแบบนั้นแล้วครับ แต่ที่มาของคำก็ตามนั้น
@TonsTweetings
Royalty ถูกแล้วครับ เป็นการจ่ายส่วย ถ้า Loyalty คือไม่ต้องจ่ายส่วยแต่เป็นการซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ
มาม่ามาแล้ว หึหึ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ค่าปรับบ้าบอคอแตกมาก
รู้สึก EU จะมีบทบาทเรื่องพวกนี้บ่อยจัง
สมมุติอาเซียนรวมกัน 10 ประเทศแล้ว จำทำแบบนี้ได้บ้างไหมนะ
ช่วงนี้ EU อยู่ในช่วงกำลังจน ต้องเข้าใจ เพราะบางประเทศถึงกับเรียกร้องหาค่าปฏิกรรมสงครามสมัย WW2 กันเลยทีเดียว
ต้องเข้าใจครับว่า EU มีประวัติและ practice ในลักษณะ intervention มากมาแต่ต้นแล้ว ต่างกับฝั่งเราพอสมควร แต่ผมว่าแบบนี้ ดีกว่าการปล่อยให้กิจการโรงภาพยนตร์ผูกขาดกันได้ตั้งแต่ต้นเหมือนบ้านเรา
@TonsTweetings
+1
ตอนนี้ยุค WWZ ครับ
อิ อิ
ค่าปรับมันจะเยอะไปมั้ย เหมือนไม่ได้แค่เพื่อลงโทษ กะรวยกันเลยทีเดียว
แล้ว EU มีส่วนได้เสียยังไงอ่ะครับ ปรับแล้วเอาไปทำอะไร
โดนปรับขอหาอะไร
ข่าวข้างบน ได้อ่านหรือยังครับ?
@TonsTweetings
ทำไมผมขำ XD
คงอ่านหัวข่าวมาแล้วแหละครับ (- -)a
ซัมซุงย่อมเป็นไปตามกรรม
ปล้นเลยครับ ปล้นเลย ปล้นแล้วเอามาแบ่งกัน
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
บางทีก็อยากรู้ถึงขอบเขตของ EU เพราะเห็น EU แกแจมไปได้ทุกเรื่องเหมือนกันแม้ว่าคู่กรณีนี่ไม่น่าจะอยู่ใน EU ด้วยซ้ำ อย่างกรณีนี้ บ. แม้ของทั้งคู่อยู่เมกากับเกาหลี เครื่อผลิตในจีนทั้งคู่ แต่ไหงโดน EU ปรับ มาไงเนี่ย!?! งี้ระหว่างไม่เอาไปขายเลยใน EU กับยอมเีสียค่าปรับอันนี้เสียน้อยกว่ากันเนี่ย
@TonsTweetings
นั่นสิ ถ้าเกิดไม่ยอมจ่ายค่าปรับ เปลี่ยนชื่อยี่ห้อแล้วส่งเข้าไปขายโดยตั้งบ.ตัวแทนจำหน่ายขึ้นมาใหม่เขาจะว่าอะไรมั้ย
ค่าปรับแพงเกินไปละ
ฮาทีมกฏหมาย Samsung จะเล่นเขากับโดนตัวเอง