คดีสิทธิบัตรจาวาที่น่าจะเป็นคดีสำคัญที่สุดในบรรดาสิทธิบัตรแอนดรอยด์ ที่จบคดีในปีที่แล้ว ออราเคิลแพ้คดีสิทธิบัตรแทบทั้งหมด และชนะคดีชุดทดสอบเพียง 9 บรรทัด แต่ยังมีคดีหนึ่งที่ตัดสินไม่เด็ดขาด คือ ลิขสิทธิ์ของ API ที่ลูกขุนไม่สามารถตัดสินอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้ผู้พิพากษา Alsup ต้องตัดสินเอง และจบคดีด้วยการยกฟ้องไปเพราะ Alsup ระบุว่า API นั้นไม่มีลิขสิทธิ์
ออราเคิลประกาศว่าจะอุทธรณ์ประเด็นนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และตอนนี้ก็ถึงช่วงเวลาการสอบพยานใหม่
นักข่าวที่อยู่ในห้องพิจารณาคดีระบุว่ากูเกิลอาจจะตกที่นั่งลำบากเพราะองค์คณะผู้พิพากษาทั้งสามคนมีแนวโน้มจะเห็นด้วยกับออราเคิล
ประเด็นว่า API มีลิขสิทธิ์หรือไม่กลายเป็นประเด็นสำคัญ ออราเคิลระบุหลักการมีลิขสิทธิ์ของ API ว่ามีสามองค์ประกอบคือ ลำดับ (sequence), โครงสร้าง (structure), และ รูปแบบ (organization) เพียงพอที่จะได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ แต่ผู้พิพากษา Alsup ระบุว่าองค์ประกอบเหล่านี้ไม่ได้ถูกอ้างในศาลมานานนับสิบปีแล้วและไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
โลกไอทีแบ่งออกเป็นสองข้างอย่างชัดเจน บริษัทที่ถือทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมาก เช่น ไมโครซอฟท์, EMC, และ Netapp แสดงความเห็นด้วยก้บข้อโต้แย้งของออราเคิล ขณะที่กลุ่มนักพัฒนาและบริษัทใหม่ๆ เช่น Rackspace และ Stack Exchange แสดงความเห็นด้วยกับกูเกิล
หาก API ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์จะมีประเด็นปัญหาคือลิขสิทธิ์นั้นได้รับความคุ้มครองที่ยาวนานอย่างมาก การทำซอฟต์แวร์เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้ในระดับโค้ดที่ต้องการการเลียนแบบ API นั้นจะทำไม่ได้เป็นระยะเวลานับสิบๆ ปี
ขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง บริษัทขนาดใหญ่มักควบคุมแพลตฟอร์มของตัวเองผ่าน API เช่น ไมโครซอฟท์ควบคุมแพลตฟอร์มวินโดวส์ผ่านทาง API ของวินโดวส์และ .NET, อินเทลและเอเอ็มดีควบคุมแพลตฟอร์ม x86 และ AMD64 ผ่านการควบคุมผู้ใช้ API หาก API เหล่านี้ไม่ได้รับความคุ้มครองบริษัทเหล่านี้จะเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล
ที่มา - ArsTechnica
Comments
โลกของเทคโนโลยี บางทีต้องรีบหาจุดร่วม ของการใช้สิทธิบัตรร่วมกันซะทีนะครับ
ได้เวลาซื้อ oracle แล้วครับ
ซื้อ JAVA อย่างเดียวมั้ง!! แต่ออราเคิลจะขายให้ไหม? ไม่รู้
ตอน Sun จะตายดันไม่ซื้อ
เห็นศาลบ้านเค้าคุยกันด้วยหลักการและเหตุผลดีจัง
เชียร์กูเกิลครับ
ศาสจะตัดสินว่าแม้ไม่ผิด แต่ Google ต้องช่วยเหลือ Oracle ด้วยการเอา 2 บริษัทมาผนวกผลประโยชน์กัน ไม่เช่นนั้นจะถูกคนอื่นตีหัวเอาได้
restful api โดนด้วยไหม
Oracle มีtool ทั้ง Jdeveloper และ Netbeans แต่ไม่มี android plugin แบบ official ต้องหันไปโปรโมท html5 แทน คงไม่ค่อยอยากจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์google
งานนี้ถ้า Oracle ไม่ปล่อย Java ผมว่ามีสิทธิ์โดนคนไอทีไมเกรทระบบหนี แน่นอน
Google จะโดนไรหว่า?
โดยส่วนตัวก็ไม่เคยมีใครเล่นกรณีว่าลอก API กันมาก่อนนะ
แต่การออกแบบ API มันก็สะท้อนถึงแนวคิดการออกแบบโครงสร้างการทำงานภายใน (architecture) เหมือนกันนะ แต่ถ้าห้ามสนิทเลย การ'ได้แรงบันดาลใจ' หรือการต่อยอดก็ยากขึ้นอีกนะ
ที่จริงผมกลัวว่าจะมีคนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องเรื่องไร้สาระ เช่น ... ไปฟ้อง Microsoft ว่าตนเขียนฟังก์ชั่น Object.ToString() มาก่อน อะไรแบบนี้ล่ะครับ
พอยกตัวอย่างนี้เห็นภาพเลย คงจะกลายเป็นสงครามฟ้องกันดุเดือดเลยทีเดียว
ผมว่าถ้าแค่เมธอดเดียวคงน่าจะยาก ไม่งั้นได้มีคดีสารพัด
แต่ผมก็ยังคิดไม่ออกว่า ในทางศาล จะหาเส้นกั้นที่ไม่ subjective ว่า ลอกจะอยู่ตรงไหน ถ้าเมธอดเดียว(ต่อให้รวม overloading)ก็น่าจะโหดเกินไป แต่ถ้าครั้นสุดโต่งประเภทลอก namespace/package และ class รวมถึง method ด้วยก็ดูจะเหมือนจะลอกงานวรรณกรรมทั้งกระบิ
ผมมองว่า API เป็นเหมือนคำที่อยู่ในพจนานุกรม ที่ผู้ใช้ก็คือคนที่เอาคำศัพท์พวกนั้นไปใช้พูด-เขียน (ส่วนความหมายก็คงเป็นโค๊ดที่อยู่ข้างในชุดคำสั่งพวกนั้น)
การจะบอกว่า API มีลิขสิทธิ และ Google ละเมิดมัน ก็เหมือนกับว่า คนเขียน Webster ไปละเมิดลิขสิทธิ์ Oxford (หรือกลับกัน) นี่ล่ะครับ
พูดยากนะ แล้วแต่มุมมอง แต่ถ้างานนี้ Oracle ชนะอาจจะเกิดศึก Oracle vs Microsoft แน่ ๆ ในทางใดก็ทางนึง (ฮา)
ที่ผู้พิพากษา Alsup ตัดสินว่าไม่มีลิขสิทธิ์หลังจากที่ไปลองหัดเขียนโปรแกรมเองดูแล้วก็คงเป็นเพราะสาเหตุนี้แหละ
ซื้อ ขอจดเอาไว้ไปเขียนหนังสือ
ผมว่าถ้ามองว่ารวม structure ของ class เข้าไปนี่ ไม่น่าจะเหมือนคำที่อยู่ในพจนานุกรมแล้วนะครับ
ผมมองว่า structure ของ class เหมือนคำแปลนะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
class คือ Noun ส่วน method คือ Verb ไงครับ :-)
ที่จริงผมคิดนะว่า คำว่า API นี่ครอบคลุมไปถึง private method ด้วยหรือเปล่า เพราะ่ว่ามันเป็น method ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้จากภายนอก 555