ทิม คุก ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Wall Street Journal พร้อมกับเผยข้อมูลจาก Visa ว่ามีผู้เปิดใช้บริการ Apple Pay แล้วถึงหนึ่งล้านครั้ง (นับเป็นจำนวน Activations) ภายใน 72 ชั่วโมงแรกของการเปิดให้บริการ โดยตัวเลขนี้ถือว่ามากกว่าจำนวนผู้ใช้บริการชำระเงินแบบ Contactless ทุกรายรวมกันทั้งหมด
คุก ยังได้ออกมาแหย่คู่แข่งรายอื่นอีกว่าแอปเปิลเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลการใช้งานของลูกค้า Apple Pay เลยแม้แต่น้อย ต่างกับบริการคู่แข่งที่ทำตัวเหมือน Big Brother
ที่มา - 9to5Mac
Comments
ปรบมือสิครับ รออะไรกันอยู่ครับ
//me ปรบมือรัวๆ
มือไม่ว่างครับ กำลังก้มกราบ... :-D
ขนาดมีบางร้านกีดกันนะเนี่ย
คือเมืองไทยละผมรออยู่นะอยากเท่กับเขาบ้างคือทุกวันนี้เอาบัตรรถไฟฟ้าไว้หลังเคส
ใช้ Rabbit SIM ติดยากมากกับ bts เลยกลับมาใช้บัตรปกติ แต่ใช้จ่ายเงินติดง่ายมาก งงเลย
ผมว่าเครื่องสแกน BTS มันห่วยเองครับ ใส่ในกระเป๋าเงินนี่แทบไม่ต้องหวังเลย
เครื่องแสกน BTS ห่วยครับ บัตร Rabbit อยู่ในกระเป๋าตังค์ก็แสกนไม่เจอ
แต่ถ้าเป็นบัตร MRT นี่ ขนาดเอาบัตรซ้อนทับกันหลายชั้นในกระเป๋าตังค์ หนาขนาดไหนก็แสกนผ่าน
มันตลกตรงที่ใช้กับตู้คูปอง และเครื่องจ่ายเงินในแมคโดนัลได้ แต่ใช้กับรถไฟฟ้าไม่ได้นี่แหละครับ
ชาวบ้านรอ Apple มาจุด NFC กันมาหลายปี
พอจุดปุ๊ป ร้านค้าจะปิดเครื่อง NFC แล้วบีบมาใช้ QR แทน
เอวัง..
เวลานี้ต้องยอมรับล่ะ ใครสร้างเทคโนโลยีอะไรที่เป็นประโยนช์มาจะไม่เกิดเลยถ้าแอปเปิ้ลไม่พลักดัน nfc ก็เหมือนกันถ้าแอปเปิ้ลไม่เล่นด้วย คงเกิดช้ากว่านี้แน่ๆ
นึกว่า Apple จะไม่เล่นกับ NFC แล้วเชียว แต่พูดถึงมาช้าๆ นิ่งๆ แต่ทุกการขยับมีความหมายมาก
จะพูดว่า NFC เต็มได้ไมผมว่ายังไม่นะครับกั้กๆอยู่เบย
ขนาด google ยังจุดไม่ค่อยติด แต่พอ apple มาเล่นด้วย NFC จงเจริญ ;)
ผมว่า google ไม่ค่อยผลักดัน ไปเจรจาว่าจะได้ผลตอบแทนเท่านี้ๆๆๆ
เพียงต่อเปิดให้ open เฉยๆ เจ้าอื่นก็เลยไม่ได้เล่นด้วยมั้งครับ
ที่แอปเปิลอั้นมานานๆเพื่อแบบนี้นี่เองสินะครับ
"Youhave activated my trap card!!"
ข้าน้อยขอคารวะ
ผมว่ามันต่างกันตรงวิธีนะ สำหรับเคส Apple Pay เนี่ยตามความเข้าใจผมคือ มันเกิดขึ้นได้ดีเพราะ
1. ฐานลูกค้า Apple มีศักยภาพสูง Apple เอาไป โน้มน้าว partner ได้
2. Apple พยายามที่จะเจรจาตกลงให้เรียบร้อย ไปพร้อม ๆ กับนำเสนอ เทคโนโลยี
3. เมื่อวิธีการที่เป็นที่ยอมรับกับทุกฝ่ายซึ่งพอเห็นพ้องกัน
มันก็เลยเกิดได้
กราบ ศาสดาคนใหม่
Apple Pay มันใช้กับระบบอื่นนอกจาก iOS ได้ไหมครับ
เพราะ สิ่งที่วงการต้องการไม่ใช่ระบบใหม่ แต่เป็นมาตรฐานที่ทุกคนใช้ร่วมกันได้ต่างหาก
คนใช้เยอะๆก็ดีครับ แต่มันทำให้เราก้าวไปสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวได้ยังไง ถ้าไม่ใช่มาตรฐาน?
อย่ามองว่ามันเป็น iOS ครับ
มองว่ามันเป็นบัตร AMEX, VISA, MASTER CARD รุ่นใหม่
มาพร้อม ที่ scan นิ้วกับ NFC ออกโดย สถาบันการเงินชื่อ Apple
จะตรงประเด็นกว่า
เปิดกระเป๋าเงินดูบัตรต่างๆ นาๆ ที่ออกมาเป็นมาตรฐาน(ของตัวเอง) นอกจากบัตรเครดิต บัตร ATM ที่ธนาคารพยายามยัดเยียดบัตรเดบิตให้ บัตรสะสมแต้มของ Lotus บัตรเงินสดของร้าน 7-11
ผมว่าถ้า ApplePay มันจะทำให้ไม่ต้องพกบัตรที่ว่าทั้งหมดนั้น ผมก็ยินดีนะ :-p
และจะยินดีมากๆ ถ้ามันมาในรูป SmartWatch (นึกถึงสายรัดข้อมือที่เอาไว้ใช้ซื้อของหรือเปิดล็อคเกอร์เวลาไปเล่นสวนน้ำ)
Apple Pay ใช้ระบบมาตรฐานของบัตรเครดิตเดิมครับ
ถ้าระบบอื่นต้องการใช้งานร่วมด้วย ก็แค่ทำให้โทรศัพท์ของตัวเองไปแตะกับเครื่องของบัตรเครดิตให้ได้
สำหรับร้านค้า ถ้ารับ Visa PayWave / Google Wallet / MasterCard PayPass อยู่แล้วไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลยครับ รับ Apple Pay ได้ทันที มันคือเอามาตรฐานเดิมมาต่อยอดบนมือถือครับ (พิเศษกว่า NFC เดิมคือจ่ายเงินได้ไม่โดนจำกัดเหมือนบัตร PayWave และตรวจยอดใช้จ่ายได้ทันที และอ่านลายนิ้วมือ)
@TonsTweetings
Apple Pay จุดติดนี่ Android และค่ายอื่นๆ จะได้ประโยชน์ไปด้วยนะครับออกจะดี
เมืองไทยใช้ได้มั้ย
ผมเคยเห็นเครื่องอ่าน NFC ในฟู้ดแลนด์แถวบ้านอยู่นะ ตอนที่แบงค์ในไทยเริ่มทำบัตร paywave ใหม่ๆ
แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว
ได้ครับ แต่คนใช้ต้องมีบัตรเครดิตในอเมริกาเพื่อเปิด Apple Pay บนเครื่องตัวเอง -__-
@TonsTweetings
ผมเห็นที่แมคอยู่นะครับ ตอนนี้ออก paywave มาหลายเจ้าเลย
ปกติเครื่องรูดบัตร ธนาคารเป็นธุระในการจัดหาให้อยู่แล้วครับ ถ้าร้านรวงอยากใช้ Apple Pay ธนาคารก็แค่เอาเครื่องไปอัพเกรด หรือเปลี่ยนเครื่องให้ใหม่ก็น่าจะใช้ได้ โอกาสที่เมืองไทยจะได้ใช้งานมีสูงครับ
ที่แคนาดามีข่าวว่ามีคนเอา iPhone 6 ไปจ่ายที่ paywave ได้เลย (apple pay ยังไม่เปิดให้บริการ)
แต่ข้อแม้เดียวคือตอนนี้ lock ให้ใช้ได้เฉพาะบัตรที่เปิดในอเมริกาเท่านั้น
มีเพื่อนที่สิงคโปร์และมีบัตรเครดิตเมกา เค้าก็ใช้ที่สิงคโปร์ได้ครับ