หนังสือพิมพ์ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่าไมโครซอฟท์ได้ให้การสนับสนุน Cyanogen ด้วยการซื้อหุ้น (equity financing) ร่วมกับนักลงทุนที่มีศักยภาพ (strategic investor) หลายราย ที่มีมูลค่ารวมทั้งหมดราว 70 ล้านดอลลาร์ โดยทั้งไมโครซอฟท์และนักลงทุนที่ศักยภาพข้างต้นซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อนั้นสนใจ Cyanogen เพราะพวกเขาต้องการลดทอนการควบคุม Android จากกูเกิล
เช่นเคย โฆษกของไมโครซอฟท์และ Cyanogen ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้
ที่มา: วอลล์ สตรีท เจอร์นัล
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
แนะนำว่าเสริมข่าวก่อนหน้านี้ด้วยน่าจะดีนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกยกย่องความกล้าของซัมซุงที่ยก Teizen ขึ้นมาแข่งกับ Android เลยแฮะ
android ทำแจกฟรี
แต่ถ้าอยากได้บริการของ google ก็ต้องทำตามที่ข้อตกลงกับ google
ผมไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไปใช่ไหม
สมมุติ
ผมใช้ android จาก Cyanogen
ใช้ Teizen จาก sumsung
หรือใช้ ios จาก apple
แต่ความจริงแล้วแค่เปลี่ยความเป็นทาสจาก google มาเป็น Cyanogen sumsung หรือ apple ใหม่เท่านั้นเอง
ให้มองแบบนี้ครับคือจำนวนทาสที่ Google ถือครองมันมีมากเกินไป ต้องกระจายให้คนอื่นบ้างต้องกระจายให้ OS อื่น คานอำนาจกันบ้าง เพื่อที่จะไม่ให้ Google กำหนดทิศทางให้เข้าข้างตัวเองอย่างเดียว
ถ้าให้จำลองสถานการอีกแบบนึงก็ค่ายมือถือในไทยไงครับ ผู้ใช้ติดสัญญาทาสเขา กี่ปีก็ว่าไป เจ้าใหนมีทาสเยอะ(รายเดือน) ก็อันตรายนะ แต่ว่าเพราะ ยังมีหน่ายงานกำกับดูแลอยู่ ก็ กสทช. นั่นแหล่ะพวกนั้นเลยออกลายไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ แค่ Google ไม่ใช่ ถ้าไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายที่ อเมริกาเขียนบังคับไว้อยู่ เขาจะทำอะไรก็แทบจะไม่มีใครมาขวางได้ในทางกฏหมายเลย แล้วต้อนนี้ Device ส่วนใหญ่ก็ตกอยู่ภายใต้ Google หมดแล้ว ไม่ใช่ค่ายผลิตมือถือ
จะบอกอะไรให้ตอนนี้หลายคนน่าจะยังไม่รู้ตัว ตอนนี้ Google บุกตลาดอะไรบ้าง ที่ผมเห็นแน่ๆ ก็ ตลาด computer กับ Device ต่างๆ ฝั่ง Device ก็เห็นๆกันแล้ว ตอนนี้ Google ทำแค่รักษาไว้ก็พอ แต่กำลังเน้นไปที่ตลาด computer จริงอยู่ที่ windows ดีกว่า แต่ลองให้มอง 5 ปี 10 ปี ข้างหน้าสิ ถ้า MS ไม่ใหวเมื่อไหร่ จนต้องเลิกพัฒนา เอนจิ้นหลัก อย่าง DirectX กับ Visual studio ได้หล่ะก็ เหอๆ ตอนนี้ Google แค่ค่อยๆดำเนินการอย่างเงียบๆครับรอดูไปสิครับ อย่าดูถูก Google นะครับ ความเป็นไปได้มันมีแม้จะไม่ 100% มันเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ถ้าใครพลาดก็โดน
ปล. ผมหมายถึงตลาด Mass อยู่นะ ถ้าเป็นองค์กร ยังมีที่ยืนสำหรับแต่ละเจ้าอยู่แล้วครับ
ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ "ฟรี" จริงๆหรอกครับ มีคนมาคานกับกูเกิลในโลกแอนดรอยด์บ้างก็ดี
ถ้าเรียกการใช้บริการว่าเป็นทาส แล้วไม่ต้องการเป็นท่าส (ตามนิยามของคุณเอง) เลย ก็ต้องทำเองหมดครับ
อย่าง Android นี่มีซอร์สโค้ดให้ดาวน์โหลด Nexus เองก็ไม่ได้ล็อก คอมไะล์ใส่เองได้ เหมือนที่ Ubuntu รองรับ Nexus
บริการอีเมลก ฝากรูป ฯลฯ ก็อาจจะต้องตั้งเซิร์ฟเวอร์เองหมดด้วย เพราะไม่งั้นจะเป็นทาส Gmail, Facebook, Instagram
lewcpe.com, @wasonliw
แนะนำ gNewSense
อยากได้บริการของ google ก็ต้องทำตามที่ข้อตกลงกับ google แล้วเสียตังให้ Google ก็เหมือน android มันไม่ฟรีจริงๆนั้นละ
ตอนนี้ Windows แจกฟรีไปแล้วด้วย หน้าจอไม่เกิน 8 นิ้ว ไม่ต้องเสียอะไรเลย ค่าลายเส้น Windows ผู้ผลิดได้เต็ม Windows ลูกค้ามาซื้อแอพ
ถ้าข่าวจริง ... ข่าวเก่ายังปลดแอกนะครัส แหมมมมม หาแอกอันใหม่ก็บอกมาเหอะ
ผมคิดว่า Google พัฒนา Android มาจนถึงตอนนี้ก็ต้องทุ่มเทมากเลย แล้ววันหนึ่ง Cyanogen ผู้ไปแงะ แกะ ปรับแต่งของเขา แล้วจะเอามาเป็น OS ตัวเอง ออกจะชุบมือเปิบไปมาก ใช่อยู่ว่าแจกฟรี รึผมอาจเข้าใจไปเองแบบไม่ลึกซึ้ง เก่งจริงทำไมไม่สร้าง OS เองเลย เพราะผมมองว่า Cyanogen ก็รอ Google ออก Android รุ่นใหม่มา แล้วตัวเองก็จับมาแต่งเติม
ผมคิดว่า ถ้ามองว่าชุบมือเปิด ก็อาจจะเกินเลยไปนิดนะครับ เพราะ Android เป็น opensource OS เหมือน Linux ดังนั้นผมว่าก็ไม่ผิดครับถ้าจะ fork ออกมาอย่างที่ Amazon ทำ
สัญญากับจีนก็หมดลงแล้ว ตอนนี้ Google ปิด source หรือเลื่อนไปนานๆใด้เสมอครับ ... ยังจำ Honeycomb ใด้้ใหม ?
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สุดท้าย Google ก็ต้องเปิดให้ผู้ผลิตต่าง ๆ อยู่ดี และการ fork ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวล่าสุดนี่ครับ
อยู่ที่ คน fork จะเลือก stable ในช่วงเวลาต่าง ๆ ออกมา และทำต่อโดยอาจไม่อิงกลับไปที่ต้นทางอีกเลยก็ได้ครับ
น่าจะเป็นเฃ่นนั้นครับ ... โดยมีรายละเอียดว่า ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
Honeycomb open จะกลับคำได้ด้วยหรอก จะเปลืยนเป็น ไม่ open
ตอนนั้น Google บอกว่า code ของ Honeycomb มันเน็นสำหรับ Tablet เท่านั้น เลยยืดเวลา open source ของ Honeycomb ... นานจนฝั่ง open source หลายรายออกมาแสดงความกังวลว่าจะไม่ opensource เลย (ซึ่ง ... สามารถทำใด้ครับ)
ในที่สุด source code ของ Honeycomb ก็ยอม open หลังวางขายนานมากครับ นานจน Android รุ่นถัดไป ICS เปิดตัวและวางขายไปแล้วนั้นแหละ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อย่าคิดแบบนั้นครับ Java บน Android ก็ fork มา
Google เปิด source เองนะคับ แล้วอีกอย่าง Android ไม่ใช่ของ Google คนเดียว เพราะคนอื่นก็ช่วยทำ ก็เหมือนกับที่ Linux ไม่ใช่ของ Linus คนเดียวนั่นละคับ
ฝรั่งเขาไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอกคับ เขาสนแค่ว่า License เขียนไว้ยังไง
ผมว่าคนที่ชุบมือเปิบคือ Google มากกว่า ใช้โมเดลการขายบริการแทนการขายซอฟต์แวร์ แล้วเปิด source เพื่อที่จะให้นักพัฒนาภายนอกมาช่วยพัฒนาจะได้เป็นการลดต้นทุนได้ทางหนึ่ง
แล้วอีกอย่าง ข้างใน Android มีสิ่งที่เป็นของคนอื่นตั้งเยอะนะคับ เช่น Linux และพวก Native Library ต่างๆ
WebKit นี่ Apple ก็เป็นคนเริ่มนะคับ แต่ Google ก็ไปเอามาทำ Chrome เพื่อให้คนเข้าถึงบริการของตัวเองได้ง่าย อันนี้เรียกว่าชุบมือเปิบรึเปล่า แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ผิดหรอกคับ ตราบใดที่ยังอยู่ในกฏของ License นั้นๆ
+1 ชัดเจนครับ
webkit นี่แตกสาขามาจาก KHTML ของ KDE ถามว่าถ้าแอปเปิลทำ webkit ขึ้นมาเอง คิดหรือว่าเขาจะโอเพ่นซอร์สให้คนอื่นเอาไปใช้.
WebKit: Origins
ของ KDE คือ KHTML ครับ ส่วน WebKit คือ fork ของ KHTML โดยแอปเปิล
WebKit: Open sourcing
คุณสมเจตน์เขาก็ไม่ได้กล่าวผิดนี่ครับ? หรือผมไม่เห็นที่ผิด?
ถ้าแทนที่คำว่า "แตกสาขา" ที่คุณสมเจตน์ใช้ ด้วย "fork" แล้ว มันก็ถูกต้องทุกประการนี่ครับ
คุณ PaPaSEK เห็นอะไรหรือครับ? ช่วยชี้นำผมหน่อย
ช่วยเสริมข้อมูลน่ะครับ ขออภัยครับพิมพ์สั้นไปนิด
ใช้ android ก็เพราะใช้บริการ google ส่วนใหญ่เช่น gmail mail contact calendar docs sheets drive finance now search keep maps play translate chrome youtube
และใช้ ios ก็เพราะบริการเหล่านี้ gmail mail contact calendar docs sheets drive finance now search keep maps translate chrome youtube
รวมไปถึงใน PC ด้วย ถ้าขาดบริการเหล่านี้ internet คงง่อยไปเลย google ดูยังเข้าใจความต้องการของ user มากกว่า microsoft ซะอีก
ตัดYoutubeไปนี่ ไมโครซอฟมีที่คุณว่าๆมาครบเลยนะ
ถ้ายัดXboxไปด้วยนี่ กูเกิ้ลก็ไม่มีเหมือนกัน
กูเกิ้ลเข้าใจความต้องการuserมากกว่าตรงไหน?
keep?
One Note
มันไม่ Simple เท่า Keep น่ะครับ
เช่นทำรายการไปจ่ายตลาด เปิด Check box แล้วติ๊กๆ เลยขณะจ่าย
นึกอะไรได้เมื่อไหร่ ก็เพิ่มรายการได้ง่ายๆ รวดเร็ว แบบ Simple
OneNote มัน too complicate สำหรับ Mobile device ครับ (ในความเห็นและการใช้งานของผมนะครับ)
เวลามี service อะไรออกใหม่ ก็ลองใช้ ของmicrosoftออกมาก็โหลดมาทดลองใช้ แต่มันห่วยกว่าครับ ก็เลยไม่อดทนใช้ ไม่รู้จะผละจากของดีที่ใช้ได้จริงไปทำไม
อาจจะเรียกว่าไม่ถูกจริตก็ได้ครับ
Office 365 ผมว่ามันดีกว่า Google Docs นะ
One Note ผมว่ามันดีกว่า Google Docs เหมือนกัน เสียอยู่อย่างเดียว One Note ในประเทศไทยยังโหลดไม่ได้ ทำไมไม่เปิดให้โหลดได้ทั่วโลกนะ หรือว่าเป็นเพราะ Google อีกแล้ว
ส่วนตัวผมรู้สึกว่า Google Drive ห่วยกว่า OneDrive อยู่มากโขเลยล่ะครับ เคยอัพแล้ว Failed รัวๆ ต้องมานั่งกดอัพใหม่เองตลอด (แล้วก็ failed เกือบตลอด) ขณะที่ OneDrive นี่อัพช้าหน่อย แต่มี resume ให้เองบ้าง
ผม +1 ให้ครับ ทุกวันนี้ผมแทบไม่ได้ใช้บริการของกูเกิลที่ว่ามาเลยนอกจาก YouTube
(และผมไม่รู้สึกแม้แต่นิดเดียวว่ากูเกิลเข้าใจ user มากกว่าค่ายอื่น)
รู้แต่ว่าทุกวันนี้มีความสุขดีครับ
สำหรับที่ผมใช้นะ เทียบกับที่คุณเขียน
gmail -> live.com / exchange (office 365)
mail -> ใน android ผมก็ใช้ mail แต่บน windows ใช้ outlook / บน wp ใช้ mail ของ MS
contact -> people (live.com)
calendar -> calendat (live.com) มี family room ด้วย google ทำได้เปล่า...
docs -> MS Word
sheets -> MS Excel
drive -> One Drive/Dropbox - google drive ไม่อยากใช้ครับ มันหน่วงเครื่อง+ช้า
finance -> bing
now -> อันนี้ของเขาก็เจ๋งดีนะ แต่ถ้าใน WP ผมชอบ Cortana มากกว่า
search -> ของ MS มี Bing แต่ยอมรับว่าผมใช้ของ google เป็นหลัก
keep (ไม่เคยใช้ TT)
maps -> ใช้ Here Map เป็นหลัก (ทั้ง android และ WP) ส่วน google maps เอาไว้หาที่ที่ here หาไม่เจอ
play -> อันนี้ store ของเขานิ ถ้าบน platform อื่นคงไม่ได้ใช้ล่ะ
translate -> ผมว่า bing แปลได้ดีกว่า แต่ผมก็ใช้พอ ๆ กันล่ะ
chrome -> ผมใช้ firefox เป็นหลัก แต่ตอนเขียน .net ต้องใช้หมดทุกตัว
youtube -> ไม่ค่อยได้ดูอะไรอ่ะ
สรุปว่าชีวิตผมไม่มี google น่าจะได้ครับ :-)
ลองใช้ Outlook ตัวใหม่ยังเจ๋งดีแต่มันมีปัญหานิคๆหน่อยๆ
อันนี้ยังเป็นของ nokia อยู่
ข้อเสียไม่มีภาษาไทย
Bing สู้ google ไม่ได้จริงค้นหาอะไรไม่ค่อยเจอ ถ้า Bing เท่า google ผมจะไปใช้ชอบ หน้า Bing
ผมเตรียมย้ายไป Spartan เห็นบอกว่าเบาแล้วยังลงส่วนเสริมของ Google ได้อีก ตอนนี้ chrome กินแรมกับCPU เยอะไปจากเบราว์เซอร์ไปเป็น Android ตัวเล็กๆแล้ว
ที่ใช้เพราะเป็นของ google นี่แหละ เช่นเดียวกับใช้ ios เพราะเป็นของ apple
ถ้าใช้แอนดรอยด์ที่ไม่มี google service มือถือคงไม่ต่างจากสากกะเบือ 55
ผมมองว่า Cyanogen ก็เหมือน สำนักแต่งรถ AMG สมัยก่อนนะครับ
คือเอารถ Benz ที่ว่าดีแล้วมารื้อออกทุกชิ้น แล้วออกแบบชิ้นส่วนบางชิ้นใหม่ ประกอบกลับมาเป็นรถ
ที่ดีกว่า Benz ได้เนี่ย มันก็ต้องมีฝีมือ เทพระดับหนึ่งหล่ะ
แทนที่ Google จะเจรจาหาทาง เอา Cyanogen เข้ามา
ทำเป็น version พิเศษก็ได้ ดันไม่ทำ ตอนนี้คนลงทุนให้ ดันเป็น Microsoft แทน
แปลกๆดีเหมือนกัน
ศัตรูของคู่แข่งย่อมเป็นมิตรของเรา
-ไมโครซอฟท์ไม่ได้กล่าวไว้
เดี๋ยว Google ก็จะบอก งั้นให้อิสระเรื่อง Play Store ด้วยละกัน ไปตั้งร้านค้าเอาเองนะจ๊ะ ที่นี่รับเฉพาะ Android by Google เท่านั้น
เอาจริงๆแล้ว ใน Source ของ Android ที่มีให้ก็มีแค่แอพ ฟังเพลง กล้อง อีเมลล์ เครื่องคิดเลข อะไรพวกนี้ 2-3 แอพเองครับ ที่ใช้กันในชีวิตประจำวันนั้นมาจาก Google เกือบทั้งหมดถ้าเค้าคิดจะแยกจาก Google ก็ไม่ให้อะไรมาเลยครับแม้แต่ Play store ต้องไปใช้ amazon แทนผมว่า cyanogen คงไม่บ้าดีเดือดขนาดสร้าง store ขึ้นเอง
ความหมายของผมคือ Google อาจเพิ่ม policy ว่าถ้าไม่ใช่ Android จาก Google ก็จะไม่สามารถโหลดแอปผ่าน Play Store ได้ แค่นี้ก็จบแล้วครับ ใครเขาจะอยากย้ายไป
ปกติถ้าไม่ได้อนุมัติจาก Google ก็ลง Play Store ไปกับ ROM ไม่ได้อยู่แล้วนะครับ พวก CM ก็ต้องไปลงเพิ่มทีหลังโดย User เอง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จริงๆ มันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนะครับ คือมันเป็นเรื่องคำว่า Android ที่อาจจะซ้ำซ้อนความหมายกัน
เป้าหมายของ CM (รวมถึง Android fork อื่นๆ เช่น Fire OS) ก็คือดึง AOSP มา เพิ่มบริการตัวเองเข้าไป เพื่อให้สู้กับ Google Android ได้ (ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีใครทำได้)
ก็ทำ store เหมือน nokia X ไงครับแก้โค้คนิคหน่อย ไม่ก็ให้ store ของ nokia X เลย
ประเด็นคือ Cyanogen คนเดียวมีบริการไม่ครบ ลองดูไปที่อเมซอนก็ได้ครับ ว่าเค้าทำบริการอะไรแทนที่
ไม่ว่าจะเป็นบริการ E-Mail, ปฏิทินนัดหมาย, Messaging, Geolocation (รวมทั้งระบบ hybrid), ระบบแผนที่, App Store (ระบบ DRM, ระบบชำระเงิน), backup service เป็นต้น ซึ่งของพวกนี้ Cyanogen ไม่มีเองแน่ ซึ่งหลายอย่างอาจจะต้องขอความร่วมมือจากผู้เล่นรายอื่น ซึ่งของแบบนี้มันต้องปรบมือพร้อมกันหลายข้างครับ
แถมที่สำคัญสุดคือนักพัฒนาอิสระที่ต้องสามารถข้ามมาพัฒนาได้ง่าย ไม่งั้นก็กลายเป็น Fire OS, Windows Phone, Bada, Tizen ครับ
เพราะ Cyanogen เองก็รู้ว่าผู้ใช้ก็เล่นเกมตกกระไดพลอยโจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ
ทุกวันนี้ผู้ใช้ก็สรรหา GApps มาลงกันเองหลังลง Custom ROM กันอยู่แล้ว ซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่ Cyanogen เลี่ยงไม่พูดถึงครับ
ไมโครซอฟท์ก็เป็นทางเลือกที่ดีนะผมว่า หลายๆ คนก็ชอบ MS Exchange อยู่ครับ (คงไม่ได้ชอบหรอก ที่บริษัทใช้)
คือผมว่ามันไม่แก้ปัญหาที่ตั้งไว้ว่า "ต้องการการลดทอนความควบคุม Android จากกูเกิล" เพราะในที่สุด ผู้ใช้ต้องการแอพ และแอพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดบนระบบที่มีพื้นฐานบน Android นี้ ก็ยังเป็น Google Play Store วันยังค่ำ
ซึ่งแอพที่พัฒนาบน Google Play Store ก็ยังพัฒนายึดโยงกับโครงสร้างพื้นฐานของ Google Services (geolocation, GCM, บริการเก็บเงิน, IAP) ก็ถูกกำหนดทิศทางโดยกูเกิลอยู่ดี (เกิดเฮียอารมณ์ดี สั่งบังคับว่า GServices รุ่นถัดไปจะใช้ได้เฉพาะ API Level 19 ขึ้นมา ทางนี้ก็ต้องฟอร์คตามอยู่ดี)
แถมทำแบบนี้ สำหรับลูกค้า ยิ่งสร้างความซับซ้อนเสียเปล่าๆ
ฮ่า ฮ่า ที่ต้องการแยกออกไปมันแค่ส่วนที่เอาไว้พัฒนาได้โดยไม่ต้องรอ Google น่ะครับ ส่วนบริการที่เป็น eco system นี่ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
อันนี้แค่ความเห็นผมนะครับ
นั่นเป็นเพราะว่า GApp Dominate ตลาดอยู่ยังไงล่ะครับ
เพราะไม่มีใครมาลดทอนการควบคุมจาก Google ได้เลย ทำให้ Google กำหนดทิศทางของ Android ไป
แต่ถ้ามีคนใช้ของ Cyanogen มากขึ้น Google Store ก็จะต้องเป็นฝ่ายทำตามมาตรฐานของคนอื่นครับ
เช่นถ้า ส่วนแบ่ง 50-50 google บอก Gservice ใช้ได้เฉพาะ API Level 19 ขึ้นไป แปลว่า Google ยอมทิ้งส่วนแบ่ง 50% ไปเลยนะครับ
แต่ทุกวันนี้ที่ไม่มีใครกล้างัดกับ Google ก็เพราะถ้าไม่ทำตาม ก็จะทิ้งส่วนแบ่งการตลาด หรือหมายถึงเงินที่หายไป
แต่ถ้ามีคนมาลงทุนให้ มันก็ยังพอโอเคครับ