หลังจากทางกูเกิลเปิดตัว Android 7.1 พร้อมกับ Google Pixel เพียงรุ่นเดียว และปล่อย Android 7.1 รุ่นทดสอบตามโครงการ Android Beta Program ไปสองรุ่นแล้ว หลายคนก็ลุ้นกันว่า Android 7.1 ตัวจริงจะปล่อยให้กับอุปกรณ์รุ่นอื่นเมื่อไร
มาวันก่อน มีคนตาดี สังเกตข้อมูลการอัพเดตซอฟต์แวร์ความปลอดภัยประจำเดือนของ Nexus 6P ของ Vodafone พบว่าตัวไฟล์ OTA ขนาดใหญ่โตผิดปกติถึง 650 MB แถมมีเลขรุ่นเป็น 7.1.1 โดยมีรายละเอียดทางเทคนิคคร่าวๆ คือมาพร้อม security patch level 2016-12-05 เลข build เป็น NMF26F
ตามข้อมูลเดิม กูเกิลน่าจะปล่อยอัพเดต Android 7.1 ให้ Nexus 6, 5X, 6P, 9, Player, Pixel C รวมถึงให้กับ Pixel และ Pixel XL
ส่วนตัวจริงจะออกมาตามข้อมูลที่รั่วไหม และมาครบทุกอุปกรณ์ตามสัญญาหรือไม่ ก็อดใจรออีกประมาณ 10 วันถึงจะทราบครับ
Comments
7.0.1นังไม่ได้เลยยยยย
มือถือ 5.1 ยังขายกันเยอะเลย
ทำไม android ต้องให้ผู่ผลิตออกอัพเดพถึงจะอัพเดตได้ทำไม เค้าไม่ทำแบบ window ที่เราอัพเดตเองจาก microsoftเลย
จะทำแบบนั้นได้ ต้องกลับข้างครับ คือผู้ผลิตจะเลือกใช้อุปกรณ์อะไร ต้องไปให้กูเกิลรับรองก่อนเท่านั้น (แบบเดียวกับ Windows) ทุกวันนี้ผู้ผลิตมีความอิสระสูง อยากใช้อุปกรณ์อะไร จอแปลก จอโค้ง เซ็นเซอร์ประหลาด ใส่ได้ทุกอย่าง แค่ทดสอบความเข้ากันได้ให้ผ่าน
อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือเป็นแบบนี้มานานย้อนไปเท่าที่ผมนึกออก สมัย Symbian ที่ซัมซุงผลิตก็ประมาณนี้ และผู้ผลิตระบบปฎิบัติการพยายามเปลี่ยนกันหลายรอบครับ (Android One, Nexus) แต่ยังไม่สำเร็จจนทุกวันนี้
lewcpe.com, @wasonliw
เท่าที่ผมลองคิดคือ Google น่าจะทำ Updates เฉพาะ Core ให้รองรับพวก CPU หรือ RAM แบบไหนได้น่ะครับ แยก Drivers ส่วนอื่นออกไป หมายถึงให้ผู้ผลิตใช้ Drivers ตัวไหนก็ได้แค่ให้ซัพพอร์ตกันกับฟังค์ชั่นพื้นฐานในการติดต่อกับ Core แต่ตัว Core สามารถอัพเป็นเวอร์ชั่นใหม่เหมือน DOS สมัยก่อนโน่นอะไรประมาณนั้น ถ้าทำแบบนี้ได้ก็ง่ายที่จะได้รับการอัพเดตตรงได้จากกูเกิ้ลเลย ในส่วนระบบอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัว Hardware น่ะครับ
อันนี้แบบลองนึกหาทางออกแบบคร่าว ๆ ดูน่ะครับ
ดูแนวคิดแล้ว เป็นแนวทางที่ดี ซึ่งแนะนำว่า เสนอแนวคิดผ่าน twitter แล้วติด tag #google #android เพื่อให้ Google มาเห็น จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง android แบบดีขึ้นครับ
โลกความเป็นจริงมันไม่ง่ายแบบนั้นครับ driver เป็นซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวพันกับระบบปฎิบัติการอย่างซับซ้อน การบอกว่าอยากให้แยกชั้นแล้วไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครทำอะไรข้างในบ้าง แล้วจะให้กูเกิลยิงอัพเดตไปให้ สุดท้ายจะกลายเป็นการทำเครื่องพังจำนวนมาก
สมัย DOS มันต่างออกไปครับ มันไม่มี auto update ใครอยากอัพเดตก็ไปหามาลงกันเอง ลงแล้วใช้ฮาร์ดแวร์ไม่ได้ก็ถอยกันเอง ความต่างของสมัยนั้นคือมันแทบไม่มี security update ด้วยซ้ำ เพราะการต่ออินเทอร์เน็ตยังเป็นเรื่องใหม่
ส่วนว่าซอฟต์แวร์บางส่วนที่แยกออกจากระบบให้อัพเดตได้ กูเกิลทำไปแล้วครับ เช่นการแยก SSL ให้อัพเดตผ่าน Google Play แต่ก็ยังจำกัดกับซอฟต์แวร์บางส่วน ระดับว่าเคอร์เนลมีบั๊กจะให้อัพเดตผ่าน Google Play คงทำไม่ได้
lewcpe.com, @wasonliw
แล้วอย่างพวก remix OS ล่ะครับ เท่าที่เห็นเค้าก็จัดการได้ทั้ง Drivers ARM และ X86 เวลาอัพเดตก็เป็น Auto Update แล้วอุปกรณ์ที่ใช้ค่อนข้างหลากหลาย แม้บางตัวจะมีปัญหาบ้าง แต่ส่วนหลักก็ใช้งานได้ มันน่าจะเป็นแนวทางได้ส่วนหนึ่งเหมือนกันนะครับ Andriod เหมือนกัน
ผมว่าเทียบไม่ตรงกัน
ผู้ผลิต remix OS เค้ามัดทั้ง kernel, UI, และบรรดาพร้อม drivers ของอุปกรณ์ต่างๆ มาด้วยกันเป็นแพ็ค ซึ่งถ้าเรามีอุปกรณ์ใหม่หรือเกิดอัพเดตแล้วมีปัญหา หรือจะอัพเดตความปลอดภัย ก็ต้องรอ remix OS อัพเดตแหล่งเดียวไม่ใช่หรืออครับ (เอาแบบไม่แฮกนะ)
และที่สำคัญ remix OS มันฟรี ใช้ในวงจำกัด ไม่ใช่สำหรับคนทั่วไป ซึ่งอะลุ่มอล่วยกว่า ซึ่งถ้ามันใช้งานไม่ได้ เกิดบั๊ก WiFi, BT ไม่ทำงาน พวกที่ใช้ก็มีทักษะพอที่จะ หาทางแก้ หรือมันเน่าสุดจะเยียวยา สุดท้ายก็กลับไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ ไม่มีการประท้วง ไม่มีรวมตัวกันกดดันตามเว็บบอร์ดต่างๆ (ฮาร์ดแวร์ก็ของเรา ดันไปแฟลชเองนี่ โอเอสเค้าเราก็ไม่ได้ซื้อ)
แต่กับ OS ที่ใช้แบบกระแสหลัก อย่าง Android ถ้าอัพเดตแล้ว WiFi ไม่ทำงาน หรือ modem ดับ ผมว่าป้าสมศรีไม่ยอมไปแฟลชรอมเองเพื่อแก้ปัญหาหรอกนะครับ
Remix OS ไม่เคยทำเป็น ARM compatible นอกจากทำให้ตัวอุปกรณ์ของตัวเอง(mini, tablet) ครับ
Remix OS ในปัจจุบันเป็น x86 จากโครงการ Android for x86 ที่ไปดึงโค๊ดจาก AOSP มา โดย Android for x86 stable ล่าสุด(6.0r1) ใช้เวลาถึง 11 เดือนหลังจาก Google ปล่อย source 6.0 ออกมาครับ ตัว drivers ต่างๆบางส่วนก็ไม่ได้ทำเองแต่ไปใช้ open-source drivers ต่างๆ เช่น ALSA, MESA ซึ่งพวกนี้ผ่านการ reverse engineering กันมาหลายปีครับ
ส่วนในโลก Android ของจริง ผู้ผลิต(Qualcomm, Samsung, ARM-Mali, etc.) ไม่เคย open-source ตัว driver หลักครับ ผู้ผลิตจะทำมาเป็น binary blobs และเปิดแค่ APIs ให้ ไม่มีใครรู้ว่าอุปกรณ์ทำงานอย่างไรเพียงแต่รู้ว่า driver ของอุปกรณ์ชิ้นนั้นรองรับคำสั่งนั้นคำสั่งนี้จาก OS kernel ครับ
อีกอย่างข้อเสียของ Android ส่วนหนึ่งมันเป็น opensource ที่เป็น 'GPL เพียงบางส่วน' แต่ส่วนที่เหลือเป็น Apache, BSD ซึ่งผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องเปิด source ตาม ทำให้ผู้ผลิตต่างคนต่างแก้ไข subsystem ให้เข้ากับตัวเอง(เช่น AOSP->CAF->Samsung-modified-CAF) โดยไม่ได้ส่งโค๊ตกลับต้นน้ำ(AOSP) ซึ่งการทำแบบนี้ถ้าจะให้ Google force update มันจะมีแต่พังกับพังครับ
ดังนั้นผมมองว่า comment นี้ของคุณ lew นี่ valid แล้วครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คำว่า "ค่อนข้างหลากหลาย" ของคุณ นี่คือไม่กี่สิบรุ่นเองนะครับ บนเว็บมี 24 อุปกรณ์ และซัพพอร์ต Remix 3.0 แค่ 2 อุปกรณ์
ที่คุณบอกว่า "แม้บางตัวมีปัญหาบ้าง" นี่ล่ะครับปัญหา คุณใช้ฟรี "มีปัญหาบ้าง" ก็คงไม่บ่น แต่กับผู้ผลิตที่ขายสินค้าจริงจังพร้อมติดตั้งระบบปฎิบัติการไปในตัวสินค้า เขาต้องรับผิดชอบสินค้าของเขาเอง
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าถ้า Google เอาจริงเรื่องพวกนี้คงไม่ได้ยากถึงขั้นทำไม่ได้หรอกครับ แต่ลึกๆแล้วคงมีเหตุผลบางอย่างที่ Google เลือกที่จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปก่อนมากกว่า
ผมมองแบบ "ไม่ลึก" คือสุดท้ายตลาดไม่สนใจครับ Android One ไม่ได้ขายดีกว่ามือถือทั่วไป (ที่อัพเดตช้า) พอตลาดไม่สนใจ ผู้ผลิตก็ไม่สนใจ
lewcpe.com, @wasonliw
คือชาวบ้านสนใจหน้าตา ฟีเจอร์ แต่เรื่องความปลอดภัยมันเรื่องสุดท้ายที่คนส่วนมากมองกัน คงต้องรอ StageFright หรืออะไรทำนองนี้กันอีกที ตลาดถึงจะตื่นตัว
ต่อมีอะไรแบบนี้ ผู้ใช้ทั่วไปก็ไม่สนใจหรอกครับ แถวบ้านผมนี่นึกว่าเป็นของแถมมาในกล่องด้วยซ้ำ
I need healing.
ใจนึงก็ไม่อยากให้เกิดอะไรแบบนั้น แต่อีกใจนึงก็อยากให้มันเกิดอะไรแบบนั้น
อุปกรณ์ที่ใช้กับ Windows ต้องมี WHQL นะครับ ซึ่ง Android หรือแม้แต่ Linux ยังไม่เคยเห็นว่าจะใกล้เคียงเลย
I need healing.
มีที่ใกล้เคียงคือ Chromebook ครับ คุมได้แทบหมด ออกอัพเดตได้ตรงจากกูเกิล (อันนี้เป็นความเคยชินของอุตสาหกรรมฝั่งพีซีที่ต่างจากมือถือ)
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าอยากได้แบบนั้น
และถ้าGoogleจัดให้
รับรองตลาดมือถือAndroidจะหดตัวลงอย่างมหาศาล และคำว่ามือถือAndroidมันหลากหลายจะหายไป จะเจอแต่สเปคเดิมๆปรับเปลี่ยนไม่กี่อย่าง พวกลูกเล่นที่เป็นจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อก็จะหายไป ลองนึกง่ายๆก็UIที่จะกลายเป็นเหมือนๆกันหมด พวกลูกเล่นของตระกูลNoteของSamsungก็จะไม่มี จะกลายเป็นแค่มือถือจอใหญ่ธรรมดาๆ
จากเมื่อก่อนถ้าสู้สเปคเจ้าอื่นไม่ได้ แต่ยังมีจุดขายเป็นลูกเล่นเฉพาะตัว แต่ถ้าGoogleทำจริง ตลาดมือถือAndroidก็จะกลายเป็นแค่ตลาดที่แข่งขันกันแค่สเปคต่อราคาอย่างเดียว ตัดราคากันไปมาจนสุดท้ายเจ๊งจบกันหมด(เหมือนตลาดทีวีในปัจจุบัน) เหลือแต่พี่จีนครองตลาด
ซึ่งถ้าGoogleจะทำ คงต้องหาทางออกในเรื่องนี้ให้ได้ก่อน เพราะจำนวนที่มากมายของAndroid Device ในปัจจุบันนั่นแหละแหล่งทำเงินอันมหาศาลของGoogleเลย
Androidone จะได้ลุ้นด้วยไหมหนอ
น่าจะออกพร้อมกันนะครับ
Update ฝั่ง Android One มาแล้วครับ
google คงไม่มีเวลาทำให้ rom อัพได้ทุกยี่ห้อพร้อมกันทั่วโลกได้แน่ๆ เพราะแค่เอาเวลาไปคิดชื่อก็หมดแล้ว
ก็ไม่แน่หรอกนะครับ ดูล่าสุดอย่างชื่อสีของ Pixel นั่นปะไร Quite Black, Very Silver หรือ Really Blue (ORZ)