แอปเปิลประกาศหยุดใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิบัตรเกี่ยวกับจีพียูของบริษัท Imagination Technologies หรือที่เรารู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตจีพียูแบรนด์ PowerVR ที่แอปเปิลใช้มาตลอดตั้งแต่ iPhone 4 จนถึงปัจจุบัน
แอปเปิลระบุว่าจะเลิกใช้เทคโนโลยีของ Imagination ภายใน 15-24 เดือน และจะไม่จ่ายค่าไลเซนส์ให้กับ Imagination อีก อย่างไรก็ตาม แอปเปิลไม่ได้เปิดเผยว่าจะใช้เทคโนโลยีใดมาแทน Imagination แต่ก็คาดว่าแอปเปิลน่าจะพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นใช้เอง
ประกาศนี้ส่งผลให้หุ้น Imagination ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนตกลงทันที เพราะแอปเปิลถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Imagination (แถมแอปเปิลยังถือหุ้นอยู่ 8% ด้วย) ฝั่งของ Imagination ก็ระบุว่าไม่เห็นความเป็นไปได้ที่แอปเปิลจะสร้างเทคโนโลยีจีพียูขึ้นมาใหม่ได้ โดยไม่ละเมิดสิทธิบัตรของ Imagination
ที่มา - Imagination, BBC
Comments
หุ้นลงไป 60 เปอเซ็นต์เลยทีเดียว
งงอะ ตลาดหุ้นลอนดอนไม่มี floor กับ ceiling หรอ
เยอะครับ ฝรั่งมอง iphone เป็น 50% ของ smartphone (จริงๆ 20)
แต่จะไป Android เค้าก็จับคู่กันหมดแล้ว
- ซื้อ License จาก ARM ก็มีแนวโน้มขายพ่วง Mali
- Qualcomm เป็นเจ้าของ Adreno
- Nvidia ยังเจาะลำบากจนทำท่าถอยเลย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
หรือจะไปร่วมมือกับ nVidia ?
I need healing.
NVIDIA GTX 10 Series ยังไม่มีไดรฟ์เวอร์กับmacOSเลยครับ ท่าจะยาก
PowerVR ดีไหม
...
คุ้นๆเหมือนตอนบอกเลิกใช้เทคโนโลยีจอของจ้าวอื่น
หรือเพียงเพื่อนำไปใช้ต่อรองเพิ่มเติม หรือรอจ้าวอื่นที่พร้อมเข้ามารับดีลมหาเคี้ยวแต่โอเดอร์มหาศาลจาก apple
ถ้าเป็นตอนจ๊อบอยู่ผมว่าเป็นไปได้สูงแต่ตอนนี้ไม่คิดว่าใช่นะ
ทำได้ไงละนั่น
หุ้นตกแล้ว ซื้อเลย ไม่จ่ายตังค์ใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว แต่เป็นเจ้าของเลย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
55555 นั่นนะสิครับ
ผมเห็นด้วยเลย ซื้อไปเลยตกขนาดนี้ อาจถูกกว่าค่าพัฒนาเองด้วยซ้ำ
เหมือนคุ้นๆเคยเห็นในหนังเรื่องอะไรสักอย่างแฮะ เทคนิคแบบนี้
5555
Apple A11 Fusion with Adreno
เห็นทาง Imagination Tech เขียนถึงผู้ถือหุ้นว่า "ไม่ต้องห่วง ยังไง Apple ก็ต้องมาตกลงขอใช้เทคโนโลยีของเราไม่ว่าทางใดก็ทางนึง" เดาว่าถ้าไม่มีการตกลงกันก็มีการฟ้องเกิดขึ้นแน่ ๆ
ใช้แน่ๆ หลังถูกซื้อกิจการเรียบร้อยแล้ว
Anandtech พูดถึงว่า iOS Devices ใช้ฟีเจอร์เฉพาะของ PowerVR มานาน เช่น PVRTC การที่จะหักดิบให้ developer เปลี่ยนไปเลยทันทีอาจจะทำได้ยาก ดังนั้นในระยะหนึ่ง Apple ก็ต้องรองรับฟีเจอร์พวกนี้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนั้นก็ต้องมีการจ่าย license เพื่อใช้งาน IP ไปอีกระยะหนึ่ง
คหสต. คือ App บน iOS มีแนวโน้มว่าจะอัพเดตตามรอบ OS ได้ไวมากอยู่แล้ว (และ Apple ก็ขึ้นชื่อเรื่องหักกึ่งดิบด้วยประมาณนึง) เรื่องระยะการซัพพอร์ตฟีเจอร์ใหม่ตรงนี้คิดว่าคงจะสั้นมาก หรือแม้กระทั่งไม่มีเลย ก็เป็นไปได้