Niantic ประกาศว่า Pokémon GO เวอร์ชันที่จะออกอัพเดตเร็วๆ นี้ จะไม่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ของแอปเปิล ที่ไม่สามารถอัพเกรดเป็น iOS 11 ได้ อาทิ iPhone 5, iPhone 5c ตลอดจน iPad รุ่นเก่า เนื่องจากตัวเกมจะมีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ซึ่งต้องการอุปกรณ์ที่สามารถรองรับได้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 เป็นต้นไป
ผู้ใช้งานที่อยู่บนอุปกรณ์เดิมจะไม่สามารถล็อกอินเข้าไปใช้งานใดๆ ได้ และจำเป็นต้องอัพเกรดอุปกรณ์ใหม่เพื่อสามารถเล่นเกมต่อได้
มีข้อสังเกตว่าประกาศของ Niantic นี้ใช้คำว่า อุปกรณ์ iOS ที่อัพเดตเป็น iOS 11 ไม่ได้ ซึ่งหมายความว่า iPhone, iPad รุ่นใหม่ๆ ที่สามารถอัพเดตเป็น iOS 11 ได้ แต่แม้ผู้ใช้จะยังไม่ได้อัพเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด ก็ยังสามารถใช้งานต่อไปได้
คดีการปลดล็อก iPhone 5C เพื่อให้เอฟบีไอเข้าไปอ่านข้อมูลในโทรศัพท์ได้ จนถึงตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเอฟบีไอสามารถเข้าถึงข้อมูลภายในโทรศัพท์ได้อย่างไร แต่แหล่งข่าวรายหนึ่งที่ ArsTechnica ระบุว่าเป็นทนายของแอปเปิลก็ระบุว่าแอปเปิลจะไม่พยายามเรียกร้องผ่านกระบวนการศาลให้เอฟบีไอเปิดเผยกระบวนการ
ทนายรายนี้ยังระบุว่าแอปเปิลคาดว่ากระบวนการที่เอฟบีไอใช้ในตอนนี้จะใช้ได้อีกไม่นานนักเพราะแอปเปิลพัฒนากระบวนการป้องกันขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้แอปเปิลจะไม่ได้ประกาศข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับ iPhone 5c บนเวทีงานเมื่อคืนนี้ แต่ผลก็เป็นไปตามข่าวลือ คือ iPhone 5 ถูกถอดออกจากเว็บไซต์ของแอปเปิล และลิงก์ไปยังหน้า iPhone 5c ก็ใช้งานไม่ได้อีกแล้ว ถือเป็นการปิดตำนาน iPhone รุ่นเดียวที่ห้อยท้าย c ในที่สุด
แหล่งข่าวของเว็บ 9to5Mac รายงานว่าแอปเปิลเตรียมที่จะเลิกจำหน่าย iPhone 5c และในขณะเดียวกันจะไม่ผลิต iPhone 6c ออกมาทดแทน ณ วันจัดงานเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ในวันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตามทางเว็บบอกว่าแอปเปิลกำลังออกแบบไอโฟนขนาดจอภาพ 4 นิ้วรุ่นใหม่ออกมาทดแทน และจะมีสเปคเทียบเท่ากับ iPhone 6 ที่วางขายอยู่ในปัจจุบันนี้ แต่ในตอนนี้แอปเปิลยังไม่พร้อมที่จะวางจำหน่ายไอโฟนรุ่นนี้ออกมา ทั้งนี้เหตุผลที่แอปเปิลเลือกที่จะไม่ผลิตสินค้าทดแทน iPhone 5c ออกมาอาจจะเป็นเพราะว่ายอดขายที่ไม่ค่อยดีตามที่คาดไว้ในตอนแรก
มีคนพบเห็นความผิดปกติบนภาพของ Lightning dock ในหน้าเว็บของ Apple ว่าตัว iPhone 5c นั้นไม่มีกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวบนปุ่ม Home หรือที่เราคุ้นเคยคือปุ่มสแกนนิ้วมือของ iPhone (ภาพแสดงอยู่ที่ท้ายข่าว)
ภาพดังกล่าวยังคงอยู่บนหน้าเว็บไซต์ สามารถดูได้ที่ Apple Store
แต่ iPhone 5c นั้นตั้งแต่เปิดตัวมายังไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ใดๆ เลย (ตั้งแต่ปี 2013) คงต้องติดตามกันต่อไปครับ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกับปุ่ม Home นี้จริงๆ หรือไม่
หลังจากที่ iPhone 5c เปิดตัวในฐานะลูกเมียน้อยไปเมื่อปีที่แล้ว และเป็นที่รู้กันว่ายอดจำหน่ายไม่ค่อยสู้ดีนัก ล่าสุดมีข่าวลือออกมาว่าแอปเปิลจะเตรียมสั่งหยุดการผลิต iPhone 5c ในช่วงกลางปีหน้านี้
ด้วยความที่ถูกจัดให้เป็นสมาร์ทโฟนตัวล่าง แต่ราคาไม่แตกต่างจาก iPhone 5s มากนัก จึงไม่ค่อยเป็นที่น่าแปลกใจสำหรับยอดขายที่ผ่านมา และถึงแม้ช่วงปลายปีที่แล้ว แอปเปิลจะพยายามโปรโมท iPhone 5c เพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จนมีข่าวว่าแอปเปิลสั่งลดการผลิตลงไป เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิต iPhone 5s
อีกส่วนหนึ่งของการยกเลิกการผลิต iPhone 5c ในครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากการที่แอปเปิลต้องการให้ไลน์ของ iPhone ทุกรุ่นตอนนี้มี Touch ID ทั้งหมดอีกด้วยครับ
ต่อเนื่องจากในงานเปิดตัว iPhone 6 รุ่นเก่าอย่าง iPhone 5s/5c ยังคงวางขายต่อไป โดยลดราคาลงเล็กน้อย และหลังงานเพียงไม่นาน Apple Store ประเทศไทยก็ลดราคาลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เริ่มต้นจาก iPhone 5c ปรับความจุเหลือเพียงรุ่น 8GB เท่านั้น ราคาอยู่ที่ 14,900 บาท ส่วน iPhone 5s จะเหลือรุ่นความจุ 16GB และ 32GB โดยราคาใหม่อยู่ที่ 19,900 บาท และ 21,900 บาท ตามลำดับ
ส่วนรุ่นเก่ากว่าอย่าง iPhone 4s ก็ถึงเวลาเลิกขายอย่างเป็นทางการแล้วครับ :)
Walmart ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศลดราคา iPhone 5s และ 5c ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นราคาที่มาพร้อมกับสัญญาผู้ให้บริการ 2 ปี
ราคานี้สำหรับลูกค้าที่ไปซื้อที่ร้าน Walmart เท่านั้น ลูกค้าออนไลน์ยังคงเป็นราคาเดิม
การลดราคาครั้งนี้อาจเป็นการล้างสต็อกเพื่อรอต้อนรับสินค้ารุ่นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับข่าวลือที่ว่าปีนี้เราอาจจะได้เห็น iPhone รุ่นใหม่เร็วกว่าปีก่อนๆ จากที่ปกติ Apple มักจะเลือกเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ในช่วงที่แอปเปิลออกมารายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 แอปเปิลได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone รุ่นที่แอปเปิลวางขายอยู่ในราคาที่ต่ำกว่า นั่นก็คือ iPhone 4s และ iPhone 5c
โดยในช่วงไตรมาสนี้ 62% ของ iPhone 4s ที่ได้จำหน่ายไปและ 60% ของ iPhone 5c ที่ขายได้ เป็นลูกค้าที่ซื้อไอโฟนมาใช้แทนมือถือ Android เก่าของตัวเอง
เดินหมากมาตามข่าวลือเป๊ะๆ สำหรับแอปเปิลที่ประกาศขาย iPad 4 อีกครั้ง โดยนำมาแทนโมเดลเดิมที่ขายมาอย่างยาวนานอย่าง iPad 2 เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับราคาของ iPad 4 ที่มาวางขายอีกครั้งนั้น เปิดราคาเท่ากับ iPad mini รุ่นใหม่ที่ 399 เหรียญสำหรับรุ่น Wi-Fi และ 529 เหรียญสำหรับรุ่นใส่ซิมได้
นอกจาก iPad 4 จะกลับมาแล้ว iPhone 5c รุ่นราคาถูกที่มาพร้อมกับความจุน้อยลงเหลือ 8GB ก็เปิดตัวมาเช่นกัน โดยจะยังวางขายแค่บางประเทศเท่านั้น ราคาที่ออกมาในอังกฤษเปิดมาที่ 429 ปอนด์ ซึ่งถูกกว่ารุ่น 16GB อยู่ 40 ปอนด์ ส่วนราคาในสหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่ที่ 499 เหรียญ (ประมาณ 16,000 บาท)
ซักพักบ้านเราน่าจะเปิดตัวตามมาครับ
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5c รุ่นความจุ 8 กิกะไบต์ ตามข่าวลือเมื่อเช้านี้ โดยผู้ให้บริการเครือข่ายในสหราชอาณาจักร O2 และผู้ให้บริการเครือข่ายในฝรั่งเศส SFR วางขายเครื่องแบบติดสัญญาแล้ว
iPhone 5c รุ่นความจุ 8 กิกะไบต์ ยังปรากฏบนเว็บไซต์ Apple Store ของแต่ละประเทศในภูมิภาคยุโรปแล้ว สนนราคาแบบไม่ติดสัญญาที่ 429 ปอนด์ (ราว 22,900 บาท) ซึ่งถูกกว่ารุ่น 16 กิกะไบต์อยู่ 40 ปอนด์ สำหรับเว็บไซต์ Apple Store ประเทศอื่นเข้าใจว่าต้องรอสักพักกว่าสินค้านี้จะขึ้นบนเว็บไซต์ครับ
ที่มา: 9to5Mac
แหล่งข่าวหลายแหล่งได้ออกมายืนยันว่าภายในวันพรุ่งนี้ แอปเปิลจะเริ่มวางจำหน่าย iPhone 5c รุ่นที่มีความจุ 8GB ซึ่ง iPhone 5c รุ่นนี้จะมีราคาถูกกว่ารุ่นอื่นพอสมควร คาดว่าแอปเปิลต้องการนำไอโฟนรุ่นนี้มาตีตลาดระดับล่าง แม้ว่าหลายแหล่งข่าวเชื่อว่ากลยุทธ์นี้ไม่น่าจะมีประโยชน์มากนัก
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมเข้ามาอีกว่าแอปเปิลจะกลับมาจำหน่าย iPad 4 (หรือที่เรียกกันว่า iPad with Lightning Connector) อีกครั้ง โดย iPad 4 รุ่นนี้จะทำหน้าที่แทน iPad 2 เดิมที่วางขายมาตั้งแต่ปี 2012 จนถึงวันนี้สำหรับตลาดระดับล่าง ที่ช่วงราคาประมาณ 11,999 บาทไปจนถึง 17,399 บาท
เพิ่งมีข่าวลือว่าแอปเปิลกำลังจะเปิดตัว iOS in the Car ผู้ช่วยบนรถยนต์ที่เปิดตัวมาตั้งแต่งาน WWDC ปีที่แล้ว วันนี้แอปเปิลได้เผยข้อมูลอย่างเป็นทางการของบริการนี้ออกมาแล้ว โดยจะใช้ชื่อว่า "CarPlay"
CarPlay นั้นออกแบบใหม่สำหรับใช้งานกับรถยนต์โดยเฉพาะ การสั่งงานหลักๆ ทำได้ผ่าน Siri จึงแทบไม่ต้องมองหน้าจอแต่อย่างใด แต่ก็สามารถสัมผัสหน้าจอ และใช้ปุ่มบนตัวรถร่วมด้วยได้ โดยในแรกเริ่ม CarPlay จะใช้รับโทรศัพท์ ส่งข้อความ จัดการเพลง และนำทางได้
นอกจากใช้งานแอพของแอปเปิลเองแล้ว CarPlay ยังสามารถใช้งานแอพของนักพัฒนารายอื่นร่วมได้ด้วย โดยที่เผยชื่อมาแล้วจะมี Podcasts, Beats Radio, iHeartRadio, Spotify และ Stitcher
แม้ว่ายอดขายของ iPhone ในปีนี้จะทำสถิติใหม่จากจำนวนมากกว่า 51 ล้านเครื่อง แต่ก็เป็นในภาพรวมเท่านั้น เนื่องจาก iPhone 5c ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นแกนหลักในการบุกตลาดกลุ่มใหม่กลับทำผลงานได้ไม่ดีนัก Tim Cook ถึงกับยอมรับว่าความต้องการ iPhone 5c นั้นผิดไปจากที่คาดพอสมควร
นอกจากจะยอมรับแล้วว่าส่วนแบ่งของ iPhone 5c นั้นต่ำกว่าที่คาดแล้ว Cook ยังชี้เหตุผลที่ยอดขายของ iPhone 5c ตกต่ำ เนื่องมาจากผู้ซื้อหันไปเลือก iPhone 5s กันแทน โดยมีฟีเจอร์เด่นอย่าง Touch ID ที่มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
เราเห็นข่าวของ iPhone 5c ทำยอดขายไม่เข้าเป้าในต่างประเทศกันมาเยอะแล้ว คราวนี้เป็นข้อมูลของในไทยบ้าง โดยไทยรัฐออนไลน์ได้สัมภาษณ์ผู้บริหาร 2 เครือข่ายใหญ่คือ AIS และ dtac ในประเด็นนี้
เรารู้ว่าแอปเปิลกับเครือข่ายมือถือรายใหญ่ที่สุดของโลก China Mobile เจรจาเรื่องการขาย iPhone มาได้สักระยะแล้ว (แต่เจรจาไม่เสร็จสักที)
แต่ในที่สุดความพยายามก็บรรลุผล China Mobile จะเริ่มเปิดขาย iPhone 5s/5c อย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มกราคม 2014 และจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อเตรียมสั่งซื้อในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ ส่วนราคาขายอย่างเป็นทางการจะเปิดเผยอีกทีในเร็วๆ นี้
iPhone รุ่นที่จะขายกับ China Mobile จะรองรับเทคโนโลยีเครือข่ายเฉพาะคือ 4G/TD-LTE กับ 3G/TD-SCDMA ด้วย
ปีนี้ถือเป็นปีที่แอปเปิลประสบความสำเร็จในการเจรจากับเครือข่ายรายใหญ่ในเอเชียตะวันออกให้ขาย iPhone โดยมีทั้ง NTT DOCOMO ของญี่ปุ่นและ China Mobile ของจีนครับ
iPhone 5s วางขายมาได้ 3 เดือนกว่าๆ และทำผลงานได้ดีมากในประเทศแม่อย่างสหรัฐอเมริกา
สถิติล่าสุดจากบริษัทวิจัยตลาด Canaccord Genuity ที่สำรวจข้อมูลจากร้านขายมือถือของโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ทั้ง 4 บริษัท (AT&T, Verizon, Sprint, T-Mobile) พบว่า iPhone 5s ครองแชมป์มือถือขายดีของทั้ง 4 บริษัทเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันแล้ว (ก.ย.-พ.ย.)
ที่น่าสนใจคือ Top 3 มือถือขายดีของทั้ง 4 เครือข่ายใหญ่ในรอบ 3 เดือนล่าสุด มีมือถือเพียงแค่ 3 รุ่นเท่านั้นคือ iPhone 5s, iPhone 5c และ Galaxy S4 โดยอันดับสองและสามผลัดๆ กันแพ้ชนะในเดือนกันยายน แต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 3 อันดับแรกของทุกเครือข่ายเหมือนกันหมดคือ iPhone 5s, Galaxy S4, iPhone 5c
Kantar World Panel รายงานว่าแอปเปิลมีส่วนแบ่งยอดขายสมาร์ทโฟนในญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลาคมที่ 76% ซึ่งนั่นแปลว่ายอดขาย iPhone 5s และ 5c รวมกันแล้วได้มากกว่าสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นรวมกันถึงสามเท่า
สำหรับสาเหตุ คงหนีไม่พ้นเรื่องที่เครือข่ายรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น NTT DoCoMo ที่มีลูกค้ากว่า 60 ล้านคน เริ่มวางจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการ โดยหากดูเฉพาะยอดขายไอโฟนจาก NTT DoCoMo แล้ว สามารถคิดได้เป็น 61% ของยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งประเทศ
เช่นเดียวกับ NTT DoCoMo เครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดอย่างของประเทศจีนอย่าง China Mobile ก็ไม่ได้วางจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการมาหลายปี โดยทาง China Mobile จะเริ่มวางจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้
สำหรับแอปเปิลแล้ว ตลาดอินเดียคงไม่ง่ายนักที่จะเจาะเข้าไปได้ ยอดการจำหน่าย iPhone ก็ยังน้อยนิดทำได้เพียงแค่ 5% สาเหตุหลักก็มาจากราคาเครื่องที่ขายแบบไม่ติดสัญญาแต่ก็ยังแพงเกินไปสำหรับคนอินเดีย
ล่าสุดแอปเปิลได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์อันดับสามในอินเดียอย่าง Reliance Communications เปิดจำหน่าย iPhone 5s และ 5c แบบติดสัญญา 2 ปี โดยจ่ายรายเดือนผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ซึ่ง iPhone 5s มีราคา 2,999 รูปี (48.5 ดอลลาร์สหรัฐ) และ iPhone 5c ราคา 2,599 รูปี โดยราคานี้สามารถโทรได้ไม่จำกัดรวมบริการอินเทอร์เน็ตด้วย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
จากการทดสอบด้วยเครื่อง OptoFidelity ซึ่งมีการใช้นิ้วมือหุ่นยนต์จิ้มลงไปบนหน้าจอสัมผัสในตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง แล้วนำมาเปรียบเทียบกับรายงานที่ได้จากอุปกรณ์นั้นๆ ในระยะความแม่นยำหนึ่งมิลลิเมตร ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบครั้งนี้ ทำให้เราทราบถึงความแม่นยำของหน้าจอว่ามากน้อยแค่ไหน
แม็กกาซีน Consumer Reports ซึ่งทำการรีวิวและให้คะแนนเรทติ้งสินค้าเกือบทุกชนิกในสหรัฐฯ ได้เผยคะแนนรีวิว iPhone 5s แล้วชี้แจงว่า iPhone 5s มีจุดเด่นหลายด้าน ตั้งแต่กล้องถ่ายภาพที่ดีขึ้น เซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่แม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ และหน่วยประมวลผลที่เร็วขึ้น โดยทั้ง iPhone 5s และ iPhone 5c มีประสิทธิภาพสูงกว่า iPhone 5
ปริศนาว่า iPhone 5c ตกลงขายดีหรือไม่ยังคงเป็นเรื่องที่คนพยายามหาคำตอบต่อไป เรามีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ทั้งการลดราคา, ข่าวลดกำลังการผลิต, และล่าสุดอัตราส่วนยอดขาย iPhone 5s เทียบกับ iPhone 5c อยู่ที่ 2:1 ล่าสุดมีรายงานจาก WSJ ถึงเรื่องนี้โดยอ้างข้อมูลจากโรงงานผลิต
โดยโรงงาน Pegatron ที่ถือเป็นฐานผลิตหลักของ iPhone 5c มีรายงานว่าได้รับคำสั่งลดจำนวนผลิต iPhone 5c สำหรับไตรมาสที่ 4 ลงเล็กน้อยไม่ถึง 20% ของตัวเลขเดิม ขณะที่โรงงาน Foxconn ถูกลดคำสั่งผลิตลงถึง 1 ใน 3 และแอปเปิลยังสั่งให้หยุดรับพนักงานสำหรับสายการผลิต iPhone 5c เพิ่มเติมด้วย
บริษัทวิจัยตลาด Consumer Intelligence Research Partners (CIRP) สำรวจข้อมูลผู้บริโภคที่ซื้อ iPhone รุ่นใหม่ของแอปเปิลช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีคนเลือก iPhone 5s จำนวน 64%, iPhone 5c 27% และ iPhone 4s 9% (5s ขายดีกว่า 5c ในอัตรามากกว่า 2:1)
สถิตินี้ใกล้เคียงกับผลการสำรวจของ CIRP เมื่อเดือนตุลาคม 2012 เพราะตอนนั้นลูกค้าเลือก iPhone 5 68%, iPhone 4S 23% และ iPhone 4 9%
ตัวแทนของ CIRP ให้มุมมองว่าปกติแล้ว iPhone รุ่นแพงจะขายดีในช่วงเปิดตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไป สัดส่วนของ iPhone รุ่นถูกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ทิศทางของ 5c ที่ใช้การออกแบบที่ต่างออกไปจะเป็นอย่างไรก็คงต้องรอเวลาพิสูจน์
เว็บไซต์ C Technology ของจีน (ซึ่งเคยมีผลงานปล่อยภาพและข้อมูล iPhone 5s/5c ก่อนเปิดตัว) รายงานข่าววงในว่าแอปเปิลสั่งลดกำลังการผลิต iPhone 5c ลงจากเดิม 300,000 เครื่องต่อวัน ลงมาเหลือ 150,000 เครื่องต่อวันแล้ว เหตุผลสำคัญคงเป็นเพราะราคาที่แพงเกินไปนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่าผู้ขาย iPhone 5c แบบเครื่องหิ้วหรือ grey market ในจีน เริ่มลดราคา iPhone 5c มาต่ำกว่า 30% ของราคาขายอย่างเป็นทางการในจีนแล้ว (จาก 4,448 หยวน บางรายลดเหลือ 2,600 หยวนหรือประมาณ 13,500 บาท)