Telegram ประกาศอัปเดตฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างของ Mini Apps ซึ่ง Telegram ผลักดันส่วนการทำงานนี้มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ของใหม่ที่สำคัญคือการใช้งาน Mini App โหมดเต็มหน้าจอ (Full-Screen) รองรับทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้นักพัฒนาโดยเฉพาะหมวดเกม สามารถนำเสนอรูปแบบเกมได้หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถสร้างปุ่มทางลัดที่หน้าโฮม (Home Screen Shortcuts) ของ Mini App แต่ละอัน เพื่อเรียกใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ของใหม่อย่างอื่นที่ Telegram ประกาศเกี่ยวกับ Mini App มีดังนี้
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNODC รายงานว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมที่มีเป้าหมายเหยื่อทั่วโลก ส่วนใหญ่ดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรรมจีน และใช้คนทำงานที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์
ที่ผ่านมาพบว่ามีการซื้อขายข้อมูลที่ถูกแฮ็กอย่างเปิดเผย ทั้งรายละเอียดบัตรเครดิต รหัสผ่าน และประวัติการท่องเว็บ บน Telegram รวมถึงมีการซื้อขายเครื่องมือสำหรับอาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่นโปรแกรม Deepfake และบริการฟอกเงิน
หนึ่งในบริการบน Telegram ที่รายงานของ UNODC กล่าวถึง คือการฟอกเงินผ่าน USDT โดยผู้ลงโฆษณาอ้างว่ามีขนาดธุรกรรมสูงถึงวันละ 3 ล้านดอลลาร์ โดยโฆษณาเขียนเป็นภาษาจีน
รัฐสภายูเครน (Verkhovna Rada) ประกาศสั่งห้ามทั้งราชการการเมืองและราชการประจำติดตั้งแอป Telegram ในอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน แต่ยังใช้คุยเรื่องส่วนตัวในอุปกรณ์ส่วนตัวได้
ประกาศนี้ตามมาจากการห้ามใช้งานในหน่วยงานกองทัพเมื่อปลายเดือนกันยายน ประกอบกับ Ruslan Stefanchuk ประธานรัฐสภา Rada ออกมาประกาศว่าอยู่ดีๆ บัญชีเก่าของเขาที่ไม่ได้ใช้งานมาสามปีแล้วไปส่งข้อความหลอกลวงคนอื่น
ที่มา - Kyiv Independent
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Telegram ประกาศแนวทางการให้บริการ ว่าจะให้ข้อมูลผู้ใช้งานส่วน IP Address และหมายเลขโทรศัพท์ หากมีหน่วยงานของรัฐร้องขอเข้ามาอย่างถูกต้อง ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนมองว่า Telegram กำลังเปลี่ยนไป ซึ่งอาจเป็นผลต่อเนื่องจากที่ซีอีโอ Pavel Durov ถูกจับกุมที่ฝรั่งเศส
Pavel Durov ซีอีโอ Telegram เปิดเผยว่าบริการส่งข้อความนี้จะเริ่มรองรับการให้ข้อมูลผู้ใช้งานส่วน IP Address และหมายเลขโทรศัพท์ หากถูกร้องขอจากหน่วยงานรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง Telegram ได้ปรับปรุงข้อกำหนดการให้บริการส่วนนี้ด้วย
ที่ผ่านมา Telegram มีท่าทีไม่ตอบรับหรืออาจปฏิเสธทันทีเมื่อถูกหน่วยงานรัฐร้องขอข้อมูลผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Durov ถูกทางการฝรั่งเศสจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว
หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศยูเครน ออกคำสั่งห้ามใช้งาน Telegram ในอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารของหน่วยงานราชการ รวมทั้งหน่วยงานของกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ด้วยเหตุด้านความมั่นคงของประเทศ โดยมองว่าบริการสื่อสารดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับรัสเซีย
ทั้งนี้การสั่งห้ามใช้ Telegram มีผลเฉพาะหน่วยงานราชการเท่านั้น ไม่มีผลกับผู้ใช้งานทั่วไปในยูเครน รวมทั้งประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskyy ยังสามารถใช้ Telegram เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารต่อสาธารณะกับชาวยูเครนได้เหมือนเดิม
ที่มา: Bleeping Computer
ตำรวจจังหวัดคย็องกีในเกาหลีใต้รายงานถึงการจับกุมชายอายุในช่วง 20-30 ปีจำนวน 3 ราย ฐานเป็นผู้ขายภาพ/วิดีโอโป๊ ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยี deepfake ในห้องแชต Telegram โดยเหยื่อของภาพเหล่านี้มีทั้งดาราและผู้เยาว์
ตำรวจระบุว่าชายทั้งสามเป็นผู้ดูแลห้องแชต Hapsabang ตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 จนถึงมิถุนายน 2024 กระบวนการขายคือการจ่ายค่าสมาชิก 20,000-40,000 วอนเพื่อเข้าห้องแชต คาดว่ารายได้รวมจากการห้องแชตนี้เกิน 10 ล้านวอน โดยผู้ต้องสงสัยทั้งสามระบุว่าไม่ได้สร้างภาพขึ้นมาเอง แต่โหลดมาจากห้องแชตอื่นๆ มาขายต่ออีกที
Telegram เปิดเผยว่าจำนวนผู้ใช้งานแบบจ่ายเงิน Subscription รายเดือน Telegram Premium ตอนนี้มีถึง 10 ล้านบัญชีแล้ว เพิ่มขึ้นมาเท่าตัวในระยะเวลาไม่ถึง 8 เดือน ส่วนจำนวนผู้ใช้งานรวมก็ใกล้แตะ 1 พันล้านแล้ว
Pavel Durov ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Telegram พูดถึงการเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มเติมจากระบบรายงานข้อความที่ผิดกฎหมาย ดังนี้
Telegram ปรับปรุงรายละเอียดการใช้งานในหน้า FAQ ในคำถามว่าหากพบคอนเทนต์ที่ผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์ม จะทำอย่างไรได้บ้าง เดิมคำตอบของ Telegram คือแชทและแชทกลุ่มเป็นข้อมูลส่วนตัว จะไม่มีการทำอะไรกับคำร้องขอ
ในเนื้อหาใหม่ที่แก้ไข Telegram ตอบคำถามนี้ว่า แอปมีปุ่ม Report เพื่อแจ้งคอนเทนต์ผิดกฎหมายที่พบบนแพลตฟอร์ม จากนั้นจะมีหน้าต่างให้ข้อมูลในอีกไม่กี่ขั้นตอน
คาดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากที่ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Pavel Durov ถูกจับกุมที่ฝรั่งเศสเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งล่าสุดเขาประกาศเป้าหมายว่าปรับปรุงการจัดการคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมให้ดีขึ้น
Pavel Durov ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Telegram ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก หลังจากมีข่าวว่าเขาถูกจับที่ฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม
Durov โพสต์ข้อความใน Telegram บอกว่าเขาถูกตำรวจฝรั่งเศสควบคุมตัวและสอบสวนเป็นเวลา 4 วัน ข้อหาที่ระบุคือ Telegram ถูกใช้งานให้เอื้อต่อการทำผิดกฎหมายซึ่งเขามีส่วนต้องรับผิดชอบ เนื่องจากทางการฝรั่งเศสไม่ได้รับการตอบสนองเมื่อติดต่อไปที่ Telegram
สำนักงานตำรวจแห่งชาติกรุงโซลระบุว่าได้เริ่มต้นสืบสวน Telegram เนื่องจากเป็นช่องทางในการส่งต่อสื่อลามกจาก Deepfake โดยระบุอีกด้วยว่า Telegram ได้เพิกเฉยคำขอเข้าถึงข้อมูลบัญชีผู้ใช้ในการสืบสวนครั้งก่อน ๆ
การสืบสวนครั้งนี้เริ่มขึ้นหลัง Pavel Durov ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Telegram ถูกจับกุมในฝรั่งเศสด้วยสาเหตุคล้าย ๆ กัน คือการละเลยให้เกิดการเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมายในแพลตฟอร์ม ทางการเกาหลีใต้ระบุว่าจะประสานความร่วมมือจากหลายฝ่ายรวมถึงหน่วยงานสืบสวนสอบสวนของฝรั่งเศส
หลายคนนั้นคงต้องเคยได้ยินผ่านหูกันบ้างสำหรับ Telegram โปรแกรมแชทที่มาพร้อมกับรูปเครื่องบินกระดาษ ซึ่งผู้ก่อตั้งนั้นก็เป็นชาวรัสเซีย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมแชทที่ได้รับการใช้งานตามองค์กรต่าง ๆ ซึ่งก็อาจจะมีหลายคนที่ไม่เคยได้ใช้งาน หรือว่าไม่เคยผ่านตามาก่อนก็อาจจะต้องเกิดคำถามขึ้นมา ว่าเจ้าโปรแกรมแชทตัวนี้นั้น มีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงฟีเจอร์เด่น ๆ ที่จะทำให้การตัดสินใจหันมาใช้งานนั้นมีอะไรกันบ้าง ใครที่มีคำถามพวกนี้อยู่ในใจ ก็ถึงเวลาคลายปมปัญหานั้นแล้ว เพราะเราจะมาแนะนำทุกคนกับบทความที่มีชื่อว่า Telegram คืออะไร อันตรายไหม ควรใช้หรือไม่ ถ้าอยากจะรู้กันแล้ว ก็ไปอ่านกันเลย
คณะกรรมาธิการยุโรปหรือ European Commission (EC) เปิดเผยว่าหน่วยงานเตรียมสอบสวน Telegram เพิ่มเติม ว่าอาจมีความผิดในการเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในภูมิภาคยุโรป
ในสหภาพยุโรปมีกฎหมายดิจิทัล DSA ซึ่งระบุว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่มาก จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเพิ่มเติม เงื่อนไขคือมีผู้ใช้งานมากกว่า 45 ล้านบัญชี ซึ่งรายงานที่ Telegram ส่งให้ EC ล่าสุดบอกว่ามีจำนวน 41 ล้านบัญชี อย่างไรก็ตามทาง EC ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้เช่นกันว่าตัวเลขนี้ต่ำกว่าจริงหรือไม่ แต่ในเดือนที่ผ่านมา Telegram ยังไม่ได้ส่งจำนวนผู้ใช้งานให้กับ EC บอกเพียงน้อยกว่า 45 ล้าน เท่านั้น ทำให้ EC พิจารณาสอบสวนเรื่องนี้
ความคืบหน้าของกรณี Pavel Durov ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Telegram โดนจับที่ฝรั่งเศส ล่าสุดทางอัยการของกรุงปารีสได้ตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการต่อ Durov แล้วจำนวน 6 ข้อหา ได้แก่
ทางการฝรั่งเศสแถลงการณ์ยืนยันการจับและควบคุมตัว Pavel Durov ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Telegram ที่สนามบิน Le Bourget ในปารีส ในคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเครื่องบินส่วนตัวของเขาเดินทางมาถึงสนามบิน
เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสให้เหตุผลของการจับกุม Durov เนื่องจากมีคดีหลายอย่างในประเทศ เช่น ภาพโป๊เด็ก (CSAM), ยาเสพติด และอาชญากรรม ที่มี Telegram เป็นแพลตฟอร์มในการติดต่อสื่อสาร แต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในการสอบสวน ทั้งนี้ Telegram ได้ชี้แจงก่อนหน้านี้ว่าปฏิบัติได้ตามกฎหมายของสหภาพยุโรป รวมทั้งกฎหมายดิจิทัล DMA
Telegram ออกแถลงการณ์หลังจากมีรายงานข่าวเรื่องซีอีโอ Pavel Durov ถูกจับกุมที่ฝรั่งเศส ซึ่งระบุว่าเป็นเพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสอบสวนคดี ที่น่าจะเกี่ยวกับการกำกับดูแลแพลตฟอร์ม
Telegram โพสต์ข้อความใน X บอกว่า Telegram เป็นแอปที่ปฏิบัติตามกฎหมายของสหภาพยุโรป รวมทั้งกฎหมายดิจิทัล DMA ทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐาน มีการปรับปรุงต่อเนื่อง Telegram ยังบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุผล หากแพลตฟอร์มต้องรับผิดชอบหากเกิดการก่อกวนหรือละเมิดการใช้งานบนแพลตฟอร์ม Telegram หวังว่าสถานการณ์นี้จะถูกแก้ไขได้โดยเร็ว
ส่วนประเด็นซีอีโอนั้น บริษัทบอกเพียง Durov ไม่มีอะไรที่ปกปิด และเขาเดินทางไปมาในยุโรปบ่อยครั้งอยู่แล้ว
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Pavel Durov ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Telegram ถูกจับกุมที่สนามบิน Paris–Le Bourget ในฝรั่งเศส ขณะเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว เนื่องจากเขามีหมายจับเพราะเป็นส่วนหนึ่งในแผนการสอบสวนคดี ของตำรวจฝรั่งเศส
รายงานบอกว่าทางการฝรั่งเศสเชื่อว่า Telegram เป็นแพลตฟอร์มที่ขาดการกำกับควบคุมดูแลที่ดี จนทำให้ถูกใช้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการก่ออาชญากรรมหลายครั้ง ที่ผ่านมา Telegram เองถูกรัฐบาลหลายประเทศสั่งบล็อกการเข้าถึง
Telegram อัปเดตฟีเจอร์ใหม่หลายรายการสำหรับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งเบราว์เซอร์ภายในแอป, ระบบค้นหา Mini App, เครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา Mini App และอื่น ๆ รายละเอียดทั้งหมดดังนี้
Telegram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับอัปเดตของเดือนมิถุนายน มีรายละเอียดดังนี้
Telegram เปิดตัวระบบเงินสำหรับใช้ภายในแอป Telegram Stars ซึ่งสามารถรับ-จ่าย สินค้าดิจิทัลในมินิแอปของ Telegram ได้
เงิน Telegram Stars สามารถซื้อได้ผ่านระบบ In-App ทั้งบน iOS และ Android ใน PremiumBot ซึ่ง Telegram บอกว่าผ่านเงื่อนไขการขายสินค้าดิจิทัลผ่านระบบสโตร์ของ iOS และ Android แล้ว
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Copilot เวอร์ชันแอปสำหรับใช้งานบน Telegram ซึ่งเป็นแชทบอตถาม-ตอบในหัวข้อต่าง ๆ โดยเปิดให้ใช้งานได้ฟรีทั้งผ่าน Telegram บนเว็บและสมาร์ทโฟน โครงการดังกล่าวไมโครซอฟท์บอกว่ายังอยู่ในสถานะเบต้า
ในการเปิดใช้งาน Copilot บน Telegram ผู้ใช้งานต้องให้เบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนกับ Telegram ด้วย ในตอนนี้สามารถตอบเป็นข้อความได้เท่านั้น ยังไม่สามารถสร้างรูปภาพได้
ลองใช้งาน Copilot บน Telegram ได้ที่นี่
ที่มา: 9to5Mac
Tether บริษัทผู้ออกเหรียญ stablecoin USDT ประกาศนำเหรียญ USDT และ XAUT เหรียญที่ใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ค้ำมูลค่า เพิ่มมาให้ซื้อขายได้บนบล็อกเชน TON ที่สร้างโดย Telegram (แต่ปัจจุบันแยกบริษัทแล้ว)
Tether มองว่านี่เป็นโอกาสที่ทำให้ทั้ง USDT และ XAUT เข้าถึงเป็นเครื่องมือในการรับ-จ่ายเงิน ของผู้ใช้งาน Telegram ที่มีมากกว่า 900 ล้านบัญชีทั่วโลก
ปัจจุบัน USDT รองรับการใช้งานบนเชนต่าง ๆ 15 เชน รวมทั้ง Ethereum, Near, Polygon, Solana, Tezos และ Tron
ที่มา: Tether
Telegram ประกาศว่าผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนบัญชีปัจจุบันให้เป็นบัญชีธุรกิจ (Business account) ทำให้สามารถใช้งานฟีเจอร์เฉพาะของบัญชีธุรกิจได้ เช่น ตั้งค่าเวลาเปิดบริการ, พิกัดธุรกิจ, ระบบตอบอัตโนมัติ, แชทบอต และอื่น ๆ
การเปลี่ยนเป็นบัญชีธุรกิจนี้รองรับทั้งผู้ใช้งานแบบฟรี และแบบพรีเมียมจ่ายเงินรายเดือน ดูรายละเอียดได้ที่ Settings > Telegram Business
ฟีเจอร์อื่นที่มีในบัญชีธุรกิจได้แก่ ตั้งค่าหน้าแรก, ตั้งข้อความทักทายลูกค้า, ตั้งแต่ค่า Away, ใส่ป้ายกำกับข้อความ, ใส่ลิงก์ไปยังแชท ซึ่งจะมีฟีเจอร์อื่นเพิ่มเติมอีกในอนาคต
ที่มา: Telegram
ศาลสูงประเทศสเปนออกคำสั่งแบน Telegram ในประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม โดยยังไม่มีกำหนดระยะเวลา ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายในสเปนต้องบล็อกการเข้าถึงบริการนี้
สาเหตุที่ศาลออกคำสั่งดังกล่าว มาจากการร้องเรียนของบริษัทสื่อรายใหญ่ในสเปนหลายรายทั้ง Mediaset, Atresmedia และ Movistar Plus ว่า Telegram เปิดให้ผู้ใช้งานอัปโหลดคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ ศาลจึงสั่งระงับการใช้งานในระหว่างการสอบสวนนี้
ที่มา: Euro Weekly News
Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Financial Times เปิดเผยข้อมูลตัวเลขของแพลตฟอร์มแชท ว่าตอนนี้มีผู้ใช้งานมากกว่า 900 ล้านบัญชีแล้ว โดยทำเงินระดับ "หลายร้อยล้านดอลลาร์" ต่อปี ผ่านระบบโฆษณาและจากสมาชิก Subscription คาดว่าบริษัทจะเริ่มมีกำไรตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
เขาให้เหตุผลของโมเดลการหาเงินที่มากขึ้น เนื่องจากบริษัทยังต้องการมีอิสระในการดำเนินงานต่อไป Telegram เองเคยได้รับข้อเสนอจากนักลงทุน ที่มูลค่ากิจการระดับ 30,000 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทมองแนวทางไอพีโอเข้าตลาดหุ้นมากกว่า ส่วนการรับเงินนักลงทุนนั้นจะรับเป็นเงินไม่มาก แลกกับหุ้นจำนวนน้อยเช่นกัน