Tether บริษัทผู้ออกเหรียญ stablecoin USDT ประกาศนำเหรียญ USDT และ XAUT เหรียญที่ใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ค้ำมูลค่า เพิ่มมาให้ซื้อขายได้บนบล็อกเชน TON ที่สร้างโดย Telegram (แต่ปัจจุบันแยกบริษัทแล้ว)
Tether มองว่านี่เป็นโอกาสที่ทำให้ทั้ง USDT และ XAUT เข้าถึงเป็นเครื่องมือในการรับ-จ่ายเงิน ของผู้ใช้งาน Telegram ที่มีมากกว่า 900 ล้านบัญชีทั่วโลก
ปัจจุบัน USDT รองรับการใช้งานบนเชนต่าง ๆ 15 เชน รวมทั้ง Ethereum, Near, Polygon, Solana, Tezos และ Tron
ที่มา: Tether
Telegram ประกาศว่าผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนบัญชีปัจจุบันให้เป็นบัญชีธุรกิจ (Business account) ทำให้สามารถใช้งานฟีเจอร์เฉพาะของบัญชีธุรกิจได้ เช่น ตั้งค่าเวลาเปิดบริการ, พิกัดธุรกิจ, ระบบตอบอัตโนมัติ, แชทบอต และอื่น ๆ
การเปลี่ยนเป็นบัญชีธุรกิจนี้รองรับทั้งผู้ใช้งานแบบฟรี และแบบพรีเมียมจ่ายเงินรายเดือน ดูรายละเอียดได้ที่ Settings > Telegram Business
ฟีเจอร์อื่นที่มีในบัญชีธุรกิจได้แก่ ตั้งค่าหน้าแรก, ตั้งข้อความทักทายลูกค้า, ตั้งแต่ค่า Away, ใส่ป้ายกำกับข้อความ, ใส่ลิงก์ไปยังแชท ซึ่งจะมีฟีเจอร์อื่นเพิ่มเติมอีกในอนาคต
ที่มา: Telegram
ศาลสูงประเทศสเปนออกคำสั่งแบน Telegram ในประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม โดยยังไม่มีกำหนดระยะเวลา ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายในสเปนต้องบล็อกการเข้าถึงบริการนี้
สาเหตุที่ศาลออกคำสั่งดังกล่าว มาจากการร้องเรียนของบริษัทสื่อรายใหญ่ในสเปนหลายรายทั้ง Mediaset, Atresmedia และ Movistar Plus ว่า Telegram เปิดให้ผู้ใช้งานอัปโหลดคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ ศาลจึงสั่งระงับการใช้งานในระหว่างการสอบสวนนี้
ที่มา: Euro Weekly News
Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Financial Times เปิดเผยข้อมูลตัวเลขของแพลตฟอร์มแชท ว่าตอนนี้มีผู้ใช้งานมากกว่า 900 ล้านบัญชีแล้ว โดยทำเงินระดับ "หลายร้อยล้านดอลลาร์" ต่อปี ผ่านระบบโฆษณาและจากสมาชิก Subscription คาดว่าบริษัทจะเริ่มมีกำไรตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
เขาให้เหตุผลของโมเดลการหาเงินที่มากขึ้น เนื่องจากบริษัทยังต้องการมีอิสระในการดำเนินงานต่อไป Telegram เองเคยได้รับข้อเสนอจากนักลงทุน ที่มูลค่ากิจการระดับ 30,000 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทมองแนวทางไอพีโอเข้าตลาดหุ้นมากกว่า ส่วนการรับเงินนักลงทุนนั้นจะรับเป็นเงินไม่มาก แลกกับหุ้นจำนวนน้อยเช่นกัน
Telegram ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ส่งท้ายปี 2023 โดยมีทั้งการปรับปรุงการคุยเสียง, ดีไซน์สีสันใหม่ รวมถึงการใช้พลังงานที่ลดลง รายละเอียดดังนี้
ที่มา: Telegram
Telegram ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ โดยไฮไลท์คือ ความสามารถ Voice-to-Text ที่แปลงเสียงทั้งในข้อความเสียงและวิดีโอ ออกมาเป็นตัวหนังสือ และสามารถแปลภาษาได้ด้วย เดิมจำกัดเฉพาะลูกค้า Telegram Premium ตอนนี้เปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถใช้ได้แล้ว แต่มีข้อจำกัดสำหรับลูกค้าฟรีคือแปลงได้ 2 ข้อความต่อสัปดาห์
ฟีเจอร์เด่นที่ประกาศในรอบนี้ได้แก่
Telegram ประกาศอัพเดตแอปส่วนของการโต้ตอบข้อความ ทั้งแบบ Reply และ Quote เรียกรวมว่า Reply 2.0 รายละเอียดดังนี้
นอกจากนี้ Telegram ยังเพิ่มฟีเจอร์ให้ปรับแต่งพรีวิวลิงก์ เลือกรูปแบบที่ต้องการได้, เลือกสีให้กับชื่อผู้ใช้งาน, เพิ่มแถบสไลด์เลื่อนดูในสตอรี่, ปรับระดับแฟลชกล้องหน้า
Telegram ยังคงเดินหน้าเติมฟีเจอร์กันต่อเนื่อง ในอัพเดตล่าสุดนี้เน้นที่ Stories ฟีเจอร์ที่ใส่มาตอนฉลองครบรอบ 10 ปี โดยมีรายละเอียดของใหม่ดังนี้
Telegram ประกาศฉลองครบรอบ 10 ปี ของแพลตฟอร์ม โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการดังนี้
หลังจากที่ Pavel Durov CEO ของ Telegram ประกาศในเดือนที่แล้ว ว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ Stories ลงในแอป Telegram ล่าสุด ฟีเจอร์ดังกล่าวก็เปิดให้ใช้งานแล้ว
แม้ฟีเจอร์ Stories ของ Telegram จะมีอินเทอร์เฟซที่คล้ายกับที่มีในแอปอื่น ๆ ซึ่งอยู่บริเวณด้านบนสุดของรายการแชท แต่ Telegram ก็ได้เพิ่มความพิเศษสำหรับฟีเจอร์นี้ เช่น ผู้ใช้สามารถกำหนดตัวเลือกผู้ติดต่อที่จะมองเห็นเนื้อหาในแต่ละ Stories ได้ รวมถึง ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดระยะเวลาของ Stories ที่จะถูกลบได้ตั้งแต่ 6,12, 24 และ 48 ชั่วโมง ในขณะที่แอปส่วนมากจะจำกัดไว้ที่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น
Pavel Durov ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Telegram ประกาศว่าบริษัทได้รับเงินเพิ่ม 210 ล้านดอลลาร์ ผ่านการขายหุ้นกู้บริษัทให้กับนักลงทุนหลายราย ซึ่งรวมทั้ง Durov ก็ซื้อหุ้นกู้นี้ด้วย
หุ้นกู้บริษัทที่ออกนั้นมีมูลค่ารวม 270 ล้านดอลลาร์ สาเหตุจากหุ้นกู้นี้เริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2021 และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับราคาขายจึงทำให้ Telegram ได้เงินสุทธิที่ 210 ล้านดอลลาร์
Telegram มีผู้ใช้งานล่าสุดมากกว่า 800 ล้านบัญชี ตัวธุรกิจเองยังขาดทุน ซึ่ง Durov หวังว่าเงินก้อนใหม่ที่เพิ่มเข้ามานี้จะช่วยให้บริษัทเพิ่มความสามารถทำกำไรได้ ซึ่งสถานะตอนนี้ก็ใกล้จะถึงจุดคุ้มทุนแล้ว
Pavel Durov ซีอีโอ Telegram ประกาศผ่านแชนเนลของตนเอง ว่า Telegram จะมีฟีเจอร์ใหม่ที่นี่ แต่เก่าที่อื่น นั่นคือ Stories
เขาบอกว่าที่ผ่านมา Telegram ค่อนข้างค้านแนวคิดการใส่ Stories เข้ามา ด้วยเหตุผลว่าแอปอื่นทำกันเยอะแล้ว แต่ในบรรดาฟีเจอร์ที่เปิดให้ผู้ใช้งานร้องขอเข้ามานั้น มากกว่าครึ่งหนึ่งเกี่ยวกับ Stories ทั้งสิ้น ฉะนั้นแพลตฟอร์มก็ต้องฟังเสียงของผู้ใช้งานด้วย
Telegram กลับมาใช้งานในบราซิลได้อีกครั้งตั้งแต่เมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 29 เมษายน) หลังจากศาลรัฐบาลกลางได้ทบทวน และยกเลิกคำสั่งที่ให้ระงับการให้บริการก่อนหน้านี้ โดยให้เหตุผลว่าคำสั่งก่อนหน้านี้ไม่สมเหตุสมผล เมื่อมองในมุมผลกระทบฝั่งผู้ใช้งานทั่วประเทศส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตามศาลรัฐบาลกลางบอกว่าโทษค่าปรับสูงสุดวันละ 1 ล้านเรอัลบราซิลต่อวัน หรือประมาณ 6.7 ล้านบาท ยังคงมีผลจนกว่า Telegram จะให้ความร่วมมือในการสอบสวนตามคำสั่ง จากเหตุกราดยิงในโรงเรียนสองครั้งช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตำรวจเชื่อว่ากลุ่มใน Telegram อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
ศาลรัฐบาลกลางของบราซิลออกคำสั่งระงับการใช้งาน Telegram ชั่วคราว หลังแพลตฟอร์มไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอของสำนักงานตำรวจเกี่ยวกับกลุ่มแชทนีโอนาซี ซึ่งตำรวจระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงในโรงเรียนช่วงที่ผ่านมา
ผลจากคำสั่งดังกล่าว ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายทั้งหมดในบราซิลต้องบล็อกการใช้งาน Telegram รวมทั้งกูเกิลและแอปเปิลก็ถูกสั่งให้ปิดการเข้าถึงแอปด้วย นอกจากนี้ศาลยังสั่งปรับเป็นเงินสูงสุด 1 ล้านเรอัลบราซิลต่อวัน (ประมาณ 6.7 ล้านบาท) โดยบอกว่า Telegram ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน
Telegram ออกอัพเดตฟีเจอร์ใหม่หลายรายการดังนี้
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น เช่น บอตสามารถสร้าง username โดยไม่ต้องมี -bot, เลื่อนดูหน้า Shared Media ได้เร็วขึ้น และอื่น ๆ
ที่มา: Telegram
Telegram ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ มีรายละเอียดดังนี้
Telegram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้งานอีกหลายรายการ มีของเด่นที่น่าสนใจดังนี้
Telegram ประกาศเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ส่งท้ายปี 2022 มีรายละเอียดดังนี้
คุณสมบัติอื่น ได้แก่ ตั้งค่าระดับการมองเห็นรูปโปรไฟล์ผู้ใช้งานได้ (Everybody, My Contact, Only Me), สามารถซ่อนรายชื่อสมาชิกในกลุ่มแชตได้, อีโมจิแบบใหม่เพิ่มเติม, ขยายฟีเจอร์ Topics รองรับทุกกลุ่ม ไม่จำกัดจำนวนสมาชิกแล้ว
Telegram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ โดยในรอบนี้ฟีเจอร์เด่นคือ เปิดให้สมัครบัญชีใช้งานใหม่ โดยไม่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ผ่านซิมการ์ด แต่ต้องใช้หมายเลขยืนยันไม่ระบุตัวตนบนบล็อกเชนผ่านแพลตฟอร์ม Fragment แทน
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมคือ การตั้งเวลาลบแชตเก่าอัตโนมัติแบบทั้งหมดทุกแชต (global auto-delete timer) ส่วนฟีเจอร์ Topics 2.0 เป็นการปรับปรุงการใช้งานห้องย่อยในแชตกลุ่ม ให้แยก 2 คอลัมน์ เพื่อค้นหาห้องย่อยคุยง่ายขึ้น
Pavel Durov ซีอีโอ Telegram ประกาศผ่านแชนเนลของตน ว่าบริการ Telegram Premium มีผู้สมัครใช้งานแล้วมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งเขาบอกว่าถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จ ของระบบ subscription ในบริการโซเชียลเท่าที่เคยมีมา
อย่างไรก็ตาม Durov บอกว่าตอนนี้รายได้จาก Telegram Premium ยังคิดเป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับรายได้รวมของ Telegram และเขาก็หวังว่าวันหนึ่งรายได้ส่วนนี้จะทำเงินได้เท่ากับรายได้จากโฆษณา
Telegram Premium เป็นฟีเจอร์ subscription ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงคุณสมบัติพิเศษมากกว่าเดิม 2 เท่า เช่น ขนาดไฟล์ที่อัปโหลด, ความเร็วดาวน์โหลด และอื่น ๆ ราคาในไทยอยู่ที่ 149 บาทต่อเดือน
Telegram ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ มีรายละเอียดดังนี้
ฟีเจอร์อื่น ได้แก่ อีโมจิเพิ่มเติม, ปรับปรุง Night Mode ใน iOS, ปรับขนาดตัวหนังสือใน Android
Pavel Durov ซีอีโอ Telegram ออกมาเปิดศึกกับแอปเปิลอีกครั้ง หลังจาก Telegram ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ จ่ายเงินเพื่อดูโพสต์ ซึ่งพบว่าในแอปบน iOS ทาง Telegram เลี่ยงให้การจ่ายเงินเป็นการตัดบัตรเครดิตโดยตรง ไม่ได้ทำผ่านระบบ In-App Purchase ของแอปเปิล ที่หักส่วนแบ่ง 30%
Durov บอกว่าการจ่ายเงินผ่านช่องทางอื่น ทำให้ครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์โพสต์นั้น ๆ ได้ผลประโยชน์สูงสุดเกือบ 100% เต็ม แต่ล่าสุดแอปเปิลได้ติดต่อมาว่าไม่ต้องการให้ใช้วิธีจ่ายเงินแบบนี้ พวกเขาต้องการให้การจ่ายเงินทำผ่านระบบของแอปเปิล ที่เราต้องจ่ายภาษี 30% ให้แอปเปิล ฉะนั้น Telegram ไม่มีทางเลือก นอกจากปิดการทำงานฟีเจอร์ Paid Post นี้ ในแอปบน iOS ทั้งหมด
นักวิเคราะห์สายโซเชียลมีเดีย Matt Navarra สังเกตเห็นฟีเจอร์ใหม่และโพสต์ลงใน Twitter ว่าช่อง Telegram บางช่องสามารถใช้ฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้ต้องชำระเงินจึงจะดูโพสต์ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม Telegram ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ จึงน่ายังอยู่ในช่วงทดลองอยู่เท่านั้น
สิ่งสำคัญ คือ แม้ว่าฟีเจอร์จ่ายเงินเพื่อดูโพสต์จะเปิดทดลองในแอปพลิเคชันบนระบบ iOS แต่ Telegram กลับให้ตัดบัตรเครดิตโดยตรงแทนที่จะใช้ระบบจ่ายเงินภายในแอปของ Apple ซึ่งถือว่าผิดนโยบายของ Apple ซึ่งดูเหมือนว่า Telegram จะพยายามหลีกเลี่ยงการโดนหักค่าคอมมิชชัน 30% จากฝั่ง Apple
Telegram ประกาศสร้างแพลตฟอร์มสำหรับประมูลซื้อขายชื่อบัญชี เพื่อให้ผู้จดชื่อบัญชี @username ที่อาจเป็นชื่อที่มีความต้องการสูง สามารถสร้างรายได้ส่วนนี้อย่างเป็นระบบ
แพลตฟอร์มการประมูลนี้จะทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชน TON ที่ Telegram เคยร่วมพัฒนา แต่ปัจจุบันแยกออกมาเป็นหน่วยงานอิสระ โดยมี Pavel Durov ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Telegram ยังให้การสนับสนุน โดยใช้ TON ในการยืนยันความเป็นเจ้าของและบันทึกสัญญาการซื้อขาย
Telegram ยังไม่ได้ให้ข้อมูลวิธีการจ่ายเงิน แต่คาดว่าจะใช้เหรียญ Toncoin (TON) เป็นเป็นเหรียญหลักของบล็อกเชน TON นี้ ทำให้ราคาเหรียญ TON ปรับเพิ่มสูงทันทีหล้งมีประกาศออกมา
หลังจากรัฐบาลรัสเซียไม่สามารถแบนแอปแชท Telagram ได้ ล่าสุดรัฐบาลได้สร้างบัญชีบน Telegram ขึ้นเพื่อใช้เป็นพื้นที่โฆษณาชวนเชื่อไปแล้ว
Telegram กลายเป็นพื้นที่ปะทะระหว่างฝ่ายรัฐบาล, ผู้สนับสนุนรัฐบาลและฝ่ายผู้ต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย ภายหลังจากที่รัสเซียทำสงครามกับยูเครน โดยเฉพาะภายหลังจากที่วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียประกาศระดมพลบางส่วนอีกครั้งเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา