John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนตี้ไวรัส McAfee (ปัจจุบันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทแล้ว) ได้เสียชีวิตแล้วด้วยอายุ 75 ปี ขณะถูกควบคุมตัวในเรือนจำเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน จากข้อหาหลีกเลี่ยงภาษีในสหรัฐอเมริกา โดยทางการระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าอาจมาจากการฆ่าตัวตาย และทีมทนายของ John McAfee ก็ได้ยืนยันการเสียชีวิตของเขา
ระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำ เขาถูกทางการสหรัฐตั้งข้อหาเพิ่มเติมอีกรวม 7 ข้อหา เกี่ยวกับการหลอกให้คนมาลงทุนในเงินคริปโต โดยเขาปฏิเสธการถูกส่งตัวกลับไปที่สหรัฐมาตลอด
ความคืบหน้าต่อจากข่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว John McAfee ถูกจับในข้อหาเลี่ยงภาษี ใช้นอมินีรับเงินจากการโปรโมทคริปโต โดยเขาถูกจับในสเปนตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐ
วันนี้ อัยการสหรัฐและ FBI ตั้งข้อหาเพิ่มเติม John McAfee และพวกคือ Jimmy Watson Jr. ที่เพิ่งถูกจับกุมเมื่อวาน ทั้งสองคนถือเป็นผู้บริหารของ "McAfee Team" ที่ทำธุรกิจเงินคริปโต ความผิดที่โดนเป็นความผิดอาญา มีทั้งหมด 7 ข้อหา ตั้งแต่การฉ้อโกง ฟอกเงิน ฯลฯ จากการหลอกให้คนมาร่วมลงทุนในเงินคริปโต มีความเสียหาย 13 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ยังจะยื่นฟ้องศาลในคดีแพ่งด้วย ปัจจุบัน McAfee ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศสเปน
John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนตี้ไวรัส McAfee (ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทมานานแล้ว ลาออกตั้งแต่ปี 1994) ถูกจับกุมในประเทศสเปน ด้วยข้อหาการเลี่ยงภาษีในสหรัฐอเมริกา
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เป็นผู้ออกหมายจับนี้ ระบุว่าช่วงหลัง John McAfee หาเงินจากการโปรโมทเงินคริปโตสกุลต่างๆ (ICO) ขึ้นเวทีงานพูด และขายเรื่องราวในชีวิตไปทำสารคดี แต่ช่วงปี 2014-2018 เขาเลี่ยงภาษี โดยให้โอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชีธนาคารและบัญชีคริปโตของนอมินีแทน รวมถึงซื้อทรัพย์สินอย่างบ้าน รถยนต์ เรือยอชต์ ในชื่อของบุคคลอื่นเช่นกัน
จากนี้ไป McAfee จะเข้าสู่กระบวนการศาล และถ้าศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง จะโดนโทษจำคุกสูงสุด 5 ปีต่อข้อหาเลี่ยงภาษีหนึ่งกระทง
หลังจากตัวตนของ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin จะเป็นปริศนามากว่า 10 ปีและถูกนำมากล่าวอ้างอยู่นาน ล่าสุด John McAfee ผู้ก่อตั้ง McAfee ออกมาบอกว่าเขารู้ตัวตนของ Satoshi และเตรียมจะเปิดเผยตัวจริงของผู้สร้าง Bitcoin ภายในหนึ่งอาทิตย์
McAFee บอกว่าเขามีโอกาสได้พูดคุยกับ Satoshi แล้วและแน่นอนว่า Satoshi ไม่พอใจแน่ๆ ที่เขาจะถูกเปิดเผยตัวตน McAfee บอกด้วยว่าเขาติดตามและค้นหาผู้คนมาทั้งชีวิต การค้นหาตัวจริงของ Satoshi นั้นเป็นเรื่องกล้วยๆ สำหรับเขามาก
ที่ผ่านมามีทฤษฎีและการกล่าวอ้างมากมายถึงตัวตนที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto แต่จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้หรือมีหลักฐานยืนยันเรื่องดังกล่าว ก็ต้องรอดูว่า McAfee จะพูดจริงทำจริง รวมถึงมีหลักฐานยืนยันหรือไม่
ในช่วงที่ค่าเงินอย่าง BitCoin กำลังเป็นที่จับตามอง ด้วยเหตุที่ค่าเงินทะยานทำ new high จนจุดกระแส "ชาวเหมือง" ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน และถูกทุบลงมา พร้อมกับค่าเงิน cryptocurrency อื่นๆ จนเกิดภาวะ "เหมืองถล่ม"
John McAfee กลับมาอีกครั้งกับแผนการใหม่ สร้างโทรศัพท์มือถือที่ปลอดภัยจากการแฮ็กข้อมูลมากที่สุด John McAfee Privacy Phone
มือถือ Privacy Phone ตัวนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แต่มีคุณสมบัติไม่ธรรมดา เพราะที่ฝาหลังมีสวิตช์สำหรับปิดการทำงานของฮาร์ดแวร์แต่ละส่วน เช่น กล้อง แบตเตอรี่ เสาอากาศ ไมโครโฟน ฯลฯ ได้ทันที มือถือตัวนี้ยังตรวจสอบการเชื่อมต่อกับสถานีเครือข่ายปลอม (stringray) หรืออุปกรณ์ดักฟังอื่นๆ
กลุ่มเป้าหมายของ Privacy Phone คือลูกค้าองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตั้งราคาขายที่เครื่องละ 1,100 ดอลลาร์
คล้อยหลังจากการที่ John McAfee เปิดเผยว่าสามารถดักอ่านข้อความบน WhatsApp ได้ ล่าสุดเว็บไซต์ข่าว Gizmodo ก็ออกมารายงานว่าการเปิดเผยดังกล่าวของ McAfee เป็นการหลอกผู้สื่อข่าว
Gizmodo ระบุว่า McAfee วางแผนส่งสมาร์ทโฟนสองเครื่องไปยังให้สื่อมวลชนสองเจ้า (จากแหล่งข่าวของ Gizmodo คือ International Business Times และ Russia Today) พร้อมกับมัลแวร์ที่ถูกฝังมาเรียบร้อยในกล่องที่ปิดสนิท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานให้ McAfee จะเป็นคนแกะกล่องต่อหน้าสื่อก่อนที่จะแสดงข้อความให้เห็นว่าโดนดักได้ เรื่องนี้ถึงหู Dan Guido หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ซึ่งได้ข้อมูลจากผู้สื่อข่าวเพื่อขอคำยืนยันอีกที ทำให้เขาทวิตออกมาเปิดโปงแผนนี้ (ดูทวิตทั้งสองอันท้ายข่าว) และให้คำแนะนำกับผู้สื่อข่าวว่าอย่าใช้โทรศัพท์เหล่านั้น เพราะแค่ซีลพลาสติกหุ้มกล่องก็สามารถทำให้ดูเหมือนใหม่ได้ (shrink wrap)
John McAfee ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหาร McAfee ประกาศว่าทีมงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของเขา สามารถอ่านข้อความ WhatsApp ที่ถูกเข้ารหัสไว้ได้ โดยอาศัยเพียงช่องโหว่ของคีย์บอร์ดบนแอนดรอยด์และแอพสปายแวร์ที่ถูกติดตั้งลงไป โดยที่แอนดรอยด์ไม่ได้ถูกรูทด้วยซ้ำไป
McAfee ระบุว่าปัญหานี้เป็นความผิดพลาดของ Google มากกว่า WhatsApp พร้อมทั้งแจ้งเรื่องนี้ไปยัง 2 บริษัทแล้ว และนอกจาก WhatsApp แล้ว McAfee เผยว่ายังสามารถอ่านข้อความใน SnapChat จากช่องโหว่นี้ด้วยเช่นกัน
ที่งานสัมมนาด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ ณ เมืองเดนเวอร์ มลรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา John McAfee ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหาร McAfee บริษัทด้านความปลอดภัย (ปัจจุบันเป็น Intel Security) ซึ่งได้รับเชิญให้ไปพูดในงานดังกล่าว ออกมาระบุว่าภัยคุกคามแบบใหม่ที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟนนั้น เป็นสิ่งที่น่ากังวลมากกว่าภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์
ออกมาทีไรก็เป็นข่าวเสมอๆ John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทความปลอดภัย McAfee (ปัจจุบันไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทแล้ว) ออกมาแสดงความเห็นต่อข่าว ศาลสหรัฐฯ สั่งแอปเปิลทำรอมพิเศษข้ามการตั้งค่าความปลอดภัย โดยออกมาสนับสนุนแอปเปิลอีกหนึ่งเสียง
McAfee บอกว่าถ้าแอปเปิลยอมให้รัฐบาลสหรัฐวางประตูหลังได้ในกรณีนี้ ต่อจากนี้ไปโลกของเราก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ไฮไลท์อยู่ที่ McAfee ตั้งคำถามว่าทำไม FBI ไม่มีปัญญาถอดรหัสทั้งที่มีทรัพยากรเยอะขนาดนั้น และประกาศกร้าวว่าเขากับทีมงานแฮ็กเกอร์ระดับเทพ จะเป็นคนถอดรหัส iPhone ให้ดูเอง และถ้าหากทำไม่ได้ภายใน 3 สัปดาห์ "เขาจะออกทีวีแล้วกินรองเท้าให้ดู"
John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัย McAfee (ปัจจุบันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทแล้ว) ประกาศตั้งพรรคการเมือง Cyber Party และลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2016
ล่าสุด John เขียนใบสมัครส่งคณะกรรมการการเลือกตั้งของสหรัฐ (Federal Election Commission) เรียบร้อยแล้ว และจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้
ในปี 2012 John เคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่ประเทศเบลีซในอเมริกากลาง เขาหนีไปประเทศกัวเตมาลาที่อยู่ติดกัน ก่อนถูกจับกุมข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย และถูกส่งกลับสหรัฐ ส่วนคดีฆาตกรรมนั้นทางตำรวจเบลีซไม่สามารถหาหลักฐานได้ และเลิกการตั้งข้อหาเขาในท้ายที่สุด
John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนตี้ไวรัสชื่อดังอย่าง McAfee (ซึ่งตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเจ้าของแล้ว และเปลี่ยนชื่อเมื่อต้นปีที่ผ่านมา) เปิดตัวแอพแชตตัวใหม่ในชื่อ Chadder โดยแอพแชตตัวนี้จะเน้นไปในเรื่องการเข้ารหัสและความปลอดภัย โดยตัวแอพนี้ถูกสร้างโดยบริษัท Future Tense Central (ที่ John McAfee ได้ก่อตั้งขึ้น) ร่วมกับบริษัท Etransfr (ที่ John McAfee ได้ก่อตั้งขึ้นเช่นกัน)
หลังจากอินเทลเปลี่ยนชื่อแบรนด์ McAfee เป็น Intel Security ก็มีคนไปสอบถาม John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัท (ก่อตั้งปี 1987 ลาออกจากบริษัทเมื่อปี 1994) ว่ามีความเห็นอย่างไร
John McAfee ที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทไม่ดีนักในช่วงหลังก็ตอบว่าเขาขอบคุณอินเทลมากที่เปลี่ยนชื่อบริษัท เพราะเขารู้สึก "โล่งใจ" ที่นามสกุลของเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับ "ซอฟต์แวร์ที่ห่วยที่สุดในโลก" (หมายถึง McAfee Antivirus ในช่วงหนึ่ง) อีกต่อไป
ถือเป็นจุดจบของมหากาพย์การหลบหนีของ John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนติไวรัสชื่อดังและผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมเมื่อกลางเดือนที่แล้ว โดยเขาถูกจับในประเทศกัวเตมาลาเนื่องจากแอบเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมาย ตอนนี้ทางการของประเทศกัวเตมาลากำลังหาทางส่งตัว McAfee ออกจากประเทศอยู่ครับ
ข่าวนี้ต่อจากข่าวตำรวจออกประกาศจับผู้ก่อตั้ง McAfee ข้อหาฆาตกรรม ทีมงานของ Wired ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ John McAfee ที่ตอนนี้กำลังหลบหนีการจับกุมของตำรวจเบลีซอยู่ (จริงๆ แล้วคือ John McAfee เป็นฝ่ายติดต่อมา) โดยนอกจากที่เขาบอกว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ก็มีประเด็นที่น่าสนใจ (และน่าสนุก) อยู่บ้างครับ
John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนติไวรัสชื่อดัง McAfee ได้ถูกตำรวจประเทศเบลีซออกประกาศจับในข้อหาฆาตกรรมโดยมีผู้เคราะห์ร้ายคือ Gregory Faull ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในบ้านเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้นั้น Faull เคยไปแจ้งความกับตำรวจเรื่องที่ McAfee เคยใช้อาวุธปืนและแสดงท่าทางก้าวร้าวมาก่อนและดูเหมือนว่าจะเคยทะเลาะกันเกี่ยวกับเรื่องสุนัข ขณะนี้ตำรวจกำลังตามสืบจากเบาะแสต่างๆ และยังไม่ทราบเหตุจูงใจในการฆาตกรรมครั้งนี้