ซัมซุงได้เปิดตัว Galaxy Note 10 ไปเมื่อคืนนี้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญหนึ่งคือการตัดช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ออกไป ซึ่งแม้จะเป็นเทรนด์ตามมือถือค่ายอื่นที่ทำกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่พอเป็นซัมซุงหลายคนก็อาจจะเกิดคำถามว่า แล้วจะอธิบายตอนนั้นอย่างไร?

ถ้าจำกันได้เมื่อปี 2017 ซัมซุงได้ออกโฆษณาที่ชื่อว่า Growing Up โดยมีช่วงหนึ่งเสียดสีว่า iPhone X ไม่มีช่องหูฟัง จนต้องใช้ Dongle สายระโยงระยางเพื่อให้ชาร์จแบตและฟังเพลงไปได้พร้อมกัน

ไมโครซอฟท์ออกโฆษณา Surface Laptop 2 ตัวใหม่ โดยเนื้อหาเน้นเปรียบเทียบกับคุณสมบัติของ Surface Laptop กับ MacBook ของแอปเปิลกันแบบตรงกว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว

หนังโฆษณาพาคนดูไปรู้จักกับชายคนหนึ่งชื่อว่า Mackenzie Book ซึ่งโฆษณาให้เรียกชื่อเขาสั้น ๆ ว่า นาย Mac Book จากนั้นเป็นการสอบถามเปรียบเทียบ Surface Laptop กับ MacBook ซึ่งเขาก็ให้ข้อมูลว่า Surface Laptop นั้น แบตเตอรี่อยู่ได้นานกว่า ทำงานเร็วกว่า แถมมีหน้าจอสัมผัสอีกด้วย

โฆษณาจบด้วยประโยคที่ว่า คุณควรเลือก Surface เชื่อเถอะผมคือ Mac Book (Trust me, I'm Mac Book.)

ที่มา: Business Insider

ความวัวยังไม่ทันหาย Huawei กลับมาเป็นประเด็นข่าวอีกแล้ว หลังมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนซีรีส์ P20, P30, Honor 10 รายงานว่าพบการแสดงโฆษณาในหน้าล็อคสกรีน

มือถือของ Huawei มีฟีเจอร์แสดงภาพพื้นหลังของหน้าจอล็อคสกรีนที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ (เรียกว่า magazine) ซึ่งผู้ใช้ที่ตั้งค่าแสดงภาพหมวด landscape จะเห็นโฆษณาของเว็บจองโรงแรม Booking.com และไม่สามารถปิดได้ ทางออกเดียวคือต้องเปลี่ยนภาพพื้นหลังไม่ใช้แบบ magazine เท่านั้น

ผู้ใช้ที่พบโฆษณามาจากหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ เยอรมนี นอร์เวย์

ที่มา - Android Police

กูเกิลออกโฆษณา Pixel 3a ตัวใหม่ ที่เล่นแนวทางเดิมคือเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ Pixel 3a กับสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่เรียกชื่อสมมติว่า Phone X โดยคราวนี้ว่าด้วยระบบแผนที่นำทาง

เนื้อหาโฆษณาเปรียบเทียบการใช้โหมดนำทาง (navigation) ซึ่ง Pixel 3a สามารถใช้โหมด AR นำทาง ซึ่งตอนนี้สามารถใช้งานได้ในสถานะพรีวิวสำหรับผู้ใช้ Pixel ทุกรุ่น โดยจะแสดงทิศทาง-สถานที่ประกอบกับภาพจริงทำให้สะดวกมากขึ้น (ดูรีวิว Blognone: ลองใช้ Google Maps AR)

ภาพเปรียบเทียบกันคือบริการของ Phone X ซึ่งด้วยหน้าตาก็เดาได้ว่าหมายถึง Apple Maps ที่ยังเป็นวิธีนำทางแบบแสดงภาพแผนที่นั่นเอง (จริง ๆ กูเกิลก็ขึ้นข้อความประกอบไว้ว่าคือ Apple Maps)

ผู้ใช้ Facebook หรือ Instagram อาจคุ้นเคยกับโฆษณาที่แทรกมาแบบเนียนๆ ระหว่างไถหน้า feed อย่างเพลิดเพลิน ล่าสุดกูเกิลกำลังจะมีโฆษณาแบบเดียวกันกับแอพ Google บนมือถือ และหน้า feed ของ YouTube

โฆษณาแบบใหม่มีชื่อเรียกว่า Discovery ads มันเป็นโฆษณาที่มีรูปภาพขนาดใหญ่ และข้อความใต้รูปที่สามารถคลิกได้

โฆษณาแบบใหม่นี้จะถูกแสดงใน 3 จุดตามภาพ ได้แก่

แอปเปิลออกโฆษณาตัวใหม่ เผยแพร่ผ่านช่อง YouTube เพื่อโฆษณาว่า iPhone XR มีแบตเตอรี่ใช้งานได้นานที่สุดใน iPhone ทุกรุ่นเท่าที่มีมา

โฆษณานี้ชื่อว่า Up Late เนื้อเรื่องนำสถานการณ์หลายแบบที่คนเผลอหลับไป ขณะที่ iPhone ยังมีการใช้งานต่อเนื่องอยู่ เช่น การชมถ่ายทอดสดฟุตบอล เล่นเกม ซึ่งแอปเปิลใช้คำว่า iPhone นั้นยังทำงานต่อเนื่องได้ แม้ว่าคนจะหมดพลังจนหลับไปแล้ว

iPhone XR มีประสิทธิภาพใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone XS, XS Max รุ่นที่ออกมาในปีเดียวกัน ส่วนหนึ่งเพราะขนาดเครื่องที่ใหญ่ สามารถใส่แบตเตอรี่ความจุสูงได้ อีกทั้งใช้หน้าจอ LCD ที่ประหยัดพลังงานกว่า

ที่มา: MacRumors

Brave เว็บเบราว์เซอร์ที่ก่อตั้งโดยอดีต CEO ของ Mozilla และชูจุดเด่นเรื่องฟีเจอร์การบล็อคโฆษณาในตัว เปิดตัวบริการใหม่ Brave Ads ที่แสดงโฆษณาให้ผู้ใช้รับชม

ฟังแล้วอาจดูแปลกๆ แต่ไอเดียของ Brave คือแบ่งรายได้จากค่าโฆษณา 70% ให้ผู้ใช้ด้วย และตั้งใจแสดงเฉพาะผู้ใช้ที่เจาะจงว่าต้องการชมโฆษณา (people who welcome advertising) ทางบริษัทบอกว่าจะรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นอย่างดี และผู้ลงโฆษณาจะไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ชมโฆษณาได้

มีผู้ใช้ Android TV จากหลากหลายยี่ห้อ รายงานว่าพบการแสดงโฆษณาเพิ่มเข้ามาในอัพเดตตัวล่าสุด โดยหน้าหลักของ Android TV มีช่องทีวีหมวด Promotional Channels หรือ Sponsored เพิ่มเข้ามา แถมยังไม่สามารถปิดการแสดงผลโฆษณานี้ได้ด้วย

หลังจากอัพเดตตัวนี้โผล่มา มีผู้ใช้ Reddit ค้นพบวิธีปิด แต่ก็ซับซ้อนอยู่บ้าง โดยต้อง uninstall อัพเดตตัวนี้ออกก่อนหรือสั่งลบจาก ADB จึงสามารถปิดได้

โฆษกของกูเกิลยืนยันเรื่องนี้กับ XDA โดยบอกว่าเป็นโครงการทดลอง (pilot) ที่จะแสดงโฆษณาขึ้นมาในหน้าโฮมของ Android TV

เป็นที่รู้กันว่ารอม MIUI ไปจนถึงแอปของ Xiaomi มีการแสดงโฆษณา โดยทาง Xiaomi บอกว่าจำเป็น เพราะต้นทุนการพัฒนาแอปและรอมต่างๆ ล่าสุด Wang Teng ตำแหน่ง Product Manager ของ Xiaomi ได้โพสต์บน Weibo อ้างอิงคำพูดจาก Lei Jun ซีอีโอว่าจะปรับลดการแสดงผลโฆษณาบางประเภท

Lei Jun ระบุเพียงว่าจะลบโฆษณาที่หยาบคายและกระทบประสบการณ์ใช้งานลง ซึ่งแน่นอนว่าโฆษณาบน MIUI จะยังคงอยู่ แค่อาจจะสร้างความรำคาญน้อยลง

นอกจากนี้ในโพสต์เดียวกัน Wang Teng ยังโพสต์ 6 ฟีเจอร์ใหม่ที่ได้จากการรับฟีดแบ็คผู้ใช้ โดยให้ผู้ติดตามเลือก 3 ฟีเจอร์ที่อยากได้มากที่สุดด้วย

แอปเปิลออกหนังโฆษณาตัวใหม่ความยาว 3 นาที ชื่อเรื่อง Apple at Work ตอน The Underdogs โดยนำเสนอว่าอุปกรณ์ของแอปเปิลไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Apple Watch และ Mac เข้ามาช่วยในโลกการทำงานได้อย่างไร

เนื้อเรื่องโฆษณาพูดถึงทีมงานในบริษัทหนึ่ง ที่มีไอเดียเปลี่ยนกล่องใส่พิซซ่าเป็นรูปวงกลม และต้องทำต้นแบบไปนำเสนอให้เสร็จในสองวัน ตลอดการเล่าเรื่องมีการสอดแทรกสินค้าแอปเปิลในช่วงต่าง ๆ ที่ให้เห็นว่าคุณสมบัติบางอย่างก็เกี่ยวข้องกับชีวิตการทำงานได้ อาทิ การส่งไฟล์ผ่าน AirDrop การเรียกใช้ Excel เพื่อคุยกับฝ่ายการเงินที่ใช้พีซี เป็นต้น

ถือเป็นโฆษณาที่แตกต่างจากโฆษณาแอปเปิลที่ผ่านมา ซึ่งมักเน้นการใช้งานสำหรับลูกค้าทั่วไป แต่ครั้งนี้เปลี่ยนเน้นตลาดองค์กรแทน

แอปเปิลออกโฆษณาตัวใหม่ โดยชูจุดขายเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานผ่านช่อง YouTube ของแอปเปิล และเตรียมออกฉายในสื่ออื่นทั่วโลกด้วย

โฆษณาดังกล่าวชื่อว่า Private Side ความยาว 45 วินาที ใช้คำโปรย Privacy matters นำเสนอเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่ทุกคนพบเจอได้เป็นปกติ เพื่อสะท้อนว่าทุกคนก็ล้วนแต่ต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวกันอยู่แล้ว อาทิ ผู้หญิงที่ปิดกระจกรถยนต์ เมื่อเห็นว่ารถคันข้าง ๆ หันมามองตอนเธอแต่งหน้า

หนังโฆษณาปิดท้ายว่าถ้าหากความเป็นส่วนตัวคือเรื่องที่คุณให้ความสำคัญ โทรศัพท์ก็ควรเป็นสิ่งที่ปกป้องข้อมูลด้วยเช่นกัน และนั่นคือ iPhone

ที่มา: MacRumors

ในการแข่งขัน Super Bowl ครั้งที่ 53 สีสันหนึ่งในช่วงเวลาการถ่ายทอดสดก็คือโฆษณาในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งมีค่าโฆษณาสูงมาก แต่บริษัทขนาดใหญ่ก็ต่างยอมเสียเงินเพื่อนำเสนอโฆษณาใหม่ที่เปิดตัวในการแข่งขันนี้เช่นกัน

ซึ่งเมื่อพูดถึงค่าโฆษณาที่แพงมาก บริษัทด้านเทคโนโลยีหลายแห่งซึ่งมีงบประมาณสูง ก็ต่างเลือกลงโฆษณาด้วย มาดูกันว่ามีบริษัทใดบ้าง

Amazon นำเสนอโฆษณา 2 เรื่องราว โดยเรื่องแรกเป็นการเปิดตัวซีรี่ส์ Hanna ที่จะลง Amazon Prime อันนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่อีกโฆษณาชื่อ Not Everything Makes the Cut เป็นการย้อนศรบริการ Alexa ของตนเอง เพื่อบอกว่า Alexa ไม่ได้เหมาะกับการนำไปใช้กับทุกสิ่งอย่างขนาดนั้น

Mark Zuckerberg เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ชื่อ "The Facts About Facebook" อธิบายโมเดลธุรกิจโฆษณา ที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน

ในบทความของ Zuckerberg บอกว่าเป้าหมายของ Facebook คือเชื่อมต่อผู้คนบนโลก โดยบริการนี้ต้องมีราคาถูกพอสำหรับคนทุกระดับ จึงเป็นที่มาของการเปิดให้ใช้ฟรี แล้วทำเงินจากการโฆษณาแทน

ส่วนการโฆษณาบนโลกออนไลน์ มีความแม่นยำกว่าสื่อยุคก่อนมาก เพราะสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกว่า ผู้ใช้เองก็ได้ประโยชน์เพราะไม่ต้องดูโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ทำให้ Facebook จำเป็นต้องเก็บข้อมูลของผู้ใช้แต่ละคน

ไมโครซอฟท์ออกโฆษณาตัวใหม่ของ Surface Go รุ่น 2018 โดยแม้ภาพรวมจะเป็นการชูคุณสมบัติต่าง ๆ แต่ก็เปิดโฆษณามาพุ่งไปที่ iPad เลยด้วยคำว่า "Grandma, don’t run out and buy an iPad." (โฆษณาแปลงเพลง Grandma Got Run Over by a Reindeer)

เนื้อเพลงและเนื้อหาโฆษณา บอกเล่าถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งว่า iPad อาจจะดีตอนเธออายุ 6 ขวบ แต่ตอนนี้อายุ 10 ขวบแล้ว ก็เลยต้องการ real computer จากนั้นก็ไล่เรียงความสามารถการทำงานต่าง ๆ ที่ iPad ไม่สามารถเติมเต็มความฝันให้เธอได้

เป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วว่า iPad นั้น สามารถใช้งานทดแทนคอมพิวเตอร์ได้จริงแค่ไหน และนี่ก็คือการเปิดฉากล่าสุดจากไมโครซอฟท์ครับ

แอปเปิลออกวิดีโอโฆษณาตัวใหม่บนช่อง YouTube ในชื่อวิดีโอที่ตรงไปตรงมาเลยคือ 5 เหตุผลที่ iPad Pro สามารถเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องถัดไปของคุณ (5 Reasons iPad Pro can be your next computer) ซึ่งเป็นอีกครั้งที่แอปเปิลพยายามชูจุดขาย iPad ในแง่การใช้งานทดแทนคอมพิวเตอร์เดิม

เนื้อหาในวิดีโอก็ไล่เหตุผลมาเป็นข้อ ๆ ตั้งแต่ ประสิทธิภาพที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป, ความสามารถในการใช้งานที่หลากหลาย, พกพาไปใช้งานติดตัวเชื่อมต่อได้ทุกที่, ใช้ง่าย และดีมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับ Apple Pencil

สุดท้ายวิดีโอปิดท้ายว่า iPad Pro นั้นสามารถทดแทนคอมพิวเตอร์ได้ แม้จะแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ทั่วไปนั่นเอง

เว็บไซต์ AdAge รายงานว่า YouTube กำลังซุ่มทำฟีเจอร์ดูหนังฟรีมีโฆษณา ซึ่งไม่ใช่เป็นโฆษณาที่กดข้ามได้ โดยจะเป็นหนังฮอลลีวูดเก่าๆ ที่ดังค้างฟ้าจนเป็นตำนาน เช่น The Terminator และ Legally Blonde เป็นต้น

Rohit Dhawan ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของ YouTube บอกว่ามองเห็นความต้องการของผู้ใช้ที่อยากดูภาพยนตร์ ฟรี และถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้ลงโฆษณาด้วย และตอนนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างขยายจำนวนคอนเทนต์หนัง อย่างไรก็ตาม Dhawan ไม่ได้บอกดีลที่ YouTube มีต่อสตูดิโอทำหนังว่าแบ่งกันสัดส่วนเท่าไร

กูเกิลประกาศว่า Chrome 71 ที่มีกำหนดออกในเดือนธันวาคม 2018 จะบล็อคโฆษณาของเว็บไซต์ที่ถูกขึ้นบัญชีดำว่าเป็นเว็บไซต์ที่สร้างประสบการณ์ไม่ดีแก่ผู้ใช้ (กูเกิลใช้คำว่า abusive experience)

เว็บไซต์ที่เข้าข่าย abusive experience คือพยายามล่อให้ผู้ใช้กดโฆษณาบนเว็บไซต์ด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งแบนเนอร์ ป๊อปอัพ วิดีโอ หรือหลอกให้ดาวน์โหลดแอพบนมือถือ ตัวอย่างเทคนิคที่ใช้งาน เช่น ปุ่ม x ปิดโฆษณาที่ไม่ได้ปิดโฆษณาจริงๆ หรือแบนเนอร์ที่หน้าตาเหมือนข้อความแจ้งเตือนของ OS

ก่อนหน้านี้กูเกิลมีมาตรการบล็อคป๊อปอัพและการเปิดหน้าต่างใหม่ แต่พบว่ามาตรการเหล่านี้ไม่เพียงพอ กูเกิลจึงตัดสินใจใช้ยาแรงขึ้น โดยบล็อคโฆษณาทั้งหมดอย่างสมบูรณ์

หลังจากทานกระแสมานาน ในที่สุด WhatsApp ภายใต้อาณาจักร Facebook ก็ยืนยันแล้วว่าจะมีโฆษณากับเขาสักที

Chris Daniels ผู้บริหารของ WhatsApp ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อที่อินเดีย ยืนยันว่าจะเพิ่มโฆษณาลงในส่วน Status ที่เทียบได้กับ Stories ของ Instagram

เขาบอกว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ทำเงินของบริษัท และเป็นโอกาสอันดีที่ธุรกิจจะเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากของ WhatsApp ได้ (ปัจจุบัน WhatsApp มีผู้ใช้งานมากกว่า 1.5 พันล้านคน) แต่เขายังไม่ระบุช่วงเวลาว่าเราจะเห็นโฆษณาแบบใหม่นี้เมื่อไร

Facebook เพิ่งเปิดตัว Portal ฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกใต้แบรนด์ของตัวเอง โดยเป็นหน้าจออัจฉริยะพร้อมกล้องสำหรับวิดีโอคอลล์ ที่ชูจุดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัว มาพร้อมที่ปิดหน้ากล้อง และแยกการเก็บข้อมูลต่างหากจากบัญชี Facebook หลัก

ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียว Facebook ก็ออกมาแก้ข้อมูลเดิม ว่ามีสิทธินำข้อมูลบางอย่างจาก Portal เช่น ระยะเวลาที่โทร ความถี่ในการโทร พฤติกรรมการใช้งานแอพ ฯลฯ ไปใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณาให้ผู้ใช้รายนั้นๆ เห็นบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ของบริษัท

สื่อต่างประเทศหลายราย เช่น Recode หรือ The Verge ต่างระบุว่าข้อมูลนี้ขัดแย้งกับที่ Facebook เคยประกาศไว้ในงานแถลงข่าว ที่บอกว่าจะไม่นำข้อมูลใดๆ จาก Portal ไปใช้ในการโฆษณา

หลังจาก Facebook นำเสนอฟีเจอร์ Stories มายาวนาน โดยวางไว้ในตำแหน่งบนสุดเด่นสุดของแอพ ชนิดว่าไม่มีทางปิดได้ ก็ได้เวลาของการมีโฆษณาแล้ว

Facebook ให้ข้อมูลว่ามีผู้ใช้ Stories (นับรวมบน Facebook หลักและ Messenger แต่ไม่รวม Instagram) เป็นประจำทุกวันจำนวน 300 ล้านคนต่อวัน พร้อมแล้วสำหรับการให้แบรนด์สินค้าต่างๆ เข้าถึงคนเหล่านี้

การลงโฆษณาบน Facebook Stories ไม่ต่างอะไรจากการลงโฆษณาในระบบ Facebook ปกติ โฆษณาจะแสดงแบบเต็มจอระหว่าง Stories แต่ละอัน (เหมือนกับ Instagram Stories ทุกประการ)

YouTube ประกาศผ่านช่อง Creator Insider บอกว่าจะมีการเปลี่ยนในโฆษณาที่แสดงบนวิดีโอของผู้ผลิตเนื้อหา โดยจากเดิมโฆษณาประเภทกดข้ามไม่ได้ จะมีให้เลือกเฉพาะผู้ที่เป็นระดับพาร์ทเนอร์เท่านั้น แต่จากนี้ YouTube จะเปิดให้ผู้ผลิตเนื้อหาทั้งหมด สามารถเลือกโฆษณาประเภทนี้ได้แล้ว

ในประกาศดังกล่าว YouTube บอกว่าผู้ลงโฆษณาต้องจ่ายเงินสูงกว่า หากลงโฆษณาแบบกดข้ามไม่ได้ ซึ่งแปลว่าผู้ผลิตเนื้อหาก็จะได้ส่วนแบ่งเงินที่มากขึ้นจากการเลือกโฆษณาประเภทนี้ แต่ในทางกลับกัน ก็หมายความว่าผู้ชม YouTube ก็น่าจะเห็นโฆษณาแบบนี้มากขึ้นด้วย

ทั้งนี้โฆษณาแบบกดข้ามไม่ได้ YouTube กำหนดความยาวเอาไว้ไม่เกิน 15-20 วินาที ส่วนโฆษณาแบบกดข้ามได้นั้น จะสามารถกดข้ามได้เมื่อเล่นไปแล้ว 5 วินาที

ซัมซุงยังคงออกโฆษณาตัวใหม่ในชุด Ingenius ที่สมมติสถานการณ์ในร้าน Apple Store และมีลูกค้ามาถามถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ออกมาอีก โดยคราวนี้เป็นเนื้อหาสำหรับ Galaxy Note 9 ที่เพิ่งเปิดตัวไปวันก่อน

โฆษณาตัวแรกชื่อว่า Pen ซึ่งคงเดาได้ว่าเนื้อหาจะไปทางไหน ลูกค้าหญิงคนหนึ่งเข้ามาที่ร้านแล้วถามว่า Apple Pencil ต่างยังไงกับปากกาของ Galaxy Note 9 ซึ่งคำตอบคือ Pencil ใช้ได้แต่กับ iPad ถ้ากับ iPhone ยังต้องใช้นิ้วมือต่อไป

กูเกิลเคยประกาศความร่วมมือด้านคลาวด์กับ Unity ไปแล้วครั้งหนึ่ง ล่าสุดความร่วมมือนี้ขยายมายังบริการโฆษณาสำหรับเกมด้วย

ปัจจุบัน Unity เป็นเอนจินเกมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะฝั่งเกมมือถือที่ Unity เคลมว่า 50% ของเกมมือถือใหม่ๆ สร้างด้วย Unity และมีผู้เล่นรวมกันเป็นเวลา 9 พันล้านวินาทีต่อวัน ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงต่อการโฆษณา

ซัมซุงออกโฆษณาตัวใหม่สำหรับ Galaxy S9 โดยยังคงเล่นกับผู้ใช้แอปเปิล - iPhone เหมือนเดิม ซึ่งคราวนี้เนื้อหาของโฆษณาเป็นการย้ำจุดเด่นของ Galaxy S9 ข้อหนึ่งที่เหนือกว่า iPhone X คือความเร็วในการดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายมือถือ ซึ่งผลทดสอบพบว่า Galaxy S9 เร็วกว่า

เรื่องราวในโฆษณาก็จัดกันแบบตรง ๆ โดยสมมติสถานที่หนึ่งที่เป็น Apple Store มีตัวละครคือลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้าไปดู iPhone X และมีพนักงานเดินเข้ามาสอบถาม จากนั้นลูกค้าก็ถามกันตรง ๆ ว่า ความเร็วในการดาวน์โหลดสู้ Galaxy S9 ไม่ได้

พนักงานแอปเปิลก็ได้แต่อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร จากนั้นก็โฆษณาก็ตัดจบว่า เปลี่ยนมาใช้ Galaxy ก็เป็นอันจบ

ดูโฆษณานี้ได้ท้ายข่าว

Facebook ประกาศการเริ่มทดสอบโฆษณารูปแบบใหม่บน News Feed โดยผสานการทำงานของ AR เข้ามา ซึ่งเหมาะกับสินค้าแฟชั่น, เครื่องประดับ, เครื่องสำอาง, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ฯลฯ โดยผู้ใช้สามารถกดเพื่อทดลองสินค้าแบบ AR ผ่านกล้องมือถือ

โดย Michael Kors เป็นแบรนด์แรกที่ทดสอบโฆษณาแบบ AR บน News Feed ผู้ใช้งานสามารถทดลองนำแว่น AR มาสวมใส่ดูได้ ส่วนสินค้าอื่นที่เตรียมใช้โฆษณาแบบ AR เช่นร้านเครื่องสำอาง Sephora และสินค้าแฟชั่นอื่น ๆ

Facebook บอกว่าโฆษณา AR นี้จะช่วยให้ผู้ชมโฆษณาได้แนวทางใหม่ในการเลือกชมสินค้า สร้างประสบการณ์แบบใหม่ ที่ทำได้ทั้งผ่านโทรศัพท์ และ AR ในร้านค้านั้น ๆ เอง

ที่มา: Engadget