การเปิดให้ใช้แอปฟรี โดยหาเงินผ่านโฆษณาวิดิโอ โดยแลกกับของหรือเงินในแอป เป็นหนึ่งในวิธีที่นักพัฒนาใช้กันเยอะ ล่าสุด Google กระโดดลงมาทำระบบหาเงินผ่านโฆษณาในแอปนี้ด้วยตัวเองแล้วบน Play Console ในชื่อ Reward Products
ฟอร์แมทแรกบน Reward Products คือวิดีโอ ทำให้ผู้ใช้แอปสามารถเลือกได้ว่า จะกดดูวิดิโอหรือไม่ หากดูจนจบจะได้ของรางวัลภายในแอปเป็นการแลกเปลี่ยน โดยแพลตฟอร์มโฆษณาที่ใช้คือ AdMob ร่วมกับพาร์ทเนอร์โฆษณาในเครือข่ายของ Google
นักพัฒนาที่ต้องการใช้ Reward Products สามารถเพิ่มเข้าไปในแอปได้เลยผ่าน Google Play Billing Library หรือเพิ่ม API บางตัวผ่านทาง AIDL ก็ได้ ไม่ต้องใช้ SDK เพิ่มเติม
กูเกิลเคยประกาศความร่วมมือด้านคลาวด์กับ Unity ไปแล้วครั้งหนึ่ง ล่าสุดความร่วมมือนี้ขยายมายังบริการโฆษณาสำหรับเกมด้วย
ปัจจุบัน Unity เป็นเอนจินเกมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะฝั่งเกมมือถือที่ Unity เคลมว่า 50% ของเกมมือถือใหม่ๆ สร้างด้วย Unity และมีผู้เล่นรวมกันเป็นเวลา 9 พันล้านวินาทีต่อวัน ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงต่อการโฆษณา
เชื่อว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนแทบทุกคน คงเคยมีประสบการณ์ "คลิกพลาด" ไปโดนโฆษณาเข้าโดยไม่ตั้งใจ ปัญหานี้ส่งผลลบทั้งต่อผู้ใช้ (ต้องดูโฆษณาทั้งที่ไม่สนใจ) และผู้ลงโฆษณา (ถูกคิดราคาคนคลิกโฆษณา ทั้งที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย)
กูเกิลออกมาปรับวิธีการตรวจสอบคลิกของโฆษณาแบบ Native Ads (โฆษณาที่หน้าตาเหมือนคอนเทนต์) ในเครือข่าย AdMob โดยจะไม่นับคลิกใน 2 กรณีดังนี้
เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งมีข่าว Google Search เพิ่มฟีเจอร์ App Streaming โชว์หน้าจอภายในแอพโดยไม่ต้องติดตั้ง ล่าสุดกูเกิลขยายฟีเจอร์ลักษณะเดียวกันมายังโฆษณาบนมือถือแล้วครับ
โฆษณาแบบใหม่ของกูเกิลเรียกว่า Trial Run Ads ผู้ใช้สามารถลองเล่นแอพที่โฆษณาในระบบของ AdMob ได้โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอพก่อน วิธีการทำงานคือแอพจะรันบนเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิล แล้วสตรีมหน้าจอมายังเครื่องของเราได้นานไม่เกิน 60 วินาที (เป็นแอพจริงที่กดได้จริง ไม่ใช่การบันทึกวิดีโอ)
อิทธิพลของ Material Design ไม่ได้อยู่แค่แอพของกูเกิลเท่านั้น แต่ยังลามไปถึง "โฆษณา" ในระบบของ AdMob และ DoubleClick ด้วย
กูเกิลประกาศปรับฟอร์แมตของโฆษณาแอพแบบเต็มหน้าจอ (full-screen ads) ใหม่ โดยปรับหน้าตาโฆษณาให้สะอาดขึ้น ใช้ปุ่มติดตั้งเป็นวงกลมแบบเดียวกับ Material Design แถมแถบสีด้านล่างและสีของปุ่มยังปรับเปลี่ยนอัตโนมัติ จากภาพ cover ของแอพนั้นด้วย
กูเกิลบอกว่าทดสอบโฆษณารูปแบบต่างๆ มาถึง 10 แบบกว่าจะลงตัวว่าโฆษณาแบบไหนสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้มากที่สุด และมีอัตราการคลิกเพิ่มขึ้น ตอบโจทย์ผู้ลงโฆษณาไปพร้อมกัน
ที่มา - Inside AdWords
กูเกิลเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับนักพัฒนาเกมบน Google Play เตรียมรับงาน Game Developers Conference (GDC) สัปดาห์นี้
ที่งาน Google I/O กูเกิลประกาศยกเครื่องแพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือ AdMob (ที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2010) ใหม่หมด เพื่อให้ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มโฆษณาของกูเกิลได้ดีขึ้น
การปรับปรุง AdMob ครั้งใหญ่ยังเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาอีกหลายอย่าง เช่น Conversion Optimizer ช่วยโปรโมทแอพผ่านโฆษณาได้ละเอียดแม่นยำกว่าเดิม, ควบคุมหมวดเนื้อหาการแสดงโฆษณาได้ละเอียดขึ้น, แสดงตัวเลขและจ่ายเงินด้วยสกุลท้องถิ่นมากขึ้น, ปรับอินเทอร์เฟซหน้ารายงานผลการโฆษณาให้ใช้ง่ายและมีข้อมูลเยอะกว่าเดิม เป็นต้น
ผมเข้าใจว่าแถวนี้มีนักพัฒนาแอพที่หารายได้ด้วย AdMob อยู่บ้างพอสมควร ถ้าใครมีประสบการณ์ก็มาแชร์ข้อมูลกันได้ครับ
ยาฮูประกาศความร่วมมือกับกูเกิล เพื่อนำโฆษณาของกูเกิลทั้ง AdSense และ AdMob มาแสดงบนเว็บไซต์และบริการของยาฮู มีผลกับบริการของยาฮูทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความร่วมมือแบบ non-exclusive นั่นคือยาฮูยังมีพันธมิตรโฆษณารายอื่นๆ เช่นเดิม แค่เพิ่มกูเกิลมาเป็นพันธมิตรอีกรายเท่านั้น (ถ้ามองว่ากูเกิลเป็นบริษัทโฆษณาออนไลน์รายใหญ่ ก็คงมีผลต่อรายได้จากโฆษณาของยาฮูไม่น้อย)
สำหรับผู้ใช้ของยาฮูคงไม่เห็นความแตกต่างมากนัก เพราะเห็นโฆษณาเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนผู้ให้บริการเท่านั้น แต่นี่เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายุคสมัยที่สองบริษัทนี้แข่งขันกันโดยตรงนั้นจบลงแล้ว
ไม่รู้จะมีใครบอกว่า Marissa Mayer เป็นคนที่กูเกิลส่งเข้ามาคุมยาฮูหรือเปล่า?
ในวันนี้กูเกิลได้ปรับเทคนิคในการแสดงผลโฆษณา AdMob ในตัวแอพพลิเคชั่นที่เรียกใช้งาน AdMob API อยู่ใหม่ครับ โดยเทคนิคใหม่ที่ว่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ตัว AdMob รันหน้าเว็บโฆษณาขึ้นมา ในกรณีที่ผู้ใช้งาน "ไม่ได้ตั้งใจจะกดเพื่อดู" ครับ
กูเกิลมีแพลตฟอร์มโฆษณาอยู่หลายตัว ทั้งที่ทำเองอย่าง AdWords/AdSense และที่ไปซื้อมาอย่าง DoubleClick (2007) หรือ AdMob (2009)
AdMob บริษัทโฆษณามือถือสังกัดกูเกิล เผยสถิติว่ายอดแสดงโฆษณาในเครือข่ายของตัวเอง อันมีที่มาจากแท็บเล็ต เติบโตถึง 700% จากปีที่แล้ว โดยเดือนพฤศจิกายน 2010 มีการแสดงผล 1 พันล้านเครื่อง แต่เดือนพฤศจิกายนปีนี้ ตัวเลขเพิ่มเป็น 8 พันล้านครั้ง
AdMob ยังเผยสถิติ-พยากรณ์แนวโน้มของวงการโฆษณาในปีหน้า ว่าคนส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลในร้านค้าเพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ และการค้นข้อมูลบนมือถือมักจะหมายถึงการหาข้อมูลเพื่อช็อปปิ้ง โดยยกตัวอย่างเทศกาล Black Friday ของสหรัฐที่ผ่านมาว่า ทราฟฟิกโตถึง 200%
บริษัทโฆษณา AdMob ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกูเกิล ได้สำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้งานแท็บเล็ตในสหรัฐอเมริกาจำนวน 1,400 คน ว่านำแท็บเล็ตไปใช้กันในลักษณะใดบ้าง พบว่างานที่ทำบนแท็บเล็ตมากที่สุดคือ เล่นเกม 84% ตามด้วยค้นหาข้อมูล 78% และอีเมล 74%
AdMob ไม่ได้ระบุว่าแท็บเล็ตที่ทำการสำรวจมียี่ห้อใดบ้าง แต่ด้วยสภาพตลาดก็น่าจะถือได้ว่าเน้น iPad เป็นหลัก
แม้ AdMob จะเป็นบริการโฆษณาของกูเกิล แต่กูเกิลเองก็แสดงจุดยืนมาตลอดว่าต้องการครอบครองตลาดโฆษณาบนมือถือทุกแพลตฟอร์ม ไม่ใช่เฉพาะ Android
AdMob มี SDK ให้นักพัฒนาแอพบน Android, iOS, webOS มาก่อนแล้ว และวันนี้กำลังรุกเข้ามาในตลาด Windows Phone 7 โดยออก SDK รุ่นเบต้า สำหรับนักพัฒนาแอพที่ต้องการติดโฆษณาจาก AdMob จะได้นำไปใช้กันสะดวกๆ
ที่มา - Google Mobile Ads Blog
AdMob มีรายงานออกมาว่า ส่วนแบ่งในตลาดของ Android กำลังเพิ่มขึ้นอย่างเรื่อยๆ และแซงหน้า Symbian ไปเรียบร้อยแล้วในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ในทวีปอเมริกาเหนือ Android มีส่วนแบ่งตลาดถึง 33% ตามหลังเพียงแค่ Apple iOS ที่มีส่วนแบ่งอยู่ 54% และที่ตามมาก็คือ BlackBerry หรือ RIM OS ที่มีส่วนแบ่งเพียง 7% เท่านั้น
เห็นได้ชัดว่า Android (ในต่างประเทศ) มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ไม่เหมือนในประเทศเรา)
ที่มา: talkandroid
ทุกวันนี้มีบริษัทวิจัย-สำรวจตลาดหลายเจ้า ออกรายงานสรุปสถานการณ์ของโลกมือถือกันเป็นประจำ อันนี้เป็นของ AdMob ผู้ให้บริการโฆษณาบนมือถือ (ที่ถูกกูเกิลซื้อไปแล้ว) สรุปสถานการณ์สมาร์ทโฟน โดยอิงจากข้อมูลของโฆษณาที่เผยแพร่ออกไปครับ (สำนักอื่นๆ อาจใช้วิธีประเมินยอดขายเครื่อง ซึ่งได้ผลที่ต่างกัน)
จากข่าว แอปเปิลกำลังกัน AdMob ออกจากการเก็บข้อมูลเพื่อโฆษณา? ซึ่งแอปเปิลห้ามบริษัทโฆษณาที่ผูกกับคู่แข่งอย่าง AdMob (ที่เป็นของกูเกิลไปแล้ว) เก็บข้อมูลผู้ใช้เพื่อโฆษณาบน iPhone (แต่อนุญาตให้บริษัทโฆษณาอิสระทำได้)
ทาง AdMob ได้ออกมาแสดงความเห็นแล้ว โดยซีอีโอ Omar Hamoui เขียนลงบล็อกว่า คนที่จะได้รับผลกระทบคือนักพัฒนาโปรแกรม ที่เคยหารายได้จากค่าโฆษณาในโปรแกรมของตัวเอง นอกจากนี้เขายังบอกว่าการกีดกันของแอปเปิล ทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน และขาดนวัตกรรมในระยะยาว
เรื่องขาดรายได้คงไม่จริงเพราะนักพัฒนา (ถูกบีบ) ให้ใช้ iAd แทน แต่เรื่องการกีดกันก็คงจริงอย่างที่ Omar ว่า อย่างไรก็ตาม AdMob คงทำอะไรไม่ได้มากนักในสถานการณ์แบบนี้
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2009 กูเกิลประกาศเข้าซื้อบริษัทโฆษณาบนมือถือ AdMob แต่ก็โดนสกัดดาวรุ่งโดย FTC (คณะกรรมการการค้าของสหรัฐ) เข้ามาตรวจสอบว่าการซื้อ AdMob จะช่วยให้กูเกิลผูกขาดตลาดหรือไม่
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งปี ตอนนี้ FTC ออกมาประกาศแล้วว่าไม่มีปัญหา กูเกิลสามารถเดินหน้าควบรวม AdMob ได้เลย
ผลการรายงานจาก AdMob ถึงยอดการใช้งานโฆษณาโทรศัพท์มือถือระบุว่าผู้ใช้ Android ส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำการอัปเดท (และส่วนมากเป็นเพราะทำไม่ได้) ระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชันล่าสุด โดยเหตุผลหลักๆ เกิดจากการที่ขั้นตอนการอัปเดทในหลายๆ กรณีนั้นไม่สามารถทำได้ง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และการอัปเดทจำเป็นต้องรอความร่วมมือทั้งจากกูเกิลกับบริษัทผู้ผลิตเครื่อง ไปจนถึงผู้ให้บริการเครือข่ายในบางกรณี
AdMob ระบุว่าส่วนแบ่ง Android เวอร์ชันหลังๆ จะตามมาจากยอดขายโทรศัพท์มือถือที่ขายพร้อมกับ OS ล่าสุดในช่วงเวลานั้นๆ เช่น Android 2.x (Eclair) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากยอดขาย Motorola Droid เป็นหลัก
รายงานการโฆษณาบนเว็บอาจจะเป็นตัวเลขที่หลายๆ คนสนใจยิ่งกว่าการใช้งานปรกติ เพราะแม้คนจะใช้งานมากแต่หากไม่สามารถทำกำไรได้ก็อาจจะไม่คุ้มค่าลงทุน และตัวเลขล่าสุดของ Admob ก็แสดงให้เห็นว่า iPhone ได้ขึ้นที่ 1 ในการแสดงโฆษณาบนโทรศัพท์แล้วด้วยส่วนแบ่งถึง 50% จากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 33%
โนเกียกำลังย่ำแย่ในตลาดนี้เพราะสัดส่วนลดลงเหลือ 18% จาก 43% ในปีที่แล้ว ส่วน Android นั้นเติบโตเร็วที่สุดจาก 2% มาเป็น 24%
ภาพรวมในปีที่แล้วที่น่าสนใจคือโทรศัพท์ทั่วไปหรือ Featured Phone นั้นกำลังมีสัดส่วนลดลง และซัมซุงก็ขึ้นมาเป็นผู้ผลิตอันดับหนึ่ง ส่วน MID นั้นกลับเพิ่มสัดส่วนขึ้นนิดหน่อย และสมาร์ทโฟนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจนเกือบแตะ 50% แล้ว
รายงานฉบับเต็มอยู่หลัง break
จากการสำรวจของ AdMob ทำการสำรวจผู้พัฒนา app บน iPhone จำนวน 100 กว่าคน ซึ่งพบว่า ส่วนใหญ่ใช้ iPhone เป็น เครื่องหลัก แต่ ส่วนใหญ่ก็วางแผนที่จะพัฒนา app บน Android ภายใน 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกดังนี้ครับ
ผลของการสำรวจครั้งนี้ มีการตีความว่า เป็นการตอกย้ำความร้อนแรงของ Android ในช่วงเวลานี้ได้เป็นอย่างดี
ชาว Blognone มีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
บริษัท AdMob ซึ่งเป็นผู้นำด้านโฆษณาในโปรแกรมบนมือถือ (ปัจจุบันเป็นของกูเกิลไปแล้ว) เปิดเผยสถิติที่เก็บได้จากโปรแกรมที่ลงโฆษณา
สถิติบอกว่าคนใช้ iPod touch โหลดโปรแกรมมากที่สุด เฉลี่ย 12.1 ตัวต่อเดือน ตามมาด้วย iPhone ซึ่งเฉือน Android เล็กน้อย และ Palm webOS ตามลำดับ
สัดส่วนของโปรแกรมจ่ายเงินกับโปรแกรมฟรีก็เป็นไปตามที่คาด คือยังไม่เยอะมาก อย่างในกรณีของ iPod touch มีคนเสียเงินโปรแกรมเพียง 1.6 ตัวต่อเดือนเท่านั้น (จากทั้งหมด 12.1 ตัว) ตัวเลขอื่นๆ ดูได้จากกราฟครับ
ที่มา - AdMob
หลังจาก FTC ฟ้องอินเทลข้อหาผูกขาด GPU ไม่ทันไร ก็เข้าไปตรวจสอบกูเกิลต่อ หลังจากกูเกิลซื้อบริษัทโฆษณาบนมือถือ AdMob และ FTC เห็นว่าเข้าข่ายการผูกขาด
ในบล็อก Google Public Policy กูเกิลเปิดเผยว่า FTC ได้ขอข้อมูลการซื้อกิจการ AdMob จากกูเกิลถึงสองครั้ง และกูเกิลคาดว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะไม่สำเร็จง่ายๆ
AdMob (ที่เพิ่งถูกซื้อโดย Google ไป) มีรายงานเกี่ยวกับปริมาณการใช้งานเครือข่ายไร้สายของอุปกรณ์ต่างๆ และพบว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ iPhone มีส่วนแบ่งการใช้งานข้อมูลสูงสุดที่ 50% ในขณะที่ Android เองก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วเป็น 11%
ในข้อมูลนี้ ได้มีการเปรียบเทียบส่วนแบ่งตามจำนวนเครื่องของยี่ห้อต่างๆ กับส่วนแบ่งข้อมูลที่ใช้ ได้ข้อมูลดังต่อไปนี้ (เรียงตามยอดขายเครื่อง)
- (เครื่อง) / (% เครื่องที่ขายได้) / (% การใช้ข้อมูล)
- Symbian / 46% / 25%
- BlackBerry / 21% / 7%
- iPhone / 18% / 50%
- Windows Mobile / 9% / 3%
- Android / 3% / 11%
- อื่นๆ / 3% / 4%
จากข่าว Google ซื้อ AdMob และ Gizmo5 มีรายงานจาก "คนที่เกี่ยวข้อง" ว่าสองสามสัปดาห์ก่อนที่ข่าวกูเกิลซื้อกิจการจะถูกประกาศออกมา บริษัทแอปเปิลได้เข้ามาเจรจาขอซื้อ AdMob เช่นกัน (ซึ่งเราก็รู้กันแล้วว่าไม่สำเร็จ)
ทาง AdMob ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับข่าวนี้ ส่วนนักวิเคราะห์มองว่าการชิง AdMob ระหว่างแอปเปิลกับกูเกิลนั้นแสดง "ความเป็นคู่แข่ง" ของทั้งสองบริษัทในอุตสาหกรรมมือถืออย่างชัดเจน หลังจากกูเกิลได้ AdMob ไปทำให้เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดโฆษณาบนมือถือ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30-40%
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงกูเกิลประกาศข่าวการเข้าซื้อรายใหญ่ๆ รวดเดียวสองบริษัทคือ AdMob บริษัทให้บริการโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ ด้วยมูลค่าถึง 750 ล้านดอลลาร์
กูเกิลวางตำแหน่งของ AdMob ให้ดูแลโฆษณาบนเว็บสำหรับโทรศัพท์มือถือนอกเหนือจาก Google Search และแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์ ว่าง่ายๆ คือกูเกิลจะดูแต่โฆษณาบนเว็บของกูเกิลเองเท่านั้นต่อจากนี้
ที่มา - TechCrunch