Apple, Inc.
ชาว iPhone 4 อาจได้ใช้ FaceTime กับงานลักษณะนี้ในไม่ช้า เพราะเริ่มมีคนประกาศรับสมัครสาวสวยมาคุยผ่าน FaceTime แล้ว
ประกาศนี้มีใน Craiglist โดยรับสมัครผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเขตนครนิวยอร์กมาคุย sex chat ผ่าน FaceTime แบบพาร์ทไทม์ รายได้แบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ตามชั่วโมงการทำงาน และยังได้ iPhone 4 ฟรีๆ หนึ่งเครื่อง (ใช้นอกเวลางานได้ด้วย)
บริการนี้จะเริ่มเปิดวันที่ 1 กันยายน อ่านประกาศรับสมัครฉบับเต็มได้จากลิงก์ครับ
ที่มา - Business Insider
วาณิชธนกิจ Piper Jaffray ออกรายงานเกี่ยวกับการขาย iPhone 4 ของแอปเปิล โดยประเมินว่าจะมียอดขาย 1-1.5 ล้านเครื่องใน 3 วันแรก
แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ Piper Jaffray ได้สำรวจข้อมูลของผู้ซื้อ iPhone 4 ในสหรัฐจำนวน 608 คน ได้ข้อมูลมาดังนี้
มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าแอปเปิลเตรียมอัพเดท iOS 4.01 ในสัปดาห์หน้า (คาดว่าเป็นวันจันทร์) เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณตกของ iPhone 4 เมื่อเอามือไปจับบริเวณขอบตัวเครื่อง
หากแอปเปิลแก้ปัญหานี้ด้วยการอัพเดทซอฟต์แวร์ได้สำเร็จก็คงจะรอดตัวไป แต่หากทำไม่ได้และกลับเป็นปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ แอปเปิลคง "งานเข้า" แน่นอน
ที่มา: AppleInsider ผ่าน Boy Genius Report
มีการรายงานว่า แอปเปิลในสหราชอาณาจักรได้แจกขอบยางครอบบริเวณขอบอลูมิเนียมรอบตัวเครื่อง (Bumper) มูลค่า 25 ปอนด์ (ราว 1,300 บาท) ให้แก่ลูกค้าที่กลับมาบ่นกับทางร้านเกี่ยวกับปัญหาสัญญาณตกของ iPhone 4
จนถึงขณะนี้ แอปเปิลก็ยังไม่ได้ออกมากล่าวอะไรเพิ่มเติม นอกจากอีเมลอย่างเป็นทางการของคุณสตีฟ จ็อปส์ที่กล่าวว่า "พยายามหลีกเลี่ยงการจับที่บริเวณมุมล่างซ้ายลักษณะที่ครอบคลุมทั้งสองด้านของแถบสีดำตรงขอบอลูมิเนียม หรือให้ง่ายกว่านั้นก็ใช้เคสที่หาซื้อได้ทั่วไป" (ดูข่าวเก่า)
คงไม่มีใครอธิบายเรื่องปัญหาเสาอากาศรอบตัวของ iPhone 4 ได้เท่ากับผู้เชี่ยวชาญด้านเสาอากาศตัวจริง
Spencer Webb จากบริษัท AntennaSys ผู้ผลิตเสาอากาศได้เขียนอธิบายลงบล็อกของบริษัทว่า ปัจจุบันนี้ มือถือเกือบทุกเครื่องมีเสาอากาศรับสัญญาณอยู่ด้านใต้ของเครื่องกันเกือบหมด แม้มันจะเป็นจุดที่เราใช้มือจับตัวเครื่องโทรศัพท์ก็ตาม แต่เหตุผลก็เพราะ FCC (กทช. สหรัฐ) มีกฎเรื่องความแรงของสัญญาณที่ร่างกายได้รับ (Specific Absorbtion Rate หรือ SAR) ซึ่งการเอาเสาอากาศไปไว้ด้านบนจะอยู่ใกล้กับศีรษะ และอาจมีผลทำให้ไม่ผ่านมาตรฐานของ FCC
เป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้และเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน ทั้งฝ่ายชื่นชอบ iPhone, ฝ่ายชื่นชอบ Android และฝ่ายชื่นชอบ Samsung ว่า Retina Display ที่ Jobs อ้างว่าคุณภาพดีกว่า OLED นั้นคุณภาพเป็นอย่างไร จน Samsung เองออกมาบอก Retina Display สู้ AMOLED ไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้เว็บไซต์ Engadget ได้นำเครื่อง iPhone 4 และ Samsung Galaxy S มาเทียบเรื่องหน้าจอกันชัดๆ ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว โดยปรับความสว่างสูงสุด ประเด็นที่หลายคนอยากรู้ มีดังนี้
ช่วงนี้ไม่มีมือถือตัวไหนจะได้รับการจับตามองไปมากกว่า iPhone 4 และ Droid X คู่รักคู่แค้นข้ามค่าย (และในอเมริกาคือข้ามโอเปอเรเตอร์ที่เป็นสองอันดับแรกด้วย)
เว็บไซต์ Mashable เจ้าเก่า (โดยผู้ใช้ชื่อ @shanesnow) ทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของสองตัวนี้มาให้ดูกันง่ายๆ โดยสเปกแล้วก็พอฟัดเหวี่ยง ผลัดกันแพ้ชนะกันคนละจุด เลือกดูเลือกชมกันได้ตามอัถยาสัย
ที่มา - Mashable
หลังจากมีผู้ใช้หลายรายรายงานว่าเมื่อเอามือจับขอบ iPhone 4 แล้วสัญญาณจะตกจนอยู่ที่ระดับต่ำ และผู้ใช้ต้องสรุปกันเองว่าต้องจับด้วยมือขวาสายถึงจะไม่หลุดไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดก็มีคนอีเมลไปถามคุณสตีฟ จ็อปส์ และก็เช่นเคย มีอีเมลตอบกลับมาในเวลาไม่นานนัก เนื้อความมีดังนี้
จากที่มีรายงานว่า iPhone 4 มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์หลายจุด เว็บไซต์ Mashable เลยทำโพลสอบถามเจ้าของ iPhone 4 ว่าเจออะไรกันบ้าง แล้วสรุปมาเป็นแผนภาพดูเข้าใจง่าย
ปัญหาที่เจอกันเยอะๆ มี 3 เรื่อง
ใครตั้งใจจะซื้อล็อตแรก อาจต้องหาข้อมูลกันเพิ่มเติมหน่อยเพื่อความชัวร์ครับ
ที่มา - Mashable
CrunchGear ได้รายงานข่าวลือเมื่อสองวันที่แล้วว่าแอปเปิลจะติดตั้ง iOS ลง iMac รุ่นปรับปรุง ซึ่งจะเปิดตัวในอีก 60 วันข้างหน้า โดย iMac รุ่นปรับปรุงนี้จะลงทั้ง Mac OS X และ iOS หากผู้ใช้ต้องการเปิดใช้งานฟีเจอร์ควบคุมด้วยการสัมผัสหน้าจอ iMac จะสวิตช์ไปยัง iOS ให้
Neowin.net ตั้งข้อสังเกตว่า หากข่าวนี้เป็นจริง คงเป็นเหตุผลว่าทำไมแอปเปิลถึงเปลี่ยนชื่อจาก iPhone OS เป็น iOS
ที่มา: CrunchGear ผ่าน Neowin.net
ต่อจากข่าวที่แล้วที่มีรายงานว่าการจับขอบอลูมิเนียมของ iPhone 4 ทำให้สายหลุดและคลื่นตกลงมาอยู่ที่ระดับต่ำจนบางรายอาจถึงขั้น No Service เลย ล่าสุดทาง Engadget ได้ออกมารายงานว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ iPhone 4 นั้นถือไอโฟนด้วยมือซ้าย
เนื่องจากคนที่ถือไอโฟนด้วยมือซ้ายนั้นจะต้องสัมผัสตำแหน่งซ้ายล่างของเครื่องโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ และตำแหน่งนี้ล่ะคือจุดเจ้าปัญหาที่ทำให้คลื่นลดลง
หากใครจำได้ จาก Keynote ของสตีฟในงาน WWDC ที่ผ่านมานี้ ตรงบริเวณนั้นของ iPhone 4 จะมีช่วงรอยต่อ ที่ทำให้แถบอลูมิเนียมที่มีหน้าที่เป็นเสาอากาศสองอันไม่สัมผัสกัน การที่เอามือไปแตะบริเวณนั้นเป็นการเชื่อมเสาอากาศสองอันนี้ที่ทำหน้าที่ต่างกัน (อันหนึ่งสำหรับ 3G อีกอันสำหรับ Wi-Fi) ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว
ผู้ที่รอ iPhone 4 สีขาวคงต้องรอกันอีกสักหน่อย เพราะแอปเปิลได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการแล้วว่า จะเริ่มขาย iPhone 4 สีขาวได้ในครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคมนี้ ด้วยปัญหาเรื่องการผลิต
แต่แอปเปิลก็ใส่หมายเหตุให้ว่า ปัญหาการผลิตนี้ไม่กระทบ iPhone 4 สีดำ (ซึ่งแอปเปิลระบุว่าขายดีกว่าเยอะ)
ที่มา - PR Newswire, TechCrunch
เมื่อเดือนมีนาคม แอปเปิลฟ้อง HTC ละเมิดสิทธิบัตรโทรศัพท์ 20 รายการ เป็นผลให้ HTC ฟ้องกลับเอาคืน ข้อหาละเมิดสิทธิบัตร 4 รายการ
เมื่อวานนี้ แอปเปิลได้ยื่นฟ้อง HTC ข้อหาละเมิดสิทธิบัตรอีกคดีหนึ่ง โดยประกอบด้วยสิทธิบัตร 4 รายการ เป็นของเดิม 2 และของใหม่อีก 2 ครับ
ข่าวสิทธิบัตรทั้งหมดดูได้จากแท็ก Patent เผื่อมีคนงง เพราะฟ้องกันไปมาเยอะมาก
ที่มา - Boy Genius Report
ดูเหมือนว่าปัญหาต่าง ๆ ของ iPhone 4 จะไม่ใช่แค่เรื่องที่รอยบนกระจกด้านหลังเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่เรื่องสัญญาณกลับมีปัญหาเหมือนกัน
โดยในวันเปิดตัว iPhone 4 นั้นสตีฟ จ็อบส์ได้ออกมาประกาศด้วยความภูมิใจว่า iPhone 4 ใช้ขอบอลูมิเนียมที่อยู่รอบเครื่องเป็นเสาอากาศ และดีไซน์ในลักษณะนี้ไม่เคยถูกทำมาก่อน โดยหลาย ๆ ฝ่ายได้คาดว่าการที่แอปเปิลออกมาทำแบบนี้นั้นก็เพื่อที่จะแก้ปัญหาสายหลุด ที่เกิดขึ้นบ่อยมากบนเครือข่าย AT&T ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้กับไอโฟน
หลังจากที่แอปเปิลได้ปล่อยให้อุปกรณ์ที่รองรับ iOS อัพเดทเป็น iOS 4 ในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยอุปกรณ์ที่แอปเปิลประกาศว่าสามารถอัพเดทได้คือ iPhone 3G, 3GS และ iPod Touch Gen2, Gen3 แต่ไม่ใช่ว่าอุปกรณ์ที่ประกาศจะรองรับคุณสมบัติใหม่ใน iOS 4 ได้หมดทุกประการ ส่วนอุปกรณ์รุ่นแรกของ iPhone และ iPod Touch นั้นถูกทิ้งไปตามระเบียบ ไม่สามารถอัพเดทเพิ่มเติมได้เลย
มีการจัดทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติขึ้นมา เชิญชมได้ภายในข่าว
หลังจากได้รับการยืนยันแล้วว่า กระจกหน้าของ iPhone 4 แตกได้ แต่ประเด็นเรื่อง "การเป็นรอย" นั้นก็ยังคลุมเคลืออยู่ จนกระทั่งตอนนี้ก็ได้รับการยืนยันจากทาง Engadget แล้ว ว่ากระจกด้านหลังของ iPhone 4 สามารถเป็นรอยได้
โดยรอยขนแมวที่เกิดขึ้นนี้ จะมองเห็นได้ยากในสภาวะทั่วไป แต่ถ้านำไปส่องกับแหล่งกำเนิดแสงแล้วก็จะสามารถเห็นได้ชัดเจนเลยครับ
ที่มา: Engadget
ท่าทางจะต้องพึ่ง invisibleSHIELD กันต่อไปแล้วหละสิ ^^"
โดยครั้งนี้ iFixit เจ้าเดิมที่ชำแหละ iPhone 4 ซึ่งถึงมือลูกค้าก่อนวันขายจริงที่ประกาศประมาณ 1-2 วัน ซึ่งได้ข้อมูลคร่าวๆคือ
โดยกล่องรูปแบบใหม่นั้นได้เปลี่ยนจากภาพหน้าจอของผลิตภัณฑ์จากเดิมซึ่งเป็น iOS 3.1 ไปเป็น iOS 4 แล้ว โดยจะพบบนกล่องของ iPhone 3GS 8GB เท่านั้น
ดูภาพเปรียบเทียบได้ภายใน
ที่มา : Engadget
แอปเปิลได้ทำการปล่อย Press Release ออกมาแล้วว่าบริษัทได้ขาย iPad รวมทั้งหมด 3,000,000 (สามล้าน) เครื่องภายในเวลาเพียงแค่ 80 วัน และ ณ เวลานี้มี App ที่ผลิตสำหรับ iPad โดยเฉพาะให้บริการแล้วกว่า 11,000 Apps ด้วยกัน
ที่มา - MacStories
หลังจากเปิดตัวไปได้ราวๆ หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ วันนี้เองแอปเปิลได้เปิดให้ผู้ใช้งานมือถือ iPhone 3G, 3GS รวมทั้งเครื่องเล่นเพลงสุดฮิตอย่าง iPod Touch 2Gen และ 3Gen ได้ทำการอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ นามเก๋ไก๋ว่า iOS4 อย่างเป็นทางการ
การติดตั้งเพียงเข้าไปที่ Apple Store แล้วก็เลือกดาวน์โหลดรุ่นให้ตรงกับเครื่อง ซึ่งจะมีขนาดไฟล์การอัพเดตที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 200-500 MB เลยทีเดียว
ทางเว็บเมืองนอกได้ทดลองแล้วสรุปข้อดี ข้อด้อยต่างๆ ดังนี้
ของเล่นใหม่บน iOS4
ปกติเป็นที่รู้กันว่าเวลาสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้ากับแอปเปิล แอปเปิลมักจะทำการแจ้งเตือนว่าสินค้าได้ถูกส่งออกไปแล้ว แต่จะถูกชะลอให้ถึงมือลูกค้าในเวลาที่แอปเปิลกำหนดเท่านั้น โดยวันที่กำหนดส่วนใหญ่แล้วจะตรงกับวันที่ร้าน Apple Retail Store มีสินค้าพร้อมที่จะจำหน่ายปลีก
แต่คราวนี้สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ iPhone 4 ล่วงหน้ากับแอปเปิลและไม่ได้รับจดหมายยกเลิกการสั่งซื้อนั้นคงจะดีใจกันใหญ่ (ไม่มีอะไรจะดีกว่าการที่ Geek ได้ Gadget มาใช้เร็วกว่าใครเพื่อน) หลังจากที่แอปเปิลเริ่มทำการส่งอีเมลแจ้งเตือนว่า iPhone 4 จะถึงมือในวันที่ 23 มิถุนายน ก่อนวันจริงหนึ่งวัน
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ แต่อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ให้บริการ เมื่อบริการ FaceTime ที่จะมากับ iPhone 4 นั้น ทาง Business Insider ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของแอปเปิลแล้วก็ได้ความว่า การเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์จะสิ้นสุดลงทันที เมื่อเราต้องการใช้ FaceTime ซึ่งเป็นการคุยแบบ Peer-to-Peer
นั่นหมายความว่าเมื่อเราเปลี่ยนวิธีการคุยไปเป็น FaceTime แล้ว เราก็จะไม่สามารถกลับมาสู่การคุยโทรศัพท์ธรรมดาตามปกติได้ด้วยเช่นกัน (จะสังเกตุได้ว่าในหน้าจอการใช้ FaceTime จะไม่มีปุ่มกลับมาสู่โหมดการคุยแบบปกติ) ซึ่งก็จะดีในมุมที่เราจะได้ประหยัดค่าโทรศัพท์ลง แต่หากบริการนี้ไม่มีความเสถียรที่มากพอก็จะเป็นปัญหาได้เหมือนกัน
อาจจะเป็นฝันร้ายสำหรับแฟน ๆ ไอโฟนบางคนในสหรัฐ ที่อยู่ดี ๆ ก็ได้รับอีเมลจากแอปเปิลว่าทางแอปเปิลไม่สามารถที่จะจัดส่ง iPhone 4 ได้ และได้ทำการยกเลิกการสั่งซื้อล่วงหน้าไปแล้ว โดยหากยังต้องการจะซื้อ iPhone 4 อยู่ให้ไปหาซื้อกันเองได้ที่ร้าน Apple Retail Store และร้านขายปลีกของ AT&T
แต่ไม่ใช่เฉพาะคนที่สั่งซื้อ iPhone 4 ล่วงหน้ากับแอปเปิลเท่านั้น แต่คนที่ทำการสั่งซื้อล่วงหน้ากับ AT&T เองก็โดนเหมือนกัน สำหรับตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายทั้งจากแอปเปิลและ AT&T ว่าเกิดอะไรขึ้น
ข่าวนี้ต่อจาก แอปเปิลชนะไมโครซอฟท์ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีอันดับ 1 แล้ว
เรื่องก็คือ ราคาหุ้นของแอปเปิลยังพุ่งสูงต่อไป ด้วยปัจจัยหนุนเรื่อง iPhone 4 ทำให้ราคาหุ้นทุบสถิติ all-time high ของบริษัทไปอยู่ที่ 275 ดอลลาร์ต่อหุ้น อันนี้ไม่มีอะไรมากครับ พรุ่งนี้ถ้าขึ้นอีกสูงกว่านี้ก็เป็นข่าวใหม่ หรือถ้าลงก็เป็นเรื่องปกติ ถามคนเล่นหุ้นได้
ที่เป็นข่าวคือมีคนเอาตัวเลข 275 ไปคูณจำนวนหุ้น แล้วได้ตัวเลขออกมาว่าแอปเปิลมีราคาตามมูลค่าหุ้นทั้งหมดอยู่ที่ 250,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นรองแค่เพียงบริษัทเดียวเท่านั้นคือ Exxon Mobil บริษัทอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งมีมูลค่าตามตลาด 297,300 ล้านดอลลาร์ (ส่วนไมโครซอฟท์ตอนนี้ 230,400 ล้านดอลลาร์)
หลังจากที่มีข่าวลือว่า Apple A4 ใน iPhone4, iPad นั้นคือชิพตัวเดียวกับ Samsung Hummingbird ใน Samsung Galaxy S, Samsung Wave ล่าสุด EETimes.com ได้ขุดคุ้ยข้อมูลมาจนได้ความว่าทั้งเจ้า Apple A4 และ Samsung Hummingbird (Samsung S5PC110A01) นั้นต่างพัฒนามาจาก ARM Cortex A8 ซึ่งชิพทั้ง 2ตัวนั้นน่าจะได้รับการออกแบบมาจากบริษัท Intrinsity มาเหมือนกัน แต่ต่างกันด้านการออกแบบต่างๆ ในข่าวเก่ามีเรื่องที่น่าสนใจคือข่าว ''ยืนยันแล้ว แอปเปิลเข้าซื้อ Intrinsity จริง''