Fortune เปิดเผยข้อมูลจากบริษัท Student Monitor ที่ได้ทำการสำรวจว่าคอมพิวเตอร์พกพายี่ห้อไหนที่นักเรียนมหาวิทยาลัยในสหรัฐชื่นชอบที่สุด โดยในสำรวจนี้แอปเปิลได้อันดับที่ 1 ที่ 27% โดยมี Dell และ HP ตามมาติด ๆ (24% และ 15% ตามลำดับ) โดยข้อมูลการสำรวจนี้มาจากกลุ่มนักเรียนตัวอย่างจำนวน 1,200 คน

ในการสำรวจนี้มีข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าสนใจดังนี้:

สงครามพีซี vs แมคกลับมาระอุอีกครั้ง แม้ว่าแอปเปิลซึ่งเป็นต้นคิดแคมเปญ Get a Mac เลิกใช้โฆษณาชุดนี้ไปแล้ว แต่รอบนี้ฝ่ายไมโครซอฟท์เป็นคนเริ่มบ้าง

เรื่องมีอยู่ว่าไมโครซอฟท์ได้เพิ่มหน้า PC versus Mac ลงในเว็บหลักของ Windows 7 โดยระบุเหตุผล 6 หมวดหมู่ที่พีซีเหนือกว่าแมค

หกหมวดหมู่เหตุผลของไมโครซอฟท์ ที่บอกว่า "พีซีดีกว่าแมค"

• Having Fun

ผู้อ่าน Blognone ที่ติดตามมานานหน่อย คงคุ้นกับชื่อ Mark Papermaster

ชื่อของเขาดังขึ้นมาในปี 2008 เพราะหลังจากคุมแผนกฮาร์ดแวร์ใน IBM มานานเป็นสิบปี เขาตัดสินใจย้ายข้ามห้วยมาคุมแผนก iPod/iPhone ของแอปเปิล ทำให้ IBM ฟ้องศาลเพราะกลัวความลับรั่วไหล สุดท้ายตกลงกันได้ โดย Papermaster ได้ทำงานกับแอปเปิลสมความตั้งใจ แต่ต้องทำความตกลงกับศาลว่าจะไม่เปิดเผยความลับทางการค้าของ IBM

รอยเตอร์รายงานข่าวว่าแอปเปิลกำลังคุยกับบริษัท Handseeing จากประเทศจีน เพื่อขอซื้อกิจการ

Handseeing เป็นบริษัทที่ไม่ค่อยดังนัก ตั้งอยู่ที่มณฑลเสฉวน และออกแบบเกมออนไลน์ของจีน โดยอิงจากตำนานหรือนิทานท้องถิ่น ทาง Handseeing บอกว่าจะสรุปเรื่องขาย-ไม่ขาย ได้ภายใน 2 เดือน ส่วนแอปเปิลยังไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

ถ้าแอปเปิลซื้อจริง นี่คงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การบุกจีนของแอปเปิลต่อไป

ที่มา - Reuters

เว็บไซต์ MacRumors ได้ภาพชิ้นส่วนของ iPod touch รุ่นที่ 4 ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ จุดสำคัญที่ทุกคนสงสัยคือมันมีกล้องหน้าหรือไม่ คำตอบดูได้จากกรอบหน้าของตัวเครื่องมีช่องสำหรับกล้องหน้า แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

สำหรับคำถามว่า FaceTime บน iPod touch จะใช้งานอย่างไรหากไม่มีเบอร์โทรศัพท์ คำตอบคือลงทะเบียน Apple ID ผ่านอีเมลแทน โดยมันจะอยู่ใน iOS 4.1

ที่มา - MacRumors

Richard Blumenthal อัยการสูงสุดประจำรัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องปราบคดีผูกขาด ได้เริ่มสอบสวนบริษัทที่ขายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สองราย คือ Amazon (Kindle) และแอปเปิล (iBookstore) ว่าเข้าข่ายผูกขาดตลาดหรือไม่

ประเด็นที่อัยการสนใจคือสัญญาระหว่างสำนักพิมพ์กับบริษัทไอทีทั้งสอง เข้าข่ายกรณี Most favoured nation หรือได้ราคาพิเศษต่ำกว่าตลาดหรือไม่ เพราะถ้าเป็นแบบนี้จะส่งผลให้คู่แข่งรายอื่น (เช่น Barnes & Noble) เข้ามาเจาะตลาดได้ยากเพราะทำราคาสู้ไม่ได้

เรื่องนี้คงสู้กันอีกยาวครับ อุตสาหกรรม e-book เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

แม้ว่า iPhone 4 จะมีรายงานปัญหาเรื่องเสารับสัญญาณมากมาย แต่ผลสำรวจในเดือนมิถุนายน 2553 พบว่าอัตราการสายหลุดของ iPhone 4 อยู่ที่ 5.2% น้อยกว่า iPhone 3GS ซึ่งอยู่ที่ 6.3% ซึ่งขัดแย้งกับการแถลงในงานที่แอปเปิลจัดว่าอัตราการสายหลุดของ iPhone 4 มากกว่า iPhone 3GS น้อยกว่า 1 ใน 100 ครั้ง

นอกจากนี้ยังมีรายงานผลสำรวจอัตราการสายหลุดของ Verizon และ AT&T ตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 พบว่า Verizon มีการปรับปรุงดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ AT&T มีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ เดือนมิถุนายน 2553 อัตราการสายหลุดของ Verizon อยู่ที่ 2% ส่วน AT&T อยู่ที่ 5.8%

โฆษกของแอปเปิลได้กล่าวว่า แอปเปิลรับทราบช่องโหว่ร้ายแรงในเบราว์เซอร์บน iPhone และตอนนี้เราได้พัฒนาแพตช์มาอุดช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว และจะแจกจ่ายให้ลูกค้าในการอัพเดทครั้งถัดไป

ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ อันหนึ่งเป็นช่องโหว่ที่ให้สามารถ jailbreak ได้ (ดูข่าว JailbreakMe เจาะ iPhone ได้อย่างไร) อีกอันเป็นช่องโหว่ที่ให้สามารถทะลวงผ่าน sandbox และเข้าถึง root หรือควบคุมเครื่องได้

ที่มา: C|Net

ข่าวลือล้วนๆ จากเว็บไซต์ iLounge ครับ

• iPod ใหม่จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้หรือไม่ก็เดือนกันยา โดยจะแบ่งเป็น iPod nano ตัวใหม่, iPod touch ตัวใหม่, และ iPod หน้าจอสัมผัสขนาด 1.7" ที่ออกมาแทน iPod shuffle
• iPad ขนาด 7" เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเปิดตัวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
• ปัญหาเสาอากาศของ iPhone 4 ทำให้แอปเปิลต้องเข็น iPhone 5 ออกมาก่อนกำหนด น่าจะเป็นช่วงต้นปี 2011
• แอปเปิลจะแจก Bumper Case รุ่นใหม่ที่มีต้นทุนถูกลง หลังจากหมดระยะการแจกช่วงแรกในเดือนกันยายนนี้

ที่มา - iLounge

ผลสำรวจความคิดเห็นของเจ้าของ iPhone 4 จำนวน 213 คน พบว่าคนที่ตอบ "พอใจมาก" (very satisfied) มีจำนวน 72% แต่ตัวเลขนี้น้อยกว่าผลสำรวจแบบเดียวกันในปีที่แล้วกับ iPhone 3GS ซึ่งมีคนตอบว่า "พอใจมาก" 82%

ฟีเจอร์ที่ชอบ 5 อันดับแรก ได้แก่ ความละเอียดหน้าจอ 49%, กล้อง 5MP พร้อมแฟลช, อินเทอร์เฟซแบบสัมผัส, ใช้งานง่าย และมัลติทาสกิง

สิ่งที่ไม่ชอบ 5 อันดับแรก ได้แก่ บังคับให้ใช้ AT&T 27%, ปัญหาสัญญาณของ AT&T, ปัญหาเสาอากาศ, ปัญหาสายหลุด และแบตเตอรี่อยู่ไม่ทน

สำหรับปัญหาเสาอากาศอันโด่งดัง ประมาณ 2/3 ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าไม่พบปัญหา ส่วนคนที่มีปัญหารวมกันประมาณ 21%

เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ว่ามันต้องเกิดขึ้นเช่นกัน (แม้ว่าอาจจะไม่มีผลต่อคนไทยที่ซื้อเครื่องแบบไม่ล็อคกันมากนัก) ล่าสุดทาง iPhone Dev Team ประกาศความสำเร็จในการปลดล็อค iPhone 4 ผ่านโปรแกรม ultrasn0w เวอร์ชัน 1.0-1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้ที่ต้องการปลดล็อคให้ใช้ iPhone 4 ข้ามเครือข่ายจำเป็นต้องโหลด ultrasn0w จาก Cydia หรือเพิ่ม repo666.ultrasn0w.com ลงใน repository โดยตรง แน่นอนว่าต้อง jailbreak เสียก่อนนะครับ

ที่มา - iPhone Dev Team, Engadget

หลังจากที่มีข่าวลือหนาหูว่อนในวงการมือถือว่า เบอร์ 1 ของไทยอย่าง AIS จะร่วมลงสนามขาย iPhone ร่วมกับอีก 2 ค่ายอย่าง Dtac และ Truemove ซึ่งตอนนี้ก็มีข่าวยืนยันออกมาแล้วครับว่า AIS ได้บรรลุข้อตกลงเรื่อง iPhone 4 กับ Apple เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเปิดขายภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยไม่ได้หวังจะเอามาใช้กับคลื่น 3G 900MHz ที่ตัวเองมีอยู่เดิม (iPhone 4 รองรับคลื่นนี้) แต่หวังว่าจะใช้ได้อย่างดีที่สุดบน ระบบ 3.9G บนคลื่นความถี่ 2100MHz หรือ LTE ที่ กทช. จะเปิดให้ประมูลกันในปลายเดือนนี้

จากข่าว การทดสอบ iPhone 4 นอกสหรัฐ พบปัญหาสัญญาณหดเช่นกัน มีผู้อ่านบางท่านระบุมาว่า "ออสเตรเลียไม่มีปัญหานี้" ผมเกิดความสงสัยว่าตกลงมันเป็นปัญหาจำเพาะของแต่ละประเทศหรือไม่ เลยลองหาข้อมูลเพิ่มเติม

แหล่งข้อมูลที่เป็นเรื่องเป็นราวหน่อยมาจาก CNET Australia ครับ รีวิวเพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ แต่น่าเสียดายแทนแฟนๆ แอปเปิลด้วยว่าปัญหาสัญญาณก็เกิดในออสเตรเลียเช่นกัน และทาง CNET ได้สรุปว่าสำหรับคนที่ใช้ iPhone 3G เดิม ควรเปลี่ยนมาใช้ iPhone 3GS จะดีกว่า iPhone 4

มหากาพย์ตอนเก่า สมาคมผู้บริโภคสหรัฐยืนยันปัญหาสัญญาณ iPhone 4 และไม่แนะนำให้ซื้อ, แอปเปิลลบกระทู้ที่อ้างถึง Consumer Reports ออกจากกระดานสนทนา และหลังแอปเปิลแถลงข่าวแจก bumper case ฟรี Consumer Reports ก็ยังคง "ไม่แนะนำ" ให้ซื้อ iPhone 4 อยู่ดี

ปฏิกริยาที่ผมเห็นจากบรรดาสาวก (ซึ่งมีอยู่ไม่กี่คน ถ้าจะนับจริงๆ) ก็คือ "ลองแล้วไม่เห็นเป็นเลย" หรือ "เป็นเฉพาะ AT&T หรือเปล่า" ตอนนี้มีผลการทดสอบนอกสหรัฐออกมาแล้วครับ

มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งได้เข้าไปสอบถามในฟอรัมของแอปเปิล เกี่ยวกับปัญหาแอพพลิเคชันปฏิทิน ที่ว่ารายการปฏิทินที่กำลังจะเกิดขึ้น (upcoming event) ยุ่งเหยิงและมีการแสดงผลที่ใช้การไม่ได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นใน iOS 4 รวมถึง iOS 4.0.1 ล่าสุดอีกด้วย

ทางแอปเปิลยังไม่ได้คอมเมนต์เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว แต่มีผู้ใช้ส่วนหนึ่งค้นพบหลายวิธีที่จะแก้ไขบั๊กดังกล่าวแล้ว

ที่มา: Neowin.net

หลังจากแอปเปิลโพสต์หน้าเว็บแสดงการทดสอบสัญญาณตกกับมือถือยอดนิยม ทำให้เพื่อนร่วมวงการอย่าง RIM, โนเกีย, HTC, ซัมซุง และคนอื่นๆ ออกมาตอบโต้และเหน็บแนม (1, 2, 3) อย่างดุเดือด ล่าสุดอยู่ดีๆ หน้าเว็บดังกล่าวก็ถูกปลดออกไปเฉยๆ เหลือแต่หน้าเว็บโชว์ห้องทดสอบเสาสัญญาณ เท่านั้น

ข่าวนี้เป็นภาคต่อของ มาแน่ Sex Chat ผ่าน FaceTime ของ iPhone 4 ครับ

ข่าวเก่าบอกว่าเริ่มมีโฆษณาใน Craiglist ประกาศหา "สาวสวย" มาทำงานคุยผ่าน FaceTime ของ iPhone 4 ข่าวนี้บอกว่าโฆษณาลักษณะนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก และบริษัท Pink Visual ผู้ผลิตสื่อสำหรับผู้ใหญ่ให้ข้อมูลว่าจะเปิดบริการในเร็วๆ นี้ โดยเปิดบริการให้คุยกับนางแบบในวิดีโอ คิดค่าใช้จ่าย 5-6 ดอลลาร์ต่อนาที

แม้ว่าผู้ใช้ iPhone 3GS อาจจะมีความสุขกับการใช้งาน iOS 4 แต่สำหรับผู้ใช้ iPhone 3G ที่ได้ทำการอัพเกรดมาใช้ iOS 4 หลาย ๆ คนกลับพบกับปัญหามากกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางด้านประสิทธิภาพและความเร็วในการใช้งานไอโฟน

โดยปัญหาที่พบเมื่อทำการติดตั้ง iOS 4 บน iPhone 3G ส่วนใหญ่ที่พบได้แก่ความเร็วของเครื่อง ที่กว่าจะโหลดหน้าต่างต่าง ๆ ขึ้นมาจนเสร็จใช้เวลามากกว่าเดิมมาก และปัญหาแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างรวดเร็วระหว่างการใช้งาน

Scott Moritz จาก TheStreet ได้ออกมากล่าวถึงความเป็นไปได้ว่าสาเหตุที่แอปเปิลต้องเลื่อนการเปิดตัว iPhone 4 สีขาวใหม่ว่าเกิดจากการที่แสงของจอภาพสามารถมองเห็นทะลุตัวเครื่องได้ (หรือที่เราชอบเรียกกันว่า "แสงรั่ว") แม้กระทั่งจากด้านหลังของตัวเครื่อง!

และการที่เปลี่ยนวัสดุภายนอกของตัวเครื่องมาเป็นแก้ว ทำให้การลดปัญหา "แสงรั่ว" เป็นไปได้ยากกว่าการใช้โครงสร้างที่เป็นเหล็กหรือพลาสติก

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับ iPhone 4 เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ HTC EVO ก็มีปัญหา "แสงรั่ว" ลักษณะนี้เช่นกัน แต่ปัญหานั้นเกิดจากการช่องว่างระหว่างส่วนประกอบภายนอกของเคร่ื่อง

หลังจากแอปเปิลเปิดตัว Safari 5 ในงาน WWDC 2010 ไปไม่นาน ตอนนี้ได้ออกรุ่นอัพเดตย่อย 5.0.1 แล้ว

การเปลี่ยนแปลงสำคัญมี 2 ประการ

• แก้ช่องโหว่ความปลอดภัยจากฟีเจอร์ AutoFill ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้
• เปิดบริการ Safari Extensions Gallery เสียที หลังจากปล่อยให้คู่แข่งนำหน้าเรื่องนี้มานาน ตอนนี้ยังมี extension ไม่เยอะมากนัก แต่ก็มีตัวที่น่าสนใจอย่าง (Official) Twitter for Safari และ Bing Highlight!

ที่มา - TechCrunch

เนื่องในโอกาสขาย Magic Trackpad ซึ่งต้องใช้ถ่าน AA (รวมถึงคีย์บอร์ดไร้สายที่มีขายอยู่ก่อนแล้ว) แอปเปิลจึงตัดสินใจทำที่ชาร์จถ่านเป็นของตัวเองในชื่อ Apple Battery Charger โดยมีราคา 29 ดอลลาร์ แถมมาพร้อมกับถ่านชาร์จ 6 ก้อนในชุด

หน้าตาของที่ชาร์จเหมือนกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟของ MacBook ชาร์จถ่านได้ทีละสองก้อน ถ่านที่แถมมาด้วยไม่มีโลโก้แอปเปิล มีเพียงตัวอักษรเขียนว่า Rechargeable เท่านั้น แอปเปิลโฆษณาว่าที่ชาร์จอันนี้ฉลาดกว่าที่ชาร์จอื่นๆ ในท้องตลาด โดยมันจะตรวจสอบว่าชาร์จเต็มหรือยัง จากนั้นจะลดการบริโภคพลังงานลงเหลือเพียง 30 มิลลิวัตต์ น้อยกว่าคู่แข่งอื่นสิบเท่า

หลังจากมีข่าวลือว่า แอปเปิลเตรียมโชว์ Magic Trackpad ที่งาน WWDC แต่กลับไม่จริง เพราะในงานมีแต่เรื่อง iPhone 4 มารอบนี้ Magic Trackpad ได้ฤกษ์เปิดตัวสู่สาธารณชนเสียที

หลักการทำงานของมันไม่ต่างอะไรกับทัชแพดของ MacBook Pro (คลิกลงไปได้ทั้งแผ่นเหมือนกัน) แต่ใหญ่ขึ้น 80% วางเอียงแบบเดียวกับคีย์บอร์ดของแอปเปิล ทำงานผ่าน Bluetooth และใช้ถ่าน AA สองก้อน

สนนราคา 69 ดอลลาร์ ขายเป็นอุปกรณ์แยก ไม่รวมในชุดมากับเครื่องแมคใดๆ

ที่มา - Engadget

หลังจากไปทุ่มกำลังให้ iOS จนลืมฝั่งแมคไปนาน แอปเปิลได้ออกรุ่นอัพเดตของเครื่องแมคแบบตั้งโต๊ะแล้ว

ถึงแม้ว่าจากกฎหมายลิขสิทธิ์ที่เพิ่งผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสของสหรัฐเมื่อวาน (ข่าวเก่าโดยคุณ pokemaniac) จะได้ตีความออกมาว่าการ Jailbreak เครื่องโทรศัพท์นั้นไม่ผิดกฎหมาย แต่ทางแอปเปิลก็ได้ตอบโต้ด้วยการเปิดเผยว่ายังไม่สนับสนุนการทำ Jailbreak อยู่ครับ

โดยเว็บไซต์ Cult of Mac ได้ทำการติดต่อไปยังแอปเปิลหลังจากที่กฎหมายดังกล่าวได้ออกมา และทางตัวแทนของแอปเปิลได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการ Jailbreak ว่าเป้าหมายหลักของบริษัทนั้นคือการทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้ที่ดีต่อตัวเครื่อง iPhone และการ Jailbreak นั้นทำให้ประสบการณ์การใช้งาน iPhone นั้นแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด และผิดกฎการรับประกัน นอกจากนี้ยังทำให้ตัวเครื่องไม่เสถียรอีกด้วย

ข่าวนี้อ่านมาจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ในส่วนกรุงเทพไอทีครับ เห็นว่ายังไม่มีใครลงก็เลยเอามาลง

Apple เดินเกมรุกตลาดธุรกิจเน้นกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก โดยแต่งตั้งให้มีวิศวกรประจำร้านแอปเปิลในสหรัฐอเมริกา เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้วางระบบคอมพิวเตอร์ให้ลูกค้า โดยค่าตอบแทนสำหรับตำแหน่งนี้สูงถึง 80,000 ดอลลาร์ต่อปี

ส่วนรายละเอียดการวิเคราะห์ทางธุรกิจ หาอ่านได้จากที่มาครับ

ที่มา - Wall Street Journal ผ่านทาง หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ