Adobe เปิดตัวแอพใหม่ Comp CC บน iPad
Comp CC ถูกสร้างขึ้นเป็นแอพให้ดีไซเนอร์ (ไม่ว่าจะทำแอพ เว็บ หรืองานออกแบบกระดาษ) วาด "ต้นแบบ" ของงานดีไซน์ได้เร็วขึ้น จากนั้นสามารถส่งงานต้นแบบเหล่านี้เข้าไปแก้ไขใน Photoshop, InDesign, Illustrator ต่อได้เลย
จุดเด่นของ Comp CC คือระบบ gesture ที่ช่วยให้เราวาดวัตถุต่างๆ ได้รวดเร็วมาก เช่น ลากขีดสองขีดแทนการวางข้อความตัวอย่าง lorem ipsum (ดูวิดีโอประกอบ)
โปรแกรมแต่งภาพ Photoshop เพิ่งมีอายุครบ 25 ปี ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ทางเว็บไซต์ VentureBeat ก็มีบทสัมภาษณ์ Stephen Nielson ผู้บริหารของ Adobe ว่าอนาคตของ Photoshop จะเป็นอย่างไรต่อไปครับ
ผ่านไปค่อนปีหลัง Adobe เปิดตัว Lightroom mobile สำหรับ iOS ในที่สุดก็ได้เพิ่มรุ่นสำหรับระบบปฏิบัติการ Android แล้ว
เช่นเดียวกับรุ่นสำหรับ iOS การใช้งาน Lightroom mobile บน Android ได้นั้น ผู้ใช้จะต้องมี Lightroom 5 บนเครื่องเดสก์ท็อปเสียก่อน ซึ่งมีค่าบริการใช้งานซอฟต์แวร์ต่ำสุดเดือนละ 9.99 ดอลลาร์ โดยผู้ใช้จะสามารถดูหรือแก้ไขรูปภาพบนอุปกรณ์ Android และซิงก์ไฟล์ภาพนั้นผ่านทางกลุ่มเมฆไปไว้ที่หน้าจัดเก็บไฟล์บนเดสก์ท็อปได้
สำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้ง Lightroom mobile สำหรับ Android สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จาก Google Play
Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2014 (กันยายน-พฤศจิกายน) มีรายได้รวม 1,073.3 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 73.3 ล้านดอลลาร์ โดยในไตรมาสที่ผ่านมามีผู้สมัครใช้ Creative Cloud เพิ่มอีกกว่า 6 แสนคน รวมมีสมาชิก 3.45 ล้านคนแล้ว
โครงสร้างรายได้ Adobe ในปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนไปมาก ปีก่อนบริษัทมีรายได้จากลูกค้าประเภทสมัครสมาชิก 44% แต่ไตรมาสล่าสุดเพิ่มมาเป็น 66% แล้ว
นอกจากนี้ Adobe ยังประกาศแผนเข้าซื้อกิจการ Fotolia เว็บขายภาพถ่ายที่มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ด้วย
ที่มา: Adobe
Moleskine จับมือกับ Adobe ออกสมุดโน้ตรุ่นพิเศษ Moleskine Smart Notebook, Creative Cloud connected ที่สามารถใช้แอพถ่ายภาพจากสมุดแล้วแปลงไฟล์เป็น SVG เก็บลงพื้นที่กลุ่มเมฆ Creative Cloud ได้ทันที
สมุดโน้ตรุ่นนี้เหมาะสำหรับนักวาดภาพหรือนักออกแบบที่นิยมการวาดภาพลงกระดาษจริง แต่ก็ต้องการนำภาพไปแต่งต่อผ่านโปรแกรมต่างๆ ซึ่งการเก็บลง Creative Cloud ช่วยให้นำไปใช้งานต่อในแอพของ Adobe เอง รวมถึงแอพอื่นๆ ที่เชื่อมกับ Creative Cloud SDK ได้ง่าย
Adobe Creative Cloud ชุดรวมเครื่องมือสำหรับงานกราฟิกและงานวิดีโอระดับมืออาชีพ ตอนนี้ลดราคาสำหรับการใช้งานแบบ Complete - For New Customers (ใช้งานทุกโปรแกรมเฉพาะลูกค้าใหม่) เหลือเพียงเดือนละ 1,200 บาท จากปกติเดือนละ 1,500 บาท และแบบ Student and Teachers ก็ลดราคาลงเหลือเดือนละ 480 บาท ซึ่งต้องซื้อสิทธิ์การใช้งานภายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 เท่านั้น
ที่มา - Adobe
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ ไปขึ้นเวทีงาน Adobe MAX 2014 ในประเด็นแอพตระกูล Creative Cloud รองรับจอสัมผัสและปรับแต่งเพื่อ Surface Pro 3
Satya สร้างเซอร์ไพร์สในงานโดยประกาศแจก Surface Pro 3 พร้อม Office 365 หนึ่งปี ให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังร่วมกับ Adobe สาธิตการใช้งานโต๊ะจอสัมผัส Perceptive Pixel ที่พยายามทดลอง UI แนวใหม่ๆ สำหรับงานสร้างสรรค์ของฝั่ง Adobe ด้วย หน้าตาเป็นอย่างไรนั้นดูได้จากคลิปท้ายข่าว
ที่มา - WP Central
Adobe ประกาศอัพเดตแอพในชุด Creative Cloud บนเดสก์ท็อปเป็นครั้งที่สองในรอบปีนี้ (รอบแรกเมื่อเดือน มิ.ย.) โดยใช้ชื่อการอัพเดตรอบนี้ว่า October 2014 Release (หรือบ้างก็เรียก 2014.2)
ของใหม่เท่าที่มีประกาศ
ช่วงนี้มีงาน Adobe MAX 2014 โดย Adobe เปิดตัวแอพมือถือใหม่ชุดใหญ่ (เคยโชว์พรีวิวไปเมื่อเดือน มิ.ย.) โดยมากับชื่อใหม่ที่เชื่อมโยงกับแอพเดสก์ท็อปทั้ง Illustrator, Photoshop, Premiere ดังนี้
Adobe ได้นำ Creative Cloud มาสู่ Chrome OS แล้ว โดยเริ่มจาก Photoshop ภายใต้โครงการ Project Photoshop Streaming โดยผู้ใช้ที่มีไลเซนส์เพื่อการศึกษาในทวีปอเมริกาเหนือจะได้สิทธิสมัครเข้าร่วมทดลองก่อนในระยะ beta
Project Streaming Photoshop นั้นก็เหมือนกับแอพลิเคชันอื่นๆ บน Chrome OS นั่นคือมันรันจากคลาวด์ และจะเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดเสมอ ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถเปิดและเซฟไฟล์ลงไปใน Google Drive ได้โดยตรงโดยไม่ต้องดาวน์โหลดและอัพโหลดไฟล์ด้วยตัวเอง
Project Streaming Photoshop นั้นจะประกอบไปด้วย
หลายคนอาจรู้จัก Aviary แอพแต่งภาพออนไลน์ ในฐานะเอนจินแต่งภาพของ Flickr หรือ แอพแต่งภาพบน iOS/Android แต่เอาจริงๆ แล้ว ธุรกิจหลักของ Aviary คือการทำตัวเป็น SDK สำหรับแต่งภาพให้แอพอื่นๆ เรียกใช้งานได้อีกต่อหนึ่ง
จุดเด่นของ Aviary ไปเข้าตา Adobe ที่กำลังผลักดัน Creative SDK ชุดพัฒนาสำหรับแอพด้านครีเอทีฟให้เรียกใช้งาน (รองรับการอ่านไฟล์ PSD, ฮาร์ดแวร์ของ Adobe และเว็บไซต์สำหรับเผยแพร่ผลงาน Behance) ทำให้ Adobe ตัดสินใจซื้อ Aviary โดยไม่เปิดเผยมูลค่า
Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2014 (มิถุนายน-สิงหาคม) มีรายได้รวม 1,005.5 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.03% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 44.7 ล้านดอลลาร์ ลดลง 46%
จำนวนผู้ใช้งาน Creative Cloud ณ ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 2.81 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ประมาณ 5 แสนคน ซึ่งสะท้อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องในแต่ละไตรมาสของรูปแบบการสมัครใช้บริการแบบรายเดือน
ที่มา: Adobe
ให้หลังหนึ่งปีจากการก้าวผ่านรูปแบบการขายซอฟต์แวร์กล่องไปเป็นการให้บริการผ่านระบบกลุ่มเมฆของ Adobe ในที่สุดแผนนี้เริ่มเห็นผลในการแก้ไขปัญหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ที่ลดลงแล้ว แม้จะระบุตัวเลขชัดๆ ยังไม่ได้ก็ตาม
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Lightroom ทุกคน เมื่อ Adobe ปรับนโยบายการใช้งานใหม่ อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานบางคุณสมบัติได้หลังจากที่ subscription หมดอายุไปแล้ว จากเดิมที่ไม่สามารถเปิดโปรแกรมมาใช้งานได้เลย
พร้อมกับการมาของแอพใหม่สำหรับอุปกรณ์พกพาบน Creative Cloud รอบปี 2014 คราวนี้ Adobe นำฮาร์ดแวร์แรกของบริษัททั้งคู่มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากเคยนำมาอวดในชื่อ Project Mighty และ Napoleon
พร้อมกับการอัพเดตครั้งใหญ่ของ Adobe Creative Cloud 2014 ทางฝั่งแอพบนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ iOS ก็มีทั้งแอพใหม่ และแอพอัพเดตเพิ่มขึ้นอีกหลายตัว รวมถึงขยายการใช้งาน Creative Cloud ไปยังผู้ใช้ iPad และ iPhone อย่างเป็นทางการอีกด้วย
เริ่มต้นกันที่แอพใหม่ตัวแรก Adobe Sketch แอพวาดภาพที่ออกแบบสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์พกพา ทั้งรูปแบบในการใช้งาน และส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานแบบสัมผัสโดยเฉพาะ สามารถเลือกใช้เครื่องมือวาดได้ทั้งดินสอแกรไฟต์ ปากกาหมึก และปากกามาร์กเกอร์อีกสองชนิด รวมถึงยางลบด้วย
พระเอกของ Adobe Creative Cloud 2014 ย่อมหนีไม่พ้น Photoshop CC 2014 (ซึ่งถือเป็นเวอร์ชันที่ 4 ของ Photoshop CC นับตั้งแต่เข้ายุค CC) ของใหม่มีเยอะมาก ที่เด่นๆ มีดังนี้
Adobe อัพเกรดโปรแกรมสาย Creative Cloud ครั้งใหญ่ (บริษัทเรียกว่า 2014 Releases) โดยโปรแกรมในชุดทั้ง 14 ตัวได้รับการอัพเกรดฟีเจอร์ทั้งหมด (รายละเอียดของแต่ละตัวอ่านได้จากลิงก์ที่มานะครับ ส่วนตัวสำคัญๆ เดี๋ยวเขียนเป็นข่าวแยกอีกที)
นอกจากโปรแกรมหลักในสาย Creative Cloud แล้ว Adobe ยังมีของใหม่อื่นๆ ดังนี้
บริการ Adobe Creative Cloud ล่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ผู้ใช้ที่ต้องการเข้าถึงบริการออนไลน์ไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลาหนึ่งวันจนกระทั่งเพิ่งซ่อมเสร็จเมื่อเช้านี้
สำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นไปแล้วยังใช้งานต่อไปได้ แต่บริการหลายส่วนที่ต้องออนไลน์จะไม่สามารถทำงานได้ โดยเฉพาะผู้ที่ sign out ออกจากระบบไประหว่างที่ระบบล่มจะไม่สามารถกลับมาใช้งานต่อ
บริการซอฟต์แวร์แบบผูกกับบริการกลุ่มเมฆและใช้โมเดลเช่าใช้งานเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ฝั่ง Adobe และไมโครซอฟท์ เหตุการณ์ระบบล่มเช่นนี้ก็เป็นความเสี่ยงเช่นเดียวกับบริการกลุ่มเมฆอื่นๆ เมื่อผู้ให้บริการล่มขึ้นมาแต่ละครั้งก็ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
Adobe เปิดตัวแอพพลิเคชั่น Lightroom mobile บน iOS สำหรับลูกค้าที่สมัครบริการของ Adobe ในชุด Photoshop Photography Program ขึ้นไป โดยทั่วไปคนที่สมัครใช้บริการรายเดือนน่าจะได้ใช้งานกันทุกคน
Lightroom mobile จะเชื่อมต่อกับ Lightroom 5 และสามารถปรับแต่งไฟล์ RAW ได้
แนวทางของ Adobe ที่ต้องการให้ลูกค้าย้ายไปใช้งานบริการบนคลาวด์และสมัครใช้งานรายเดือนหรือรายปีชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่ควรจะขายแยกได้ก็เริ่มขายร่วมกับชุดบริการอื่นๆ ลูกค้าของ Adobe ก็คงต้องปรับตัวเตรียมไปใช้บริการแบบใหม่กันในที่สุด
Adobe เผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2014 (ธ.ค.-ก.พ.)
Adobe ประกาศลดราคาชุดผลิตภัณฑ์ Adobe Creative Cloud ชุด Photography ซึ่งประกอบไปด้วย Photoshop CC และ Lightroom 5 ลงเหลือ 300 บาทต่อเดือน จากปกติ 600 บาทต่อเดือนต่อโปรแกรม โดยมีรายละเอียดคือ จะต้องสมัครในระยะเวลาขั้นต่ำ 1 ปี (หักค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน) ส่วนโปรแกรมนั้น สามารถอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ต่อไปได้เรื่อยๆ เช่น หาก Lightroom 6 ออกมาแล้วก็สามารถอัพเดตได้ทันที
คุณ Mike Chambers ซึ่งเป็นพนักงานของ Adobe ในตำแหน่ง Senior Product Manager ได้ออกมายืนยันผ่านทาง ฟอรั่มของ Adobe ว่า หลังจากครบ 1 ปีแล้ว ราคาของโปรโมชั่นนี้จะยังคงเท่าเดิมต่อไป
ต้องออกตัวไว้ก่อนว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี ผมทุบกระปุกนำเงินก้อนหนึ่งไปซื้อชุดโปรแกรมกราฟิกตระกูล Adobe ในรุ่น CS6 Design Standard ซึ่งเป็นการซื้อตอนเขาจัดแคมเปญลดราคาในไทยเหลือประมาณ 30,000 บาทพอดี ก็เลยได้ใช้โปรแกรมลิขสิทธิ์ทั้งเครื่อง 100% เป็นครั้งแรก ดังนั้นรีวิวนี้จะเน้นการอธิบายความแตกต่างระหว่างธรรมเนียมดั้งเดิมของซอฟต์แวร์แบบกล่อง กับวัฒนธรรมการจ่ายเงินเช่าเพื่อใช้งาน ซึ่ง Adobe เดิมพันหมดหน้าตักไปกับวิธีนี้ครับ คงไม่ช้าไปหน่อยเนอะ
Brad Arkin ประธานฝ่ายความปลอดภัยได้เขียนบล็อกแจ้งเตือนลูกค้าเรื่องความปลอดภัย โดยกล่าวว่าเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทถูกบุกรุก และผู้บุกรุกได้เข้าถึงข้อมูลบางส่วนของบริษัทและข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าด้วย
สิ่งที่ Adobe คาดว่าผู้บุกรุกได้ไปจากเซิร์ฟเวอร์ ได้แก่ ซอร์สโค้ดโปรแกรมของ Adobe หลายโปรแกรม, Adobe ID ของลูกค้า, รหัสผ่านที่ถูกเข้ารหัสไว้, ชื่อลูกค้า, เลขบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่ถูกเข้ารหัสไว้, วันหมดอายุ และอื่น ๆ แต่ Adobe ไม่เชื่อว่าผู้บุกรุกจะไปยุ่งกับข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่ไม่ได้เข้ารหัสไว้ (สรุปง่าย ๆ คือโจรน่าจะได้ไปเฉพาะข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่เข้ารหัสแล้ว ส่วนที่ไม่ได้เข้ารหัสไม่ได้เอาไป) ซึ่ง Adobe มีแนวทางแก้ไข ดังนี้
Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2013 สิ้นสุดเดือนสิงหาคมตามปฏิทินการเงินบริษัท รายได้ 995.1 ล้านดอลลาร์ ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 164.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังคงเป็นผลจากการที่บริษัทไปเน้นบริการออนไลน์ Creative Cloud แทนการขายซอฟต์แวร์แบบเดิม ส่งผลต่อรายได้และกำไรในระยะสั้น
เมื่อบริษัทปรับกลยุทธ์มาเน้น Creative Cloud ก็ต้องดูตัวเลขจำนวนผู้ใช้งาน ซึ่งสิ้นสุดไตรมาสนี้ก็มีผู้ใช้บริการแล้วมากกว่า 1,031,000 คน เพิ่มขึ้นมามากกว่า 300,000 คนจากไตรมาสที่แล้ว ทั้งนี้เป้าหมายของ Adobe คือมีผู้ใช้ภายในสิ้นปีเกิน 1,250,000 คน