Facebook ประกาศกำหนดจัดงาน F8 ซึ่งเป็นงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนาประจำปี 2015 ในวันที่ 25 - 26 มีนาคม
สถานที่จัดงานในครั้งนี้คือ Fort Mason Center ใน San Francisco โดยรอบนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ Facebook เพิ่มระยะเวลาการจัดงานเป็น 2 วัน จากเดิมที่เป็นงานสัมมนาวันเดียวจบ
ผู้ที่สนใจอยากบินไปร่วมงานต้องรอลงทะเบียนในช่วงต้นปี 2015 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ใครกลัวลืมก็ลงทะเบียนให้ Facebook แจ้งเตือนเมื่อมีการเปิดลงทะเบียนได้ที่นี่
ที่มา - The Next Web
ฟีเจอร์ที่ทำมาเอาใจเทศกาลหยุดยาวมีดังต่อไปนี้
ฟีเจอร์ทั้งหมดจะเปิดให้ได้ใช้ในช่วงวันหยุด โดยแอพเวอร์ชั่นแอนดรอยด์จะได้ฟีเจอร์เหล่านี้แล้ว ส่วน iOS ก็รออีกไม่นานนี้
ที่มา - Facebook Newsroom
จากการเปิดให้ผู้ใช้ ขอบคุณกันผ่านวิดีโอ ไปเดือนกว่าๆ Facebook ก็ออกมาประกาศสถิติว่า มีวิดีโอขอบคุณมากกว่า 200 ล้านวิดีโอที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยวันที่มีการสร้างวิดีโอมากๆ จะมีคลิปขอบคุณถึง 3.3 ล้านคลิปต่อชั่วโมง โดย 10 อันดับของประเทศที่ขอบคุณกันมากที่สุดก็คือ
1. บราซิล
2. อเมริกา
3. เม็กซิโก
4. ฟิลิปปินส์
5. ไทย
6. อิตาลี
7. ตุรกี
8. อาร์เจนตินา
9. อินเดีย
10. อังกฤษ
ที่มา - All Facebook
ฟีเจอร์นี้จะอยู่เหนือช่องอัพเดตสเตตัส เขียนว่า Sell Something ซึ่งถ้ากดแล้วก็จะมีช่องให้กรอกรายละเอีบด เช่น ขายอะไร ราคาเท่าไหร่ คำอธิบายสินค้า และช่องให้ใส่รูปสินค้า รวมถึงวิธีการส่ง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับพ่อค้าแม่ขายใน Facebook อยู่มาก แต่ยังเปิดให้ทดสอบในวงจำกัด ก็ต้องมารอดูว่าจะเปิดให้ใช้กันทั่วโลกเมื่อไหร่
สามารถดูตัวอย่างของที่ขายผ่าน Facebook ผ่านฟีเจอร์ดังกล่าวได้ท้ายเบรก
ที่มา - The Next Web
เมื่อการสื่อสารด้วยข้อความคงไม่พอ แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ครายใหญ่อย่าง Facebook จึงขยายฟีเจอร์ใหม่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดแอพ Facebook บน iPhone และแอพ Messenger มีอัพเดตเพิ่มเสริมความสามารถในส่วนนี้แล้ว
เริ่มต้นที่แอพ Facebook for iPhone ที่เพิ่มฟีเจอร์แต่งภาพอัตโนมัติเข้ามา พร้อมกับแถบสำหรับปรับตั้งค่าอย่างง่ายไว้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยเพิ่มระบบฟิลเตอร์ในแอพมาก่อน
Facebook ได้พยายามจะปรับปรุงบริการให้คำนึงถึง "วิถีความเป็นมนุษย์" มากขึ้นด้วยการทำให้เป็นมิตรกับคน โดยเริ่มต้นจากการไม่เรียกผู้ใช้ว่า "users" แต่จะเรียกว่า "people" แทน เพื่อให้ทีม Facebook ระลึกว่า ที่กำลังทำผลิตภัณฑ์อยู่นี่ ทำให้มนุษย์ที่มีความซับซ้อนใช้
นอกจากนี้ Facebook ยังได้ศึกษาด้วยการไปคุยกับนักการตลาดหรือนักโฆษณาเพิ่มเติม เพราะคนกลุ่มนี้ใช้ Facebook ในการสื่อสารกับผู้คนมาก การคุยกับคนกลุ่มนี้จะทำให้เข้าใจมากขึ้นว่าจริงๆ แล้วพวกเขามองและคิดอะไร และทำระบบให้ออกมาเป็นระบบสำหรับมนุษย์จริงๆ
ที่มา - Business Insider
Faceboook ได้เปิดเผยถึง 10 อันดับของสิ่งที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุดในปีที่ผ่านมา โดยได้จัดทำเป็นวิดีโอที่สามารถเข้าได้จากหน้า Year in Review สำหรับอับดับทั้ง 10 ที่มีคนพูดถึงทั่วโลกนี้ได้แก่
จากข่าว Facebook ปรับปรุงระบบค้นหาครั้งใหญ่ ซึ่งสามารถค้นหาโพสต์ได้แล้วนั้น ล่าสุดโฆษกของ Facebook ก็ยืนยันเพิ่มว่า Facebook ได้ถอดการแสดงผลการค้นหาเว็บซึ่งดึงมาจาก Bing ออกไปด้วย เพื่อให้ผู้ใช้งานโฟกัสกับการค้นหาสิ่งที่อยู่ใน Facebook มากขึ้น
ไมโครซอฟท์เจ้าของ Bing ได้ร่วมมือกับ Facebook ให้บริการแสดงผลการค้นหาผ่าน Bing บน Facebook ก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะไมโครซอฟท์เป็นผู้ลงทุนกับ Facebook อยู่ตั้งแต่ปี 2007 มูลค่า 240 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นหุ้น 1.6% ในปัจจุบัน
สิ่งที่น่าสนใจคือการถอดผลการค้นหาจะกระทบส่วนแบ่งผู้ใช้งาน Bing มากน้อยแค่ไหนครับ
ฟีเจอร์นี้น่าจะเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการให้ผู้ใช้กดปุ่มแล้วไปยังหน้าจุดหมายปลายทางที่ต้องการ โดยสามารถตั้งค่าปุ่มได้ 7 แบบ คือ
เพจ Dollar Shave Club ผู้ได้ทดลองติดปุ่มสมัครสมาชิก (Sign Up) มากว่าสามสัปดาห์ ได้บอกว่าปุ่มนี้ช่วยให้มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า
ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ผู้ใช้ US ได้ใช้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และเปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้ใช้ปีหน้า
ที่มา - Facebook for Business
เครื่องมือใหม่ของ Facebook ที่น่าจะเป็นประโยชน์แก่นักโฆษณา ผู้ดูแลเพจ มีดังต่อไปนี้
จริงๆ ช่วงนี้ Facebook ได้ทำวิดีโอสอนตั้งค่าใน Facebook ง่ายๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น วิธีลบแท็กจากรูป วิธีแชร์โพสต์ให้เพื่อนๆ และอื่นๆ (ดูได้จาก ที่นี่) แต่เนื่องจากวิดีโอสอนบล็อกนี้มีการพูดถึงในกรณีการบล็อคแฟนเก่า ก็เลยเป็นประเด็นขึ้นมานั่นเอง
ใครสนใจจะดูวิธีบล็อค (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นการบล็อคแฟนเก่าก็ได้) ก็ดูได้ในที่มา ซึ่งวิดีโอมีสอนด้วยว่าถ้าอยากจะเปลี่ยนใจอันบล็อคต้องทำยังไง ส่วนหลังนี่เป็นอะไรที่น่าสนใจดี เชื่อว่าหลายๆ คนคงบล็อคเป็นแต่อาจจะหาวิธีอันบล็อคไม่เจอกันมากกว่า
ที่มา - Business Insider
Facebook เปิดระบบ Trending มาตั้งแต่ต้นปีเพื่อช่วยให้ผู้คนได้รู้ว่าอะไรที่กำลังเป็นกระแส จะได้ไม่ตกข่าวอะไรสำคัญๆ ไป และเพื่อให้การเกาะกระแสเป็นไปได้ง่ายกว่าเดิม Facebook จึงทำการปรับเปลี่ยนระบบ คือเมื่อแท็บในหัวข้อที่กำลังเป็นเทรนด์ในขณะนี้ จะได้เห็นบทสนทนาที่มาจากแหล่งที่แตกต่างกัน 5 แหล่งคือ
ปลายปีก็เป็นเทศกาลรวบรวมเรื่องที่น่าสนใจในปีที่ผ่านมาว่ามีอะไรบ้าง และนี่คือหัวข้อฮิตติดอันดับใน Facebook
Facebook ระบุว่าวิธีคัดเลือก Year in Review นั้น วัดมาจากความถี่ของการพูดถึงหัวข้อนั้นๆ ในโพสต์ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคมในปี 2014 จากนั้นก็จับมาวิเคราะห์และนำมาจัดอันดับจนได้รายชื่อหัวข้อดังกล่าว
วันนี้ Facebook ออกอัพเดตแอพ Pages Manager หรือแอพจัดการเพจของตัวเองบน iOS และ Android โดยรอบนี้สำหรับ Android เป็นการแก้บั๊กอย่างเดียว แต่สำหรับ iOS นั้น Facebook ได้เปลี่ยน UI บน iPad ใหม่ ทำให้ใช้ประโยชน์จากบนหน้าจอ iPad ได้เต็มที่ (ไม่ปล่อยโล่งเหมือนเวอร์ชันเก่า) โดย Facebook กล่าวว่าจะทำให้เราเข้าถึงข้อความ, การแจ้งเตือน และ insights ของเพจได้ง่ายขึ้น
ระบบค้นหาปัจจุบันของ Facebook ที่เรียกว่า Graph Search คือสามารถค้นหารูป สถานที่ เพจ โดยต้องใช้คำค้นหาเป็นประโยคหรือวลีที่ Facebook แนะนำมาเท่านั้น แต่หลังจากนี้ระบบค้นหาจะสามารถค้นหาสิ่งอื่นๆ ที่มากกว่าเดิมได้ก็คือสามารถค้นหาโพสต์โดยใช้คำค้นหา ซึ่งจะทำให้ได้ผลการค้นหาที่มากกว่าเดิม
เบื้องต้นระบบค้นหาโพสต์จะใช้ได้ในสัปดาห์นี้ เฉพาะผู้ใช้ US บน iPhone และ desktop รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ search.fb.com
งานนี้ก็อาจจะต้องปรับค่าความเป็นส่วนตัวกันเยอะหน่อย เพราะอะไรๆ ก็สามารถขุดเจอได้มากขึ้น
ที่มา - Facebook Newsroom
แอพ Slingshot มีอัพเดตความสามารถตามนี้
สนใจก็อัพเดตได้ ที่นี่
ที่มา - TalkAndroid
ระหว่างการสัมภาษณ์โดยนิตยสาร Time เรื่องโครงการ Internet.org เมื่อไม่นานมานี้ Mark Zuckerberg นายใหญ่แห่ง Facebook ได้กล่าวถึง Apple ว่าเป็นบริษัทที่ตั้งราคาสินค้าสูงกว่าที่ควรจะเป็นโดยไม่สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้า
Facebook ประกาศความร่วมมือกับบริษัทความปลอดภัย ESET (เจ้าของแอนตี้ไวรัส NOD32 ที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันดี) เพื่อตรวจสอบมัลแวร์ในระบบของ Facebook
ถ้าหากผู้ใช้ติดมัลแวร์อยู่ก่อนและระบบของ Facebook ตรวจเจอ ก็จะแสดงข้อความเตือนให้สแกนมัลแวร์ ซึ่งกดแล้ว ESET จะทำงานเบื้องหลังเพื่อสแกนและตรวจจับมัลแวร์ในเครื่อง โดยไม่ต้องออกจาก Facebook เลย
Facebook เคยประกาศความร่วมมือแบบเดียวกันกับ F-Secure และ Trend Micro มาก่อนแล้ว โดยบริษัทบอกว่าระบบความปลอดภัยของทั้ง 3 ค่ายจะช่วยกันตรวจหามัลแวร์ทั้งใน News Feed และ Messages เพื่อป้องกันผู้ใช้งานให้มากที่สุด
แทบไม่ต้องสงสัยว่าตอนนี้โซเชียลเน็ตเวิร์คที่ใหญ่ที่สุดคงหนีไม่พ้น Facebook แต่เมื่อมองถึงแฟลตฟอร์มโซเชียลที่เติบโตมากที่สุดในปีนี้คงไม่ใช่ Facebook แน่ๆ และจากรายงานของ Global Web Index กลายเป็น Tumblr ที่ขึ้นแท่นโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เติบโตเร็วที่สุดในตอนนี้ แซงหน้าทั้ง Instagram แชมป์เก่า และ Pinterest ม้ามืดอีกรายไปอย่างฉิวเฉียด
จากรายงานที่ว่ามาตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา Tumblr เพิ่มจำนวน active user ได้มากถึง 120% แม้ว่าจะมีผู้ใช้ใหม่เพิ่มขึ้นน้อยกว่า Pinterest ก็ตาม ส่วนยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook นั้นมีจำนวน active user เพิ่มขึ้นเพียง 2% เท่านั้น
ผู้ใช้คงคุ้นเคยกับสถานะที่ใช้แสดงความรู้สึกหรือกิริยาอาการต่างๆ (กำลังดู, กำลังกิน, กำลังจะไปเที่ยวที่.., ฯลฯ) กันแล้ว ก่อนหน้านี้ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับ Facebook Profile แต่ตอนนี้ Page ก็สามารถแสดงความรู้สึกแบบนี้ได้เช่นกัน
ก็น่าจะเป็นลูกเล่นเล็กๆ ที่เพจสามารถนำมาใช้เพิ่มสีสันให้กับการโพสต์คอนเทนต์เพื่อเข้าถึงกลุ่มแฟนๆ ก็ไปลองเล่นกันดูได้
ที่มา - All Facebook
ระยะหลังมานี้ทาง Facebook ได้ปล่อยแอพใหม่ออกมากินพื้นที่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนของเราอยู่เรื่อยๆ วันนี้ทาง Facebook ได้ปล่อยแอพใหม่มากินพื้นที่หน้าจอเราเพิ่มขึ้นอีกตัวแล้วครับ
คุณใช้ Facebook เพื่อติดตามข่าวสารและพูดคุยในกลุ่มเป็นประจำใช่หรือไม่? รู้สึกรำคาญที่ต้องแตะหน้าจอไม่รู้กี่ครั้งกว่าจะเข้าไปถึงหน้ากลุ่มได้หรือเปล่า วันนี้ Facebook เสนอทางเลือกที่ (คิดว่า) ดีกว่าด้วยแอพที่ชื่อว่า Groups
หลังจากปล่อยให้ใช้งาน Facebook ทำงานประจำกันตามมีตามเกิดมานาน วันนี้มีรายงานว่า Facebook กำลังจะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับคนทำงานในชื่อ Facebook at Work เร็วๆ นี้แล้ว
ตามรายงานของ Financial Times บอกว่า Facebook at Work จะทำให้ผู้ใช้สามารถมีโปรไฟล์ได้ทั้งส่วนตัว และทำงาน แม้ว่าหน้าตาโดยรวมจะไม่ต่างกับ Facebook แบบปกติ แต่จะเพิ่มฟีเจอร์สำหรับทำงานมา เช่น ช่องทางสำหรับติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ และการทำงานเอกสารร่วมกัน เป็นต้น
แหล่งข่าวรายงานว่าฟีเจอร์ใหม่นี้เริ่มทดสอบกันในสำนักงานเมืองลอนดอนบ้างแล้ว ซึ่งถ้าหากเปิดตัวมาจริง Facebook ก็จะมีเครื่องมือสำหรับคนทำงานไปแข่งกับเจ้าใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ และกูเกิลเสียที
Facebook ออกมาประกาศนโยบายใหม่ของการแสดงเนื้อหาใน News Feed โดย "โพสต์เนื้อหาเชิงโฆษณา" (promotion post หมายถึงเนื้อหาแนวโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่ไม่ได้ซื้อโฆษณา) จะถูกแสดงผลน้อยลง
เหตุผลเกิดจาก Facebook สำรวจสถิติความพอใจของผู้ใช้ News Feed แล้วพบว่าผู้ใช้ไม่ชอบเนื้อหาเชิงโฆษณาเหล่านี้ ตามปกติแล้ว Facebook มีระบบการจำกัดจำนวนโฆษณา (ads) บน News Feed เพื่อรักษาประสบการณ์การใช้งาน แต่กลับกลายเป็นช่องว่างให้โพสต์แบบปกติ (organic) ที่มีเนื้อหาเชิงโฆษณาแทน
Facebook ระบุว่าโพสต์เชิงโฆษณาที่พบบ่อยคือ โพสต์ขายของแบบตรงๆ หรือชวนให้ติดตั้งแอพ, โพสต์ชวนผู้ใช้ร่วมสนุกหรือชิงรางวัล และโพสต์ที่นำเนื้อหาแบบเดียวกับโฆษณามาใช้งาน (ตัวอย่างตามภาพ)
นอกจาก Facebook จะทำหน้า Privacy Basics ให้ผู้ใช้ได้เข้าใจวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ง่ายขึ้น ก็ยังใช้โอกาสเดียวกัน อัพเดตหน้า terms, data policy และหน้า cookies policy เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงฟีเจอร์ใหม่ที่ Facebook กำลังทำ และยังปรับปรุงประสิทธิภาพของการแสดงผลโฆษณาที่อิงจากแอพและเว็บไซต์ที่เราใช้ รวมทั้งเปิดให้ผู้ใช้ได้มีโอกาสควบคุมประเภทของโฆษณาอีกด้วย
จุดอ่อนที่ทำให้ Facebook ถูกโจมตีและเป็นปัญหาเสมอมานั่นคือเรื่องของความเป็นส่วนตัว หลายๆ ประเด็นทำให้ผู้ใช้คลางแคลงใจว่าข้อมูลของตัวเองถูกนำไปใช้มากแค่ไหน ตลอดจนถึงวิธีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในหลายๆ จุดที่ทำให้รู้สึกไม่เป็นอิสระเอาเสียเลย ที่ผ่านมา Facebook ก็มีการปรับความยืดหยุ่นในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวโดยรับฟังผู้ใช้มาตลอด และครั้งนี้ก็ได้ทำหน้า Privacy Basics เพื่อให้ความรู้กับผู้ใช้ในสามส่วนต่อไปนี้