จากข่าว Firefox 54 แยกโพรเซสของเนื้อหาเพจแล้ว ทาง Ryan Pollock หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Mozilla ก็เขียนบล็อกอธิบายว่า สถาปัตยกรรมการแยกโพรเซสของ Firefox นั้นดีกว่าคู่แข่ง Chrome ซะอีก เพราะประหยัดแรมมากกว่า
Pollock อธิบายว่า Chrome ใช้แนวคิด 1 แท็บ 1 โพรเซส ดังนั้นถ้าเราเปิดแท็บเยอะๆ ก็จะมีโพรเซสเยอะตามไปด้วย โดยใน 1 โพรเซสจะต้องมีเนื้อที่ของเว็บเพจ + เอนจินของเบราว์เซอร์รันอยู่ในหน่วยความจำเสมอ ส่งผลให้ Chrome กินแรมเยอะ
Mozilla ออก Firefox 54 ของใหม่ที่สำคัญคือการแยกโพรเซสของแท็บออกจากกันแล้ว
การเปลี่ยนแปลงของ Firefox 54 เป็นผลจากโครงการ Electrolysis (e10s) ที่ทำกันมายาวนาน และเริ่มต้นใน Firefox 48 ที่แยกโพรเซสของเบราว์เซอร์กับเว็บเพจออกจากกัน คราวนี้ถึงเวลาดำเนินตามแผนขั้นที่สองคือ แยกโพรเซสของแต่ละเว็บเพจออกจากกัน โดย Firefox ยังกำหนดไว้สูงสุดที่ 4 โพรเซส
ผลคือประสิทธิภาพของ Firefox จะดีขึ้นมาก เพราะเว็บเพจที่โหลดหนักๆ จะไม่ดึงทรัพยากรจากเว็บเพจอื่น ใครที่ทนกับปัญหา Firefox อืดตอบสนองล่าช้ามานาน น่าจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้
Mozilla ประกาศว่า Firefox 55 ที่จะออกในช่วงเดือนสิงหาคม จะเปิดใช้ WebVR มาเป็นค่าดีฟอลต์ ช่วยให้เจ้าของแว่น VR (ตอนนี้รองรับ HTC Vive กับ Oculus Rift) สามารถสวมแว่นแล้วชมเนื้อหาแบบ VR ผ่านเว็บได้
Firefox เป็นผู้เสนอสเปกของ WebVR บนเบราว์เซอร์ และได้รับการสนับสนุนจากทั้ง Chrome และ Edge เพียงแต่ Firefox จะเป็นเบราว์เซอร์แรกที่เปิดใช้ WebVR ในรุ่นเสถียร
Firefox ได้ออกรุ่น 53 สำหรับแพลตฟอร์ม Windows, Mac, Linux และ Android แล้ว โดยรอบนี้ Mozilla ชูโรงในเรื่องความเร็ว ซึ่ง Mozilla ได้พัฒนาใน Project Quantum คือการพัฒนาเอนจินเบราว์เซอร์เพื่อให้ใช้งานประสิทธิภาพจากฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ได้เต็มที่ โดยจะแยกส่วนแก่นของเอนจินกราฟิกออกมา เรียกว่า Quantum Compositor และรันบนโพรเซสแยกบน GPU ทำให้ประมวลผลได้เร็ว และเมื่อเกิดการแครชจะไม่ดึงแท็บนั้นหรือ Firefox ให้แครชตามไปด้วย ซึ่ง Mozilla พบว่าสามารถลดการแครชลงได้ 10%
ส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ มีดังนี้
ที่ผ่านมา Firefox มี channel หรือระดับของความเสถียรอยู่ 4 ระดับคือ Nightly, Aurora (เทียบได้กับ Alpha), Beta และ Stable
ล่าสุด Mozilla ประกาศยกเลิกระดับ Aurora ด้วยเหตุผลว่าต้องการลดความซับซ้อนของรอบการออกรุ่นลง ทำให้ต่อจากนี้ไป Firefox Nightly จะเข้าสถานะ Beta แล้วต่อที่ Stable เลย (เหลือแค่ 3 ระดับจากเดิม 4 ระดับ)
Mozilla ให้เหตุผลว่าเดิมที Aurora ถูกออกแบบมาให้เป็นช่องทางทดสอบโปรแกรมที่มีคนใช้เยอะกว่า Nightly ประมาณ 10 เท่า ซึ่งแผนการนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงตัดสินใจตัดรอบ Aurora ออกไปเพื่อให้กระบวนการออกรุ่นเสถียรสั้นลงจากเดิม 6-8 สัปดาห์
การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มมีผลกับ Firefox 55 เป็นต้นไป โดยในช่วงเดือนมิถุนายน Firefox 55 จะขยับจากสถานะ Nightly ข้ามเป็น Beta เลย
Netflix ได้ประกาศรองรับการสตรีมวิดีโอบนเว็บไซต์ผ่าน Firefox บน Linux แล้ว หลังจากที่ผู้ใช้ Linux จำเป็นต้องใช้ Chrome เพื่อดูวิดีโอมาตลอด
แต่เดิม Firefox บน Linux ไม่มีระบบ Encrypted Media Extension (EME) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เล่นวิดีโอ HTML5 ที่เข้ารหัสไว้ ซึ่ง Netflix ใช้เทคโนโลยีนี้กับวิดีโอของตัวเอง จึงทำให้ยังไม่สามารถเล่นได้ แต่ทาง Mozilla เพิ่งใส่เทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาบนเบราว์เซอร์ Firefox บน Linux เมื่อปีที่แล้ว จึงทำให้ Netflix เริ่มปรับปรุงระบบให้รองรับ
ดังนั้นตอนนี้ผู้ใช้ Firefox บน Linux ก็สามารถเปิดเล่นวิดีโอจาก Netflix ได้แล้วโดยไม่ต้องติดตั้งปลั๊กอินใด ๆ เพิ่มเติม
Mozilla ได้ออก Firefox 52 ตามรอบการอัพเดตทั้งบนเดสก์ท็อปและ Android โดยรอบนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์สำคัญหลายอย่าง โดยบนเดสก์ท็อปมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้
Firefox เริ่มทดสอบฟีเจอร์ SnoozeTabs เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ปิดแท็บที่ตอนนี้ยังไม่ต้องการ และตั้งเวลาให้กลับมาแสดงบนเบราว์เซอร์อีกครั้งได้
วิธีใช้ฟีเจอร์นี้เพียงแค่คลิกไอคอนและเลือกเวลาที่ต้องการให้แท็บปรากฏอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภายในวันนั้น, วันรุ่งขึ้น, ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์, สัปดาห์หน้า หรือเดือนหน้า รวมถึงสามารถตั้งเวลาตามต้องการได้ด้วย และเมื่อถึงเวลาตามที่ตั้งไว้ แท็บจะปรากฏกลับมาบนเบราว์เซอร์และแจ้งเตือนผู้ใช้อีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Pulse เพื่อส่งข้อมูลไปยังวิศวกรของเบราว์เซอร์ว่าเว็บใดทำงานได้ดีและเว็บใดทำงานได้ไม่ดี เพียงกดปุ่มดาว ก็จะส่ง feedback กลับไปยัง Mozilla ทันที เพื่อช่วยให้วิศวกรของ Mozilla ช่วยปรับปรุงการใช้งานของ Firefox ได้ดียิ่งขึ้น
แผนการของ Mozilla กับ Firefox ในปีนี้คือเปลี่ยนมาใช้เอนจินแสดงผลตัวใหม่ Project Quantum แทนเอนจิน Gecko ของเดิม ช่วยให้ประสิทธิภาพโดยรวมของ Firefox ดีขึ้นกว่าปัจจุบันมาก
Project Quantum เขียนด้วยภาษา Rust และส่งผลให้ซอร์สโค้ดของ Firefox ต้องผูกติดกับภาษา Rust ตามไปด้วย ล่าสุดทีมพัฒนา Firefox จึงปรับเงื่อนไขการคอมไพล์ Firefox บังคับให้ต้องมีคอมไพเลอร์ของภาษา Rust ติดตั้งอยู่ด้วย
หลังจากวันนี้มีข่าว root CA ของรัฐบาลไทยได้รับการเชื่อถือจากไมโครซอฟท์ ตอนนี้ผู้ใช้วินโดวส์จำนวนหนึ่งน่าจะได้รับอัพเดตที่มี root CA นี้เข้ามาในเครื่องแล้ว สำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้งานน่าจะมีคนเขียนบทความจำนวนมากเพื่อแนะนำวิธีการถอนใบรับรองนี้ออกจากเครื่อง
ในทางกลับกันมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่เชื่อใจรัฐบาลเป็นอย่างยิ่งและต้องการให้เข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย อาจจะต้องผิดหวังเพราะผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายอื่นๆ ยังไม่รับรอง สำหรับ Chrome บน Windows นั้นไม่เป็นปัญหาเพราะใช้ฐานข้อมูล root CA ของวินโดวส์โดยตรง แต่กับไฟร์ฟอกซ์กลับใช้ฐานข้อมูลของตัวเองทำให้ใช้งาน root CA ตัวนี้ไม่ได้
ไฟร์ฟอกซ์ออกรุ่น 51.0 ตามรอบการอัพเดตปกติ แต่รอบบนี้มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการแสดงสัญลักษณ์เตือนว่าเว็บ HTTP ไม่ได้เข้ารหัสเป็นเว็บไม่ปลอดภัย หากเว็บนั้นมีแบบฟอร์มให้ใส่รหัสผ่าน
แนวทางนี้เป็นแนวทางเดียวกับ Chrome ที่จะปรับรูปแบบการแสดง URL ของเว็บไม่เข้ารหัสว่าไม่ปลอดภัยตั้งแต่ Chrome 56 เป็นต้นไป
สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ที่ปรับปรุงในรุ่นนี้ เช่น ปุ่มซูมเว็บจะแสดงในช่อง URL เมื่อผู้ใช้ปรับซูม, ปรับปรุงความเร็วในการเล่นวิดีโอ, รองรับไฟล์เสียง FLAC, และรองรับ WebGL 2 เพิ่มเติม
ที่มา - Mozilla
Mozilla ประกาศแผนการของ Firefox บน Windows XP และ Windows Vista ว่าจะหยุดซัพพอร์ตระบบปฏิบัติการเหล่านี้ในปี 2017 แล้ว
Mozilla อัพเดตแผนการเปิดใช้งาน multi-process ให้กับ Firefox ที่เริ่มมาตั้งแต่ Firefox 48
แผนการเดิมของ Mozilla จะค่อยๆ ขยายจำนวนผู้ใช้ Firefox ที่ได้ฟีเจอร์ multi-process อย่างช้าๆ สถานะล่าสุดคือ Firefox 50 เปิดฟีเจอร์นี้ให้กับผู้ใช้ที่มีส่วนขยายที่ "ยืนยันได้" ว่าทำงานร่วมกับ multi-process ได้
ขั้นต่อไปใน Firefox 51 จะขยาย multi-process ให้ผู้ใช้ทั่วไป ยกเว้นผู้ที่ติดตั้งส่วนขยายที่ "ยืนยันได้" ว่าทำงานร่วมกับ multi-process ไม่ได้ (นั่นคือกลุ่ม extension ที่ยืนยันไม่ได้ว่าพัง ก็จะสันนิษฐานว่าทำงานได้ไปก่อน)
หลายคนคงพอทราบว่า Firebug เครื่องมือช่วยดีบั๊กเว็บอันโด่งดังของ Firefox จะหยุดพัฒนาแล้ว เหตุผลสำคัญคือ Firebug ถูกออกแบบขึ้นสมัยที่ Firefox ทำงานแบบโพรเซสเดียว แต่เมื่อ Firefox เริ่มเปลี่ยนมาทำงานแบบหลายโพรเซสด้วยโครงการ e10s ส่งผลให้ Firebug ไม่สามารถทำงานกับสถาปัตยกรรมแบบใหม่ของ Firefox ได้
ทีมงาน Firebug หารือกันแล้วพบว่าการเขียนใหม่ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล จึงตัดสินใจหยุดพัฒนา Firebug รุ่นใหญ่รุ่นถัดไป (Firebug 3.0) แล้วเปลี่ยนมาเป็นการพัฒนาฟีเจอร์ให้กับ Firefox DevTools ที่ติดมากับตัว Firefox แทน โดยจะยังออก Firebug 2.x รุ่นแก้บั๊กให้ต่อไป
Mozilla ประกาศพบช่องโหว่สำคัญเกี่ยวกับฟังก์ชัน SVG ใน Firefox ซึ่งถูกใช้งานโจมตีเบราว์เซอร์ Tor (ที่พัฒนาขึ้นบน Firefox) เพื่อค้นหาตัวตนของผู้ใช้งานแล้ว
รูปแบบการโจมตีคือแฮ็กเกอร์จะหลอกผู้ใช้ Tor ให้เข้าเว็บเพจที่มีไฟล์ SVG ฝังไว้ ไฟล์นี้จะอาศัยช่องโหว่ตัวนี้เก็บค่า IP และ MAC ของผู้ใช้ ส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮ็กเกอร์ได้ ทาง Mozilla ระบุว่าการโจมตีลักษณะนี้คล้ายกับเทคนิคที่ FBI เคยใช้ตามหาผู้ใช้ Tor และมีคนตั้งข้อสงสัย (แต่ไม่มีหลักฐาน) ว่าเป็นไปได้ที่คนใช้ช่องโหว่นี้คือ FBI
Mozilla ได้ทำเบราว์เซอร์ใหม่สำหรับ iOS แยกออกมาจาก Firefox ปกติในชื่อ Firefox Focus โดยตัวเบราว์เซอร์นี้ชูจุดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยจะมีการบล็อกโฆษณาและคุกกี้ในตัว รวมถึงมีการลบประวัติการเข้าชมหลังจากจบเซสชั่น
ตัวเบราว์เซอร์ Firefox Focus นี้จะมีแค่ address bar เท่านั้น เปิดมาก็ให้ผู้ใช้พิมพ์เพื่อค้นหาได้ทันที รวมถึงยังชูจุดเด่นด้านการดาวน์โหลดที่เร็ว แม้ว่าจะมีการบล็อกโฆษณา เนื่องจากเบราว์เซอร์ที่มีการบล็อกโฆษณาหลายตัวนั้น มักจะส่งผลต่อประสิทธิภาพด้วย
Mozilla ออก Firefox 50 รุ่นฉลองครบครึ่งร้อย (และเป็นรุ่นเสถียรตัวสุดท้ายของปีนี้) ของใหม่บนเวอร์ชันพีซีได้แก่
ส่วนเวอร์ชัน Android ปรับอินเทอร์เฟซเล็กน้อย โดยรวมหน้า Recent Tabs และ History เข้าด้วยกัน
ที่มา - Mozilla
Mozilla ประกาศทำโครงการ Project Quantum เอนจินเบราว์เซอร์ตัวใหม่ของ Firefox ที่จะใช้แทนเอนจิน Gecko ในปัจจุบัน
Project Quantum เป็นโครงการใหญ่ที่ประกอบด้วยหลายส่วนประกอบ ซึ่งรวมเอา Project Servo ระบบเอนจินตัวใหม่ที่เขียนด้วยภาษา Rust ซึ่ง Mozilla เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2013
Mozilla บอกว่า Project Quantum จะให้ประสบการณ์ใช้งานที่เร็วและลื่นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (quantum leap) ทั้งบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์พกพา ปัญหาเรื่องการโหลดหน้าจอ การเลื่อนหน้าจอ แอนิเมชันและการตอบสนองที่ช้าหรือกระตุก จะหมดไป
ดูเหมือนว่าฟีเจอร์ประหยัดพลังงานจะกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่เบราว์เซอร์หลักในตลาดให้ความสำคัญไปซะแล้ว เมื่อดูจากที่ทั้ง Microsoft Edge, Opera และ Google Chrome ต่างก็ออกผลทดสอบซึ่งแสดงความสามารถในการประหยัดพลังงานของเบราว์เซอร์ของค่ายตนเองกันเกือบครบทุกเจ้า
และล่าสุดก็เป็นทางฝั่งไมโครซอฟท์ที่ออกมาโชว์ผลการทดสอบอีกหนเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับปรุงการใช้พลังงานของ Microsoft Edge บน Windows 10 Anniversary Update ไปอีกขั้น ซึ่งก็ส่งให้ Microsoft Edge ได้รับตำแหน่งเบราว์เซอร์ประหยัดพลังงานอันดับหนึ่งไปอีกครั้ง
Mozilla ประกาศทำโครงการ Mortar เพื่อให้ Firefox สามารถนำปลั๊กอินบางตัวของ Chrome มาใช้งานได้ เพื่อลดภาระการดูแลโค้ดของทีมงาน Mozilla ลง
ในอดีต เว็บเบราว์เซอร์มีระบบปลั๊กอินที่เรียกว่า NPAPI ที่ใช้กันมานานมากแล้ว (ใช้กันมาตั้งแต่ยุค Netscape) ส่งผลให้ปลั๊กอินยอดนิยมทั้ง Flash หรือ Java ต่างก็สื่อสารกับเบราว์เซอร์ด้วยวิธีนี้ แต่ปลั๊กอินแบบนี้ล้าสมัยและมีปัญหาหลายอย่าง ส่งผลให้ Chrome พยายามผลักดันระบบปลั๊กอินแบบใหม่ PPAPI (หรือ Pepper) มาตั้งแต่ปี 2013 และปัจจุบันปลั๊กอินอย่าง Flash หรือตัวอ่าน PDF ของ Chrome ก็ใช้ระบบ PPAPI ทั้งหมด
Mozilla ออก Firefox 49 รุ่นเสถียร ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
กูเกิลเริ่มโครงการฟอร์แมตวิดีโอ WebM และรูปภาพ WebP มาได้นานพอสมควรแล้ว ถึงแม้ฟอร์แมตทั้งสองตัวมีจุดเด่นเรื่องขนาดไฟล์หลังการบีบอัด แต่ที่ผ่านมายังมีเฉพาะ Chrome เท่านั้นที่รองรับฟอร์แมตเหล่านี้ ทำให้การใช้งานยังไม่แพร่หลายมากนัก
ช่วงหลังเราเริ่มเห็นแนวร่วมของ WebP มากขึ้น เช่น Safari ที่เริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้แล้ว และเบราว์เซอร์รายล่าสุดที่ทดลองพัฒนาฟีเจอร์ WebP คือ Firefox
สถานของการรองรับ WebP ใน Firefox ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ตอนนี้มีแพตช์ที่พัฒนาให้อ่านไฟล์ภาพ WebP ได้แล้ว แต่ก็ยังต้องรอตรวจสอบคุณภาพแพตช์กันต่อไป (Bugzilla)
Mozilla ประกาศถอดฟีเจอร์ Firefox Hello การสนทนาด้วยเสียง-วิดีโอบนเทคโนโลยี WebRTC ที่ใส่เข้ามาใน Firefox 34 เมื่อปลายปี 2014
การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นใน Firefox 49 รุ่นหน้า โดยผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม Hello จะถูกถอดออกโดยอัตโนมัติ และ Mozilla แนะนำให้ย้ายไปใช้ซอฟต์แวร์แชทผ่าน WebRTC ตัวอื่นแทน เช่น Talky, Cisco Spark, Appear.in, Jitsi Meet
Mozilla ไม่ได้ให้เหตุผลของการถอดฟีเจอร์ครั้งนี้ แต่เราก็คงรู้ๆ กันว่าเป็นฟีเจอร์ที่ไม่มีใครใช้ (เอาแค่พูดถึงหรือรู้จัก ก็ยังแทบไม่มีเลย)
Firefox 48 ออกแล้ว การเปลี่ยนแปลงสำคัญของรุ่นนี้คือเป็นรุ่นแรกที่ Mozilla เริ่มกระบวนการแยกโพรเซสของเบราว์เซอร์และเนื้อหาเว็บเพจออกจากกัน (หลังจากพัฒนามานานหลายปีจนคิดว่าจะไม่ทำซะแล้ว) ภายใต้ชื่อโครงการที่เรียกว่า Electrolysis หรือ e10s
แต่การแยกโพรเซสของ Firefox จะมีหลายขั้นตอน (กว่าจะทำได้เท่ากับพวก Chrome) ขั้นแรกคือ Firefox จะถูกแยกออกเป็น 2 โพรเซสคือตัวเบราว์เซอร์กับเนื้อหาก่อน (แต่ละแท็บยังเป็นโพรเซสเดียวกันหมด) เมื่อเปลี่ยนผ่านกระบวนการเหล่านี้เสร็จสิ้นแล้ว ในอนาคตถึงค่อยแยกโพรเซสของแต่ละแท็บอีกทีหนึ่ง ซึ่งยังไม่ระบุช่วงเวลาชัดเจนว่าเมื่อใด โดย Mozilla บอกว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ก็น่าจะทำได้ภายในครึ่งแรกของปี 2017
Mozilla ได้ออกอัพเดต Firefox เวอร์ชัน 5.0 บน iOS โดยรอบนี้ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่าง