จากที่ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ Flickr ได้เปิดให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินด้วยบัญชีของ Google และสัญญาว่าจะมีการเพิ่มพันธมิตรอีก ล่าสุดในบล็อกของ Flickr ประกาศว่าได้เพิ่มพันธมิตรรายใหม่นั่นคือ Facebook

ผู้ใช้ Flickr เดิมสามารถปรับค่าการล็อกอินด้วย Google หรือ Facebook ร่วมกับบัญชีของ Yahoo!

และสำหรับผู้ใช้ Facebook หรือ Google ก็สามารถล็อกอิน Flickr เพื่อแบ่งปันรูปภาพไปยัง Facebook โดยเข้าไปปรับค่าได้จากหัวข้อ account setting

ที่มา: Flickr Blog

ข่าวยาฮูเตรียมปิดหรือขาย Delicious ทำให้ผู้ใช้ Flickr ซึ่งเป็นกิจการที่ยาฮูซื้อมาไล่เลี่ยกับ Delicious เกิดความกังวลไม่น้อย

เว็บไซต์ ReadWriteWeb ได้แถลงการณ์จาก Blake Irving ผู้บริหารของยาฮู (มีชื่อตำแหน่งเป็น Chief Product Officer) ว่ายาฮูยังสนับสนุน Flickr อย่างเต็มที่ โดยบอร์ดและผู้บริหารของยาฮูมองว่า Flickr มีทิศทางสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัท, มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก, มีแบรนด์ที่โด่งดัง และเป็นกิจการที่ทำกำไร

นอกจากแถลงการณ์แล้ว Irving ยังทวีตข้อความว่า "เรารัก Flickr ทั้งในแง่ยุทธศาสตร์และกำไร"

เว็บฝากรูป Flickr ประกาศแอพสำหรับมือถือ Windows Phone 7 และแอพสำหรับแท็บเล็ต Windows 7 ที่ควบคุมด้วยการสัมผัส

แอพตัวนี้จะปล่อยให้ดาวน์โหลดกันในวันที่ 31 มกราคมนี้ ส่วนหน้าตาก็ดูจากวิดีโอท้ายข่าวครับ ดูดีทีเดียว

ที่มา - Flickr Blog

เว็บไซต์แชร์รูปภาพอย่าง Flickr ประกาศรองรับ OpenID โดยมีพันธมิตรรายแรกคือ "กูเกิล"

ผู้ใช้ Flickr รายใหม่ (เฉพาะรายใหม่ รายเก่ายังทำไม่ได้) สามารถใช้ Google Account ลงทะเบียนเพื่อใช้ Flickr ได้เลย ทาง Flickr สัญญาว่าในอนาคตจะเพิ่มพันธมิตรรายอื่นๆ ให้มากขึ้น

ที่มา - Flickr Blog

สำนักพระราชวังของอังกฤษเปิดบัญชีสำหรับภาพของราชวงศ์อังกฤษบน Flickr (เข้าไปดูได้ที่ http://www.flickr.com/britishmonarchy)

เนื่องจากราชวงศ์ของอังกฤษมีประวัติความเป็นมายาวนานไม่น้อย ทางสำนักพระราชวังเลยอัพโหลดรูปภาพประวัติศาสตร์ในอดีตมาไว้บน Flickr ด้วย เช่น ภาพงานแต่งงานของพระราชินีวิคตอเรียใน ค.ศ. 1854 เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ ราชวงศ์อังกฤษใช้ YouTube และ Twitter อยู่แล้ว

ที่มา - AP

หน้าตาของเว็บฝากรูปภาพ Flickr ไม่เปลี่ยนแปลงมานาน (แม้จะเพิ่มฟีเจอร์เล็กน้อยอยู่เรื่อยๆ ก็ตาม) แต่ตอนนี้ Flickr เริ่มเปิดหน้าแสดงรูปภาพแบบใหม่ให้ทดลองใช้แล้ว

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนคือ ตัวอย่างรูปมีขนาดใหญ่ขึ้น (เดิมกว้าง 500 พิกเซล ของใหม่เป็น 640) และหน้าแสดงรูปภาพโดยรวมมีขนาดกว้างขึ้น การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ได้แก่

ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้ Flickr ที่อยากแสดงรูปของตัวเองบน Facebook ด้วย จำเป็นต้องใช้แอพพลิเคชันเสริมจากนักพัฒนาภายนอก แต่หลังจาก Flickr ปล่อยให้เราคอยเป็นเวลานาน (มาก) ตอนนี้เราสามารถทำได้จากตัว Flickr เองแล้ว

การใช้งานไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่เข้าไปตั้งค่าใน หน้า Account ของ Flickr หลังจากนั้น Flickr จะอัพรูปของเราลงใน Facebook timeline ให้อัตโนมัติ (ภาพตัวอย่างด้านใน)

Flickr บอกว่าเอนจินที่ใช้งานคือ Yahoo! Updates ครับ ภาพที่นำไปลง Facebook จะเป็นภาพที่เราตั้ง public ไว้เท่านั้น

กูเกิลประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Bitnik เจ้าของบริการแต่งภาพออนไลน์ Picnik โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่า

แต่ความน่าสนใจอยู่ที่ Picnik มีความตกลงกับบริการรับฝากรูป Flickr ของยาฮู ทำให้ Picnik กลายเป็นตัวแก้ไขรูปภาพมาตรฐานของ Flickr (ใครใช้ Flickr ลองกด Edit ที่ภาพ) คำถามคือ หลังจาก Picnik กลายเป็นของกูเกิลไปแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่?

คำตอบของกูเกิลคือ Picnik จะยังใช้กับบริการอื่นๆ ได้ดังเดิม ส่วนยาฮูยังไม่ตอบเรื่องนี้

สำนักข่าวหลายแห่งคาดการณ์ว่า กูเกิลจะรวมความสามารถของ Picnik เข้ากับ Picasa อย่างแน่นอน

นับจากแอปเปิลเปิด App Store และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทไอทีต่างๆ หันมาเปิดบริการลักษณะเดียวกันมากมาย แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทมือถือ แต่ก็มีบริการอื่นๆ ด้วย เช่น กรณีของข่าวนี้คือ Flickr

Flickr นั้นเปิด API ให้ซอฟต์แวร์ภายนอกเรียกใช้งานอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็มีบริการ-ผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่เรียกใช้ Flickr API อีกทอดหนึ่ง (เช่น โปรแกรมจัดการรูปภาพต่างๆ หรือโปรแกรมอัพโหลดภาพถ่ายจากมือถือ) ตอนนี้ Flickr ได้ทำหน้ารวบรวมโปรแกรมเหล่านี้ให้เป็นหมวดหมู่ ใช้ชื่อว่า App Garden

หลังจากปล่อยให้ Facebook กินตลาดการแปะชื่อบุคคลที่อยู่ในภาพมานาน ตอนนี้ต้นตำรับบริการเก็บรูปภาพอย่าง Flickr เริ่มขยับตัว

ฟีเจอร์นี้เรียกว่า People มันจะโผล่มาที่ sidebar ด้านข้างใกล้กับส่วนของ tag หลักการทำงานเหมือนกับ Facebook คือระบุชื่อเพื่อนที่อยู่ในรูป และสามารถกำหนดจุดได้ว่าใบหน้าของบุคคลนั้นอยู่ที่ไหน ข้อดีของ People ที่เหนือกว่า Facebook คือตัวเลือกด้านความเป็นส่วนตัว คนที่ถูกระบุว่าอยู่ในภาพสามารถเอาชื่อตัวเองออกได้ และถ้าเอาออกไปแล้วก็ไม่มีใครสามารถสั่ง tag บุคคลนี้ลงไปในภาพได้อีก

ส่วนข้อเสียคงเป็นว่า คนที่อยู่ในภาพได้ต้องเป็นสมาชิกของ Flickr เท่านั้น ซึ่งไม่เยอะเท่ากับเพื่อนใน Facebook ครับ

หลังจากปล่อยให้ Twittpic และบริการลักษณะเดียวกันกินตลาดโพสต์รูปสำหรับ Twitter มานาน ตอนนี้ยักษ์ในวงการเว็บเก็บรูปอย่าง Flickr ก็เริ่มขยับตัวแล้ว

ตอนนี้ผู้ใช้ Flickr สามารถ

• สั่งโพสต์ภาพจาก Flickr ลง Twitter ได้จากหน้าเว็บของ Flickr โดยตรง (URL จะเป็น Flic.kr)
• อัพโหลดภาพจากมือถือลง Flickr และสั่งให้โพสต์ลง Twitter โดยอัตโนมัติ
• ส่งข้อความ tweet เมื่อไปเจอภาพของคนอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ (บางกรณีเจ้าของภาพอาจปิดฟีเจอร์นี้ไว้)

ที่มา - Flickr Blog

เว็บให้บริการด้านรูปภาพ Flickr (ซึ่งมีคนแถวนี้สมัคร Pro account หลายคน) เพิ่งประกาศฉลองจำนวนรูปภาพที่ถูกอัพโหลดขึ้นไปครบ 3 พันล้านรูปเมื่อคืนนี้

ถือเป็นอัตราการเติบโตที่น่าสนใจมาก เพราะเมื่อ 1 ปีที่แล้ว หรือ 13 พฤศจิกายน Flickr ได้ประกาศฉลอง 2 พันล้านรูปไป นั่นคืออัตราการเติบโตถึง 50% ภายในระยะเวลาหนึ่งปี

อย่างไรก็ตามจำนวน3พันล้านรูปนี้ ยังห่างจาก Facebook มากมายนัก ประมาณกันว่า Facebook ขณะนี้มีรูปอัพโหลดขึ้นไปมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านรูป

Getty Images เว็บไซต์ขายภาพถ่ายสำหรับนำไปใช้ต่อในทางธุรกิจ (เช่น หนังสือพิมพ์) ได้ทำข้อตกลงกับ Flickr โดยจะเชิญผู้ใช้ Flickr ที่ถ่ายภาพเจ๋งๆ มาเข้ากลุ่ม และนำภาพจากผู้ใช้เหล่านี้ไปไว้ใน Getty Images ซึ่งถ้าขายได้ เจ้าของภาพก็จะได้ส่วนแบ่งด้วย

ตัวแทนจาก Getty Images บอกว่าด้วยกลยุทธนี้ Getty Images จะมีภาพในสต็อกเพิ่มขึ้น เป็นการขยายขีดความสามารถในการแข่งขันของตัวเอง ส่วนตัวแทนของ Flickr บอกว่าเป็นสัญญาณว่าชุมชนนักถ่ายภาพบน Flickr ได้รับการยอมรับจากมืออาชีพแล้ว

ผู้ใช้อย่างเราๆ ก็มีโอกาสได้เงิน นับว่าเป็น win-win-win เหลือแค่จะถ่ายรูปออกมาเข้าตาทีมงานของ Getty Images หรือเปล่าเท่านั้น

สถานการณ์ของ Yahoo! ยังคงดูไม่ค่อยดีหลังจากสรุปผลการเจรจากับทางไมโครซอฟท์เมื่อสองผู้ก่อตั้ง (สามี-ภรรยา) ของ Flickr บริการแลกเปลี่ยนรูปออนไลน์ที่ Yahoo! ซื้อมาในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ได้ลาออกจากบอร์ดบริหารซึ่ง Caterina Fake ได้ลาออกจาก Yahoo! ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมาและ Stewart Butterfield จะลาออกในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งจนถึงบัดนี้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการลาออกในครั้งนี้

กลุ่ม We Demand Donuts ได้รับโดนัทแล้วสิบโหลจากร้านโดนัทในซานฟาซิสโก (รูป) โดยได้รับการเอื้อเฟื้อจาก Matthew Rothenberg ซึ่งเป็น Senior Product Manager ของ Flickr (ข่าวเก่า)

หลังจากที่ Flickr เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ คือฟีเจอร์อัพโหลดไฟล์วิดีโอไปเมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ ผู้ใช้บางส่วนรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก และต้องการให้ฟีเจอร์นี้ถูกถอดถอนออกไปจากเว็บ โดยรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อทีมผู้พัฒนา แต่ยังไม่ได้รับคำตกลงใดๆ

อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอจากอีกกลุ่มหนึ่งใน Flickr ที่ได้รับการตอบสนอง: Flickr จะแจกโดนัทฟรี สำหรับสมาชิกทุกคนที่อยู่ในกลุ่ม "We Demand Donuts" โดยสมาชิกต้องมาแสดงตัวที่ร้านโดนัทในซานฟรานซิสโก เพื่อรับสิทธิ์นั้น โดยกลุ่ม We Demand Donuts ขณะนี้มีสมาชิกมากกว่า 1,800 คน และเห็นได้ชัดว่ากลุ่มนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อล้อเลียนกลุ่มที่ต่อต้านฟีเจอร์วิดีโอข้างต้น

รออยู่ว่าเมื่อไหร่ Blognone จะแจกข้าวต้มมัดฟรีบ้าง

Michael Arrington แห่ง TechCrunch ได้เล่าประสบการณ์การใช้ฟีเจอร์อัพโหลดวิดีโอของ Flickr ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ถูกคาดการณ์กันมานาน

วิดีโอจะถูกจำกัดความยาวที่ 90 วินาที และขนาดไม่เกิน 150MB (อาจเปลี่ยนได้ในอนาคต) เพื่อป้องกันการอัพโหลดคลิปที่ละเมิดลิขสิทธิ์ (และผมคิดว่าเป็นการหลบกลุ่มเป้าหมายของ YouTube และเว็บไซต์วิดีโออื่นๆ ด้วย) แสดงผลเป็น FLV เหมือนเว็บวิดีโอทั่วไป นำไป embed ได้ และสามารถจัดลงอัลบั้มหรือใส่แท็กได้เหมือนกับรูปภาพทุกประการ

Flickr ได้เพิ่มความสามารถในการตกแต่งภาพ โดยเป็นการร่วมมือกับเว็บไซต์ Picnik ผ่าน Flickr API

สำหรับผู้ใช้แล้วสิ่งที่ต้องทำคืออนุญาตให้ Picnik เข้าถึงข้อมูลรูปภาพของเราเพียงครั้งแรกครั้งเดียว (เหมือนกับโปรแกรมอื่นๆ ที่ทำงานร่วมกับ Flickr API เช่น F-Spot) โดยจะมีปุ่ม Edit Photo เพิ่มเข้ามาในรูปภาพของเราบน Flickr

Flickr มีแผนการเกี่ยวกับการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานแก้ไขรูปภาพ โดยเป็นการร่วมมือกับ Picnik
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาให้ทั้งสองสามารถใช้งานร่วมกันได้ คาดว่าจะสำเร็จพร้อมนำออกมาใช้งานได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
รายงานข่าวนี้ออกมาจากงาน Web 2.0 Summit

ในโอกาสที่ Creative Commons ภาษาไทยจะออกมาเร็วๆ นี้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจพอสมควรเลย

เรื่องนี้เริ่มจาก ครอบครัวชาวเท็กซัสครอบครัวหนึ่ง ไดทำการฟ้องร้อง Virgin Mobile ออสเตรเลียและ Creative Commons ในกรณีทำให้เกิดความอับอายและอดสู (grief and humiliation) ด้วยการนำรูปภาพของลูกสาวของครอบครัวนี้ ไปใช้ในป้ายโฆษณาของทาง Virgin โดยไม่ได้รับอนุญาต

หลายๆ คนแถวๆ นี้อาจจะได้ยินชื่อของ MOO บริษัทรับพิพม์ภาพภ่ายในแบบเล็กๆ กันมาบ้างแล้ว สินค้าที่ได้รับความนิยมมากๆ ของบริษัทนี้คือ mini card ที่สามารถเลือกภาพจาก Flickr มาพิมพ์เป็นนามบัตรได้ทันที ตอนนี้บริษัทนี้อาจจะเป็นที่สนใจของสาวๆ ที่เล่น Flickr กันมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ StickerBooks ที่เป็นสติกเกอร์เล่มเล็กๆ จำนวน 90 ภาพ

ที่น่าสนใจคือบริษัทนี้คิดค่าส่งอัตราเดียวทั่วโลกมาตั้งแต่แรก และตอนนี้ในช่วงเปิดตัวสินค้าใหม่นี้ค่าส่งฟรี ดังนั้นถ้าใครมีรูปใน Flickr เยอะๆ อาจจะสนใจกัน

ที่มา - MOO

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศจีนไม่สามารถเข้าไปใช้ Flickr ได้ตั้งแต่วันพฤหัสที่ผ่านมา ซึ่งทาง Flickr ก็ชี้แจงว่าเว็บไซต์ไม่มีปัญหาเทคนิคแต่อย่างใด

ทางการจีนไม่มีคำตอบใดๆ กับเรื่องนี้ นักวิเคราะห์คาดเดากันว่าจีนไม่ต้องการให้เห็นภาพจากเหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมิน ปี 1989 ซึ่งอาจถูกโพสต์ไว้บน Flickr ก็เป็นได้

ที่มา - SFGate

Yahoo จะปิดบริการ Yahoo Photos ในเร็วๆ นี้เพื่อย้ายผู้ใช้ไปยังบริการ Share รูปภาพ Flickr ที่ Yahoo ซื้อมาเพื่อแก้ปัญหาบริการต่างๆ แข่งขันกันเองภายใน ของ Yahoo

Yahoo ไม่ได้บังคับให้ย้ายไปที่ Flickr ที่เดียวแต่ยังได้เสนอทางเลือกอื่นๆ ไว้ให้ด้วย ได้แก่ Photobucket Snapfish Kodak Gallery และ Shutterfly แต่การย้ายไปที่ Flickr นั้นจะใช้เพียงการคลิกครั้งเดียว

มีใครใช้ Yahoo Photos อยู่ไหมครับเนี่ย?

ที่มา - Techcrunch

ตอนที่ Flickr โดน Yahoo! ซื้อไปในปี 2005 ทาง Yahoo! ก็สัญญาว่าสมาชิกเดิมของ Flickr จะยังใช้ได้ และสมาชิกใหม่ที่สมัครหลังจากนั้นจะใช้ล็อกอินของ Yahoo! แทน แต่นโยบายนี้เพิ่งเปลี่ยน โดยผู้ใช้ Flickr เก่าแก่หรือที่เรียกบนหน้าเว็บว่า Old Skool จะต้องเปลี่ยนไปใช้ Yahoo ID ภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้

ผู้ใช้กลุ่มนี้ไม่พอใจที่ตัวเองจะต้องเปลี่ยนวิธีการล็อกอิน เลยรวมกลุ่มกันประกาศว่าจะเลิกใช้ Flickr และไปใช้บริการยี่ห้ออื่น เช่น Zoomr แทน ดูรายละเอียดได้ที่กลุ่ม Flick off

ทาง Yahoo! เองให้ข้อมูลว่าปัจจุบันผู้ใช้ 95% ใช้ Yahoo ID กันหมดแล้ว เหลือกลุ่มสมาชิกที่ใช้มาตั้งกะเว็บเปิดใหม่ๆ อีก 5% เท่านั้น