ประเด็นสำคัญของแวดวงคลาวด์คือการให้บริการได้ต่อเนื่อง (availability) ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถทำได้เพราะเหตุสุดวิสัยบางอย่าง ล่าสุด Google Compute Engine ในยุโรปต้องล่มไปเพราะเหตุ "ฟ้าผ่า"
เหตุเกิดที่ศูนย์ข้อมูลของกูเกิลในเมือง St. Ghislain ที่ประเทศเบลเยียม (ให้บริการโซน europe-west1-b) เกิดเหตุฟ้าผ่าที่โครงข่ายไฟฟ้าท้องถิ่น 4 ครั้งติดต่อกัน ทำให้ระบบไฟฟ้าของศูนย์ข้อมูลใช้งานไม่ได้ชั่วขณะ ระบบสตอเรจของกูเกิลมีแบตเตอรี่สำรองในตัว สามารถทำงานต่อได้ตามปกติ แต่มีสตอเรจส่วนน้อยที่กลับมีปัญหาแบตเตอรี่ไม่ทำงานจนล่มไป ซึ่งวิศวกรของกูเกิลสามารถแก้ไขให้กลับมาทำงานได้ในภายหลัง
Google Cloud Platform ประกาศเลื่อนชั้นบริการคลาวด์ 2 ตัวจากเดิมเป็นรุ่นเบต้า มาเป็นรุ่น general availability
ข้อวิตกกังวลประการสำคัญของการใช้คลาวด์แบบ public cloud คือความปลอดภัยของข้อมูลที่ไปเก็บอยู่บน "เซิร์ฟเวอร์ตัวไหนก็ไม่รู้" นอกองค์กร ถึงแม้ผู้ให้บริการคลาวด์จะมีตัวช่วยเข้ารหัสข้อมูล ก็ยังมีคำถามอยู่ดีว่าผู้ให้บริการเองสามารถดูข้อมูลของเราได้หรือไม่
ล่าสุด Google Cloud Platform จึงอนุญาตให้ฝั่งผู้ใช้งานสามารถใช้คีย์ของตัวเองเข้ารหัสข้อมูลบนคลาวด์ของกูเกิลได้ บริการนี้เรียกว่า Customer-Supplied Encryption Keys ซึ่งยังอยู่ในช่วงทดสอบแบบเบต้า และให้บริการฟรีสำหรับลูกค้าทุกรายโดยไม่คิดเงินเพิ่ม
กูเกิลเปิดโครงการ Switch and Save ดึงคนเข้าใช้งาน Cloud Storage Nearline หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โครงการนี้จะเปิดให้ลูกค้าที่สัญญาว่าจะใช้งานพื้นที่ 1PB ภายในสามเดือน ได้รับพื้นที่ 100PB ไปใช้งานฟรี 6 เดือน
นอกจากนี้กูเกิลยังปรับปรุงบริการ Cloud Storage Nearline เพิ่มเติม คือ รองรับ on-demand I/O ให้สามารถรับส่งไฟล์ด้วยแบนด์วิดท์เกินกว่า 4MB/s ได้แล้ว และเปิดบริการ Cloud Storage Transfer Service ดึงข้อมูลจากบริการอื่นเข้ามาไว้ใน Cloud Storage Nearline
Google Compute Engine รองรับระบบปฏิบัติการ Windows Server มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว วันนี้กูเกิลประกาศสถานะ general availability (GA) โดยมีให้เลือกทั้ง Windows Server 2008 R2 และ 2012 R2
กูเกิลเลือกประกาศข่าวนี้ในวันที่ Windows Server 2003 หมดอายุซัพพอร์ต เพื่อกระตุ้นให้องค์กรที่อยากย้ายระบบจาก Windows Server 2003 หันมาอัพเกรดเป็น 2008/2012 ที่รันบน Compute Engine แทน เพื่อจะได้ไม่ต้องลงทุนกับค่าฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ใหม่ และจ่ายเงินแค่เท่าที่ใช้งาน
เราเพิ่งเห็นข่าว Google Code ประกาศปิดโครงการ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยคำแนะนำของกูเกิลคือให้ย้ายไปใช้ GitHub หรือ Bitbucket แทน
แต่ล่าสุดกูเกิลกลับเปิดตัวบริการลักษณะเดียวกันอย่างเงียบๆ ในชื่อว่า Google Cloud Source Repositories โดยเป็นสมาชิกหนึ่งของบริการ Google Cloud Platform
Google Cloud Source Repositories คือบริการ Git แบบโฮสต์อยู่บนคลาวด์ของกูเกิล (แบบเดียวกับ GitHub) แต่ก็เพิ่มฟีเจอร์ต่อเนื่องกันอย่าง Source Code Editor ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และ Cloud Debugger สำหรับดีบั๊กโค้ดที่รันอยู่บน Compute Engine หรือ App Engine ได้ด้วย
ศูนย์ข้อมูลของกูเกิลเป็นเรื่องที่กูเกิลปิดเป็นความลับมาโดยตลอดว่ามีสถาปัตยกรรมภายในอย่างไรบ้าง แม้จะมีการบรรยายเป็นครั้งๆ แต่ก็ไม่ลงรายละเอียดมากนัก ที่งาน Open Network Summit ปีนี้กูเกิลบรรยายถึงการออกแบบระบบเครือข่ายในศูนย์ข้อมูลของตัวเอง เรียกว่า Google Jupiter Superblock
กูเกิลระบุว่า Jupiter เป็นระบบเครือข่ายรุ่นที่ 5 ของกูเกิลนับแต่เริ่มออกแบบระบบเครือข่ายของตัวเองเมื่อสิบปีก่อน โดย Jupiter fabric มีความสามารถในการส่งข้อมูลถึง 1 เพตาบิตต่อวินาที
กูเกิลลดราคาบริการกลุ่มเมฆ Google Cloud Platform อีกครั้ง หลังจากลดไปรอบก่อนประมาณ 10% เมื่อเดือนตุลาคม 2014
กูเกิลยืนยันว่าการลดราคาเป็นไปตามนโยบายของบริษัท ที่มองว่าต้นทุนของการประมวลผลจะลดลงเรื่อยๆ ตามกฎของมัวร์ (ดูกราฟท้ายข่าวประกอบ) โดยรอบนี้ instance ขนาดเล็กที่สุด (micro) ลดราคาลง 30%, ส่วนรุ่น standard ลด 20%, รุ่นใหญ่หน่อย high cpu ลดน้อยหน่อย 5%
กูเกิลเปิดตัวบริการฐานข้อมูล Google Cloud Bigtable ที่สร้างมาจากระบบ Bigtable ที่กูเกิลใช้งานภายในมาเป็นเวลานาน มีข่าวว่ากูเกิลอาจจะเปิดบริการนี้สู่ภายนอกมาตั้งแต่ปี 2008 ตอนนี้ก็เปิดบริการจริงแล้ว
Google Cloud Bigtable จะใช้ API เดียวกับ Apache HBase ทำให้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาสำหรับใช้งานภายในกันอยู่แล้วน่าจะย้ายมาทำงานบนแพลตฟอร์มของกูเกิลได้ไม่ยาก
กูเกิลโชว์ความสามารถของ Google Cloud Bigtable ว่าคุ้มค่ากว่าการติดตั้งระบบฐานข้อมูลเองมากเพราะได้ประสิทธิภาพต่อราคาที่ดีกว่าหลายเท่าตัว โดยเฉพาะประสิทธิภาพการอ่านฐานข้อมูล
กูเกิลประกาศเทคโนโลยีใหม่ Google Actual Cloud Platform สร้างศูนย์ข้อมูลลอยฟ้าเป็นก้อนเมฆ
ข้อได้เปรียบของการสร้างศูนย์ข้อมูลบนเมฆจริงๆ คือ การดึงพลังงานออกมาจากพายุหากมีพลังงานเหลือเฟือช่วงพายุฝนฟ้าคะนองก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ IOP ได้อีก 50%, ตัวเซิร์ฟเวอร์อยู่นอกการควบคุมของประเทศใดๆ เพราะลอยไปเรื่อยๆ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้จากการเลือกเซิร์ฟเวอร์ในโซน "troposphere-1a", และกระจายข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงสุด เพราะสามารถสั่งให้ข้อมูลลงมาสู่พื้นโลกกับสายฝนได้
กระบวนการมอนิเตอร์เซิร์ฟเวอร์ของ Google Actual Cloud จะมอนิเตอร์สภาพอากาศไปพร้อมกันว่ามีพายุให้ดึงพลังงานได้หรือยัง หรือมีความชื้นสูงพอสำหรับทำฝนหรือไม่ ข้อมูลมอนิเตอร์เซิร์ฟเวอร์อาจจะนำมาใช้พยากรณ์อากาศได้ในอนาคต
Google Cloud Platform เปิดตัวบริการเก็บข้อมูลใหม่ที่เรียกว่า Google Cloud Storage Nearline เป็นทางเลือกสำหรับเก็บข้อมูลที่ใช้ไม่บ่อยนัก ไม่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วทันที แต่ในราคาที่ถูกกว่าข้อมูลแบบปกติมาก
โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแยกประเภทข้อมูลในสตอเรจได้ 2 แบบ คือข้อมูลออนไลน์ที่ต้องใช้งานบ่อยๆ สั่งเรียกข้อมูลแล้วได้ทันที (ตัวเลขของกูเกิลคือภายใน 0.1 วินาที) กับข้อมูลที่นานๆ ใช้ที แต่ต้องเก็บไว้ตลอดไป เช่น ข้อมูลที่ต้องเก็บไว้รอการตรวจสอบประจำปี หรือข้อมูลแบ็คอัพ เป็นต้น ข้อมูลแบบหลังมักเรียกว่า "ข้อมูลออฟไลน์" หรือ "cold storage" โดยมีราคาต่อพื้นที่ถูกกว่าแบบแรก ซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยการเข้าถึงข้อมูลที่ช้ากว่าแบบแรกมาก (อาจจะนาน 3 ชั่วโมงขึ้นไป)
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Google Compute Engine มีปัญหาอีกครั้งเป็นระยะเวลา 43 นาที ส่งผลให้ผู้ใช้บางส่วนไม่สามารถติดต่อเซิร์ฟเวอร์ได้ หรือติดต่อได้แต่ทำงานช้า เหตุการณ์นี้นับเป็นครั้งที่สองในปีนี้หลังจาก GCE เพิ่งมีปัญหาไปครั้งที่แล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
กูเกิลอธิบายสาเหตุของปัญหาครั้งนี้ว่าเกิดจากการอัพเดตคอนฟิกของระบบเครือข่ายเพื่อให้แยกเครือข่ายระหว่างเซิร์ฟเวอร์ออกจากกันให้ชัดเจนขึ้น ทางกูเกิลได้ทดสอบก่อนนำคอนฟิกใหม่ขึ้นระบบจริงแล้ว แต่คอนฟิกใหม่ก็ยังส่งผลกระทบต่อเซิร์ฟเวอร์บางส่วนโดยที่กูเกิลคาดไม่ถึง
Google Cloud Platform เริ่มบริการใหม่ Pub/Sub เป็นเบต้า (ไม่ประกันคุณภาพบริการและอาจจะเปลี่ยน API โดยไม่เข้ากับของเดิม) สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างแอพพลิเคชั่น เช่น การสื่อสารระหว่างระบบ HR ที่อาจจะสั่งย้ายข้อมูลพนักงานข้ามสาขา, ระบบเซ็นเซอร์เก็บข้อมูลแล้วส่งกลับเซิร์ฟเวอร์
โดยเบื้องต้นให้บริการที่ 10,000 ข้อความต่อวินาที รวมให้บริการยิงข้อความได้หนึ่งล้านข้อความต่อวัน และรับข้อความรวมสองล้านข้อความต่อวัน
กูเกิลระบุว่าบริการนี้เอาออกมาจากโครงสร้างของกูเกิลเดิม สำหรับ Google Cloud Monitoring และ Snapchat
ที่มา - Google Cloud Platform
กูเกิลเปิดเครื่องมือ Google Cloud Security Scanner ที่สามารถสแกนเว็บหาช่องโหว่หลักคือ cross-site scripting (XSS) และ mixed content scripting ความพิเศษของเครื่องมือนี้คือมันสามารถสแกนได้แม้แต่เว็บที่ใช้จาวาสคริปต์อย่างหนัก
กระบวนการสแกน XSS จะส่งข้อมูลที่ยิงกลับไปยัง Chrome DevTools หากตัวสแกนสามารถโพสข้อความใดๆ ที่กระตุ้นให้ DevTools ทำงานได้ก็แสดงว่ามีช่องโหว่ XSS
ตัวสแกนอัตโนมัติเช่นนี้คงไม่ได้ช่วยกวาดล้างช่องโหว่ให้หมดไป แต่ช่องโหว่ง่ายๆ ที่รู้จักกันดีก็น่าจะช่วยแจ้งเตือนล่วงหน้าได้มาก
ใช้ได้เฉพาะ URL ที่เป็น App Engine เท่านั้น
Google Cloud Platform รองรับ Hadoop มานานแต่เป็น Apache Hadoop มาตรฐาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางกูเกิลก็ร่วมกับ Hortonworks ผู้พัฒนาดิสทริบิวชันหนึ่งของ Hadoop ชื่อว่า Hortonworks Data Platform (HDP) 2.2 มารองรับบน Google Cloud Platform เป็นทางการ
HDP 2.2 จะมาพร้อมกับ Hadoop 2.6.0 และชุดซฟต์แวร์อื่นๆ ได้แก่ Pig, Hive, HBase, Phoenix, Accumulo, Storm, Spark, Solr, Tez, Slider, Falcon, Kafka, Sqoop, Flume, Ambari, Oozie, Zookeeper, Knox, และ Ranger
ในงาน Google I/O 2014 ปีที่แล้ว กูเกิลโชว์ Google Cloud Monitoring บริการตรวจสอบอัพไทม์และประสิทธิภาพของแอพบนกลุ่มเมฆ (เป็นผลงานของบริษัท Stackdriver ที่กูเกิลซื้อมาอีกทอดหนึ่ง)
วันนี้ Cloud Monitoring เปิดให้ทดสอบแบบเบต้าแล้ว โดยลูกค้า Cloud Platform ทุกคนมีสิทธิใช้เครื่องมือตัวนี้ได้ฟรี ความสามารถของมันมีตั้งแต่การดูสถานะโดยรวมของระบบ อัพไทม์ อัตราการใช้งานตามโควต้า มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง และประสิทธิภาพของแอพที่รันอยู่
ใครที่เป็นลูกค้า App Engine หรือ Compute Engine ก็สามารถทดสอบกันได้เลยครับ
ในงาน Google I/O เมื่อกลางปีนี้ กูเกิลโชว์เทคโนโลยี Cloud Dataflow ซึ่งเป็นการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากบนกลุ่มเมฆ โดยเป็นการพัฒนาจากแนวคิด MapReduce ที่กูเกิลเป็นคนสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2004 ให้เหมาะสมกับยุคสมัย
ที่ผ่านมา Cloud Dataflow ยังมีสถานะเป็นแค่ของโชว์เท่านั้น วันนี้กูเกิลเปิด Cloud Dataflow SDK ให้ลองใช้งานแล้ว โดยเริ่มต้นจากภาษา Java ก่อนเป็นอย่างแรก และจะมี Python 3 ตามมาเป็นลำดับต่อไป (สถานะของ Cloud Dataflow ในปัจจุบันคือเป็นรุ่น alpha)
Google Cloud Platform บริการกลุ่มเมฆของกูเกิล ประกาศรองรับซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์ของค่ายไมโครซอฟท์เพิ่มเติม ดังนี้
กูเกิลจัดงาน Google Cloud Platform Live เพิ่มฟีเจอร์ให้ระบบคลาวด์อีกหลายอย่าง
กูเกิลประกาศข่าวซื้อบริษัท Firebase ผู้ให้บริการโฮสต์สำหรับซิงก์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
Firebase ขายบริการกลุ่มเมฆสำหรับนักพัฒนาแอพที่ต้องการซิงก์ข้อมูลจำนวนมากๆ แต่ไม่อยากทำระบบเซิร์ฟเวอร์เอง ก็สามารถเช่าเซิร์ฟเวอร์ของ Firebase สำหรับการซิงก์ข้อมูลแทนได้ (ราคาเริ่มต้นที่ 49 ดอลลาร์ต่อเดือน มีบริการฟรีให้ใช้งาน จำกัดที่ 50 การเชื่อมต่อ)
ปัจจุบัน Firebase มีลูกค้าเป็นนักพัฒนามากกว่า 1 แสนราย ตัวไลบรารีใช้งานได้กับแพลตฟอร์มดังๆ เช่น iOS, Android, JavaScript (ยังมี REST API ให้เลือกใช้)
สมรภูมิกลุ่มเมฆยังเปิดสงครามราคากันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกูเกิลออกมาเขี่ยลูกเปิดเกมอีกรอบ โดยหั่นราคา Google Compute Engine ลงเฉลี่ย 10% โดยมีผลกับเครื่องทุกขนาดในทุกภูมิภาค
ผลของการหั่นราคารอบนี้ทำให้ instance บางประเภทถูกลงพอสมควร เช่น High Mem ในเขตสหรัฐอเมริกา ลดจาก 0.082 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 0.074 ดอลลาร์ (ดูตารางประกอบ)
กูเกิลบอกว่าราคาของพลังประมวลผลนั้นถูกลงเรื่อยๆ ตามหลัก Moore's Law และหวังว่าการลดราคาครั้งนี้จะจูงใจให้นักพัฒนามาใช้บริการกลุ่มเมฆมากขึ้น ช่วยลดภาระการดูแลระบบลง
ต้องรอดูว่าคู่แข่งทั้ง AWS และ Azure จะลดราคาตามกันเมื่อไรครับ
คนที่ติดตามงานประกวดสตาร์ตอัพในบ้านเรา คงเห็นรายชื่อของรางวัลเป็นเครดิตสำหรับบริการกลุ่มเมฆ Azure อยู่บ่อยๆ (ช่วงหลังเริ่มมี AWS เข้ามาบ้างแล้ว) ล่าสุดกูเกิลก็กระโดดเข้ามาในเกมนี้กับโครงการ Cloud Platform for Startups
โครงการนี้กูเกิลจะแจกเครดิตสำหรับใช้ Google Cloud Platform มูลค่าสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ มีอายุ 1 ปี สามารถใช้ได้กับบริการทุกตัวใต้แบรนด์ Google Cloud Platform แถมยังได้บริการหลังขายแบบเต็มที่เหมือนกับซื้อใช้เอง (24 ชั่วโมง 7 วัน) โดยผู้มีสิทธิต้องเป็นสตาร์ตอัพที่ระดมทุนได้น้อยกว่า 5 ล้านดอลลาร์ และมีรายรับน้อยกว่าปีละ 500,000 ดอลลาร์
กูเกิลใกล้ปิดดีลเข้าซื้อ Zync บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับนักออกแบบมืออาชีพบนกลุ่มเมฆ แต่ไม่ระบุตัวเลขการเข้าซื้อออกมา
Zync เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกาที่ก่อตั้งเมื่อปี 2011 โดยมีผลิตภัณฑ์ตัวเด่นคือ Zync Reader บริการเรนเดอร์กราฟิกทั้ง 2D และ 3D รวมถึงสามารถเก็บไว้บนกลุ่มเมฆได้ด้วย โดยมีผลงานคือทีมผลิตนำไปใช้กับการสร้างภาพยนตร์อย่าง Transformer, Looper, และ Star Trek: Into Darkness อีกด้วย
Belwadi Srikanth ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Google Cloud Platform ระบุว่าการมาของ Zync จะช่วยเติมเต็มในส่วนของบริการเรนเดอร์กราฟิก ซึ่งทีผ่านมากูเกิลไม่มีในส่วนนี้มาก่อน แน่นอนว่าหลังการเข้าซื้อเสร็จสิ้น ทีมของ Zync จะเข้าไปรวมกับ Google Cloud Platform ครับ
ผ่านไปแล้วกับฟุตบอลโลก 2014 ที่ในที่สุดเยอรมนีก็ได้แชมป์โลกไป หากพูดถึงฟุตบอลโลกและวงการไอทีก็คงหนีไม่พ้นที่จะพูดถึงการทำนายผลการแข่งขันตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นต้นมาโดย Cortana จากไมโครซอฟท์ (เบื้องหลังคือบริการ Bing Predicts) ที่ก่อนหน้ารอบชิงชนะเลิศและรอบชิงที่สามนั้นทายถูกมาตลอด แต่ท้ายที่สุด Cortana ทายผิดไป 1 ครั้ง คือรอบชิงที่สามนั้นทายว่าบราซิลจะชนะแต่สุดท้าย
กูเกิลเปิดตัว Google Cloud Platform รุ่นใหม่ อัพเดตทั้ง API เดิมและเปิดบริการใหม่เพิ่มเติมอีกสองบริการ ได้แก่ Cloud Dataflow และ Cloud Monitoring