Apple iOS
จากข่าวเก่า "การ Jailbreak, Unlock และไรท์แผ่น DRM จะไม่ผิดกฏหมายอีกต่อไปในสหรัฐ" และตอนนี้@MuscleNerd ก็ได้ทำการ Jailbreak แบบใหม่ซึ่งสามารถทำได้ผ่าน Safari ที่มากับเครื่อง iPhone iPod และ iPad ทุกรุ่น!!! นั่นหมายความว่าหากการ Jailbreak นี้ได้ผลจริงจะทำให้ขั้นตอนที่ผู้ใช้ทั่วไปจะทำเองได้นั้นจะง่ายขึ้นอีกเยอะ แต่ตอนนี้แนะนำว่าอย่าพึ่งลองทำครับเพราะอาจทำให้เครื่อง Brick ได้ และรายงานล่าสุดบอกว่าการ Jailbreak วิธีนี้จะไม่สามารถทำให้ iPhone 4 ใช้งาน FaceTimeได้
สำหรับคนที่ต้องการทำ jailbreak ให้กับ iPhone 4 และอุปกรณ์ใกล้เคียงที่รัน iOS 4.0.1 แบบง่ายๆ สามารถเลือกใช้บริการ JailbreakMe ซึ่งขั้นตอนมีเพียงแค่เข้าเว็บ http://jailbreakme.com เท่านั้น
เว็บนี้เป็นผลงานของ @comex แฮ็กเกอร์ชื่อดัง คนที่ไม่ชัวร์อาจดูขั้นตอนพร้อมภาพประกอบอย่างละเอียดจาก Redmond Pie ตอนนี้มีรายงานว่า jailbreak ด้วยวิธีนี้จะทำให้ FaceTime และ MMS มีปัญหาครับ
อย่าลืมว่า jailbreak ทำให้ประกันหมด และอาจสร้างความเสียหายแก่ตัวเครื่องได้
มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งได้เข้าไปสอบถามในฟอรัมของแอปเปิล เกี่ยวกับปัญหาแอพพลิเคชันปฏิทิน ที่ว่ารายการปฏิทินที่กำลังจะเกิดขึ้น (upcoming event) ยุ่งเหยิงและมีการแสดงผลที่ใช้การไม่ได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นใน iOS 4 รวมถึง iOS 4.0.1 ล่าสุดอีกด้วย
ทางแอปเปิลยังไม่ได้คอมเมนต์เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว แต่มีผู้ใช้ส่วนหนึ่งค้นพบหลายวิธีที่จะแก้ไขบั๊กดังกล่าวแล้ว
ที่มา: Neowin.net
แม้ว่าผู้ใช้ iPhone 3GS อาจจะมีความสุขกับการใช้งาน iOS 4 แต่สำหรับผู้ใช้ iPhone 3G ที่ได้ทำการอัพเกรดมาใช้ iOS 4 หลาย ๆ คนกลับพบกับปัญหามากกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางด้านประสิทธิภาพและความเร็วในการใช้งานไอโฟน
โดยปัญหาที่พบเมื่อทำการติดตั้ง iOS 4 บน iPhone 3G ส่วนใหญ่ที่พบได้แก่ความเร็วของเครื่อง ที่กว่าจะโหลดหน้าต่างต่าง ๆ ขึ้นมาจนเสร็จใช้เวลามากกว่าเดิมมาก และปัญหาแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างรวดเร็วระหว่างการใช้งาน
เว็บไซต์ AppleInsider รายงานว่ามีผู้ใช้ iPhone 4 และ iPhone 3GS ที่อัพเป็น iOS 4 จำนวนมาก รายงานปัญหาที่เกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Bluetooth เข้ามา โดยอาการคือ iPhone จะตัดการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับอุปกรณ์อื่นๆ
ผู้ใช้ iPhone 3GS รายงานว่าก่อนอัพเป็น iOS 4 ไม่เคยมีปัญหานี้
ผู้ใช้รายหนึ่งแจ้งปัญหาไปที่ AppleCare แต่ได้รับการปฏิเสธว่า "นี่ไม่ใช่ปัญหา" และผู้ใช้บางส่วนยืนยันว่า iOS 4.0.1 ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานี้
ที่มา - AppleInsider
ข่าวต่อเนื่องจาก แอปเปิลระบุ "ปัญหาสัญญาณหายเป็นเรื่องการแสดงผลผิดพลาด", แอปเปิลเตรียมปล่อย iOS 4.01 แก้ปัญหาสัญญาณตกของ iPhone 4 และ แอปเปิลแจก iOS 4.1 ให้กับนักพัฒนาแล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ iOS 4.1 Beta คือการแสดงขีดสัญญาณแบบใหม่ที่ขีดสูงขึ้น ซึ่งแอปเปิลระบุก่อนหน้านี้ว่าเป็นวิธีคำนวณที่ถูกต้องกว่าเดิม ทางเว็บไซต์ Gizmodo เลยนำขีดสัญญาณของ iOS 4.0 กับ 4.1 มาเทียบให้ดูกันแบบชัดๆ เน้นๆ
แอปเปิลได้ทำการแจก iOS 4.1 Beta สำหรับนักพัฒนาที่ได้ทำการสมัครสมาชิก iPhone Developers Program ของแอปเปิล โดยสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมในอัพเดตตัวนี้คือมี Game Center แล้ว (ก่อนหน้านี้ใครที่เคยใช้ iOS 4 Beta จะได้เห็น ๆ กันไปบ้างแล้ว)
ส่วนเรื่องการแสดงผลระดับสัญญาณก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยดูเหมือนว่าขีด ๆ บอกระดับสัญญาณจะใหญ่กว่าเดิมในอัพเดต OS ใหม่นี้ (ดูรูปประกอบกดอ่านต่อครับ) แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามหลังจากการทดสอบคร่าว ๆ โดย Engadget พบว่าจำนวนขีดนั้นน้อยลงหลังจากที่ทำการอัพเดตมาเป็น iOS 4.1
ที่มา - Engadget
ต่อจาก Android 2.2 vs iOS 4 ภาค JavaScript ซึ่งทดสอบโดย Ars Technica
ทาง Engadget มองว่าผลการทดสอบอาจไม่สะท้อนถึงรูปแบบการใช้งานจริง (เพราะทดสอบแค่ JavaScript) เลยจับ iPhone 4 มาเทียบกับ Nexus One ที่ติดตั้ง Android 2.2 ให้ดูกันแบบเน้นๆ
Engadget ทดลองโหลดเว็บไซต์ 5 เว็บ ได้แก่ BBC, New York Times, gdgt, The Onion และ Engadget เอง
ผลคือทั้งสองฝ่ายเสมอกันใน BBC, gdgt, The Onion ส่วน New York Times ผู้ชนะคือ Nexus One และ iPhone 4 เอาชนะบน Engadget ไปได้
สงครามมือถือที่ร้อนแรง โดยเฉพาะคู่ iPhone vs Android ซึ่งเห็นได้บ่อยๆ ว่าทั้งสองค่ายต่างขุดตัวเลขมาบลัฟกัน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนโปรแกรมหรือจำนวนนักพัฒนา
แต่การสำรวจล่าสุดของเว็บไซต์ AppStoreHQ ซึ่งมีฐานข้อมูลของโปรแกรมบนมือถือจำนวนมาก ได้ตัวเลขออกมาดังนี้
แม้ว่าตัวเลข 1,412 จะดูน้อยเมื่อเทียบกับยอดรวม แต่ทาง AppStoreHQ ได้วิเคราะห์เชิงคุณภาพด้วย และพบว่านักพัฒนากลุ่มนี้คือรายใหญ่อย่าง Gameloft, Facebook, AOL, Amazon, Warner Brothers, Yelp, Intuit, PayPal และ The New York Times
ทีมงานจากโครงการ Spirit Jailbreak ประสบความสำเร็จในการพอร์ต Flash Player เวอร์ชัน Android มายัง iOS แล้ว
Flash ตัวนี้ถูกตั้งชื่อว่า "Frash" พัฒนาโดย @comex โดยสร้างเลเยอร์ขึ้นมาระหว่าง iOS กับ Flash Player เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้ ในเบื้องต้นยังทำงานได้เฉพาะบน iPad แต่ตามแผนคือใช้ได้กับ iPhone 3GS ขึ้นไป
ตอนนี้โค้ดยังไม่ถูกปล่อยออกมาเพราะนักพัฒนาอยากรอให้มีเสถียรภาพระดับหนึ่งก่อน ระหว่างนี้ดูวิดีโอรอกันไปพลางๆ
ถ้าผมเป็น Adobe ผมจะส่งคนไปช่วยตา @comex พอร์ต หรือไม่ก็จับเซ็น NDA แล้วเปิดโค้ดให้ดูกันเลย
มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าแอปเปิลเตรียมอัพเดท iOS 4.01 ในสัปดาห์หน้า (คาดว่าเป็นวันจันทร์) เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณตกของ iPhone 4 เมื่อเอามือไปจับบริเวณขอบตัวเครื่อง
หากแอปเปิลแก้ปัญหานี้ด้วยการอัพเดทซอฟต์แวร์ได้สำเร็จก็คงจะรอดตัวไป แต่หากทำไม่ได้และกลับเป็นปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ แอปเปิลคง "งานเข้า" แน่นอน
ที่มา: AppleInsider ผ่าน Boy Genius Report
CrunchGear ได้รายงานข่าวลือเมื่อสองวันที่แล้วว่าแอปเปิลจะติดตั้ง iOS ลง iMac รุ่นปรับปรุง ซึ่งจะเปิดตัวในอีก 60 วันข้างหน้า โดย iMac รุ่นปรับปรุงนี้จะลงทั้ง Mac OS X และ iOS หากผู้ใช้ต้องการเปิดใช้งานฟีเจอร์ควบคุมด้วยการสัมผัสหน้าจอ iMac จะสวิตช์ไปยัง iOS ให้
Neowin.net ตั้งข้อสังเกตว่า หากข่าวนี้เป็นจริง คงเป็นเหตุผลว่าทำไมแอปเปิลถึงเปลี่ยนชื่อจาก iPhone OS เป็น iOS
ที่มา: CrunchGear ผ่าน Neowin.net
หลังจากที่แอปเปิลได้ปล่อยให้อุปกรณ์ที่รองรับ iOS อัพเดทเป็น iOS 4 ในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยอุปกรณ์ที่แอปเปิลประกาศว่าสามารถอัพเดทได้คือ iPhone 3G, 3GS และ iPod Touch Gen2, Gen3 แต่ไม่ใช่ว่าอุปกรณ์ที่ประกาศจะรองรับคุณสมบัติใหม่ใน iOS 4 ได้หมดทุกประการ ส่วนอุปกรณ์รุ่นแรกของ iPhone และ iPod Touch นั้นถูกทิ้งไปตามระเบียบ ไม่สามารถอัพเดทเพิ่มเติมได้เลย
มีการจัดทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติขึ้นมา เชิญชมได้ภายในข่าว
หลังจากเปิดตัวไปได้ราวๆ หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ วันนี้เองแอปเปิลได้เปิดให้ผู้ใช้งานมือถือ iPhone 3G, 3GS รวมทั้งเครื่องเล่นเพลงสุดฮิตอย่าง iPod Touch 2Gen และ 3Gen ได้ทำการอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ นามเก๋ไก๋ว่า iOS4 อย่างเป็นทางการ
การติดตั้งเพียงเข้าไปที่ Apple Store แล้วก็เลือกดาวน์โหลดรุ่นให้ตรงกับเครื่อง ซึ่งจะมีขนาดไฟล์การอัพเดตที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 200-500 MB เลยทีเดียว
ทางเว็บเมืองนอกได้ทดลองแล้วสรุปข้อดี ข้อด้อยต่างๆ ดังนี้
ของเล่นใหม่บน iOS4
Millennial Media บริษัทโฆษณาบนมือถือ ซึ่งอ้างว่าเข้าถึง 82% ของผู้ใช้เว็บบนมือถือในสหรัฐ เปิดเผยส่วนแบ่งตลาดมือถือของสหรัฐ โดยอิงจากข้อมูลที่ตัวเองมี ประเด็นแบบสรุปๆ มีดังนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแอปเปิลได้ประกาศเปิดรับ App สำหรับ iOS 4 ที่สามารถรองรับการใช้งานหลาย App พร้อมกันได้ (Multitasking) ล่าสุดตอนนี้ App แรกที่รองรับการใช้งาน Multitask นี้ได้ถูกส่งขึ้นไปบน App Store โดยแอปเปิลแล้ว โดย App ตัวนี้คือ Dropbox ซึ่งเป็น App สำหรับแชร์และ Sync ไฟล์
สิ่งที่จะสามารถสังเกตได้ทันทีว่า App ไหนรองรับ Multitasking บน iOS 4 หรือไม่คือการลองปิดและเปิด App ใหม่หรือการใช้ Fast Switching โดยจะสังเกตได้เลยว่าความเร็วในการโหลด App นั้นจะเร็วมาก น่าเสียดายที่ Dropbox นี้ไม่มีคุณสมบัติอื่น ๆ มากมายที่รองรับ API ของ iOS 4 นอกเสียจากโหลดเร็วขึ้นเท่านั้น
ในหน้า Adobe Labs ได้ยืนยันอุปกรณ์ที่รองรับ Flash Player 10.1 จะมีทั้ง Windows Phone 7, Android, Palm webOS และ Symbian S60 V5 และเป็นที่แน่ชัดว่า iOS จากแอปเปิลยังไม่รวมอยู่ในรายชื่อดังกล่าวในขณะนี้
Flash Player 10.1 บนมือถือจะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม ดังนี้
ก่อนหน้านี้ไม่นานเว็บ MacRumors ได้ทำการโพสข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าแอปเปิลจะปล่อย App ออกมาบน iOS สำหรับการซื้อสินค้าจากแอปเปิลออนไลน์ และการจองบริการล่วงหน้าก่อนใช้บริการ Apple Retail Store ล่าสุดแอปเปิลได้ปล่อย App ตัวนี้ออกมาจริง ๆ แล้วตามข่าวลือ
โดย App ตัวนี้สามารถให้ผู้ใช้เลือกทำการซื้อ iPhone 4 ล่วงหน้า (Pre-Order) และการค้นหาตำแหน่งร้าน Apple Store นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ผ่านทาง App ไม่ต่างกับการซื้อสินค้าผ่านทางเว็บ Apple Online Store เลยด้วย
ที่มา - MacRumors
บริษัทวิจัยตลาด Quancast ได้สำรวจตลาดของระบบปฏิบัติการมือถือ (เฉพาะในสหรัฐ) โดยอ้างอิงตัวเลขจากผู้ใช้เว็บบนมือถือ แล้วดูว่าใช้ระบบปฏิบัติการอะไรบ้าง
ที่หนึ่งยังเป็น iOS/iPhone OS ตามคาด ด้วยส่วนแบ่ง 58.8% ส่วนอันดับสอง Android ตามคาดเช่นกัน 19.9% ส่วนแพลตฟอร์มของ RIM แม้จะมียอดขายเครื่องสูงเป็นอันดับหนึ่งในสหรัฐ แต่ส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้เว็บบนมือถือมีแค่ 10.4%
อย่างไรก็ตามถ้าพิจารณาจากอัตราการเติบโต มีเพียง Android แพลตฟอร์มเดียวที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ถ้าเทียบตัวเลขจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โตขึ้น 12.2% จากเดิม ส่วน iPhone เมื่อต้นปี 2009 มีส่วนแบ่งเกือบ 80% ตอนนี้ลงมาเหลือ 58.8% (ดูกราฟด้านใน)
แอปเปิลได้ปรับเนื้อหาในข้อบังคับหมวดที่ 3.3.2 ใน iOS SDK ซึ่งห้ามการใช้ interpreted code (กระทบ Flash โดยตรง) เสียใหม่
จากเดิมหัวข้อ 3.3.2 ห้าม interpreted code อย่างเด็ดขาด ถูกแอปเปิลแก้ไขใหม่โดยเพิ่มข้อความว่า "สามารถทำได้ถ้าได้รับอนุญาตจากแอปเปิลเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า"
การปรับนโยบายครั้งนี้มีเพื่อให้เกมที่ใช้ภาษาอื่นในการพัฒนา เช่น Lua (ซึ่งนิยมมากในวงการเกม) หรือใช้เอนจินเกมอย่าง Unity 3D ไม่ขัดกับนโยบายของแอปเปิลเอง ส่วน Flash ดูจากเงื่อนไขแล้ว ไม่น่าจะมีหวังเช่นเดิม
Rich Dellinger อาจจะไม่ใช่ชื่อที่ใคร ๆ ในวงการก็รู้จัก แต่เขาเป็นผู้ที่ให้กำเนิดระบบ Notifications หรือระบบแจ้งเตือนบน webOS ซึ่งถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่มีระบบแจ้งเตือนที่ไม่รบกวนการใช้งานของผู้ใช้ดีอันดับต้น ๆ ของวงการ
ล่าสุด เขากลายเป็นหนึ่งในพนักงานของแอปเปิลไปแล้ว โดยได้นั่งเก้าอี้ Senior UI Designer ที่แอปเปิลแทน หลังจากที่ Palm ได้ถูกซื้อไปโดย HP
คงเดาไม่ยากแล้วใช่ไหมครับ ว่า iOS 5 จะมีอะไรใหม่
ที่มา - Engadget