Apple iOS
หลังจากที่ปล่อยให้หลายคนรอคอยมานานแสนนาน ในที่สุดกูเกิลก็ได้เปิดตัวเว็บ Google Maps สำหรับ Android, iOS แล้ว
นอกจากจะมีฟีเจอร์ที่เหมือนกับแอพฯ อย่างการแบ่งปันตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน การดูภาพถ่ายแต่ละพื้นที่จากดาวเทียม สภาพจราจร และการค้นหาเส้นทางแล้ว Google Maps เวอร์ชันบนเว็บบนมือถือยังมีฟีเจอร์เข้าถึง MyMaps ที่สร้างจากหน้าเว็บบนเดสก์ทอป รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งที่ผู้ใช้ระบุตำแหน่งเอาไว้ได้ด้วย (หากผู้ใช้ล็อกอินเข้า account ของตน)
ที่มา: Electronista
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ นักพัฒนาแอพให้กับ iOS หลาย ๆ คนได้รับจดหมายจากบริษัท Lodsys ว่าพวกเขาได้ละเมิดสิทธิบัตรการซื้อส่วนเสริมของแอพจากภายในแอพ (In-App Purchase) ของบริษัท แม้ว่าในความจริงแล้วขั้นตอนในการซื้อส่วนเสริมเหล่านี้จะต้องดำเนินการผ่าน iTunes ของแอปเปิล
บริษัท Lodsys ที่ไม่เป็นที่รู้จักนี้ได้บอกว่านักพัฒนาที่ได้รับจดหมายทุกคนจะถูกฟ้อง หากไม่ทำการจ่ายค่าตอบแทนและบริษัทยังอ้างอีกว่าพวกเขามีสิทธิในการเข้าถึง 0.575% ของรายได้จากการซื้อส่วนเสริมภายในแอพทั้งหมดภายในสหรัฐอเมริกา นั่นก็หมายความว่าหากนักพัฒนามีรายได้ในส่วนนี้ 1 ล้านดอลลาร์ บริษัทนี้จะได้ไป 5,750 ดอลลาร์
วันนี้ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Windows Azure Toolkit สำหรับ iOS และ Android รวมทั้งเผยรายละเอียดอัพเดต toolkit สำหรับ Windows Phone รายละเอียดมีดังนี้
ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย toolkit ให้นักพัฒนาให้ดาวน์โหลดได้แล้ว รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ข้างล่าง
Umeng ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับผู้พัฒนาอุปกรณ์พกพา ได้เปิดเผยรายงานทางสถิติของการใช้งานอุปกรณ์ iOS ในประเทศจีนจากข้อมูลในช่วงไตรมาสแรกของปี พบว่า
เมื่อมีอัพเดตใหม่ ๆ สำหรับอุปกรณ์ที่รันระบบปฏิบัติการ iOS ของแอปเปิล ผู้ใช้จำเป็นที่จะต้องทำการ Sync อุปกรณ์นั้น ๆ เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรม iTunes ติดตั้งอยู่เพื่อที่จะทำการอัพเดต แต่ 9to5Mac รายงานว่าแอปเปิลอาจจะเปลี่ยนมาใช้การอัพเดตแบบ Over-the-air (OTA) ผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายคล้าย ๆ กับมือถือ Android ตั้งแต่ iOS 5 เป็นต้นไป
จากปัญหาการเก็บข้อมูล Location ของผู้ใช้งานที่เป็นปัญหา แอปเปิลก็ออกอัพเดท iOS 4.3.3 ออกมาตามคาดเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานสามารถอัพเดทผ่าน iTunes ได้เช่นเคย โดยรายการแก้ไขที่ประกาศออกมาเป็นเรื่องฐานข้อมูล Location ทั้งหมด
ที่มา: Mashable
กลุ่มนักพัฒนาที่เรียกตัวเองว่า Infini Dev Team (ไม่ใช่กลุ่มเดียวกันกับ iPhone Dev Team) ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาพบวิธีที่จะสามารถทำให้ไอโฟนสามารถดาวน์โหลด App ผ่านทางเบราว์เซอร์ได้โดยไม่ต้องพึ่ง App Store หรือ Cydia อีกต่อไป โดยพวกเขาได้ให้ชื่อ App Store แห่งนี้ว่า "Lima"
สำหรับวิธีการดาวน์โหลด App ผ่านเบราว์เซอร์นี้ทำงานลักษณะเดียวกันกับการโหลด App บน Android คือเพียงแค่ URL ก็เพียงพอแล้วสำหรับการดาวน์โหลดและค้นหา App นับได้ว่าเป็นทางเลือกเพิ่มอีกทางสำหรับผู้ที่ Jailbreak แล้ว
Lima เองก็จะมีระบบจัดการ Repositories ทั้งหลายและระบบ Back Up ข้อมูลให้กับผู้ใช้ ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้วิธี Back Up ผ่านโปรแกรมอื่น ๆ เช่น xBackup หรือ PKGBackup อีกต่อไป
หลังจากที่แอปเปิลได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาการตรวจจับพิกัดของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ตอนนี้ BGR ได้ออกมารายงานว่าแอปเปิลได้เตรียมอัพเดต iOS เวอร์ชั่น 4.3.3 เพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะแล้ว โดยจากรายงาน iOS 4.3.3 มีการปรับปรุงดังนี้:
เว็บไซต์ 9 to 5 Mac รายงานโดยอ้างข้อมูลจากนักพัฒนาแอพฯ หลายรายว่าแอพฯ ของพวกเขากำลังถูกทดสอบบน iOS 5 (โดยดูได้จาก log ไฟล์ที่ถูกส่งกลับมาจากแอพฯ เหล่านั้น) นอกจากนั้นยังมีการยืนยันว่าแอปเปิลกำลังทดสอบ iOS 5 บน iPhone 3GS อีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือ หากแอปเปิลกำลังทดสอบการรันแอพฯ บน iOS 5 อย่างกว้างขวางจริงเราอาจได้เห็น iOS 5 รุ่น Developer Release ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และทำให้ข่าวลือก่อนหน้านี้ที่คาดว่าแอปเปิลจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ iOS 5 ที่งาน WWDC มีความเป็นไปได้สูงอีกด้วย
ที่มา: 9 to 5 Mac
สงสัยว่าการที่ "Windows Phone 7 Marketplace มีแอพเกิน 10,000 แล้ว" อาจหมายถึงการเติบโตที่ไม่เพียงพอของแอพ (ถ้าไม่ใช่ด้านปริมาณก็ด้านคุณภาพ) ทำให้ตอนนี้ไมโครซอฟท์ต้องเปิดเว็บไซต์สำหรับการพัฒนาแอพบน Windows Phone 7 เพื่อนักพัฒนาที่พัฒนาแอพอยู่บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ
แม้ว่า Windows Phone 7 Marketplace จะมีจำนวนแอพเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับเกือบจะไม่มีแอพยอดนิยมจากแพลตฟอร์มอื่นอยู่เลย ทางไมโครซอฟท์เองก็พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนา เพื่อให้พอร์ตแอพจากคู่แข่งมาให้แพลตฟอร์มตัวเองได้สะดวกกว่าที่เคยเป็น
ตัวเว็บเองหลัก ๆ ตอนนี้จะแบ่งเป็น ๓ ส่วนเท่านั้น คือ
วันนี้แอปเปิลได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหา iOS แอบเก็บพิกัดของผู้ใช้ โดยแอปเปิลได้บอกว่าแอปเปิลไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ แต่แอปเปิลต้องการสร้างฐานข้อมูล Crowd-sourcing ด้วยการเก็บข้อมูลพิกัดของ Wi-Fi Hotspot และเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพื่อการหาตำแหน่งของผู้ใช้ได้รวดเร็วที่สุดเมื่อผู้ใช้ต้องการ ข้อมูลพิกัดเหล่านี้จะถูกส่งกลับมาที่แอปเปิลเพื่อสร้างฐานข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการระบุตำแหน่งโดยไม่ต้องใช้ GPS
แอปเปิลอ้างว่าการค้นหาตำแหน่งจาก GPS จริง ๆ นั้นสามารถใช้เวลานานเป็นนาที แต่การทำแบบนี้ทำให้อุปกรณ์ iOS สามารถหาตำแหน่งได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
แม้ว่า Android จะเป็นแพลทฟอร์มที่ผู้ใช้ในสหรัฐอยากได้ไปใช้มากที่สุดก็ตาม แต่ดูเหมือนว่านักพัฒนายังให้ความสนใจกับการพัฒนา App ให้กับ iOS มากกว่า Android และกว่าสองในสามของนักพัฒนากลุ่มตัอย่างยังเห็นด้วยอีกว่ามันคือการ "จบเกม" (Game Over) แล้วสำหรับแพลทฟอร์มอื่น ๆ เช่น RIM, โนเกีย, ไมโครซอฟท์และ HP
จากรายงานของ Appcelerator ที่ทำการสำรวจนักพัฒนาจำนวน 2,760 คน นักพัฒนาได้ให้เหตุผลว่าปัญหา Fragmentation บนแพลทฟอร์มของ Android เป็นสาเหตุหลักที่นักพัฒนา App ให้กับ Android โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ เมื่อปัญหา Fragmentation นั้นแย่กว่าเดิมหากดูจากสินค้าแท็ปเล็ตต่าง ๆ ที่กำลังผลิตออกมา
Bloomberg รายงานว่ามีผู้ฟ้องแอปเปิลกับศาลกลางสหรัฐ (Federal Court) ในข้อหาการละเมิดความเป็นส่วนตัว หลังจากที่พบว่าแอปเปิลทำการเก็บข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้ภายในอุปกรณ์ iOS โดยจดหมายฟ้องในครั้งนี้ถูกส่งให้กับศาลกลางในเมืองแทมป้า รัฐฟลอริด้า
โดยทนายของฝ่ายผู้ฟ้องได้ให้ข้อมูลกับ Bloomberg ว่าแอปเปิลไม่ควรจะทำอย่างนี้ เพราะขนาดเจ้าหน้าที่รัฐยังจำเป็นที่จะต้องมีหมายตรวจค้นจากศาลในการทำอะไรแบบนี้ ทำไมแอปเปิลไม่ต้องมีหมายค้นใด ๆ เลย
ตัวผู้ฟ้องเองต้องการให้ศาลสั่งให้แอปเปิลเลิกการเก็บข้อมูลเหล่านี้ทันที และอ้างว่าตนจะไม่ซื้อไอโฟนและไอแพ็ดอย่างแน่นอน หากรู้ว่ามีการเก็บข้อมูลในลักษณะนี้ ส่วนทางแอปเปิลเองยังไม่มีความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการเข้าฟ้องในครั้งนี้แต่อย่างใด
ปัญหาเรื่อง iOS 4 เก็บข้อมูลพิกัดทุกคนไว้โดยตั้งใจ ยังไม่จบง่ายๆ และมีประเด็นใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ได้ทดสอบและพบว่า iPhone 4 ยังเก็บข้อมูลพิกัดผู้ใช้สะสมเอาไว้ แม้จะสั่งปิดบริการ location service แล้วก็ตาม
การทดสอบของ Wall Street Journal ใช้วิธีสั่ง factory reset ตัวเครื่อง ซึ่งเมื่อเปิดเครื่องใหม่ บริการ location service จะเปิดโดยอัตโนมัติ ทางผู้ทดสอบจึงสั่งปิดฟีเจอร์นี้ และทดลองย้ายตำแหน่งเครื่องไปเรื่อยๆ นานหลายชั่วโมง ผลปรากฎว่า iPhone ยังเก็บข้อมูลพิกัดอยู่
ที่มา - Wall Street Journal
หลังจากที่มีข่าวว่า iOS 4 แอบเก็บข้อมูลพิกัดของผู้ใช้งาน ทำให้ถูกมองว่าแอปเปิลกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวซึ่ง ส.ส. ในอเมริกาก็ได้ยื่นหนังสือขอคำชี้แจงไปแล้วนั้น ล่าสุดหลายประเทศเริ่มออกมาแสดงความสงสัยเช่นกัน
รายงานข่าวระบุว่าขณะนี้หลายประเทศทั้ง อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และไต้หวันได้เริ่มดำเนินการสอบสวนการเก็บข้อมูลพิกัดของผู้ใช้งานของแอปเปิลแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้แอปเปิลยังไม่มีการออกมาให้ข้อมูลใดๆ ในประเด็นดังกล่าว
คงไม่ต้องหวังว่าจะได้ยินข่าวแบบนี้ในบางประเทศสินะ
จากประเด็นร้อนที่ iOS4 ทำการเก็บข้อมูลพิกัด รวมถึงล่าสุด มีคนอ้างว่าพบข้อมูลนี้ก่อนจะเป็นข่าวเสียอีก ล่าสุด Alasdair Allan และ Pete Warden นักวิจัยทั้ง 2 คนที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลนี้ได้ออกมาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การที่ iPhone และ iPad เก็บข้อมูลพิกัดของผู้ใช้งานนั้น น่าจะเป็น "ความผิดพลาดทางวิศวกรรม" ที่ Apple กำลังจัดการอยู่ เพราะถ้านี่เป็นการสมรู้ร่วมคิดจริงๆ ไฟล์ที่ว่าน่าจะถูกซ่อนดีกว่านี้ จนพวกเขาไม่น่าจะหามันเจอได้ง่ายๆ
จากข่าว iOS 4 เก็บข้อมูลพิกัดทุกคนไว้โดยตั้งใจ ล่าสุดมีคนออกมาตอบโต้แทนแล้ว เป็นนักศึกษาที่ทำวิจัยในหัวข้อเกี่ยวกับ "Forensic Computing" ชื่อ Alex Levinson โดยได้ออกมาชี้แจงถึง 3 ประเด็นคือ
1. Apple ไม่ได้เอาข้อมูลเหล่านี้ไปใช้แต่อย่างใด โดยตลอดการทำงานวิจัยที่ผ่านมาเขาตรวจสอบทราฟฟิกที่เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Apple ไม่มีซักครั้งที่มีการส่งข้อมูลนี้กลับไป ข้อมูลพิกัดนั้นจะถูกใช้จากโปรแกรมเช่น Maps และ Camera
หลังจากมีข่าวที่ว่า iOS 4 เก็บประวัติข้อมูลพิกัดของผู้ใช้ไว้โดยตั้งใจ ทาง Gizmodo จึงได้สอบถามไปยังบริษัทเจ้่าของระบบปฏิบัติการของ smart phone เจ้าอื่นๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้ ซึ่งได้ผลตอบกลับดังนี้
ที่งาน Where 2.0 โดย O'Reilly แฮกเกอร์สองคนคือ Alasdair Allan และ Pete Warden ได้เปิดเผยว่ามีไฟล์ฐานข้อมูล "พิกัด" ของทุกอุปกรณ์ที่ใช้ iOS ซ่อนอยู่ในเครื่องโดยที่แอปเปิลตั้งใจจะเก็บข้อมูลนี้เอาไว้
ทั้งคู่พบว่าข้อมูลนั้นไม่เคยถูกล้างออกเลยตั้งแต่มีการออก iOS 4 มานั่นคือหากคุณใช้ iPhone รุ่นใดๆ ที่ใช้ iOS 4 อยู่แสดงว่าภายในอุปกรณ์ของคุณมีพิกัดของคุณตลอดมา ที่สำคัญคือตัวไฟล์ไม่ได้ถูกเข้ารหัสไว้ และเก็บเอาไว้ภายในไฟล์ RootDomain::Library/Caches/locationd/consolidated.db
เว็บ ThisIsMyNext พบว่าในจดหมายฟ้องซัมซุงของแอปเปิล มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขยอดขายสินค้าของแอปเปิลที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อนอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขาย iPod touch ซึ่งก่อนหน้านี้แอปเปิลเลือกที่จะเผยแต่ยอดขาย iPod โดยรวมมากกว่าการรายงานเฉพาะรุ่น
จนถึงตอนนี้ แอปเปิลได้ขายไอโฟนไปแล้วกว่า 108 ล้านเครื่อง, iPod touch กว่า 60 ล้านเครื่องและไอแพ็ดกว่า 19 ล้านเครื่อง และหากรวมกับยอดขาย Apple TV แล้วแอปเปิลขายสินค้าที่มี iOS ไปแล้วรวมทั้งสิ้นเกือบ 200 ล้านเครื่อง
Tinhte เว็บไซต์ในเวียดนามที่มักได้ข่าวล่วงหน้าของแอปเปิลอ้างว่าพวกเขาได้ iPhone 4 สีขาวไว้ในมือแล้ว และไม่เพียงแค่นั้นพวกเขายังได้ "เวอร์ชันทดสอบ" ของ iOS ใหม่ที่ยังไม่เคยเผยโฉมที่ไหนมาก่อน ซึ่งตัว iOS ใหม่นี้จะเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลในหน้าต่าง multitasking ใหม่ทั้งหมด โดยจะมีการแสดงผลเต็มหน้าจอและจะแสดงภาพหน้าต่างของแอพพลิเคชันนั้นๆ แทนที่จะเป็นรูปไอคอนของแอพพลิเคชันเหมือนในเวอร์ชันเก่า นอกจากนี้ในส่วนของ Spotlight search จะถูกรวมเข้ามาอยู่ในส่วนนี้ด้วย (ดูวิดีโอประกอบหลังเบรค)
ทั้งนี้เวอร์ชันทดสอบนี้อาจเป็นเพียงแค่ของปลอมที่ได้จากการ jailbreak เท่านั้น ดังนั้นจงอย่าเชื่อเต็ม 100%
รายงานสถานการณ์ตลาดมือถือสหรัฐจากบริษัทโฆษณา Millennial Media ประจำเดือนมีนาคม 2011 พบว่า Android ยังกินส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งติดต่อกันมาสี่เดือน โดยมีส่วนแบ่งตลาด 48% จากโฆษณาของ Millennial Media
อันดับสองและสามคือ iOS 31% และ RIM/BlackBerry 18% ส่วนที่เหลือน้อยมากจนไม่มีนัยยะสำคัญ (สถิตินี้นับตามปริมาณโฆษณาที่แสดง ไม่ใช่ตัวเลขยอดขายจริงๆ ของมือถือ)
แต่ถ้าวัดตามรายได้ (revenue) จากแอพ ปรากฏว่า iOS พลิกกลับมาเป็นแชมป์ด้วยสัดส่วน 47% ตามด้วย Android 36% และ RIM 7% สาเหตุที่ iOS ขึ้นมาเยอะเพราะความนิยมของ iPad นั่นเอง
จากข้อมูลล่าสุดของจากบริษัทวิจัยตลาด Flurry พบว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของตลาดวีดีโอเกมในปี 2010 ไม่ต่างจากปี 2009 มากนัก โดยแพลทฟอร์ม iOS และ Android กำลังมีส่วนแบ่งในตลาดวีดีโอเกมที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
โดยในปี 2010 ที่ผ่านมา iOS และ Android รวมแล้วทำรายได้เป็น 8% ของรายได้จากการขายซอฟต์แวร์วีดีโอเกมทั้งหมดในสหรัฐ แต่ถ้ามาดูเฉพาะตัวเลขของตลาดซอฟต์แวร์วีดีโอเกมพกพาแล้ว iOS และ Android รวมกันทำได้รายได้ 34% ของตลาด ห่างจากอันดับหนึ่งซึ่งก็คือ Nintendo DS มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 57% ของตลาด ลดลงจากปีที่แล้วที่ 70% ในขณะที่ PSP ทำรายได้เพียงแค่ 9% เท่านั้น
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 4.3.2 แล้วซึ่งห่างจากอัพเดทก่อนหน้าไม่ถึงหนึ่งเดือน โดยมีรายการแก้ไขหลักคือปัญหาหน้าจอค้างขณะ Facetime และปัญหาการเชื่อมต่อ 3G สำหรับ iPad Wifi + 3G นอกจากนั้นก็เป็นรายการแก้ไขด้านความปลอดภัยอื่นๆ
ผู้ใช้งาน iPhone 4 (เฉพาะ GSM), iPhone 3GS, iPad ทั้ง 1 และ 2 และ iPod Touch 3rd กับ 4th Gen สามารถอัพเดทได้ผ่าน iTunes
ที่มา: MobileCrunch
Facebook ออกอัพเดทเวอร์ชั่น 3.4 สำหรับ iOS โดยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างการปรับปรุง News Feed, ปรับปรุงหน้า Notifications, สามารถ Unfriend ได้, มีแผนที่ให้ดูใน Places พร้อมแสดงว่าใครอยู่ที่ไหนบ้าง
นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถให้ check-in ได้ไปพร้อมกันกับที่เราเข้าร่วม event ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวน่าจะมีในอัพเดทของ Android เร็วๆนี้
ที่มา: TechCrunch