iPhone 5s วางขายมาได้ 3 เดือนกว่าๆ และทำผลงานได้ดีมากในประเทศแม่อย่างสหรัฐอเมริกา
สถิติล่าสุดจากบริษัทวิจัยตลาด Canaccord Genuity ที่สำรวจข้อมูลจากร้านขายมือถือของโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ทั้ง 4 บริษัท (AT&T, Verizon, Sprint, T-Mobile) พบว่า iPhone 5s ครองแชมป์มือถือขายดีของทั้ง 4 บริษัทเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันแล้ว (ก.ย.-พ.ย.)
ที่น่าสนใจคือ Top 3 มือถือขายดีของทั้ง 4 เครือข่ายใหญ่ในรอบ 3 เดือนล่าสุด มีมือถือเพียงแค่ 3 รุ่นเท่านั้นคือ iPhone 5s, iPhone 5c และ Galaxy S4 โดยอันดับสองและสามผลัดๆ กันแพ้ชนะในเดือนกันยายน แต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 3 อันดับแรกของทุกเครือข่ายเหมือนกันหมดคือ iPhone 5s, Galaxy S4, iPhone 5c
ดร. Drang วิศวกรที่ปรึกษารายหนึ่ง ได้รายงานว่าเขาพบว่าเซ็นเซอร์ Touch ID บน iPhone 5s ของเขาเริ่มมีความแม่นยำลดลงหลังจากใช้งานไปได้สักระยะ
"ผมใช้ระบบ Touch ID ตั้งแต่ซื้อ iPhone 5s มาตอนกลางเดือนตุลาคม ผมชอบมันนะ เพราะมันทำให้ปลดล็อคเครื่องได้เร็วกว่าการสไลด์กับการใช้รหัสผ่าน แต่ช่วงหลังผมต้องป้อนลายนิ้วมือของผมใหม่ไปสองสามครั้งแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้วว่าเซ็นเซอร์ดูเหมือนจะเสื่อมลง อาทิตย์นี้ผมก็ลองป้อนลายนิ้วมือเข้าไปใหม่ แล้วมันก็ใช้งานได้เร็วดีและแม่นยำเหมือนตอนเพิ่งซื้อเครื่อง หลังจากนั้นมันก็กลับมาเป็นอีก ผมเริ่มจะรำคาญมันแล้ว"
Kantar World Panel รายงานว่าแอปเปิลมีส่วนแบ่งยอดขายสมาร์ทโฟนในญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลาคมที่ 76% ซึ่งนั่นแปลว่ายอดขาย iPhone 5s และ 5c รวมกันแล้วได้มากกว่าสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นรวมกันถึงสามเท่า
สำหรับสาเหตุ คงหนีไม่พ้นเรื่องที่เครือข่ายรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น NTT DoCoMo ที่มีลูกค้ากว่า 60 ล้านคน เริ่มวางจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการ โดยหากดูเฉพาะยอดขายไอโฟนจาก NTT DoCoMo แล้ว สามารถคิดได้เป็น 61% ของยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งประเทศ
เช่นเดียวกับ NTT DoCoMo เครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดอย่างของประเทศจีนอย่าง China Mobile ก็ไม่ได้วางจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการมาหลายปี โดยทาง China Mobile จะเริ่มวางจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้เคสใส่สมาร์ทโฟนไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์สำหรับปกป้องตัวเครื่องแล้ว แต่เป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งด้วย จึงไม่แปลกเลยที่สาวๆ หลายคนจะมีเคสหลายอันต่อสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว และก็เป็นพฤติกรรมการใช้งานที่ทำให้เกิดแนวคิดที่ให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนลายเคสได้ในทุกๆ เดือน
บริการนี้ชื่อว่า Casetagram Monthly เป็นบริการต่อยอดจากบริษัทขายเคสจากภาพใน Instagram อย่าง Casetagram โดยบริการดังกล่าวจะมี token ให้ผู้ใช้ทุกๆ หนึ่งเดือนให้ผู้ใช้เลือกลายที่จะพิมพ์ลงบนฝาหลัง ซึ่งจะไปติดกับเคส (ขายแยก) ในราคาถูกสุดเดือนละ 9.95 เหรียญเมื่อสมัครเป็นรายปี ส่วนเคสตัวฐานขายแยกชิ้นละ 39.95 เหรียญ ยังมีเฉพาะ iPhone 5 และ iPhone 5s เท่านั้นในตอนนี้
เป็นที่รู้กันว่า iPhone 5s มาพร้อมกับชิป A7 ที่พ่วงชิปประมวลผลร่วม M7 ซึ่งรวมเซนเซอร์หลากหลายทั้ง accelerometer, gyroscope และเข็มทิศเอาไว้ในชิปตัวเดียว แน่นอนว่าถูกออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายแน่นอน แต่ในช่วงเปิดตัวยังไม่มีแอพตัวใดดึงความสามารถของชิป M7 มาให้เห็นชัดๆ ได้
ล่าสุด Nike ได้เปิดตัวแอพใหม่ Nike+ Move ที่จะเปลี่ยน iPhone 5s ให้ทำงานได้เหมือนกับ Nike+ FuelBand โดยทำงานร่วมกับชิป M7 เพื่อแปลงการเคลื่อนไหวให้เป็น NikeFuel (หน่วยที่ Nike ใช้ในแพลตฟอร์มออกกำลังกายของตัวเอง) โดยตัวแอพ Nike+ Move สามารถนับก้าวเดิน ระยะทาง สถานที่เดินทาง ฯลฯ รวมถึงผนวกระบบเข้ากับ Game Center เพื่อแข่งขันกับเพื่อนได้อีกด้วย
มีการค้นพบว่าระบบสแกนลายนิ้วมือของ iPhone 5s หรือ Touch ID มีการเข้าคู่รหัสกับชิป A7 แต่ละตัวไว้โดยเฉพาะ ซึ่งจากการพิสูจน์ของทีมงาน iMore ก็คือการถอดเอา Touch ID ของ iPhone 5s ทั้งสองเครื่องมาสลับกัน พบว่า Touch ID ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ แต่หากนำมาใส่คืนจะสามารถใช้ได้ตามปกติ
สำหรับแอปเปิลแล้ว ตลาดอินเดียคงไม่ง่ายนักที่จะเจาะเข้าไปได้ ยอดการจำหน่าย iPhone ก็ยังน้อยนิดทำได้เพียงแค่ 5% สาเหตุหลักก็มาจากราคาเครื่องที่ขายแบบไม่ติดสัญญาแต่ก็ยังแพงเกินไปสำหรับคนอินเดีย
ล่าสุดแอปเปิลได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์อันดับสามในอินเดียอย่าง Reliance Communications เปิดจำหน่าย iPhone 5s และ 5c แบบติดสัญญา 2 ปี โดยจ่ายรายเดือนผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ซึ่ง iPhone 5s มีราคา 2,999 รูปี (48.5 ดอลลาร์สหรัฐ) และ iPhone 5c ราคา 2,599 รูปี โดยราคานี้สามารถโทรได้ไม่จำกัดรวมบริการอินเทอร์เน็ตด้วย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
มีรายงานว่า iPhone 5s บางเครื่องแบตเตอรี่มีปัญหาจากการผลิต iPhone 5s ที่มีปัญหาดังกล่าวแบตเตอรี่จะหมดเร็วกว่าปกติ ตอนนี้ทางแอปเปิลก็ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วครับ
Terasa Brewer โฆษกของแอปเปิลได้ชี้แจงปัญหาดังกล่าวว่า แอปเปิลค้นพบปัญหาจากการผลิตที่ทำให้ iPhone 5s จำนวนน้อยมาก (very limited number) มีปัญหาชาร์จนานกว่าปกติหรือทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ทางบริษัทได้ติดต่อลูกค้าที่มีปัญหาดังกล่าวแล้ว และจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้
แอปเปิลไม่ได้บอกว่ามี iPhone จำนวนกี่เครื่องที่เข้าข่าย แต่ก็คาดว่าน่าจะอยู่ประมาณไม่กี่พันเครื่อง (few thousand)
จากการทดสอบด้วยเครื่อง OptoFidelity ซึ่งมีการใช้นิ้วมือหุ่นยนต์จิ้มลงไปบนหน้าจอสัมผัสในตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง แล้วนำมาเปรียบเทียบกับรายงานที่ได้จากอุปกรณ์นั้นๆ ในระยะความแม่นยำหนึ่งมิลลิเมตร ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบครั้งนี้ ทำให้เราทราบถึงความแม่นยำของหน้าจอว่ามากน้อยแค่ไหน
หลังจากปล่อยให้ iPhone 5c ทำตลาดมาร่วมเดือน แต่กลับทำยอดได้ไม่ดีเท่าที่ควร ล่าสุดแอปเปิลได้ปล่อยโฆษณาของ iPhone 5s แล้ว โดยใช้สีทองเป็นตัวชูโรง โฆษณาชุดนี้มีชื่อว่า Metal Mastered (ผู้นำแห่งโลหะ) ลักษณะเหมือนขั้นตอนการหลอมโลหะสีทอง เป็นฝาหลังเครื่องที่แอบเห็นโลโก้แอปเปิล แล้วสุดท้ายก็มาเป็นแหวนที่สีทองที่อยู่รอบปุ่ม Home แบบใหม่นั่นเอง
ชอบไม่ชอบยังไงชมได้ท้ายข่าวครับ
แม็กกาซีน Consumer Reports ซึ่งทำการรีวิวและให้คะแนนเรทติ้งสินค้าเกือบทุกชนิกในสหรัฐฯ ได้เผยคะแนนรีวิว iPhone 5s แล้วชี้แจงว่า iPhone 5s มีจุดเด่นหลายด้าน ตั้งแต่กล้องถ่ายภาพที่ดีขึ้น เซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่แม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ และหน่วยประมวลผลที่เร็วขึ้น โดยทั้ง iPhone 5s และ iPhone 5c มีประสิทธิภาพสูงกว่า iPhone 5
ปริศนาว่า iPhone 5c ตกลงขายดีหรือไม่ยังคงเป็นเรื่องที่คนพยายามหาคำตอบต่อไป เรามีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ทั้งการลดราคา, ข่าวลดกำลังการผลิต, และล่าสุดอัตราส่วนยอดขาย iPhone 5s เทียบกับ iPhone 5c อยู่ที่ 2:1 ล่าสุดมีรายงานจาก WSJ ถึงเรื่องนี้โดยอ้างข้อมูลจากโรงงานผลิต
โดยโรงงาน Pegatron ที่ถือเป็นฐานผลิตหลักของ iPhone 5c มีรายงานว่าได้รับคำสั่งลดจำนวนผลิต iPhone 5c สำหรับไตรมาสที่ 4 ลงเล็กน้อยไม่ถึง 20% ของตัวเลขเดิม ขณะที่โรงงาน Foxconn ถูกลดคำสั่งผลิตลงถึง 1 ใน 3 และแอปเปิลยังสั่งให้หยุดรับพนักงานสำหรับสายการผลิต iPhone 5c เพิ่มเติมด้วย
บริษัทวิจัยตลาด Consumer Intelligence Research Partners (CIRP) สำรวจข้อมูลผู้บริโภคที่ซื้อ iPhone รุ่นใหม่ของแอปเปิลช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีคนเลือก iPhone 5s จำนวน 64%, iPhone 5c 27% และ iPhone 4s 9% (5s ขายดีกว่า 5c ในอัตรามากกว่า 2:1)
สถิตินี้ใกล้เคียงกับผลการสำรวจของ CIRP เมื่อเดือนตุลาคม 2012 เพราะตอนนั้นลูกค้าเลือก iPhone 5 68%, iPhone 4S 23% และ iPhone 4 9%
ตัวแทนของ CIRP ให้มุมมองว่าปกติแล้ว iPhone รุ่นแพงจะขายดีในช่วงเปิดตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไป สัดส่วนของ iPhone รุ่นถูกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ทิศทางของ 5c ที่ใช้การออกแบบที่ต่างออกไปจะเป็นอย่างไรก็คงต้องรอเวลาพิสูจน์
คนที่ใช้ Windows อยู่เป็นประจำคงเคยเจออาการจอฟ้า (blue screen) เมื่อตอนที่โปรแกรมเกิดอาการค้างขึ้นมา ซึ่งอาการนี้มันเกิดได้แค่ใน Windows เท่านั้น แต่ตอนนี้อาการจอฟ้าได้มาถึง iPhone 5s แล้ว
แอปเปิลประกาศรายชื่อประเทศที่จะวางขาย iPhone 5s/iPhone 5c เป็นชุดที่สองอีก 35 ประเทศ โดยประเทศไทยอยู่ในรายชื่อประเทศชุดที่สองด้วยครับ
โดยสรุปแล้ว iPhone 5s/iPhone 5c จะวางขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย 25 ตุลาคมนี้ ส่วนราคาเปิดตัวต้องรอข่าวอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา - MacRumors
Jim Richardson ช่างภาพของนิตยสาร National Geographic ได้โพสต์ภาพบน Instagram ส่วนตัวของเขา โดยในระยะเวลากว่า 4 วันที่ผ่านมาได้ถ่ายภาพไปกว่า 4,000 ภาพทั่วสกอตแลนด์ ซึ่งเขาได้พบว่า iPhone 5s มีกล้องถ่ายรูปที่มีศักยภาพมาก สีของภาพและรูรับแสง (Exposure) ทำงานได้อย่างดีเหลือเชื่อ รวมถึงภาพถ่ายแบบ HDR ก็ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จัก Will it Blend? รายการโชว์พลังเครื่องปั่นของ Blendtec ที่จะจับของแทบจะทุกสิ่งบนโลกมาปั่น โดยอุปกรณ์ไอทีก็เป็นเป้าหมายหนึ่งของรายการ Will it Blend? เหมือนกัน เช่น iPad mini, iPhone 5 และ Galaxy S III และคราวนี้เหยื่อคือของเล่นชิ้นใหม่จากแอปเปิล iPhone 5s สีทองและ iPhone 5c ทั้ง 4 สี เพราะสิ่งที่คนส่วนใหญ่รอนอกจาก drop test ก็คือ Will it Blend? นั่นเอง
ก่อนหน้านี้มีข่าวปัญหาเซ็นเซอร์เข็มทิศของ iPhone 5s ทำงานไม่ถูกต้อง ล่าสุดเว็บไซต์ Gizmodo ได้ทดสอบเซ็นเซอร์อื่นที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของ iPhone 5s อีกหลายตัว และก็พบว่าบรรดาเซ็นเซอร์ของ iPhone 5s เครื่องทดสอบนั้นเต็มไปด้วยปัญหาจริงๆ
เซ็นเซอร์วัดความเอียง Gizmodo ทดสอบเซ็นเซอร์วัดความเอียง โดยเปรียบเทียบกับ iPhone 5 ที่รัน iOS 7 พร้อมเทียบไปกับเครื่องมือวัดระดับน้ำสำหรับงานช่าง และพบว่า iPhone 5s วัดความเอียงเพี้ยนไป 2-3 องศา ในขณะที่ iPhone 5 นั้นกลับอ่านค่า 0 ได้ตรงกับเครื่องมือวัดระดับน้ำ
เครือข่ายหน้ากากขาว Anonymous ได้ทำวีดีโอออกมาโจมตีแอปเปิล, Authentec ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่แอปเปิลซื้อไปก่อนหน้านี้ รวมไปถึงอดีตผู้บริหารของ Authentec นาย Robert E Grady โดยในวีดีโอนี้ กลุ่ม Anonymous ได้ออกมาบอกว่านาย Grady เป็นบุคคลที่เคยมีบทบาทในรัฐบาลของนาย George Bush
มีผู้ใช้รายหนึ่งชื่อ tharepairguy ได้เปรียบเทียบแอพพลิเคชั่นเข็มทิศ ระหว่าง iPhone 5s กับ iPhone 4 พบว่า เมื่อวางโทรศัพท์ทั้ง 2 รุ่นในต่ำแหน่งเดียวกัน กลับได้ผลที่ต่างกัน โดย iPhone 4 อ่านค่าได้ 179 องศาใต้ ส่วน iPhone 5s อ่านค่าได้ 165 องศาใต้ และเมื่อเปรียบเทียบกับเข็มทิศในรถ พบว่า iPhone 4 อ่านค่าได้ถูกต้อง ซึ่งคาดว่า ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากฮาร์ดแวร์ภายใน
นอกจากนี้ ทางเว็บไซต์ Cult of Mac ยังได้พิสูจน์เรื่องนี้ โดยเปรียบเทียบระหว่าง iPhone 4S กับ iPhone 5s พบว่า ทั้ง 2 รุ่น แสดงผลแตกต่างกันจริง
มีข้อมูลของ Nexus 5 โผล่มาในฐานข้อมูลเบนช์มาร์ค GFXBench (GLBenchmark เดิม) โดยระบุโค้ดเนมว่า hammerhead (ฉลามหัวค้อน ซึ่งตรงกับวิธีตั้งโค้ดเนมตระกูล Nexus ตามชื่อปลา) สเปกฮาร์ดแวร์ใช้ซีพียู Qualcomm ไม่ระบุรุ่น ความถี่ 2.2GHz (มีคนถอดมาได้เป็น Snapdragon 800), จีพียู Adreno 330, หน้าจอละเอียด 1794x1080 (1080p ตัดพื้นที่ปุ่มเสมือน), Android รหัส K ที่ยังระบุชื่อเป็น KeyLimePie (ข้อมูล)
นักวิจัยตลาด Ming-Chi Kuo จากบริษัท KGI Securities ผู้ที่ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับแอปเปิลแม่นเกือบตลอดในช่วงปีที่ผ่านมา ได้ออกมาบอกว่ายอดขายของ iPhone 5c ไม่ได้ต่างจาก iPhone 5s มากนัก ต่างจากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ที่บอกว่าแอปเปิลขาย iPhone 5s ได้มากกว่า 5c ถึงสามเท่า
Kuo บอกว่ายอดขายไอโฟน 9 ล้านเครื่องที่แอปเปิลได้ออกมาประกาศก่อนหน้า ถ้าหากแบ่งตามรุ่นแล้ว iPhone 5s น่าจะขายไปแล้ว 3.5-4.5 ล้านเครื่อง ในขณะที่ iPhone 5c ขายไปแล้ว 4.5-5.5 ล้านเครื่อง โดยตัวเลขนี้เป็นการประเมินจากจำนวนไอโฟนที่แอปเปิลสามารถผลิตได้ ซึ่ง ณ เวลานี้แอปเปิลสามารถขายมือถือได้มากเท่าที่สามารถผลิตได้
จากที่มีการทดสอบปลดล็อค iPhone 5s ทั้งหัวนม อุ้งตีนแมว และนิ้วหัวแม่เท้าไปแล้ว ก็มีทวิตเตอร์นามว่า Roxor McPwnage ได้โพสต์ข้อความไว้ว่าสามารถใช้อวัยวะเพศชายในการปลดล็อคได้จริง สามารถดูข้อความ Twitter ได้ท้ายข่าวครับ
อืม..... ได้ยินแบบนี้แล้วก็บอกไม่ถูกแฮะ คงต้องจับตาดูแล้วหละครับว่าจะมีอวัยวะหรือสิ่งของอื่นๆ มาใช้ปลดล็อค iPhone 5s มาให้ได้อึ้งกันอีกหรือไม่ ต้องดูกันต่อไปครับ
ที่มา: Roxor McPwnage Twitter, 9TO5Mac