แอปเปิลประกาศว่า หลังจากเปิดขาย iPhone 5s และ iPhone 5c ในวันศุกร์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา เพียงแค่ 3 วันแรก ก็สามารถขาย iPhone ทั้งสองรุ่นได้แล้วกว่า 9 ล้านเครื่อง ถือเป็นสถิติใหม่ของแอปเปิลตั้งแต่เปิดตัว iPhone รุ่นแรกเลยทีเดียว ส่วนอุปกรณ์ iOS ที่อัพเดตเป็น iOS 7 แล้วมีจำนวนกว่า 200 ล้านเครื่อง
ความต้องการซื้อ iPhone นั้นสูงมากจนน่าตกใจ มากกว่าของล็อตแรกที่แอปเปิลผลิตเตรียมไว้รอขายเสียอีก ผู้ที่สั่งซื้อทางออนไลน์ สินค้าน่าจะส่งได้ในสัปดาห์หน้า
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลได้ออกมาขอบคุณทุกคนที่ยังคงอดทนรอ และจะตั้งใจจะผลิต iPhone ให้เพียงพอแก่ทุก ๆ คน
สถิติการวางขาย iPhone ที่น่าสนใจมีดังนี้
หลังจากมีข่าวกลุ่มแฮกเกอร์ร่วมทุนกัน ให้รางวัลผู้แฮก Touch ID Sensor ได้เป็นคนแรกเพียง 4 วัน Chaos Computer Club ก็ออกมาอ้างว่าทีมงานสามารถผ่านระบบ Touch ID Sensor ของ iPhone 5s ด้วยลายนิ้วมือเทียมที่ได้มาจากภาพถ่ายบนผิวแก้ว แถมยังบอกวิธีการทำเจ้าลายนิ้วมือเทียมไว้เป็นขั้นเป็นตอน พร้อมกับสรุปว่าไม่ควรใช้ลายนิ้วมือซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เป็นรหัสรักษาความปลอดภัย
อัพเดตข่าว iPhone 5S อีกครั้งกับคำถามว่าใครคือผู้ผลิตชิปเซ็ต A7 กันแน่ ซึ่งมีคำตอบออกมาแล้วว่าผู้ที่ผลิตชิปเซ็ตนั้นก็คือทางบริษัทซัมซุงนั่นเอง โดยทาง Chipworks และ iFixit ได้แงะตัวเครื่องออกมา พบว่าตัว A7 นั้นเป็นหน่วยประมวลผลแบบ 64-Bit โดยได้รับการผลิตมาจากซัมซุง ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ 28nm ส่วน ชิปเซ็ต M7 นั้นผลิตโดยบริษัท NXP
ที่มา - phandroid
หลังจากที่วางขายอย่างเป็นทางการได้ไม่กี่วัน ก็มีผลการ Drop Test ของ iPhone 5s และ iPhone 5c จากทีมงาน Android Authority ออกมาแล้ว
การทดสอบครั้งนี้มี 3 การทดสอบ คือ ทดสอบเอาด้านหลังเครื่องลงพื้น, ด้านท้ายเครื่องลงพื้น และด้านหน้าเครื่องลงพื้น (จากระดับอกทุกการทดสอบ)
ผลจะเป็นอย่างไร ชมภาพและคลิปได้ท้ายข่าว
ที่มา: Android Authority
ป.ล. เหมือนช่วงทดสอบ 5s จะไม่ได้เอาหน้าจอลงพื้นตรงๆ เหมือน 5c นะฮะ
iPhone 5s เป็นสมาร์ทโฟนตัวชูโรงประจำปีนี้ของแอปเปิลที่เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อต้นเดือนนี้ และได้จัดจำหน่ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ในบางประเทศโดยไม่มีการเปิดให้จองล่วงหน้า ในครั้งนี้ iPhone 5s ถือว่าเป็นการปล่อยไอโฟนรุ่น "ปรับปรุงและอัพสเปค" เช่นเดียวกับที่แอปเปิลเคยทำมาแล้วสองครั้งก่อนหน้้ากับ iPhone 4/4S และ iPhone 3G/3GS
หลังจากที่ได้ iPhone 5s มาใช้แล้วสองสามวัน ผมเลยขอเขียนรีวิวสั้น ๆ มาให้อ่านกันครับ
ในเมื่อนิ้วหัวแม่เท้าเอย อุ้งตีนแมวเอย ก็สามารถนำใช้กับ Touch ID Sensor ได้ ทีนี้ก็มีชาวญี่ปุ่นหัวใสหาอวัยวะอื่นมาทดลองและพบว่าได้ผลดี โดยอวัยวะที่ว่านั่นคือหัวนมครับ! (ดูคลิปท้ายข่าวให้ไวเลยครับ)
เว็บไซต์ rocketnews24.com ได้โชว์คลิปชาวญี่ปุ่นพยายามใช้หัวนมในการปลดล็อกเครื่อง iPhone 5s ซึ่งพบว่าแม้จะค่อนข้างทุลักทุเล แต่ก็สามารถใช้ปลดล็อกเครื่องได้เหมือนกัน
นักธุรกิจหัวใสรายหนึ่ง ได้ว่าจ้างให้ขอทาน 70-80 คน ไปต่อคิวตอนกลางคืนเพื่อซื้อ iPhone 5s และ iPhone 5c ในร้านค้าปลีกของแอปเปิลในแอลเอ สหรัฐอเมริกา แต่ขอทานทะเลาะวิวาทกัน เพราะไม่ได้รับค่าจ้าง
นักธุรกิจคนนี้ได้จัดรถไปรับขอทานมาจากย่านกลางเมืองแอลเอ ก่อนว่าจ้างในราคา $40 หรือประมาณ 1,280 บาท จากนั้นจึงจะนำ iPhone 5s และ iPhone 5c ไปขายต่อต่างประเทศในราคา $1,000 หรือประมาณ 31,000 บาท ต่อมาตัวเขาเองถูกจับกุมและขอทานไม่ได้รับเงินค่าจ้างจนต้องทะเลาะวิวาทนั่นเอง
ที่มา - เดลินิวส์ออนไลน์
Apple ได้เปิดตัวชิปประมวลผลร่วม M7 ในฐานะชิ้นส่วนหลักของ iPhone 5s ที่ทำหน้าที่ในด้านการตรวจจับการเคลื่อนไหว แต่ iFixit ไม่พบชิปที่ว่านี้บนเมนบอร์ด หลังจากที่ได้รื้อเจ้า iPhone 5s ออกมาเป็นชิ้นๆ แล้ว
ก่อนอื่นอย่าเพิ่งตกใจหรือคิดไปเองว่า Apple หลอกลวงผู้บริโภค เว็บไซต์ Chipworks ได้ออกมายืนยันว่า ชิป M7 ของ Apple นั้นมีอยู่บนเมนบอร์ดจริง ๆ แต่ไม่ได้ทำการสกรีนชื่อ M7 อย่างชัดเจนเหมือนอย่างหน่วยประมวลผลหลักอย่าง A7
Chipworks กล่าวว่า พวกเขาพบชิป M7 ในชื่อ LPC18A1 จาก NXP โดยเจ้าชิปตัวนี้เป็นไมโครคอนโทรลเลอร์แบบ Cortex-M3 จาก ARM ครับ
นอกจากนิ้วหัวแม่เท้าแล้ว ยังคงมีคนทดสอบ Touch ID Sensor บน iPhone 5s อยู่เรื่อยๆ ล่าสุดเว็บไซต์ TechCrunch ได้ทดลองใช้อุ้งตีนแมวในการปลดล็อคเครื่องบนปุ่มโฮมใน iPhone 5s ที่มี Touch ID Sensor ผลออกมาว่า ใช้ได้เช่นกัน (วิดีโอท้ายข่าว)
ทีมงานทดลองใช้อุ้งตีนแมวซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่หลายครั้งกว่าจะสำเร็จ นอกจากนี้ยังทดสอบนำอวัยวะส่วนต่างๆ ของตัวเอง เช่น ส้นเท้าและข้อมือ ก็สามารถปลดล็อคได้เช่นกัน
อย่างที่ทราบกันว่า iPhone 5s นั้น มาพร้อมระบบอ่านลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่อง ถึงแม้จะยังไม่วางจำหน่าย แต่ก็มีกลุ่มแฮกเกอร์รวมตัวกันเพื่อเจาะระบบอ่านลายนิ้วมือนี้แล้ว
โดยโครงการนี้มีเว็บไซต์หลักคือ http://istouchidhackedyet.com/ เป็นการร่วมทุนระหว่างหลายๆ คน (และยังรับคนเพิ่มเรื่อยๆ) เพื่อเป็นรางวัลให้กับผู้ที่สามารถเจาะระบบ Touch ID Sensor ได้เป็นคนแรก โดยเงื่อนไขคือให้อัพโหลดวิดีโอการเก็บลายนิ้วมือจากที่ต่างๆ (หน้าจอ iPhone, แก้วน้ำ ฯลฯ) และนำลายนิ้วมือเหล่านั้นมาปลดล็อคเครื่องให้ได้ภายใน 5 ครั้ง (ก็คือก่อนเครื่องจะล็อคตัวเอง)
ณ ตอนนี้โครงการดังกล่าวระดมทุนได้มากกว่า 2,000 เหรียญสหรัฐแล้วครับ
เว็บไซต์ Pocket-lint ได้ทำการทดสอบ Touch ID Sensor บน iPhone 5s ว่านอกจากจะใช้นิ้วมือแล้ว ยังสามารถใช้อย่างอื่นนอกจากนิ้วมือได้หรือไม่ จึงได้ทดลองใช้นิ้วหัวแม่เท้า ซึ่งผลก็ออกมาว่า "ใช้ได้ดี"
ทีมงานไม่ได้บอกรายละเอียดว่าใช้นิ้วหัวแม่เท้าในการทดสอบทำอะไรบ้าง แต่ทั้งนี้ Touch ID Sensor นั้นมีตัวเซ็นเซอร์หนา 170 ไมครอน ความละเอียด 500 ppi ทำให้สามารถสแกนลายนิ้วมือหรือนิ้วเท้าลงลึกถึงชั้นใต้ผิวหนังได้เลย
ในชีวิตจริงๆ คงไม่มีใครคิดจะใช้นิ้วหัวแม่เท้าแทนนิ้วมือบน iPhone 5s นะครับ!
ที่มา - Pocket-lint
แหล่งข่าวของ 9to5Mac บอกว่าในครั้งนี้แอปเปิลมีสต็อค iPhone 5s น้อยมาก และ 70-80% ของสต็อคสินค้าในวันวางจำหน่ายวันแรก (วันศุกร์นี้) จะเป็น iPhone 5c ไม่ใช่ iPhone 5s
ในขณะเดียวกัน สามในสี่ของ iPhone 5s ที่วางขายในวันแรกจะเป็นรุ่นสี Space Grey เนื่องจากแอปเปิลคาดว่าสีนี้จะเป็นสีที่ขายดีที่สุด ส่วนสีอื่น ๆ อาจจะหายากในวันแรกที่วางจำหน่าย
นี่อาจจะอธิบายสาเหตุที่ว่าทำไมแอปเปิลไม่เปิดให้สั่งซื้อ iPhone 5s ล่วงหน้าเช่นเดียวกับ iPhone 5c หรือ iPhone 5 ในปีที่แล้ว เป็นไปได้ว่าข่าวก่อนหน้าที่อ้างว่าแอปเปิลมีปัญหากับการผลิตเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมืออาจจะเป็นจริง
วันนี้สื่อต่างประเทศหลายแห่งก็เริ่มเผยแพร่รีวิวของ iPhone 5s, iPhone 5c และ iOS 7 กันแล้ว (สื่อพวกนี้จะได้รับเครื่องทดสอบไปลองก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ และนัดเผยแพร่บทความพร้อมๆ กันตามที่แอปเปิลกำหนด)
ผมสรุปรีวิวมาให้อ่านกันสัก 3 เจ้านะครับ
เมื่อคืนนี้ราคาหุ้นแอปเปิลยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 2.5% ซึ่งถ้านับจากวันเปิดตัว iPhone 5s/5c ก็ลดลงมากกว่า 10% แล้ว โดยมีปัจจัยสำคัญคือแอปเปิลไม่มีการออกมาประกาศยอดจองล่วงหน้าของ iPhone 5c สัปดาห์แรกว่าเป็นอย่างไร
หลังจากแอปเปิลเปิดตัว iPhone 5c ไปเมื่อวันอังคารและมีกำหนดการเปิดให้จองใน 9 ประเทศแรกในวันนี้ ในที่สุดเว็บไซต์ Apple Online Store ของ 9 ประเทศแรกก็เปิดให้จองได้ ยกเว้นเพียง iPhone 5s ที่ต้องรอวันที่ 20 กันยายน
iPhone 5c รุ่นที่เปิดให้สั่งจองนั้นคือ รุ่นความจุ 16GB และ 32GB มีทั้งหมด 5 สีคือ สีขาว เขียว ฟ้า ชมพู และเหลือง (ยังไม่มีสีแดงให้สั่งจอง) โดยราคาขายของประเทศสิงคโปร์ รุ่นความจุ 16GB ราคา S$848 และรุ่นความจุ 32GB ราคา S$988
โดย 9 ประเทศแรกที่สามารถสั่งจอง iPhone 5c ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, จีน, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ส่วนอีก 100 ประเทศจะทยอยเปิดขายในเดือนธันวาคม
สำนักข่าวหลายสำนักได้ออกมากล่าวว่าการเลือกใช้สถาปัตยกรรม ARMv8 64-bit ของแอปเปิลไม่ได้มีประโยชน์อะไร และเป็นการใส่เข้ามาเพื่อเหตุผลทางการตลาดเท่านั้น โดย Patrick Moorhead ประธานและนักวิจัยตลาดของ Moor Insights and Strategy ได้ออกมาบอกว่า ณ เวลานี้ 64-bit จะไม่สร้างผลดีและผลเสียต่ออุปกรณ์ที่ยังไม่ต้องการใช้ RAM มากกว่า 4GB
แอปเปิลเป็นบริษัทที่ไม่เคยบอกตัวเลขความจุแบตเตอรี่ของตัวเอง แต่มักจะบอกเป็นจำนวนชั่วโมงการใช้งาน ล่าสุด AnandTech ได้พบข้อมูลจากเอกสารที่แอปเปิลส่งให้ FCC แล้วพบว่า iPhone 5s มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 1570 mAH มากกว่า iPhone 5 เดิม 10% ซึ่งมีความจุแบตเตอรี่ที่ 1440 mAH ส่วน iPhone 5c มีความจุแบตเตอรี่มากกว่า iPhone 5 ที่ 5% ความจุ 1507 mAh
Jimmy Kimmel ดาราตลกชื่อดังของสหรัฐอเมริกาส่งตากล้องไปบอกผู้คนบนท้องถนนแถว ๆ Hollywood Boulevard ว่า นี่คือ iPhone 5s ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว มันคือ iPad mini ผลออกมาคือ ผู้คนส่วนใหญ่บอกว่า iPhone 5s ลื่นขึ้น จอใหญ่สะใจดี เพรียวบาง
แน่นอนว่าผลที่ออกมานั้น ตรงกับตอนที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5 และ Jimmy Kimmel ส่งตากล้องไปแกล้งลักษณะเดียวกัน
คำพูดติดตลกประโยคหนึ่งที่ Kimmel บอกไว้คือ iPhone 5s ตัว "s" ย่อมาจาก shut up and give us your money ครับ (ฮา)
ที่มา: Mashable
โฆษกของแอปเปิลเผยข้อมูลเพิ่มเติมของ Touch ID Sensor ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือของ iPhone 5s ดังนี้
วันนี้คงถือเป็นวันดีสำหรับแอปเปิลในการบุกเอเชียตะวันออก เพราะสามารถเจรจากับโอเปอเรเตอร์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น NTT DOCOMO ได้สำเร็จ และฝั่งของจีนเองก็เกือบสิ้นสุดกระบวนการแล้ว
ก่อนหน้านี้แอปเปิลวางขาย iPhone ในจีนกับโอเปอเรเตอร์เบอร์สองและสามคือ China Unicom และ China Telecom มาได้สักระยะแล้ว แต่สำหรับ China Mobile โอเปอเรเตอร์เบอร์หนึ่ง (และถือเป็นรายใหญ่ที่สุดในโลก ลูกค้าเกือบ 750 ล้านคน) การเจรจาก็ยืดเยื้อมานานเพราะต่างฝ่ายก็ถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งในวงการของตัวเอง
ข่าวการเปิดตัว iPhone 5S และ 5C เมื่อคืนนี้มีทั้งกระแสตอบรับเชิงบวกและเชิงลบ แต่ในสายตาของนักลงทุนในสหรัฐอาจดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เพราะหุ้นแอปเปิลราคาตกลงจากวันก่อนหน้า 505 ดอลลาร์ ลดมาปิดตลาดที่ 494.64 ดอลลาร์ (ลดลง 2.28%) โดยตกไปต่ำสุดที่ 490.83 ดอลลาร์ก่อนดีดตัวกลับมาช่วงปิดตลาด
Yahoo! Finance วิเคราะห์ว่าปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนไม่ชอบใจคือราคาของ iPhone 5C ที่เปิดตัวแพงกว่าที่คาด และเมื่อแอปเปิลเผยราคาของ iPhone 5C ก็ทำให้ราคาหุ้นร่วงทันที
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุดของ iPhone 5S คงหนีไม่พ้น Touch ID Sensor หรือเซ็นเซอร์ตรวจสอบลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
รายละเอียดของเซ็นเซอร์ตัวนี้คือ
ของใหม่ที่สำคัญอีกอย่างของ iPhone 5S/5C คือการรองรับคลื่น LTE ของโอเปอเรเตอร์ทั่วโลกที่ดันใช้ย่านความถี่แตกต่างหลากหลายกันมาก ซึ่ง iPhone 5S/5C รองรับย่านความถี่เพิ่มขึ้นเป็น 17 ย่าน แต่ก็ต้องแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานทั้งโลกครับ
ย่านความถี่ยืนพื้นที่รองรับในทุกรุ่นย่อยคือ 1 (2100 MHz) 2 (1900 MHz) 3 (1800 MHz) 5 (850 MHz) 8 (900 MHz)
ส่วนที่เหลือต่างกันตามรุ่นย่อย
NTT DOCOMO โอเปอเรเตอร์เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นที่ปฏิเสธการขาย iPhone มานานหลายปี วันนี้เขื่อนทลาย ประกาศวางขาย iPhone ทั้งรุ่น 5S และ 5C โดยจะอยู่ในประเทศชุดแรกที่ขาย iPhone คือวันที่ 20 กันยายนนี้
DOCOMO ระบุว่าจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนเป็นต้นไป ส่วนราคายังไม่เปิดเผยครับ
ที่มา - Apple, NTT DOCOMO