คิดว่าในนี้คนมีคนเขียน Java และไช้ Eclipse กันบ้าง(เดา)ไปเจอวิธีการปรับแต่ง Eclipseเลยนำมาแนะนำกันครับ
1.ปรับแต่ง vm permSpace เพื่อจัดการ OutOfMemoryExceptions เจ้าตัวนี้เป็น memory สำหรับเก็บพวกโครงสร้างข้อมูล และข้อมูลของ classที่ใช้ในโปรเจค วิธีแก้ก็ง่ายๆครับ ปรับเจ้าตัว permSpace ให้มีขนาดมากขึ้นซะ โดยเพิ่ม XX:MaxPermSize=64m ต่อท้ายตอนเรียก eclipse.exe หรือก็เพิ่มใน eclipse.ini ครับ
ปีนี้ผมเชื่อเหลือเกินว่าวงการ Java จะกลับมาครึกครื้นอีกครั้งนึงแน่ๆ เพราะดูจากกำหนดการต่างๆ ของสิ่งที่เกี่ยวข้องด้วยแต่ละค่าย ปีนี้น่าจะมีอะไรสนุกๆ ให้ได้เห็นกันตลอดทั้งปีเลยเชียว
ส่วนข่าวของหัวข้อนี้ เป็นการรวบรวมข่าวที่เกี่ยวข้องกับ Eclipse เริ่มต้นที่ Eclipse รุ่น 3.1.2 ออกมาแล้วครับ รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นซ่อมบำรุง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักนอกจากแก้บั๊กไป 66 จุดที่พบจากรุ่น 3.1.1 ที่แล้ว อาจจะเป็นการออกมาแหย่เล่นตัดหน้า่ NetBeans 5.0 ที่เตรียมคลอดเร็วๆ นี้
หลังจากซัน ไมโครซิสเต็มส์ปล่อยให้ดาวน์โหลด Sun Java Studio Creator ฟรีๆไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
ตอนนี้ตัว Sun Java Studio Creator2 ออกมาแล้วครับผม
ตั้งหน้าตั้งตาคอยกันต่อไป เมื่อไหร่หนอจะออกรุ่นเต็มให้ได้ใช้กันสักที ผมคาดเอาเองว่าน่าจะเป็น RC สุดท้ายแล้ว เพราะนี่ก็ปาเข้าไปจะปลายเดือนมกราคมเต็มที เนื่องจากตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ Netbeans 5.0 รุ่นเต็มน่าจะถูกปล่อยออกมาภายในเดือนนี้
ใครที่อดใจไม่ไหว อยากลองเล่นดูก็ลองไปดาว์นโหลดมาใช้ล่วงหน้ากันได้เลย เอามาลองเล่นดูก่อน เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ Netbeans Day จะถึงคราวมาทัวร์เมืองไทยแล้ว แล้วพบกันในงานครับ
ที่มา - NetBeans.org
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เลยเอาข่าว JSR 198 มาฝากด้วยแล้วกัน
มาตรฐาน JSR 198 ว่าด้วยมาตรฐานการสร้าง Extension API สำหรับ Java IDE ถูกผลักดันมานมนานจาก Oracle นั้นออกรุ่นร่างสุดท้ายแล้ว
หากมาตรฐานนี้มีร่างสำเร็จและมีการนำไปใช้ จะส่งผลดีให้เวลาที่มีคนสร้างปลั๊กอินสำหรับ IDE ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องสร้างหลายๆ แบบเพื่อสนับสนุน IDE ของหลายๆ ค่ายอีกต่อไป
ภายในปีนี้เราคงได้เห็น JavaSE 6 หรือ Mustang ออกมาสักที ซึ่งในปีที่ผ่านมาทางฝั่ง Java ดูท่าทางไม่หวือหวาเท่าไหร่ การมาของ Mustang ในปีนี้น่าจะทำให้แฟนๆ Java หลายคนคึกคักขึ้นพอสมควร
ส่วนคนที่อยากรู้ภาพรวมของ JavaSE 6 มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถติดตามได้จาก JSR-270 ตัวนี้ ซึ่งเพิ่งออกรุ่น Early Draft Review มาให้เราไปอ่านความสามารถคร่าวๆ ซึ่งตัวเต็มที่จะออก อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากนี้ไปบ้างเล็กน้อย
AspectJ 5.0 ออกแล้วครับ ใครที่รู้จักแนวคิด Aspect-Oriented Programming (AOP) ก็คงคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี อยู่แล้ว AspectJ เป็นภาษาส่วนขยายที่ทำให้ Java สามารถทำ AOP ได้ แนวคิด AOP นี่มาแรงอยู่ช่วงปีที่แล้ว แต่ปีนี้ดูจะเงียบลงกว่าเดิมนิดนึง กลับกลายเป็น Ruby on Rail ที่เป็นเรื่องที่พูดถึงกันบ่อยของปีนี้
ส่วนแนวคิด AOP นั้นเป็นอย่างไร ถ้าใครสนใจให้ถามมาละกัน จะเล่าคร่าวๆ ให้ฟังกัน แต่ตอนนี้มาดูกันที่เนื้อหาของ AspectJ 5.0 ก่อนดีกว่า
JSF เป็นเว็บเฟรมเวิรก์สเปก สำหรับออกแบบเว็บยูเซอร์อินเตอร์เฟซสำหรับ J2EE ที่มีลักษณะจุดเด่นคือเป็น component-based เฟรมเวิร์ก คล้ายกับที่ ASP.Net เป็น ส่วนค่ายต่างๆ ที่เอาสเปกนี้ไปสร้างก็มีของ Sun เอง Oracle และค่ายโอเพ่นซอร์ส Apache MyFaces
Java Sandbox นั่นพูดสั้นๆ ง่ายๆ เหมือนเป็นสนามเด็กเล่นที่ให้ Applet เข้าไปวิ่งเล่นในเครื่องลูกข่าย (client) โดยกันไม่ให้ Applet นั้นเข้าถึงไฟล์ local system ก่อนจะได้รับอนุญาตจากผู้ใช้
Sacunia รายงานว่า พบรูรั่วหลายจุดที่ยอมให้ Applet ที่ไม่น่าเชื่อถือ สามารถหลบหลีกขั้นตอนการขออนุญาต เพื่อไป อ่าน/เขียน ข้อมูลในเครื่องลูกข่ายได้
โดย JDK/JRE รุ่นที่ตกอยู่ในอันตราย มีดังนี้
SourceForge ถือว่าเป็นแหล่งศูนย์รวมโครงงาน Opensource รายใหญ่ เพราะฉะนั้นจึงมีผลิตผลจากภาษาแตกต่างกันไป
และนี่คืออันดับความนิยมภาษาที่ใช้ในการพัฒนา
หลังจากไมโครซอฟต์ปล่อย VS.NET 2005 ออกมาอย่างเป็นทางการ ทางฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้นิ่งเฉย ออกมาปรับยุทธศาสตร์เพื่อมาต่อกรกันอย่างสนุกสนาน
จากข่าวที่นำเสนอไปคราวที่แล้ว เมื่อ Sun ใจปล้ำปล่อย Sun Java Studio Creator และ Sun Java Studio Enterprise ไปโหลดกันฟรีๆ
ทางด้าน NetBeans ที่เป็น IDE Opensource สำหรับพัฒนา Java และเป็นแก่นของ Sun Java Studio ก็ปล่อย NetBeans 5.0 beta 2 ออกมาให้โหลดไปเล่นกันแล้ว
Java 6.0 รหัส Mustang ที่กำลังพัฒนาอยู่ มีคนทดสอบว่าตัว HotSpot (หมายถึง Java Virtual Machine ของซัน ที่รวมมาใน Java Runtime Environment ซึ่ง JVM กับ JRE คืออะไรผมไม่เขียนนะครับ) มีความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้น 58% เทียบกับ HotSpot ของ 5.0
การทดสอบในที่นี้หมายถึง HotSpot Client เท่านั้น ใน JRE นั้นจะมี HotSpot 2 ตัวคือ Client และ Server ทำงานกันคนละแบบ อ่านรายละเอียดใน Wikipedia
LG แถลงข่าวเปิดตัวมือถือเครื่องแรกบนโลกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ SavaJe ซึ่งพัฒนาด้วยภาษา Java โดยพร้อมที่จะเปิดวางจำหน่ายทั่วโลกในปี 2006 ซึ่งก็เป็นมือถือแบบสไลด์โฟน (ดูรูปได้ที่นี่) จอสี TFT, กล้อง 1.3 ล้านพิกเซล, สนับสนุน SD Card ความจุสูงสุด 1 GB เล่นเพลงและวีดีโอได้ ก็คุณสมบัติตามมาตรฐานมือถือสมัยนี้ เพียงแต่ใช้ SaveJe OS นี่แหละที่เป็นจุดเด่นกว่าตัวอื่น
ที่ BentUser มีการทดสอบประสิทธิภาพสองแพลทฟอร์มคู่กัดในการพัฒนาโปรแกรมยุคใหม่ .NET 2.0 และ Java 1.5 ผลสรุปว่า .NET ชนะ 2 ใน 3 การทดสอบ รายละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบอ่านได้จากลิงก์ข้างต้น
ก่อนที่แฟนๆ ทั้งฝ่าย Java และ .NET จะทะเลาะกันเช่นเดียวกับฟอรัมอื่นๆ ขอให้นึกไว้เสียว่า การทดสอบ benchmark แบบนี้ไม่มีผลที่ถูกต้องแท้จริงอยู่แล้ว benchmark เป็นเครื่องมือในการยืนยันความเชื่อซะมากกว่า ยิ่งไม่ต้องลืมว่า benchmark สามารถโกงได้อีกด้วย (nVidia ทำมาแล้วนะครับ)ดังนั้นอ่านเอาความรู้เฉยๆ ดีกว่าครับ
เผอิญอ่านบล็อกของ Tim Bray (ผู้บริหารของซัน) เลยได้ข่าวว่า NetBeans 5.0 Beta ออกแล้ว
คุณสมบัติใหม่คร่าวๆ ได้แก่ Matisse GUI Builder, Refactoring, Code Completion, Version Control, etc. อย่างอื่นไปตามอ่านกันเอาเองนะครับ
update: Tim Bray เอง มีรีวิวคร่าวๆ ของตัวก่อน Beta ให้อ่านนิดหน่อยด้วย
โปรแกรมรวมสภาพแวดล้อมสำหรับพัฒนาโปรแกรม (IDE) ของจาวา (JAVA) ที่ชื่อ "IntelliJ IDEA" ตอนนี้ออกรุ่น 5.0 โดย JetBRAINSดาวน์โหลดได้ [ที่นี่] คุณสมบัติใหม่คร่าวๆ มี advanced Css, Html, XHtml, รองรับ Javascript และ JSP ,รองรับ Integrated Subversion-Perforce ,รองรับการพัฒนา J2ME อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถของตัว editor-coding [อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่] ซึ่ง IDEA นั่นเป็นซอฟต์แวร์เชิงพานิชย์ อย่างไรก็ตามมีรุ่นที่ฟรีเพื่อสนับสนุนโครงการในโอเพนซอร
ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเหมือนกันว่ายักษ์ใหญ่ IDE อย่าง Borland จะต้องพบกับสถานการณ์ยากลำบากขนาดนี้เมื่อ CEO, Dale Fuller ตัดสินใจลาออกหลังจาก Borland มีรายได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ (ซึ่งคาดไว้ต่ำอยู่แล้ว) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็น่าจะมากจากการที่ IDE ฟรีอย่าง Netbeans และ Eclipse หรือจ่ายเงินแต่ไม่แพงเท่าอย่าง IntelliJ นั้นพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพขึ้นมาเทียบเท่าหรือเหนือกว่าจนคนเริ่มคิดว่าจะจ่ายแพงกว่าทำไม (แม้กระทั่ง Borland เองยังประกาศขยับไปใช้ Eclipse Platform ในรุ่นต่อไปเลย)
หลังๆ Opensource Project คุณภาพดีขึ้นจริงๆ
แม้ว่าภาษาจาวานั้นจริงๆ แล้วจะออกไว้ในตอนแรกเพื่อให้ทำงานในเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ในนวันนี้เราคงไม่ได้เห็นเครื่องใช้ไฟฟ้าจาวากันสักเท่าใหร่
แต่ความเปลี่ยนแปลงอาจจะกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อซันออกสเปคของจาวาเพื่อการทำงานในเวลาจริง (Real-Time) ออกมาแล้ว โดยในรุ่นนี้จะแตกต่างจากรุ่นปรกติที่โปรแกรมสามารถเข้าถึงหน่วยความจำได้โดยตรง และมีสามารถเข้าควบคุมการจัดการเธรด (Thread) ได้อีกด้วย
น่าจะเร็วขึ้นมาก แต่เราอาจจะได้เห็นหน้าจอ
Java Segmentation Fault
ข้างล่างมีข่าวไมโครซอฟท์จับมือกับโตชิบา ผู้หนุนหลังสำคัญของฟอร์แมต HD-DVD ฝั่ง Blu-Ray ก็ไม่น้อยหน้าครับ จับมือกับซัน โดยจะนำจาวาไปใช้กับเครื่องเล่น Blu-Ray เช่น ใช้ในการทำเมนู หรือการใช้งานผ่านเน็ตเวิร์คเป็นต้น
สงครามฟอร์แมตแผ่นดิสก์ยุคหน้าระหว่าง HD-DVD กับ Blu-Ray ยังคงไม่ยุติง่ายๆ ผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็หวังว่าจะจบลงด้วยดีมีฟอร์แมตเดียวล่ะครับ จาก CNET
IDE ทรงพลังของจาวา "Eclipse" ซึ่งออกเวอร์ชั่น 3.0 มาตั้งแต่ 25 มิถุนายน 47 ตอนนี้ได้ปล่อยเวอร์ชั่น 3.1 ให้ดาวน์โหลดแล้ว สนับสนุนการใช้งานจาวา 5.0 เต็มที่ ปรับปรุงส่วนการสนับสนุนสำหรับการพัฒนา "rich client applications"
มันเป็นการเล่นคำภาษาอังกฤษน่ะนะครับ ไม่รู้จะแปลไทยยังไงสวยๆ เล่าเรื่องก่อนคือ Eclipse ซึ่งเป็น IDE ภาษาจาวา (ตอนนี้เป็นมากกว่านั้นแล้ว) ที่สนับสนุนโดย IBM มันแปลว่าสุริยคราส ซึ่งไปข่ม Netbeans ซึ่งเป็น IDE จาวาของ Sun อยู่ในตอนนี้
(ข่าวเก่าเรื่อง Apache เตรียมเปิดโปรเจกต์ใหม่ ทำ Open Source Java)
ถ้าเกิดทำสำเร็จก็จะมีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อนักพัฒนาจาวาจำนวนมากทั่วโลก (ปัจจุบันจาวาเป็นภาษาในกระแสไปแล้วนะครับ) ที่น่าสนใจคือเสียงตอบรับจากทางซันเองก็ออกมาในทางที่ดีมากและชื่นชมเช่นเดียวกัน
Graham Hamilton's Blog: Thoughts on the Apache J2SE "Harmony" Project Tim Bray
IDE สำหรับจาวาที่เป็นโอเพ่นซอร์ส ออกเวอร์ชัน 4.1 แล้ว เผอิญว่าจาวาผมไม่ค่อยถนัดนักเลยไม่รู้ว่าฟีเจอร์ใหม่ไหนสำคัญบ้าง อ่านกันเองดีกว่าเนาะ NetBeans IDE 4.1
ตอนนี้ Apahce ได้เตรียมเปิดโครงการใหม่ชื่อ Harmonyโดยจะทำการสร้าง J2SE Runtime ซึ่ง compatible กับตัว Runtime ของ Sun ทั้งนี้แม้ว่า Java จะไม่ได้โอเพ่นซอร์ส แต่สเปกต่างๆนั้นเป็นแบบเปิด สามารถนำไปทำต่อกันเองได้ โดยจะได้ Developer บางส่วนจากโปรเจกที่ทำเรื่องนี้เหมือนกัน อย่าง Kaffe และ GNU Classpath มาร่วมทำด้วย
หลังจากที่หลายคนรอจนบางคนลืมไปแล้วว่า Java 5.0 (โค้ดเนม Tiger) ยังรันบน Mac OS X ไม่ได้ ทั้งๆที่ Java 5.0 ออกมามากกว่าครึ่งปีแล้ว จน Developer จำนวนมากเริ่มงอนว่า Apple รัก Java ไม่จริง (ทั้งๆที่ Apple พยายามจะโน้มน้าวว่า Mac OS X เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับ Developer ที่สุด) แต่แล้วหลังจาก Apple ปล่อย OS X 10.4 (โค้ดเนม Tiger เหมือนกัน) ออกมา การรอคอยก็สิ้นสุดเสียที เย้ :-)