ข่าวใหญ่ของวงการไอทีวันนี้คงหนีไม่พ้น Office for iPad ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของไมโครซอฟท์ยุคใหม่ใต้วิสัยทัศน์ Mobile-First Cloud-First
Office for iPad ยังไม่รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ และยังไม่เปิดให้ดาวน์โหลดจาก App Store ของประเทศไทย แต่เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญและใกล้ตัวผู้ใช้งานด้านไอทีจำนวนมาก Blognone จึงมาลองทดสอบการใช้งานกันแบบพรีวิวว่าเป็นอย่างไรบ้าง เหมาะกับการใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหน
คำเตือน: รูปเยอะมากครับ
Microsoft ปล่อยซอร์สโค้ดของซอฟต์แวร์ดึกดำบรรพ์ชื่อดังของตนเองอย่าง MS-DOS และ Word for Windows ให้ผู้คนทั่วไปได้นำไปศึกษา และมีการจัดเก็บบันทึกเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์
สำหรับซอร์สโค้ดของ MS-DOS นั้นเป็นของรุ่น 1.1 และ 2.0 ซึ่งเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 1983 ส่วนโปรแกรม Word for Windows ที่มีการปล่อยซอร์สโค้ดออกมานั้นคือรุ่น 1.1a
Roy Levin วิศวกรพิเศษและผู้อำนวยการของ Microsoft Research ได้กล่าวขอบคุณพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ Computer History Museum ที่จะช่วยเก็บรักษาซอร์สโค้ดอันล้ำค่านี้ไว้เพื่อการศึกษาด้านประวัติศาสตร์และพัฒนาการด้านซอฟต์แวร์ต่อไปในอนาคต
ไมโครซอฟท์รายงานบั๊ก Microsoft Word ทำให้แฮกเกอร์ที่ส่งไฟล์มุ่งร้ายสามารถเข้าควบคุมเครื่องได้จากการเปิดไฟล์ขึ้นมาดู โค้ดที่ฝังอยู่ในไฟล์ RTF จะมีสิทธิเท่ากับผู้ใช้ที่ล็อกอินอยู่
บั๊กนี้ยังไม่มีการอุดช่องโหว่ออกมา คำแนะนำระหว่างนี้คือปิดความสามารถในการเปิดไฟล์ RTF ของ Microsoft Word ไปชั่วคราวเพื่อรอแพตซ์ต่อไป, ส่งอีเมลหากันเป็นเท็กซ์, และเปิดใช้งาน Enhanced Mitigation Experience Toolkit ไปก่อน ระหว่างนี้ไมโครซอฟท์กำลังดูความเป็นไปได้ว่าจะปิดบั๊กตัวนี้อย่างถาวรได้อย่างไร โดยอาจจะออกแพตซ์ในรอบหน้าหรือออกแพตซ์นอกรอบ
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Word Web App (Microsoft Word เวอร์ชันทำงานผ่านเบราว์เซอร์) ว่าสามารถแก้ไขเอกสาร PDF ได้แล้ว โดยจะแยกแก้ไขเป็นไฟล์ Word อีกไฟล์หนึ่ง ไม่ใช่แก้ทับไฟล์ PDF เดิม
ไมโครซอฟท์เตือนว่าการแก้เอกสาร PDF อาจมีฟอร์แมตไม่ตรงกับต้นฉบับเป๊ะๆ แต่ก็ช่วยให้ผู้ใช้ที่ต้องการแก้ไขข้อความในไฟล์ PDF ไม่ต้องไปหาโปรแกรมแก้ PDF เพิ่มเติม
ผู้ใช้ SkyDrive, Outlook.com, Outlook Web App ที่มีไฟล์ PDF สามารถคลิกขวาที่ไฟล์แล้วสั่ง Open in Word Web App ได้โดยตรง ส่วนผู้ใช้ SkyDrive Pro กับ SharePoint Online ต้องรอฟีเจอร์นี้กันอีกหน่อยเนื่องจากไมโครซอฟท์พบบั๊กและกำลังแก้ไขอยู่
ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Microsoft Word ภาคเว็บ (Word Web App) ให้สามารถเขียนเอกสารพร้อมกันหลายคนได้แล้ว
ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ Word Web App ทัดเทียมกับ Google Docs ซึ่งมีฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่แรก (และเป็นจุดขายสำคัญ) แต่กรณีของ Word Web App จะเหนือกว่าตรงที่แชร์เอกสารร่วมกับ Word 2010 และ Word for Mac 2011 ได้ด้วย โดยไฟล์จะเก็บไว้บน SkyDrive
รูปแบบการเขียนพร้อมกันหลายคนของ Word จะใช้วิธี "ล็อค" แต่ละย่อหน้าให้เขียนได้ทีละคน (แต่สามารถเขียนพร้อมกันได้ถ้าเป็นคนละย่อหน้า) แล้วต้องสั่งเซฟเอกสาร ซึ่งจะ refresh ข้อมูลไปในตัว ต่างจากกรณีของ Google Docs ที่เห็นตลอดว่าเพื่อนเราพิมพ์อะไรอยู่
ก่อนหน้านี้ที่เคยมีเรื่องมีราวกันเกี่ยวกับการที่ Microsoft Office Word มีการละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับ XML ของบริษัท i4i (ดูข่าวเก่า) ซึ่งหลังจากที่ศาลได้สั่งให้ไมโครซอฟท์มีความผิด และให้หยุดจำหน่าย Word เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ไมโครซอฟท์ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลจึงอนุญาตให้ยังจำหน่ายได้ชั่วคราว จนล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้ ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์ และสั่งให้ไมโครซอฟท์หยุดจำหน่าย Word รุ่นที่มีเทคโนโลยีซึ่งละเมิดสิทธิบัตรดังกล่าวภายในวันที่ 11 มกราคมนี้
เมื่อคืนนี้ (วันที่ 17 ก.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ) ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Microsoft Office Web Apps Community Technical Preview (CTP) แล้ว มีรายละเอียดดังนี้