ในงาน CES 2010 บริษัท Palm ได้เปิดตัว Palm Pre Plus และ Palm Pixi Plus อย่างเป็นทางการแล้ว

สิ่งที่ Pre Plus ต่างจาก Pre เดิมได้แก่ เอาปุ่มกดด้านหน้าออกไปทั้งหมด แล้วเปลี่ยนเป็น soft button แทน, ปรับปรุงด้านฮาร์ดแวร์โดยเฉพาะตัวเลื่อนคีย์บอร์ดที่ได้รับเสียงบ่นในรุ่นแรก, เอาสีส้มของคีย์บอร์ดออกและปรับการเด้งของปุ่มใหม่ให้กดง่ายขึ้น, เพิ่มหน่วยความจำเป็น 16GB

ส่วน Pixi Plus เพิ่ม Wi-Fi และเลือกสีของฝาหลังได้ ทั้งสองเครื่องขายกับ Verizon Wireless ในวันที่ 25 มกราคมนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้คือ Motorola Motus มือถือ Android ตัวที่สามของ Motorola? ตอนนี้มันได้ชื่อจริงแล้วว่าเป็น Motorola Backflip ซึ่งเป็นชื่อเรียกของคีย์บอร์ดแบบ "พับกลับหลัง" ของมือถือตัวนี้

Motorola Backflip เป็นมือถือระดับกลาง สเปกและขุมพลังอยู่ในระดับเดียวกับ Motorola CLIQ ซึ่งเป็นมือถือ Android ตัวแรกของบริษัท เทียบไม่ได้กับ Motorola/Verizon Droid ที่วางตัวไว้เป็นมือถือระดับเรือธง ตามข่าวก่อนหน้านี้ Backflip จะวางขายกับ AT&T ครับ

คุณ "ผู้ค้นพบ" จากเว็บ Pantip.com ได้ตั้งข้อสงสัยว่าภาพของ i-mobile IE8500 ที่ออกมานั้น เหมือนกับภาพของ General Mobile COSMOS มาก ชวนให้สงสัยว่าจริงๆ แล้ว IE8500 คือ COSMOS ที่เอามาแปะยี่ห้อ i-mobile หรือไม่ (ดูภาพ IE8500 ได้ที่ Pantip.com)

ขณะที่ยังไม่มีข้อมูลยืนยัน สเปคของ COSMOS นั้นนับว่าน่าสนใจมาก

ที่งาน CES 2010 นอกจาก Lenovo จะเปิดตัว Skylight และ IdeaPad U1 แล้ว ยังมีมือถือ Android ที่ชื่อว่า "LePhone" อีกด้วย

ข้อมูลที่มีในขณะนี้คือ จอ 3.7" ความละเอียด 480x800 กล้อง 3MP มีส่วนรับการสัมผัสที่ต่อขยายมาจากจอ (เหมือนกับ Palm Pre) และไม่มีปุ่มที่เป็น hard button เลย ซีพียูเป็น 1GHz Qualcomm Snapdragon ตัวเครื่องหนาเพียง 12mm ระบบปฏิบัติการใช้ Android 2.1 รุ่นที่ Lenovo ปรับแต่งเอง มีโปรแกรม Twitter และ Facebook เฉพาะ และมี app store ของตัวเอง

ตอนที่ Palm Pre ออกมาไม่นาน มีข่าวว่าเครือข่าย Verizon จะได้ Pre ไปร่วมวงด้วย แต่สุดท้ายข่าวก็เงียบหายไป

ตอนนี้ข่าวกลับมาอีกแล้ว โดยข่าวที่หลุดออกมาคือ Pre และ Pixi รุ่นของ Verizon จะมี Plus ห้อยท้าย ซึ่ง Palm Pre Plus จะเพิ่มหน่วยความจำเป็น 16GB จากเดิม 8GB ส่วน Pixi Plus จะมี Wi-Fi เพิ่มเข้ามา จากเดิมที่ไม่มี

รายละเอียดอย่างเป็นทางการ รอดูใน Keynote ของ Palm ที่งาน CES 2010 วันพรุ่งนี้

ที่มา - Phone Arena, Engadget

หลังจากที่หากินกับไอโฟนมาเป็นระยะเวลานาน ในที่สุดเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาอย่าง AT&T ก็ประกาศว่าจะวางขายโทรศัพท์มือถือในระบบ Android ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ทั้งหมด 5 รุ่นจาก 3 แบรนด์ดังคือ Motorola, Dell และ HTC โดยทาง Engadget คาดการณ์ไว้ว่าโทรศัพท์ที่จะออกวางจำหน่ายน่าจะเป็น Motorola Backflip (รูปประกอบ) ที่มีลักษณะคล้ายๆ กับ Motorola CLIQ (สเปคก็น่าจะใกล้เคียงกัน) และอีกรุ่นที่มาแน่นอนคือ Dell mini 3 ที่ไปบุกตลาดจีนมาพักใหญ่ๆ แล้ว ส่วนอีกสามเครื่องที่เหลือน่าจะมาจากแบรนด์ของ HTC ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้

เรารู้เรื่องนี้กันอยู่ก่อนแล้วว่า Flash 10.1: Flash ตัวเต็มรองรับ smartphone OS หลัก แต่เมื่อ Adobe ประกาศเรื่องนี้พร้อมกับเดโมการใช้ Flash อย่างเป็นทางการบน Nexus One มันก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ดี

Adobe เดโม Flash Player 10.1 รุ่นทดสอบบน Nexus One โดยบอกว่าทำงานร่วมกับเว็บไซต์ชื่อดังหลายแห่งที่ใช้ Flash เพื่อทดสอบว่าผลงานออกมาดีบน Nexus One (ในเดโมโชว์เว็บไซต์ National Geographic และเกมจาก miniclip.com) วิดีโอสาธิตการทำงานดูด้านในครับ

ตอนนี้ Nexus One ยังไม่มี Flash Player แต่ทาง Adobe บอกว่าเมื่อมันเสร็จสมบูรณ์จะออกอัพเดตให้เจ้าของ Nexus One ทุกคนโดยอัตโนมัติ

บริษัท ChangeWave Research ได้ทำการสอบถามความเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อสมาร์ทโฟนยี่ห้อต่างๆ และผลการสอบถามประจำเดือนธันวาคม 2009 ออกมาแล้ว พบว่า Android ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า เช่นเดียวกับ Motorola ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะแคมเปญโฆษณา Motorola Droid ในสหรัฐ

ผู้ตอบแบบสอบถาม 4% จากทั้งหมด 4,068 คนตอบว่าใช้มือถือ Android อยู่ ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2009 ถึง 3 จุด ที่น่าสนใจกว่าคือผู้ตอบแบบสอบถาม 21% บอกว่ามีแผนจะซื้อมือถือ Android ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเดือนกันยายนยังมีแค่ 6% (ดูกราฟประกอบ)

Rick Simonson หัวหน้าฝ่ายมือถือคนใหม่ของโนเกีย (ย้ายมาจากตำแหน่ง CFO เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ India Economics Times ว่า

เว็บไซต์ Engadget ได้เครื่อง Nexus One ตัวจริงไปลองเรียบร้อยแล้ว ทำให้เราได้เห็นภาพถ่ายทุกซอกทุกมุม พร้อมวิดีโอสาธิตการใช้งานแบบเต็มๆ

จุดสังเกตที่น่าสนใจ

• Nexus One ทำงานเร็วมาก
• มีภาพพื้นหลังเป็นแอนิเมชัน (แนะนำให้ดูวิดีโอจะเห็นภาพ) กูเกิลเรียกว่า live wallpaper
• ปรับอินเทอร์เฟซของการเรียกโปรแกรม-สลับหน้าจอให้สวยงามขึ้น
• มี widget แบบใหม่ๆ เช่น พาดหัวข่าวจาก Google News
• ยังไม่รองรับมัลติทัช
• โดยรวมแล้วยังเป็น Android ในลักษณะเดิม วิธีการใช้งานไม่ต่างมากนัก ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นในแง่ฟีเจอร์

ตอนนี้ดูรูปและวิดีโอกันไปพลางๆ แล้วรอดูการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มกราคมนี้

ในบรรดามือถือของ Motorola ที่มีข่าวออกมาในช่วงหลังๆ แม้ว่าจะทยอยเปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปเยอะ แต่ยังมีอยู่ตัวหนึ่งที่คนเหมือนจะลืมๆ กันไปแล้วคือ Motorola Calgary

ตอนนี้มีข่าวออกมาว่าชื่อที่ใช้ทำตลาดจริงอาจเป็น DROID Devour ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตระกูล DROID และรูปร่างหน้าตาก็ดูคล้ายๆ กัน (ดูภาพประกอบด้านใน) คนที่จับเครื่องมาแล้วบอกว่าคีย์บอร์ดนั้นกดง่ายกว่าของ DROID นอกจากนั้นมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ ครบ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, GPS และใช้แบตเตอรี่ขนาด 1420mAh

มันอาจใช้ระบบปฏิบัติการ MOTOBLUR ที่ใช้ใน Motorola CLIQ ด้วย (ใน DROID ใช้ Android รุ่นปกติของกูเกิล)

นับแต่มีการเปิดตัว Swype บนเครื่อง Omnia II ทาง Swype ก็ประกาศชัดเจนว่าจะมีซอฟต์แวร์แบบเดียวกันบน Android ด้วย และวันนี้ซอฟต์แวร์นี้ก็หลุดออกมาในอินเทอร์เน็ตแล้ว (ดูวีดีโอหลัง break)

ไฟล์ที่หลุดออกมาเป็นไฟล์ apk ตามปรกติ เพียงแค่เปิดรับ Unknown Source ก็น่าจะติดตั้งได้ แต่ข่าวร้ายคือไม่รองรับเครื่องที่หน้าจอไม่เป็น WVGA (800x480)

ว่าแต่ความละเอียดนี้นอกจาก Droid แล้วมันจะมีเครื่องไหนมั่ง?

ที่มา - Droid Muff

แม้ผู้ให้บริการโทรศัพท์จำนวนมากกำลังผันตัวเองจากบริการโทรศัพท์มาเป็นบริการข้อมูล แต่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์ก็ยังมีอยู่จำนวนมาก และบริการเสียงนั้นไม่ได้รับการพัฒนาเลยนับแต่มันถูกออกแบบมาเมื่อ 19 ปีที่แล้ว เช่นเดียวกับการเข้ารหัสแบบ A5 ที่เพิ่งจะถูกแกะไป (จริงๆ มี A3 และ A8 ด้วย) แต่วันนี้ Orange ก็ประกาศแล้วว่าปีหน้าจะมีบริการเสียงในระดับ HD ให้บริการ

ปัญหาความครอบคลุมของสัญญาณ 3G นั้นมีปัญหากันทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ได้รับอนุญาตกันมานานแล้ว หรือประเทศที่ยังก้ำกึ่งอย่างบ้านเรา เลยมีคนหาวิธีการเร่งสัญญาณกันว่าทำอย่างไรจึงจะใช้ 3G ได้สะดวกขึ้น

วิธีที่มีการเสนอมาล่าสุด คือเอาหม้อสแตนเลสธรรมดาๆ แล้วใส่โมเด็ม 3G ลงไป แล้วจะได้สัญญาณแรงขึ้น โดยไม่มีการแก้ไขใดๆ (ดูวีดีโอหลัง break)

ถ้า 3G บ้านเรายังลุ่มๆ ดอนๆ ต่อไปอีกสักปี เราจะเห็นโฆษณาหม้อสแตนเลสระบุฟีเจอร์นี้ด้วยก็เป็นได้

ที่มา - Mobile Broadband Blog

หลังจากโดนซัมซุงรุกหนัก ทำให้โนเกียผู้ครองบัลลังก์ผู้ผลิตมือถืออันดับหนึ่งของโลก ต้องปรับทัพด้วยการเตรียมยกเครื่องระบบปฎิบัติการ Series 40 หรือที่รู้จักกันในนาม S40 ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในเครื่องโทรศัพท์ระดับล่างนั่นเองครับ

สิ่งที่น่าสนใจคือ โนเกียจะเพิ่มระบบจอสัมผัส, ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด (โอ้ว!), และคีย์บอร์ดแบบ QWERTY โดย S40 ฉบับยกเครื่องใหม่คาดว่าจะถูกเปิดตัวในช่วงปี 2010 นี้

สำหรับระบบ Symbian นั้นจะถูกปรับให้เป็นระดับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ส่วน Maemo น้องใหม่ก็จะไปอยู่ในส่วนของโทรศัพท์ระดับสูง (high-end) ไปแทน ซึ่งทั้งสองระบบนี้ก็จะได้รับการปรับปรุงในเรื่องของรูปลักษณ์การใช้งานและส่วนของการติดต่อกับผู้ใช้ เช่น เพิ่มระบบมัลติทัช เป็นต้น

เว็บไซต์ Gizmodo ได้ภาพหลุดของหน้าเว็บที่กูเกิลจะใช้สั่งซื้อมือถือ Nexus One ซึ่งในหน้านี้มีข้อมูลที่มีค่าสำหรับเราๆ อย่างมาก นั่นคือราคานั่นเอง

ถ้าข้อมูลตามหน้าเว็บเป็นความจริง เราจะรู้ว่า

• Nexus One แบบติดสัญญาของ T-Mobile สองปี อยู่ที่ 179.99 ดอลลาร์ (จ่ายรายเดือนอีกเดือนละ 79.99 ดอลลาร์)
• Nexus One เครื่องเปล่า อยู่ที่ 529.99 ดอลลาร์ (ราวๆ 18,000 บาท)
• อุปกรณ์เสริม docking station 39.99 ดอลลาร์
• อุปกรณ์เสริม car docking station 49.99 ดอลลาร์

หน้าเว็บนี้จะอยู่ที่ google.com/phone และจากข้อมูลของ Gizmodo ที่เห็นสัญญาการซื้อเครื่อง บอกว่ามีข้อตกลงในการสั่งซื้อจากนอกสหรัฐด้วย!

ไมโครซอฟท์ Innovation Lab ของประเทศอียิปต์เปิดตัวระบบ Mobicast ระบบที่สามารถรวมวีดีโอจากกล้องของโทรศัพท์มือถือหลายตัวให้เป็นวีดีโอเดียวกันได้แบบเรียลไทม์

หลักการทำงานนั้น เมื่อโทรศัพท์มือถือสองเครื่องหรือมากกว่าที่อยู่บริเวณเดียวกันถ่ายวีดีโอซีน (scene) เดียวกัน ระบบที่อยู่ในเครื่องแม่ข่ายจะซิงโครนัสเฟรมที่ได้จากกล้องต่างๆ แล้วใช้การรู้จำภาพ (Image Recognition) ในการพิจารณาว่าแต่ละวีดีโอควรจะต่อกันที่ตำแหน่งไหน

มีการทดสอบที่กรุงไคโร พบว่าระบบดังกล่าวสามารถรวมวีดีโอได้สูงสุดจากโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เชื่อมต่อผ่านเครือข่าย WiFi นอกจากนั้นผู้ถ่ายวีดีโอก็สามารถปรับตำแหน่งการถ่ายได้เพื่อให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เนื่องจากระบบทำงานได้แบบเรียลไทม์

มีข่าวลือว่าสปรินท์ (Sprint) ผู้ให้บริการโทรศัพท์ในสหรัฐฯ กับ ไมโครซอฟท์ และแอลจี ผู้รับผลิตโทรศัพท์ภายใต้แบรนด์ไมโครซอฟท์ จะร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวไวแมกซ์สมาร์ทโฟนในวันที่ 6 ม.ค. (วันก่อนหน้างาน CES เพียงวันเดียว) คาดกันว่าไวแมกซ์สมาร์ทโฟนนี้น่าจะสนับสนุนเครือข่าย 3G ด้วย

ที่มา: Neowin.net

ความคิดเห็นผู้เขียนข่าวลง Blognone: งานนี้ข่าวเปิดตัวกูเกิลโฟนในวันที่ 5 ม.ค. กลบสนิทแน่ เหอะๆ

บริษัทวิจัย Flurry เปิดเผยตัวเลขและสถิติต่างๆ ของ iPhone และ iPod touch

ตัวเลขที่น่าสนใจคือช่วงวันคริสต์มาสที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ยอดดาวน์โหลดโปรแกรมของ iPod touch ซึ่งเดิมตามหลัง iPhone มาตลอด พุ่งกระฉูดมากกว่า 1000% ถ้าเทียบกับ iPhone ในวันคริสต์มาสเหมือนกัน มีตัวเลขเหนือกว่าถึง 172%

เหตุผลก็เป็นเพราะคนนิยมให้ iPod touch เป็นของขวัญวันคริสต์มาสน่ะเอง ประมาณว่าแกะกล่องของขวัญแล้วก็ดาวน์โหลดโปรแกรมกันทันที

ถ้าเทียบยอดทั้งหมดของ App Store แต่ละค่ายในเดือนธันวาคม ยอดรวมของแอปเปิลเพิ่มขึ้น 51% ส่วน Android Market เพิ่ม 22% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน

LG เป็นค่ายที่เงียบๆ ในเรื่อง Android แม้ว่าบริษัทจะเปิดตัวมือถือ Android ออกมาสองรุ่นคือ GW880 (ข่าวเก่า) และ GW620 (ข่าวเก่า)

ล่าสุดเว็บไซต์ Boy Genius Report ได้รายงานมือถือ Android รุ่นที่สามของ LG ซึ่งจะใช้ชื่อรุ่นว่า LS680 สเปกยังมีนิดเดียวคือจอสัมผัสจอใหญ่ และมีคีย์บอร์ด QWERTY

ตามข่าวบอกว่าในสหรัฐจะขายกับเครือข่าย Sprint ครับ

ที่มา - Boy Genius Report

งานวิจัยจาก Mobile Youth พบว่า BlackBerry มีส่วนแบ่ง 2% ในกลุ่มนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของอังกฤษ จากเดิมที่ไม่มีคนใช้เลยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

จากการสำรวจนักศึกษา 1,000 คน พบว่าโนเกียยังมีส่วนแบ่งเป็นอันดับหนึ่งคือ 30% ตามมาด้วย Sony Ericsson 27% ส่วน BlackBerry แม้ว่าจะยังน้อยแต่มีอัตราการเติบโตที่สูงมาก

นักวิเคราะห์จาก Gartner บอกว่า ภาพลักษณ์ของ BlackBerry เปลี่ยนไปมาก ตอนนี้กลายเป็นว่าคนใช้ BlackBerry กลายเป็นคนเท่ไปแล้ว ปัจจัยหนุนที่สำคัญคงเป็นการปรับแผนของ RIM บริษัทแม่ ที่หันมาจับตลาดผู้บริโภคทั่วไปหลังตลาดธุรกิจเริ่มอิ่มตัว โดยผู้ใช้ BlackBerry หน้าใหม่กว่า 80% เป็นผู้บริโภคทั่วไป

ต่างประเทศมีสงคราม Android ถล่มโลกกันไม่เว้นแต่ละวันจนผมขี้เกียจเขียนถึง โดยเฉพาะเมื่อยังไม่ค่อยเห็นยี่ห้ออื่นนอกจาก HTC ซึ่งราคาแพงเกินไป ทำตลาดกันจริงจัง มาวันนี้เริ่มมีข่าวคราวในบ้านเรากันบ้าง

เริ่มจาก Samsung Spica ที่แอบเข้ามาวางตลาดอย่างเงียบๆ ในราคา 12,900 บาท นับว่าไม่ต้องรอนานกันนัก เมื่อคิดว่าต่างประเทศเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน

ที่มา - Pantip.com

บริษัทวิจัย Forrester Research ได้ตีพิมพ์งานวิจัยชื่อ "Predictions 2010: Enterprise Mobility Accelerates Again" ซึ่งสรุปแนวโน้มของวงการมือถือและอุปกรณ์พกพาในปีหน้าได้ 7 ข้อ ดังนี้

เว็บ 9 to 5 Mac ให้ข้อมูลจากแหล่งข่าวในไต้หวันว่า แอปเปิลได้สั่งซื้อ CMOS สำหรับกล้องดิจิทัลจากบริษัท OmniVision เพิ่มอีกเท่าตัวในปี 2010 และแหล่งข่าวจาก Digitimes บอกว่ามันเป็น CMOS สำหรับกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และจะใช้ใน iPhone ที่เปิดตัวช่วงครึ่งหลังของปี 2010

กล้องใน iPhone 3GS ใช้ CMOS แบบ 3.2 ล้านพิกเซลจาก OmniVision เช่นกัน ส่วน iPhone 3G ใช้ของบริษัท Aptina

ข่าวเรื่องกล้องผมว่าไม่น่าแปลกใจ แต่เรื่องกำหนดเปิดตัว ถ้าเป็นจริงก็น่าจะประกาศในงาน WWDC เดือนมิถุนายน และเป็นครั้งแรกที่ iPhone ไม่ได้เปิดตัวช่วงต้นปี

หลังจากที่เจ้า Nexus One มือถือแอนดรอยด์ที่ผลิตโดยเจ้าของระบบปฏิบัติการอย่างกูเกิลได้เผยสู่สายตาชาวโลกเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทั้งยังมีภาพหลุดตัวเครื่อง, สเปคจากผู้ที่ได้ใช้งาน และล่าสุดคือ UI ของแอนดรอยด์ 2.1 หลุดออกมาเป็นระยะ มาตอนนี้ทางเว็บไซต์ Engadget ก็ได้สเปคโดยละเอียดของเจ้าเครื่องดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งมีดังนี้คือ