ถ้าจำกันได้เมื่อเดือนตุลาคม Tim Cook เคยออกมาประกาศว่าบริการสตรีมเพลง Apple Music มีผู้จ่ายเงินรายเดือนมากถึง 6.5 ล้านคน หลังจากเปิดตัวมาครบ 6 เดือนก็มีรายงานชิ้นใหม่ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 10 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย

รายงานชิ้นดังกล่าวออกมาจากแหล่งข่าวของ Financial Times ซึ่งถ้ามองว่ายอดดังกล่าวเป็นของจริง จะถือว่าแอปเปิลทำผลงานได้ดีมาก เมื่อเทียบกับ Spotify ยักษ์ใหญ่ในวงการที่ใช้เวลากว่า 6 ปีในการทำยอดผู้ใช้ทะลุ 10 ล้านคนเมื่อปี 2014 (ปัจจุบันอยู่ที่ 20 ล้านคน)

KakaoTalk แอพแชตยอดนิยมจากเกาหลีใต้ ทุ่มเงิน 1.55 พันล้านดอลลาร์ซื้อกิจการ MelOn บริการเพลงแบบสตรีมมิ่งรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ด้วยการจ่ายเป็นเงินสดและหุ้น

ปัจจุบัน MelOn มีสมาชิก 28 ล้านคน และเป็นบริการเพลงออนไลน์อันดับหนึ่งของเกาหลีใต้ ทาง Kakao ให้เหตุผลของการซื้อว่าเพลงเป็นคอนเทนต์ที่ทรงพลังในยุคแห่งอุปกรณ์พกพา และจะช่วยให้บริการ KakaoTalk เข้มแข็งมากขึ้นไปอีก

ปัจจุบัน KakaoTalk มีผู้ใช้ในเกาหลีใต้ประมาณ 37 ล้านคน (ทั้งประเทศมีประชากร 50 ล้านคน) และเริ่มมองหาช่องทางการขยายตลาดไปยังนอกประเทศให้มากขึ้น ซึ่งก็ต้องเผชิญกับคู่แข่งสัญชาติอื่นๆ ทั้ง LINE, WeChat, WhatsApp และ Facebook Messenger

บริษัทวิจัยตลาด Nielsen ออกรายงานสภาพตลาดเพลงแบบสตรีมมิ่งประจำปี 2015 (เฉพาะในสหรัฐอเมริกา) พบว่าตลาดรวมโตขึ้น 92.8% (นับรวมทั้งเพลงและมิวสิควิดีโอ) โดยตัวเลขนี้รวมจากผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหลายราย เช่น Spotify, YouTube, Beats, Google Play Music, Xbox Music, AOL

ถ้าแยกคิดเฉพาะเพลง ตลาดโตขึ้น 83% ส่วนวิดีโอเติบโต 102%, เพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มสตรีมมิ่งคืออัลบั้ม Purpose ของ Justin Bieber ทำสถิติคนฟังสตรีมเกิน 100 ล้านครั้งภายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว

อีกตลาดที่เติบโตแบบเงียบๆ คือ "แผ่นเสียง" ที่ขายได้ 12 ล้านแผ่นในปี 2015 ถือเป็นการเติบโตต่อเนื่องมา 10 ปีติดต่อกันแล้ว

สมัยก่อน ถ้าอยากจะเปิดโลกฟังเพลงกระแสใหม่ๆ อาจต้องฟังรายการ ซอนนี่แอนด์นอร์ คลื่นแฟต 104.5 หรือใหม่หน่อยก็เข้ากรุ๊ปแชร์เพลง ซึ่งส่วนใหญ่จะแปะลิงก์เพลงบนยูทูบ, SoundCloud แลกกันฟัง

ตอนนี้เรามาถึงยุค Music Streaming เป็นใหญ่ ฟังก์ชั่นแนะนำเพลงที่ตรงจริตผู้ฟังอย่าง Discover Weekly ของ Spotify (หรือแท็บ For You ใน Apple Music) ก็เริ่มมีบทบาทกับนักฟังที่ชอบเปิดโลกตัวเองอยู่เสมอๆ และวันนี้มีเรื่องราวเผยไต๋ของ Spotify จาก QZ มาเล่าสู่กันฟังครับ ว่าระบบเลือกเพลงเด็ดรายสัปดาห์ เขาทำงานกันอย่างไร

ที่มา - QZ

แพลตฟอร์มฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งอย่าง Spotify กล่าวในบล็อกโพสต์ล่าสุดของตนว่า กำลังพิจารณาปรับปรุงการจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์เพลงแก่ศิลปินใหม่ จากเดิมที่มีปัญหาพัลวันอยู่กับการจัดการลิขสิทธิ์ของแต่ละประเทศ เพลงบางเพลงยังขาดข้อมูลที่แน่นอนว่าใครถือลิขสิทธิ์ บางครั้งรายได้อาจตกที่ค่าย ผู้เผยแพร่ หรือนักแต่งเพลง บางครั้งเพลงถูกตัดออกมาเผยแพร่แล้วแต่ยังตกลงกันเรื่องลิขสิทธิ์ไม่ได้ ฯลฯ

อิจฉาประเทศที่ใช้ Spotify ได้แล้วจริงๆ เมื่อค่ายนี้เปิดตัวฟังก์ชั่น Spotify Party เล่นเพลงในลิสต์ที่คัดและจัดเรียงมาแล้วให้เหมาะกับปาร์ตี้ งานเลี้ยงวาระต่างๆ

ผู้ใช้เริ่มจากเซ็ตเพลงที่แอพเตรียมไว้ให้ ซึ่งจัดโดย Diplo ดีเจและโปรดิวเซอร์นามระบือ ร่วมด้วยดีเจรายอื่นๆ ที่เปิดเพลงบีทท่วงทำนองเดียวกันได้เนียนต่อเนื่อง จากนั้นผู้ใช้สามารถปรับแถบอารมณ์ (mood) ในแอพ แล้วเพลงถัดไปจะเปลี่ยนอย่างไม่เสียอารมณ์ และใน Play Queue ก็ระบุว่าปรับปรุงใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น ไม่รบกวนเพลงที่กำลังเล่น

พร้อมใช้งานแล้วบน iOS และ Android ครับ

บริการสตรีมเพลงอย่าง Pandora เปิดบริการใหม่ชื่อ Thunbprint Radio จัดลิสต์เพลงที่ผู้ใช้น่าจะชื่นชอบที่ศึกษาการกดไลค์ (ที่นี้คือยกนิ้ว) เพลงที่เล่นในสถานีต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ โดยเพลงที่ระบบเลือกมานอกจากจะเป็นเพลงที่ผู้ใช้เคยกดไลค์ มาเล่นเรียงกันแบบชัฟเฟิลแล้ว ยังมีการเลือกเพลงที่น่าจะชื่นชอบโดยนักดนตรีวิทยามาเล่นด้วย

Thumbprint Radio ยังเอื้อต่อการแชร์ โชว์รสนิยมการฟังเพลงของผู้ใช้ โดยต้องเคยฟังอย่างน้อย 3 สถานี และเคยกดไลค์เพลงไว้อย่างน้อย 4 เพลงต่อสถานีครับ

ที่มา - Pandora Blog

หลังจากอัลบั้ม 25 ของ Adele ที่เป็นอัลบั้มแห่งความคาดหวังของการพลิกฟื้นการขายอัลบั้มแบบเดิมของอุตสาหกรรมเพลงได้ปล่อยออกมาแล้ว ก็มีผู้คอยเก็บสถิติของยอดขายอยู่และได้เผยออก

สำนักข่าวต่างประเทศเผยว่า ยอดขายอัลบั้ม 25 ในช่วงสุดสัปดาห์อยู่ที่ประมาณ 2,433,000 อัลบั้ม แซงอัลบั้ม No String Attached ของ NSYNC ที่เคยทำสถิติสูงสุดไว้ที่ 2,416,000 อัลบั้มในสัปดาห์แรกในปี 2000

ตอนนี้มีการคาดการณ์ต่อไปว่า ตลอดสัปดาห์นี้อัลบั้ม 25 ของ Adele จะขายได้อยู่ที่ 3 ล้านอัลบั้ม ซึ่งยอดขายที่มากขนาดนี้อาจเป็นหนึ่งในผลจากการที่ Adele ตัดสินใจไม่นำอัลบั้มลงบริการสตรีมเพลงใดๆ ก็ได้

The New York Times เผยว่า วันนี้ 20 พฤศจิกายนจะเป็นวันที่วางขายอัลบั้ม 25 ซึ่งเป็นอัลบั้มใหม่ของ Adele อย่างเป็นทางการ จะยังไม่ลงบริการสตรีมเพลงใดๆ ทั้งสิ้น

แหล่งข่าวเผยว่า Adele ได้ตัดสินใจแล้วที่จะไม่ส่งอัลบั้ม 25 ลงในบริการสตรีมเพลงใดๆ โดยเหตุผลที่ Adele ไม่ลงบริการสตรีมเพลงใดๆ ก็เพื่อจะดันยอดขายของอัลบั้ม 25 ที่นิตยสาร Billboard คาดการณ์ยอดขายวันแรกไว้ที่ 2.5 ล้านฉบับในสัปดาห์แรก (เข้าใจว่ารวมดาวน์โหลดและซื้อแผ่น) โดยก่อนหน้านี้จุดที่พีคที่สุดของการขายเพลงคืออัลบั้ม No Strings Attached ของ NSYNC ที่ 2.4 ล้านแผ่นในสัปดาห์แรกในปี 2000 และอุตสาหกรรมเพลงต่างก็หวังจะพลิกฟื้นยอดนี้ขึ้นมาอีกครั้ง

วันนี้ Amazon ได้เปิดตัว Prime Music บริการสตรีมมิงเพลงออนไลน์ โดยค่าบริการยังไม่เปิดเผยออกมา แต่สามารถทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน ขณะที่สมาชิก Amazon Prime สามารถใช้บริการได้ฟรี

Prime Music มีเพลงที่ให้บริการกว่าล้านเพลง และมีให้เลือกฟังแบบเพลย์ลิสต์ด้วยเช่นกัน โดยไม่มีโฆษณาแทรก เพียงแต่ช่วงแรก จะยังไม่สามารถให้บริการเพลงจากค่าย Universal Music ได้ และณ ตอนนี้เป็นการให้บริการสตรีมมิงเพลงบนหน้าเว็บก่อนเท่านั้น และจะมีแอพพลิเคชันบน Kindle Fire, iOS, Android, พีซี และเครื่องแมคออกมาในอนาคต ซึ่งสามารถเปิดฟังแบบออฟไลน์ได้ตลอดเวลา

ที่มา - The Verge