ปัจจุบัน ส่วนแบ่งรายได้ของการสตรีมมิ่งนั้น กำหนดว่าต้องจ่ายให้เจ้าของลิขสิทธิเพลง 10.5% ขึ้นกับจำนวนการสตรีมมิ่งในช่วงนั้น ล่าสุดมีกฎใหม่จาก United States Copyright Royalty Board (CRB) กำหนดให้ส่วนแบ่งรายได้ต้องเพิ่มถึง 43.8% เป็น 15.1% ในปี 2022 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้า
เมื่อสิ้นปีที่แล้ว Amazon เพิ่งแถลงข่าวว่าจะเปิดวางจำหน่าย Amazon Echo และบริการเพลง Music Unlimited ในภูมิภาคยุโรปและละตินอเมริกา (ข่าวเก่า) ล่าสุดบริษัทประกาศวางขายเพิ่มเติมในแถบเอเชีย-โอซีเนียแล้ว เริ่มต้นที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
Amazon ระบุว่าจะเริ่มต้นวางจำหน่าย Echo, Echo Dot และ Echo Plus ในราคา 119, 49 และ 199 ดอลลาร์ออสเตรเลียตามลำดับ (3,000 บาท, 1,250 บาท และ 5,000 บาท) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเริ่มส่งมอบให้ภายในเดือนหน้า รวมถึงจะวางจำหน่ายตามร้านทั่วไปต้นเดือนหน้าเช่นกัน ส่วนบริการ Music Unlimited จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
Spotify ประกาศตัวเลขผู้ใช้งานแบบเสียเงินล่าสุดผ่านทาง Twitter @spotify ว่าตอนนี้มีจำนวนถึง 70 ล้านคนแล้ว เพิ่มขึ้นจากเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วที่ประกาศว่ามี 60 ล้านคน โดยมีอันดับสองตามมาห่าง ๆ คือ Apple Music ที่ 30 ล้านคน
ข่าวนี้ออกมาได้จังหวะเวลาพอดีกับช่วงที่ Spotify กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการเข้าตลาดหุ้น โดยเมื่อวานมีข่าวว่าบริษัทได้ยื่นเอกสารต่อ SEC หรือ กลต. ของสหรัฐฯเพื่อจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กไปแล้ว ซึ่ง Spotify จะใช้วิธีการ direct listing หรือการนำเข้าตลาดโดยตรงไม่ต้องขายหุ้นไอพีโอเพิ่มทุน
แม้ว่าจะเป็นบริการฟังเพลงที่เป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์และเป็นแอพที่ได้รับการแนะนำให้ใช้งานแทน Groove Music ที่เพิ่งยุติการเพลงออนไลน์ไป แต่แอพ Spotify บน Windows ในปัจจุบันก็ยังขาดความสามารถบางอย่างที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Windows 10 ต้องการ
ยกตัวอย่างเช่น UI ที่ลื่นไหลและเป็นมิตรกับหน้าจอสัมผัส จนไปถึงประสบการณ์การใช้งานที่ควรจะเหมือนกันบนทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นบนมือถือหรือ Xbox ซึ่งจะเป็นไปได้ต่อเมื่อพัฒนาแอพใหม่ด้วย UWP เท่านั้นและนั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกเรียกร้องบนสโตร์เสมอมา
บริการสตรีมมิ่งเพลง Tidal ที่มีจุดขายคือมีตัวเลือกเพลงคุณภาพระดับ lossless ประกาศจัดโปรโมชันเริ่มต้นในวันคริสต์มาสนี้ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้บริการได้ฟรี 12 วัน และเข้าถึงคอนเทนต์ทุกชนิดแบบที่ลูกค้าเสียเงินได้รับ รวมทั้งในตัวเลือกระดับ lossless ด้วย โดยในช่วง 12 วันนี้ Tidal ยังเตรียมปล่อยซีรี่ส์ตอนใหม่ให้ได้ชมอีกด้วย
ปัจจุบัน Tidal มีเงื่อนไขพื้นฐานสำหรับผู้สมัครใหม่อยู่แล้วคือทดลองใช้ฟรี 30 วัน แต่โปรโมชันนี้แตกต่างไปตรงที่ผู้ใช้ไม่ต้องใส่ข้อมูลบัตรเครดิตการ์ดลงไปทำให้ไม่ต้องพะวงว่าจะยกเลิกไม่ทัน
SoundCloud ได้ปรับปรุงหน้าจอโฮมใหม่ โดยจะเน้นไปที่การแสดงคอนเทนต์จากนักแต่งเพลงอิสระบนแพลตฟอร์มให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ที่อยู่ในการปรับปรุงครั้งนี้ เช่น featured playlist ซึ่งจะคอยอัพเดตทุกสัปดาห์ อย่างเช่น Hip Hop Supreme รวมเพลงแร็พที่กำลังเป็นที่นิยม, In the Mix เพลงมิกซ์โดยดีเจ เป็นต้น, The Upload เพลย์ลิสต์เลือกเพลงอัตโนมัติตามพฤติกรรมการฟังของผู้ใช้จะแสดงขึ้นมาที่หน้าโฮมแล้ว, New & Hot รวมเพลงใหม่และกำลังเป็นที่นิยม และยังมีเพลย์ลิสต์อื่น ๆ อีกมากมาย
มีรายงานจากเว็บไซต์นอร์เวย์ Dagens Næringsliv ว่า Tidal ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงกำลังประสบกับปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากการเติบโตของจำนวนผู้ใช้เริ่มคงที่ โดยตอนนี้บริษัทมีเงินทุนสำรองใช้จ่ายให้เหลืออยู่รอดได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น
ในรายงานกล่าวว่า เมื่อปีที่แล้ว Tidal น่าจะสูญเงินไป 44 ล้านดอลลาร์ก่อนหักภาษี (อย่างไรก็ดี Spotify ซึ่งมีรายได้ถึง 3 พันล้าน ปีที่แล้วก็ขาดทุนไป 581 ล้านเช่นกัน) ซึ่งก่อนหน้านี้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนโดย Sprintนั้นทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจเป็นเวลา 12-18 เดือน
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า YouTube เตรียมจะเปิดให้บริการสตรีมมิ่งเพลงแบบจ่ายเงินในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยแหล่งข่าวรายงานว่าตอนนี้มีค่ายเพลงใหญ่ที่เซ็นสัญญานี้แล้วคือ Warner Music ส่วนอีกสองค่ายใหญ่คือ Sony Music Entertainment และ Universal Music รวมถึงกลุ่ม Merlin ซึ่งเป็นกลุ่มของค่ายเพลงอิสระก็กำลังพูดคุยกับ YouTube ถึงเรื่องบริการใหม่นี้อยู่
แหล่งข่าวรายงานว่าบริการใหม่ของ YouTube ตอนนี้มีชื่อเรียกภายในว่า Remix จะให้บริการสตรีมมิ่งเพลงออนดีมานด์ในลักษณะเดียวกับ Spotify และจะมีบริการบางอย่างเพิ่มเติมจาก YouTube อย่างเช่นวิดีโอคลิปเป็นต้น ซึ่งตอนนี้ YouTube ก็ได้เริ่มชักจูงให้ศิลปินมาโปรโมตบริการใหม่นี้แล้ว
ปัญหาสำคัญของสินค้าและบริการจาก Amazon คือมักจำกัดประเทศ ขายแค่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปบางประเทศเท่านั้น ส่งผลให้การซื้อมาใช้ในบ้านเราค่อนข้างยุ่งยาก หรือแม้ใช้งานได้ก็อาจขาดฟีเจอร์บางอย่าง
ท่าทีของ Amazon ในช่วงหลังก็พยายามขยายสินค้าและบริการออกสู่ตลาดโลกมากขึ้น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Amazon Prime Video ที่มาเปิดในบ้านเราตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ล่าสุด Amazon ประกาศขยายประเทศที่วางขายลำโพงอัจฉริยะ Echo และบริการเพลงสตรีมมิ่ง Amazon Music Unlimited อีก 28 ประเทศ ครอบคลุมหลายประเทศในยุโรปและละตินอเมริกา เช่น โบลิเวีย ชิลี โคลอมเบีย เปรู อาร์เจนตินา
Tencent ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีนยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนกับบริษัทต่างประเทศอยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดเป็นคิวของ Spotify ที่ทั้งสองบริษัทตกลงจะลงทุนในธุรกิจเพลงด้วยกัน โดยการแลกกันซื้อหุ้น
ภายใต้ดีลระหว่าง Tencent และ Spotify นี้ คือจะให้ Tencent Music Entertainment (TME) ธุรกิจด้านสตรีมมิ่งเพลงและคาราโอเกะของ Tencent เข้าซื้อหุ้นใหม่ใน Spotify จำนวนเล็กน้อย ในขณะที่ Spotify ก็จะซื้อหุ้นใน TME ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองบริษัทยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของการแลกเปลี่ยนซื้อหุ้นครั้งนี้ บอกเพียงว่าเป็นสัดส่วนเล็กน้อย (minority) และ Tencent ก็อาจจะลงทุนใน Spotify โดยตรงที่ไม่ผ่าน TME โดยการรับซื้อหุ้นจากผู้ลงทุนเดินของ Spotify ด้วย
Spotify ประกาศสถิติการสตรีมมิ่งประจำปี 2017 ซึ่งต้องถือเป็นปีของ Ed Sheeran เพราะเขาได้อันดับหนึ่งในหลายหมวด ตั้งแต่ ศิลปินที่ถูกฟังมากที่สุด, อัลบั้มที่ถูกฟังมากที่สุด (÷) 3.1 พันล้านครั้ง และเพลงที่ถูกฟังมากที่สุด Shape of You 1.4 พันล้านครั้ง
Spotify ยังให้ข้อมูลสถิติการสตรีมมิ่งเพลงอื่นที่น่าสนใจ อาทิ
ที่มา: Spotify
UnitedMasters สตาร์ทอัพก่อตั้งโดย Steve Stoute อดีตประธานบริษัท Interscope Records ระดมทุนได้ 70 ล้านดอลลาร์จาก Alphabet และบริษัทลงทุน Andreessen Horowitz ที่ลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิงมามาก
UnitedMasters คือสตาร์ทอัพทำเทคโนโลยี analytic ให้ศิลปินได้รู้ว่า เพลงของตนดังในกลุ่มผู้ฟังกลุ่มใด พื้นที่ใด โดยดึงข้อมูลจากเพลงที่สตรีมผ่านช่องทาง YouTube, Spotify และSoundCloud รวมทั้งนำเสนอเครื่องมือ CRM เพื่อจะได้ทำโฆษณาตรงเป้าหมายผู้ฟัง ตัวระบบเอื้อต่อศิลปินอิสระไม่มีค่าย ศิลปินทำการตลาดไปสู่ผู้ฟังได้ด้วยตัวเองผ่านเครื่องมือของ UnitedMasters และมีรายได้ผ่านโฆษณา
Spotify จัดโปรโมชันลดราคาส่งท้ายปี โดยผู้สมัครใช้งานใหม่สามารถเลือกแผน Premium ได้ในราคา 13 บาท สำหรับการใช้งาน 3 เดือน แล้วจากนั้นจึงใช้งานต่อในราคาปกติเดือนละ 129 บาท
สำหรับผู้ที่เคยใช้ Spotify แต่ปิดการใช้งานไปแล้วก่อนวันที่ 21 ตุลาคม 2017 จะได้สิทธิสมัคร Premium เช่นกัน ในราคา 129 บาท สำหรับการใช้งาน 3 เดือน ส่วนผู้ที่ปัจจุบันยังใช้งาน Spotify อยู่แล้วนั้น ไม่มีข้อเสนอพิเศษใดๆ
ผู้ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขข้างต้น สมัครใช้งาน Spotify ในราคาพิเศษได้ที่ลิงก์นี้ ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2017
ที่มา: MacRumors
Deezer ออกแอพใหม่บนเดสก์ท็อป รองรับการสตรีมมิ่งเพลงแบบ lossless คุณภาพระดับซีดี 16-bit FLAC โดยใช้หูฟังหรือเสียบเข้ากับลำโพง และมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Deezer อย่างเช่น Flow ฟีเจอร์แนะนำเพลงโดยประมวลผลจากเพลงที่เคยฟังมาก่อนหน้า และยังสามารถใช้ดูวิดีโอ Deezer แบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างเช่นวิดีโอสัมภาษณ์หรือการแสดงโชว์ของศิลปินได้
สำหรับแอพใหม่บนเดสก์ท็อปของ Deeer นี้ยังอยู่ในขั้นเบต้า โดยทาง Deezer จะเชิญผู้ใช้บัญชี Premium+ (จ่ายเดือนละ 129 บาท) ให้มาทดสอบและให้ฟังเพลงแบบ lossless ฟรีจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งหากพ้นช่วงนั้นไปแล้ว ผู้ใช้ที่จะฟังเพลงแบบ lossless จะต้องจ่ายเงินเพื่อสมัคร Deezer HiFi ในราคา 258 บาทต่อเดือน
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าตัวแทนของศิลปินสาว Taylor Swift ได้แจ้งกับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายต่างๆ ในเบื้องต้นว่าจะไม่นำอัลบั้มใหม่ Reputation ให้ฟังผ่านบริการสตรีมมิ่งทั้งหลาย อย่างน้อยในช่วงสัปดาห์แรกที่อัลบั้มวางจำหน่าย ซึ่งกำหนดอยู่วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ (รวมทั้งช่องทางดาวน์โหลดอย่าง iTunes)
Billboard ประกาศปรับวิธีการจัดอันดับเพลงฮิตในอเมริกา มีผลตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป โดยที่ผ่านมา Billboard นำข้อมูลการฟังเพลงสตรีมมิ่งมาใช้อยู่แล้ว แต่ด้วยความหลากหลายของบริการสตรีมมิ่ง จึงมีการปรับการให้น้ำหนักของการฟังสตรีมมิ่งแต่ละแบบ
โดย Billboard แบ่งบริการสตรีมมิ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ เสียเงิน (Apple Music, Spotify, Tidal), มีโฆษณา (Spotify, YouTube) และรายการวิทยุ (Pandora) ซึ่งอันดับเพลง Billboard Hot 100 จะให้น้ำหนักข้อมูลจากกลุ่มเสียเงินสูงกว่ากลุ่มอื่น (ปัจจุบันเท่ากัน) และอันดับอัลบั้ม Billboard 200 ก็ปรับไปในแนวทางเดียวกัน
บริการสตรีมมิ่งเพลงที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน นอกจากจะทำให้พฤติกรรมของคนฟังเพลงเปลี่ยนไปแล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่อนักแต่งเพลงและศิลปินเช่นเดียวกัน งานวิจัยจาก Ohio State University เผยว่า ระยะเวลาเฉลี่ยช่วงอินโทรของเพลงนั้นสั้นลง จาก 20 วินาทีในช่วงยุค 80 เหลือเพียงแค่ 5 วินาทีในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการต้องดึงความสนใจของผู้ฟังให้อยู่กับเพลงก่อนที่พวกเขาจะกดข้ามเพลงไป
Jimmy Iovine ผู้บริหาร Apple Music ให้สัมภาษณ์กับ Billboard เปิดเผยว่า Apple Music ตอนนี้มีผู้ใช้บริการแบบเสียเงิน 30 ล้านคนแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนมิถุนายนซึ่งประกาศว่ามี 27 ล้านคน
ตัวเลขนี้ยังห่างจาก Spotify อยู่มาก ซึ่งมีผู้ใช้บริการแบบเสียเงิน 60 ล้านคน ขณะที่ผู้ใช้ทั้งหมดรวมกลุ่มใช้ฟรีติดโฆษณาคือ 140 ล้านคน ส่วน Apple Music ไม่มีโมเดลแบบใช้งานฟรี
Iovine บอกว่าบริการสตรีมมิ่งยังมีอะไรให้ทำได้อีกมากมาย และมันจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้แน่
ที่มา: Phone Arena
ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมสื่อบันทึกแห่งอเมริกาหรือ RIAA รายงานว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 นั้น บริการสตรีมมิ่งแบบจ่ายเงินมีผู้ใช้ถึง 30.4 ล้านคนในสหรัฐฯ แล้ว โดยเพิ่มขึ้นจาก 20.2 ล้านคนในครึ่งแรกของปี 2016 ซึ่งทำให้รายได้จากบริการเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ในข้อมูลรายงานว่า รายได้จากบริการสตรีมมิ่งแบบจ่ายเงินนั้นเติบโตอย่างมากในปี 2017 โดยไปแตะที่ 1.49 พันล้านดอลลาร์แล้ว ถือว่าสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับรายได้ 995 ล้านดอลลาร์ของปีที่แล้ว
TechCrunch รายงานว่า Tencent บริษัทยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตของจีน เคยยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ Spotify เพื่อขยายบริการสตรีมมิ่งเพลง ออกสู่ตลาดอื่นนอกจากจีนและในเอเชียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามดีลนี้ไม่เกิดขึ้น และ Spotify ก็ยังคงอยู่ในแผนเตรียมเข้าตลาดหุ้น
เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ Tencent นั้นมีบริษัทในเครือคือ Tencent Music ซึ่งเป็นเจ้าของบริการเกี่ยวกับเพลงอยู่ในจีนถึง 3 ตัว ได้แก่ QQ Music, Kugou และ Kuwo มีผู้ใช้งานรวมกว่า 600 ล้านคน และมีแผนจะเข้าตลาดหุ้นด้วย นอกจากนี้บริษัทแม่ Tencent เองก็มีบริการสตรีมมิ่งเพลง Joox ที่ให้บริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งในประเทศไทย
ในชุมชนผู้ใช้ Spotify นั้นเริ่มมีการพูดถึงปัญหาดังกล่าวว่า Web Player บริการเล่นเพลงบนเบราว์เซอร์ของ Spotify ไม่สามารถใช้งานกับเบราว์เซอร์ Safari ได้ ซึ่ง riegelstamm ผู้ใช้ Spotify รายหนึ่งก็ไปพบว่าหน้าความต้องการระบบของ Web Player นั้น แต่เดิมมี Safari เวอร์ชัน 6 ขึ้นไปด้วย แต่ตอนนี้ถูกตัดออกไปแล้ว
เพลงใหม่ของ Taylor Swift ในซิงเกิลที่มีชื่อว่า Look What You Made Me Do เปิดให้ฟังพร้อมกันทั่วโลกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ปล่อยเพลงในทุกแพลตฟอร์ม และยังทำลายสถิติยอดฟังเพลงสูงสุดบน Spotify ด้วย โดยเฉพาะวันแรกที่ปล่อยซิงเกิล มียอดฟังแล้วกว่า 8 ล้านครั้ง
Spotify เซ็นสัญญาระยะยาวร่วมกับค่ายเพลงใหญ่ Warner Music หลังจากเจรจาต่อรองกันมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี โดย Warner Music ประกาศความเคลื่อนไหวนี้ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง และมีความเป็นไปได้ว่าการเซ็นสัญญาครั้งนี้จะนำพา Spotify สู่การเข้าตลาดหุ้น IPO ง่ายขึ้น
เหตุที่ทำให้การเจรจากินระยะเวลานาน เพราะ Spotify จ่ายส่วนแบ่งให้ค่ายเพลงในตัวเลขที่ค่ายยังไม่พอใจ ตัวอย่างเช่นสัญญากับค่ายเพลงอื่นอย่าง Universal Music และ Sony Music ลดค่าตอบแทนค่ายจาก 55% มาเป็น 52% และจำกัดเพลงใหม่ของค่ายมาลงแพลตฟอร์มก่อน 2 สัปดาห์
ในส่วนของ Warner Music มีศิลปินดังในค่ายคือ Ed Sheeran ส่วนข้อตกลงระหว่าง Spotify และ Warner Music จะเป็นเหมือนข้อตกลงที่เซ็นกับค่ายอื่นหรือไม่นั้นยังไม่เปิดเผย
วันนี้ (22 สิงหาคม) คือวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของสตรีมมิ่งเพลง Spotify อย่างที่หลายคนพอจะได้เห็นราคากันไปบ้างแล้วเมื่อคืนนี้ โดย Spotify เปิดบริการในประเทศไทยเป็นประเทศที่ 61 ของโลก
ในการเปิดตัวในประเทศไทย Spotify มีความมั่นใจมากว่าจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินจากสตรีมมิ่งเพลงให้แก่อุตสาหกรรมดนตรีในประเทศ สุนิตา คาร์ (Sunita Kaur) ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียของ Spotify ระบุว่าบนแพลตฟอร์มมีเพลงมากกว่า 30 ล้านเพลง และยังมีฟีเจอร์โดดเด่น สามารถเรียนรู้ลักษณะการฟังเพลงของผู้ใช้
Spotify จะเปิดให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ วันนี้ Spotify หน้าเว็บประเทศไทยขึ้นราคาพรีเมียมแล้วเป็นเดือนละ 129 บาท และแบบครอบครัวตก 199 บาทต่อเดือน (6 คน ตกคนละ 33 บาท) ส่วนรายปีอยู่ที่ 1,548 บาท
นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถใช้งาน Spotify ได้แล้ว ทั้งบนวินโดวส์, แมคและสมาร์ทโฟน พร้อมทดลองใช้พรีเมียมฟรี 30 วัน (ต้องกรอกบัตรเครดิต) นอกจากนี้ยังมีบริการพรีเมียมตัดเงินผ่านเครือข่าย dtac ด้วยตัวเลือกแบบรายวัน (8 บาท), รายสัปดาห์ (39 บาท), รายเดือน (139 บาท) และราย 3 เดือน (417 บาท)