นักวิเคราะห์ของ Digitimes ให้ข้อมูลจากการพูดคุยกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ว่า ตอนนี้โนเกียมีเครื่องแท็บเล็ตต้นแบบประมาณ 100 เครื่องอยู่ระหว่างการทดสอบ แท็บเล็ตรุ่นนี้ใช้ ARM เป็นหน่วยประมวลผล มีหน้าจอ 7-9 นิ้ว และจะผลิตโดย Foxconn
รายละเอียดยังมีน้อยมาก แต่คาดว่าโนเกียจะใช้ระบบปฏิบัติการ MeeGo และวางขายในไตรมาสที่ 4 ของปี
ที่มา - Digitimes
รองประธานบริษัทโนเกียกล่าวในงาน Mobey Forum ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ว่าในปีหน้านี้โนเกียจะใส่ฟีเจอร์ Near Field Communication (NFC) ลงในมือถือทุกรุ่น และอาจรวมถึง Single Wire Protocol (SWP) อีกด้วย
ถึงคราวของสมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของโลก ที่แม้จะไม่น่าตื่นเต้นนักในช่วงหลังแต่ Symbian ก็ยังคงมีการใช้งานเป็นจำนวนมาก เครื่องมีให้เลือกหลายรุ่นตั้งแต่ราคาไม่กี่พันบาทไปจนถึงสองหมื่นบาท มันเป็น OS สำหรับโทรศัพท์ที่นิ่ง ฟีเจอร์ครบพื้นฐานถ้วน และเสถียร ทำให้ชาว Blognone หลายคนคงเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ OS ตัวนี้กันไม่น้อย และตอนนี้ก็ถึงเวลาประกาศตัว
เหมือนเดิมครับ ผู้ใช้ Symbian จะเลือก Role Symbian ได้ที่หน้า Account ของตัวเอง
อีกห้าวันจะถึงกำหนดการแถลงผลกำไรประจำไตรมาสของโนเกียอีกครั้ง แม้ว่าจะมีโทรศัพท์หลายรุ่นที่น่าสนใจออกมาเรื่อยๆ แต่โนเกียก็ประกาศเตือนว่าผลกำไรในไตรมาสนี้จะต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 6.7 ถึง 7.2 พันล้านยูโร และส่วนแบ่งตลาดรวมนั้นก็จะตกลงเช่นกัน
สัปดาห์หน้าตัวที่ชัดเจนคงออกมาอีกครั้ง แต่อาการไม่สู้ดีอย่างนี้ โนเกียคงต้องรีบออกโทรศัพท์รุ่น "กู้ชีพ" ออกมาดึงสถานะความเป็นผู้นำตลาดของตัวเองเสียที
ที่มา - PhysOrg
"การลงทุนกับแพลตฟอร์มมือถือของโนเกียเป็นเรื่องยากสำหรับนักพัฒนารายย่อย เพราะไม่มีใครรู้ว่าอนาคตของมันจะเป็นอย่างไร?"
ประโยคข้างต้นอาจฟังดูธรรมดา ถ้าคนพูดเป็นนักวิเคราะห์ทั่วไป (ซึ่งส่วนมากมักจะพูดแบบนี้) แต่ถ้าคนพูดคือ Jan Ole Suh ผู้พัฒนา Gravity โปรแกรมทวิตเตอร์ยอดนิยมบน Symbian ล่ะ?
Jan Ole Suhr ให้ความเห็นไว้ว่า สิ่งใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นไม่มีบนมือถือโนเกีย สิ่งที่มีอยู่ก็เก่าและเป็นอุปสรรคต่อการสร้างโปรแกรมให้ดูดี นักวิเคราะห์ (ตัวจริง) จาก Gartner บอกว่าเราอาจต้องรอกันถึง Symbian^4 ถ้าต้องการเห็นมือถือที่แข่งขันได้จากโนเกีย และกว่าสภาพแวดล้อมจะลงตัวคงต้องรอถึงปี 2011
ในงาน Nokia Connection ที่สิงคโปร์ โนเกียเปิดตัวมือถือ X5 (หรือจริงๆ ต้องเรียก X5-01) ซึ่งเป็นมือถือที่วางไว้อยู่ตรงกลางระหว่าง X3 และ X6 แต่ก็มีสไตล์ของตัวเองไม่น้อย เพราะ (1) ใช้คีย์บอร์ด QWERTY แบบสไลด์ (2) รูปทรงก่อนเปิดคีย์บอร์ดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส
จุดเด่นของ Nokia X5 อยู่ที่ฟีเจอร์การฟังเพลง มันมีปุ่มเฉพาะสำหรับเล่นเพลง เล่นนานต่อเนื่อง 24 ชม. และมี "ลำโพงเสียงดัง" เป็นจุดขาย นอกจากนี้ยังเน้นแชทและ social network เหมาะสำหรับวัยรุ่นยิ่งนัก
หลายคนคงจำข่าว โนเกียเข้าซื้อ Trolltech เมื่อปี 2008 กันได้ ตามแผนการของโนเกียแล้ว เทคโนโลยี Qt ของ Trolltech จะกลายเป็นแกนกลางสำคัญของ Symbian ในอนาคต (Nokia ปฏิเสธข่าวร่วมวง Android บอกว่าอนาคตคือ Qt ต่างหาก, เผยแผน Symbian^4 และแนวทางของ Symbian Foundation) นอกจากนี้ยังเป็นตัวเชื่อมสำหรับการสร้างแอพพลิเคชันบน Symbian และ Maemo/MeeGo ในทีเดียว (โนเกียประกาศรองรับ Qt ในแพลตฟอร์ม Maemo)
หลังจากที่มีข่าวล่าสุด ที่โนเกียได้ออกซีรีย์ใหม่ๆ ปรากฏขึ้นมา ล่าสุดมีภาพหลุด Nokia C7 ซึ่งคาดว่าเป็น Symbian^3 รุ่นต่อไปถัดจาก Nokia N8 โดยมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
จากการสังเกต ในการหั่นรุ่นของโนเกีย (N97/5800/5530/5230 ฯลฯ) โนเกียไม่เคยเปลี่ยนรุ่น CPU เลย ผมจึงคิดว่าสเปคไม่น่าจะหนี Nokia N8
ปกติแล้วเรามักเห็นข่าวการต่อคิวรอซื้อของใช้ไฮเทครุ่นใหม่ล่าสุด จับตลาดบนๆ อย่าง PS3 หรือ iPhone แต่ในอินโดนีเซีย เค้าไปเข้าคิวรอซื้อ Nokia C3 มือถือรุ่นกลาง-ล่างของโนเกียกันอย่างล้นหลาม
Nokia C3 เป็นมือถือ S40 ตัวแรกที่มีคีย์บอร์ด QWERTY (ทรงเดียวกับ E71-E72) มีฟีเจอร์ครบครันอย่าง Wi-Fi, Bluetooth 2.1, กล้อง 2 ล้านพิกเซล (แต่ไม่มี 3G) ตามข่าวบอกว่าราคาประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 4,000 บาท
การเปิดตัวครั้งนี้มีขึ้นใน 10 เมืองใหญ่ของอินโดนีเซีย ข้อมูลจากบล็อกของโนเกียบอกว่ามีคนมาเข้าคิวหลัก "หลายพัน" (ไม่ระบุว่าทั้งหมดหรือเฉพาะเมือง) แถมฝนตกอีกต่างหาก
กระทู้ในเว็บไซต์ Mobile-Review ได้แผนผังแสดงแผนการของโนเกียมาเป็นภาษาฝรั่งเศส ในแผนภาพอันนี้ไม่มีรูปของมือถือใดๆ แต่มี "ชื่อรุ่น" ของมือถือโนเกียที่ยังไม่ขายในท้องตลาด
ที่น่าสนใจคือโนเกียได้แยกตลาดของมือถือตระกูล C (ทั่วไป) E (ธุรกิจ) และ X (บันเทิง) อย่างชัดเจน โดยทั้งสามซีรีส์จะออกรุ่นที่ลงด้วย 7 อันได้แก่ C7, E7 และ X7 ในไม่ช้านี้
สำหรับมือถือตระกูล N ที่เป็นรุ่นท็อป และส่ง N8 ลงมาทำตลาดแล้ว จะยังมี N9 ตามมาอีกด้วย โดยมันจับตลาดสูงกว่า N8 และคาดกันว่ามันอาจเป็นมือถือตัวแรกที่ใช้ MeeGo ก็เป็นได้
หลังจาก โนเกียโชว์วิดีโอส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Nokia N8 (ซึ่งเป็นคลิปแรกในทั้งหมด 3 คลิปที่ใช้โปรโมท N8)
ทางโนเกียได้ปล่อยคลิปที่สองออกมา และช่วงเวลาดูเหมือนจะเหมาะเหม็งมาก (ไม่รู้ตั้งใจหรือเปล่า) เพราะคลิปนี้โชว์ความสามารถตัดต่อวิดีโอของ N8 แถมเหนือกว่า iPhone 4 ตรงที่ N8 สามารถต่อกับ flash drive ได้โดยตรง (ต้องมีสายเคเบิลเชื่อม) สามารถตัดต่อวิดีโอที่เก็บอยู่ใน flash drive ได้ทันที
ผมดูแล้วพบว่า หน้าตาของโปรแกรมตัดต่อวิดีโอของโนเกีย ดูสวยงามและน่าจะใช้ง่ายดี (ผิดวิสัย) ถ้าโนเกียโปรโมทได้เก่งๆ แบบแอปเปิลคงขายดีกว่านี้อีกเยอะ
หลังจากมีข่าวเมื่อครั้งกระนู้น วันนี้ (3 มิ.ย.) โนเกียได้เผยโฉมมือถือสองซิมถึง 2 เครื่องพร้อมกัน คือ โนเกีย C1-00 และ C2 มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่างตามรายละเอียดด้านล่างครับ
C1-00
C2
มือถือใหม่ของโนเกียในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น Nokia N8 ซึ่งใช้ Symbian^3
ล่าสุดทางบล็อก Nokia Conversations ของโนเกียเอง ได้เริ่มโปรโมท N8 แล้ว โดยโนเกียจะโพสต์วิดีโอสาธิตการทำงานทั้งหมด 3 คลิป ซึ่งคลิปแรกที่ปล่อยออกมาแล้วคือการทำงานของ homescreen อันใหม่ของ Symbian^3 (เคยโชว์บ้างแล้วในข่าว Symbian^3 เปิดตัวแล้ว ฟีเจอร์เด็ดเอามือถือต่อ HDMI ได้) รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ เช่น มัลติทาสกิง และการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
แม้กระแส Symbian จะเริ่มตก แต่ผมเชื่อว่าแถวนี้ยังมีแฟนพันธุ์แท้อยู่ไม่น้อย เชิญชมวิดีโอได้ด้านในครับ
หลังจากประกาศรวมโครงการ Maemo กับ Moblin เข้าด้วยกันเป็น MeeGo ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางโครงการ MeeGo ก็ได้ออกรุ่นแรกเสียที
MeeGo 1.0 รุ่นที่เปิดให้ดาวน์โหลดในตอนนี้ ประกอบด้วยส่วนระบบปฏิบัติการหลัก (Core Software Platform) และส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับเน็ตบุ๊ก ซึ่งเหมือนกับส่วนติดต่อผู้ใช้ของระบบปฏิบัติการ Moblin ของอินเทล (ดูภาพประกอบด้านใน) สำหรับส่วนติดต่อผู้ใช้ภาคมือถือหรือ MeeGo Handset จะออกในเดือนมิถุนายน
MeeGo ตั้งเป้าจะออกรุ่นใหม่ทุก 6 เดือน โดยรุ่นหน้า MeeGo 1.1 จะออกเดือนตุลาคม ในรุ่นเน็ตบุ๊กจะใช้ Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์ แต่รุ่นมือถือจะเป็น Fennec เครื่องมือการพัฒนาโปรแกรมหลักเป็น Qt ครับ
จากเดิมที่มีข่าวเกี่ยวกับ การร่วมมือกันของมวยรอง อย่างยาฮูและโนเกีย วันนี้มีข่าวออกมาแล้วครับ เป็นการร่วมมือกันในการพัฒนาการให้บริการออนไลน์ ของทั้งคู่ โดยยาฮูจะใช้บริการแผนที่และระบบนำทางของโนเกีย พร้อมกับติดตรา “powered by Ovi” และในทางกลับกัน โนเกียจะใช้บริการอีเมล (Ovi mail) และ IM (Ovi Chat) จากทางยาฮู พร้อมกับติดตรา “powered by Yahoo!” เช่นเดียวกัน
ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้ ทั้งสองบริษัทเชื่อว่าจะช่วยให้ประสบการณ์ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้บริการนั้นดีขึ้น เช่น Ovi ID จะสามารถใช้งานบริการจากทั้งยาฮูและ Ovi ได้ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการที่จะต้องจำบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านทั้งหลาย
AllThingsD รายงานว่า ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (ตามเวลาในสหรัฐฯ) โนเกียและยาฮูจะประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกันใน Project Nike โดยโครงการดังกล่าวโนเกียจะเพิ่มแอพพลิเคชั่นและบริการของยาฮูลงมือถือ
ยาฮูนั้นเป็นบริษัทเดียวในบรรดาสามบริษัทชั้นนำอย่างไมโครซอฟท์และกูเกิลที่ไม่ได้เน้นทำแอพพลิเคชั่นและบริการเข้าสู่ตลาดมือถือมากนัก หากข่าวนี้เป็นจริงก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครั้งหนึ่งของยาฮูเลยก็ว่าได้
ที่มา: AllThingsD
ผู้สื่อข่าวสายไอทีในสหรัฐได้รับจดหมายเชิญให้ไปร่วมงานแถลงข่าวของยาฮูในสัปดาห์หน้า ซึ่งแหล่งข่าววงในระบุว่ายาฮูจะประกาศความร่วมมือกับโนเกีย เพื่อผลักดันบริการต่างๆ ของยาฮูบนมือถือของโนเกีย
ความร่วมมือนี้มีรหัสเรียกขานว่า “Project Nike” ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนนัก แต่กระแสข่าวบางแห่งบอกว่าอาจถึงขั้น "มือถือยาฮูที่ผลิตโดยโนเกีย" เลยก็ได้
ตอนนี้ยักษ์ใหญ่ในตลาดต่างมีแพลตฟอร์มมือถือของตัวเอง ที่ผูกกับบริการบนอินเทอร์เน็ตของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นกูเกิล แอปเปิล ไมโครซอฟท์ หรือแม้กระทั่ง RIM (ที่ผูกกับ BES/BIS) การจับมือของผู้ตามในตลาดเว็บอย่างยาฮู และผู้ตามในตลาดสมาร์ทโฟนอย่างโนเกีย อาจเป็นยุทธศาสตร์ที่น่าจับตา? (ผมเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ของมือถือ Facebook)
มีภาพหลุดสไลด์ข้อมูลของแผนการเปิดตัวโนเกีย E73 Mode ซึ่งตามแผนจะเปิดตัวในวันที่ 16 มิ.ย. นี้
เท่าที่สังเกตได้จากภาพหลุด (ดูได้ท้ายข่าว) จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงบริเวณคีย์แพดคือ บริเวณปุ่มรับสาย/วางสาย ปุ่มโฮม/ปฏิทิน/รายชื่อ/จดหมาย เพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ E73 Mode ในเว็บไซต์โนเกียสหรัฐฯ แต่อย่างไร
ถึงแม้ว่าข่าวนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับคนไทยโดยตรง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าอีกไม่นานโนเกียอาจเปิดตัว E73 มาแทน E72 ในเร็วๆ นี้ ... และหวังว่าคีย์บอร์ดภาษาไทยจะได้รับการปรับปรุงในรุ่นนี้ด้วยนะ
ที่มา: Engadget
Gartner รายงานวันนี้ว่าแอปเปิลกลายเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 7 ของโลกแล้ว โดยมีส่วนแบ่งทั้งหมด 2.7% ของทั้งตลาด มากกว่าปีที่แล้วที่อยู่ที่ 1.5% โดยส่วนแบ่งตลาดนี้ไม่ได้ห่างกับ RIM, Sony Ericsson และ Motorola มากนัก ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดที่ 3.4%, 3.1% และ 3.0% ตามลำดับ
หากมาดูตัวเลขการเติบโตของยอดขายโทรศัพท์มือถือจากแอปเปิลแล้ว ยอดขายของแอปเปิลโตขึ้น 112.2%
หากมาดูตัวเลขส่วนแบ่งตลาดตามระบบปฏิบัติการบนมือถือแล้ว iPhone OS อยู่ที่อันดับสามของโลก มีส่วนแบ่งตลาดที่ 15.4% ซึ่งตามหลัง Symbian จากโนเกียที่มีส่วนแบ่งสูงเกือบครึ่งของตลาด และ RIM ที่มีส่วนแบ่ง 19.4% ส่วนทาง Android มีส่วนแบ่งตามมาติด ๆ ที่ 9.6% โตจากเวลาเดียวกันปีที่แล้วเกือบ 1000%
หลังจากแอปเปิลเปิดตัว iPhone ในปี 2007 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตมือถืออันดับหนึ่งของโลกอย่างโนเกียต้องเป็นฝ่ายตามมาโดยตลอด สามปีที่ผ่านมา เราเห็นคู่แข่งหน้าใหม่ในตลาดมือถือทั้ง Android, webOS และ bada ในขณะที่คู่แข่งเดิมของโนเกียอย่างไมโครซอฟท์ก็เปิดตัว Windows Phone 7 และ BlackBerry ก็ยังแรงดีไม่มีตก
ในขณะที่โนเกียและ Symbian มีแต่เสื่อมถอยลง โนเกียรุ่งเรืองที่สุดในปี 1999 ด้วยมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น 203 พันล้านยูโร (เป็นบริษัทยุโรปที่ใหญ่ที่สุด) ในขณะที่ตอนนี้เหลือเพียง 34 พันล้านยูโรเท่านั้น โนเกียมีงบวิจัยสูงกว่าแอปเปิลถึง 6 เท่า แต่ไม่สามารถออกมือถือที่มาแข่งกับ iPhone ได้แบบสมน้ำสมเนื้อ
บางคนอาจเคยผ่านตาข่าว ไมโครซอฟท์จับมือเป็นพันธมิตรกับโนเกีย ตอนนี้ผลผลิตแรกของความร่วมมือนี้เกิดขึ้นแล้ว
ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Microsoft Communicator Mobile ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานภายในองค์กร (ต้องผ่าน Office Communicator Server) สำหรับมือถือตระกูล Symbian คือ Nokia E Series
Microsoft Communicator Mobile เดิมทีมีเฉพาะบน Windows Mobile แต่หลังจากจับมือกับโนเกีย ก็เลยออกบน E Series ด้วย ดาวน์โหลดได้แล้วบน Ovi Store
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เห็นได้ชัดว่า ต้องการสู้กับ RIM ในตลาดสื่อสารองค์กรนั่นเอง
โนเกียเปิดตัวแอพพลิเคชัน Own Voice ให้ผู้ใช้สามารถอัดเสียงพูดเป็น voice pack และแบ่งปันเสียงพูดดังกล่าวเพื่อใช้นำทางบน Ovi Maps ได้ ใครสนใจดาวน์โหลด Own Voice ได้จาก Ovi Store (ต้องใช้ร่วมกับ Ovi Maps เวอร์ชันล่าสุดคือ 3.03 เท่านั้น)
เพิ่มเติม: สำหรับการแบ่งปันเสียงนำทางของผู้อื่นนั้น เราสามารถเรียกดู voice pack ได้ตามความนิยม (popularity) ตามที่ผู้อื่นแนะนำ หรือเรียกดูทั้งหมดก็ได้เช่นกัน
โนเกียเริ่มรุกหนักในตลาดแอพลิเคชั่น แม้ตัวเลขแอพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์มอื่นๆ จะมีจำนวนมากแต่ความเป็นจริงคือแอพลิเคชั่นจำนวนมากเป็นเพียงโปรแกรมอ่านเว็บที่มีชื่อเสียงอยู่เดิม ทางโนเกียซึ่งยังตามหลังในด้านแอพลิเคชั่นอยู่จึงออก Ovi App Wizard เพื่อให้เจ้าของเว็บต่างๆ สามารถสร้างแอพลิเคชั่นบน Ovi ได้ง่ายขึ้น
จุดเด่นที่สุดของเครื่องมือตัวนี้คือเราสามารถสร้างแอพลิเคชั่นครั้งเดียวเพื่อรองรับทั้งเครื่องในแพลตฟอร์ม S40 และ S60 ตลอดจนการสร้าง widget เพื่อนำขึ้นหน้าจอ
ที่มา - Ovi App Wizard
เกือบเดือนหลังจากมีภาพหลุดออกมาครั้งแรก วันนี้เว็บโนเกียยุโรปก็ได้ออกสเปคเต็มรูปแบบของ Nokia N8 อย่างหมดเปลือก โดยสรุปแล้วมันเป็นโทรศัพท์ตัวแรกที่ใช้ Symbian^3 อย่างไรก็ดีบทวิจารณ์ Symbian^3 ที่ออกมานั้นไม่ดีนัก โดยมันมีความเปลี่ยนแปลงน้อยเกินไปสำหรับระบบปฎิบัติการที่ออกใหม่ในปี 2010 เมื่อเทียบกับ Symbian ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2001
สำหรับสเปคหลักๆ มีดังนี้
หลังจากเมื่อเดือนมกราคม โนเกียประกาศให้บริการแนะนำเส้นทางสำหรับคนเดินเท้าและผู้ขับรถยนต์ฟรีกับโทรศัพท์โนเกียรุ่นใหม่ๆ ล่าสุดวานนี้ (6 เม.ย.) โนเกียได้ประกาศเพิ่มบริการนี้ให้กับโทรศัพท์รุ่นเก่าอย่าง E71/E66
อย่างไรก็ตาม อัพเดทสำหรับ S60 3.1 นี้จะไม่สามารถใช้ข้อมูลจาก Guide Michelin และ Lonely Planet ได้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ฟรีที่ nokia.com/maps ครับ