ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า OnePlus กำลังรวมทีม R&D กับ Oppo แม้ OnePlus จะไม่ได้กล่าวตรง ๆ แต่ก็ออกมายืนยันข่าวแล้วว่ากำลังรวมทีม R&D ภายใต้ OPLUS ซึ่งเป็นบริษัทแม่และผู้ลงทุนใน OnePlus, Oppo และ Realme (OPLUS เป็นบริษัทลูกของ BBK Electronics อีกที)
ที่ผ่านมา OnePlus ก็พึ่งพา Oppo อยู่ระดับหนึ่งแล้วอย่างเช่นโรงงานผลิตหรือฮาร์ดแวร์และดีไซน์ (ถ้าสังเกต OnePlus หลาย ๆ รุ่นใช้โครงหรือบอดี้เดียวกับ Oppo รุ่นท็อป อย่างเช่น OnePlus 8 Pro กับ Find X2 Pro) อย่างไรก็ตามการรวมกันครั้งนี้น่าจะเป็นเรื่องของการลดต้นทุน R&D รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ภายในเป็นหลัก ในแง่ผลิตภัณฑ์อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
ที่มา - XDA
OnePlus เข้าวงการนาฬิกาฟิตเนสและเปิดตัวเป็นคู่แข่ง Xiaomi ด้วยการเปิดตัว OnePlus Band ในอินเดีย ราคา 34 ดอลลาร์ หรือราว 1,024 บาท สามารถนับจำนวนก้าวและแคลอรี่ที่เผาผลาญ รวมถึงตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ ติดตามการนอนหลับและวัดระดับออกซิเจนในเลือด รองรับโหมดการออกกำลังกาย 13 โหมด ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง วิ่งในร่ม Fat Burn Run ขี่จักรยาน พายเรือ ว่ายน้ำ โยคะและคริกเก็ต
บัญชี Twitter ของ OnePlus ประเทศอินเดียปล่อยภาพทีเซอร์ที่คาดว่าจะเป็นสายรัดข้อมือฟิตเนสชิ้นแรกของ OnePlus โดยใช้คำโปรยว่า ปีนี้เราจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายฟิตเนสทุกเป้า และทำให้ชีวิตง่ายยิ่งขึ้น พร้อมติดแท็ก #SmartEverywear
สำหรับสายรัดข้อมือของ OnePlus นี้มีข่าวลือมาสักระยะแล้ว โดย Android Central เคยรายงานว่าจะใช้ชื่อ OnePlus Band และ @ ishanagarwal24 ได้รายงานข้อมูลคร่าว ๆ ว่าสายรัดข้อมือฟิตเนสใหม่จาก OnePlus นี้จะมีตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบมอนิเตอร์ระดับออกซิเจนในเลือด, ระบบติดตามการนอนหลับ, หน้าจอ AMOLED ระบบสัมผัสขนาด 1.1 นิ้ว, แบตเตอรี่อยู่ได้ 14 วัน, กันสภาพอากาศตามมาตรฐาน IP68 และมีโหมดในการออกกำลังกายถึง 13 โหมด
ทวิตเตอร์ @MishaalRahman พบว่ามีเครื่องต้นแบบ OnePlus 9 5G วางขายบน ebay ซึ่งดูจากภาพถ่ายแล้ว คนขายน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ส่งภาพ OnePlus 9 ให้กับเว็บไซต์ Phone Arena ก่อนหน้านี้
ด้านหน้าเครื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ ยังเป็นหน้าจอที่มีกล้องหน้าแบบเจาะรูมุมซ้ายบน แต่ด้านหลังมีโลโก้ OnePlus พร้อมกล้องคู่ กับตัวหนังสือ Ultrashot ซึ่งคล้ายคลึงกับ Ultra Steady บน Oppo Reno 4 Pro
OnePlus ประเทศไทย เปิดราคาของ OnePlus Nord N10 5G มือถือน้องรองในซีรีส์ Nord ที่เพิ่งเปิดตัวช่วงกลางเดือนนี้
จุดเด่นของ OnePlus Nord N10 5G คือการเป็นมือถือ 5G ในราคาถูกระดับต่ำหมื่น (ราคาเปิดตัว 9,990 บาท) ถือว่าใกล้เคียงกับ Realme 7 5G ที่เพิ่งเปิดราคาขายในไทยก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน
สเปกคร่าวๆ ของ OnePlus Nord N10 5G คือหน้าจอ 6.49" FHD+ 90Hz, ชิป Snapdragon 690, แรม 6GB, ความจุ 128GB, แบตเตอรี่ 4,300 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30 วัตต์, กล้องหลัง 4 ตัว (ฝั่ง Realme 7 5G สเปกดีกว่าคือจอ 120Hz, แรม 8GB, แบตเตอรี่ 5,000 mAh)
OnePlus ยืนยันกับเว็บไซต์ Android Central ว่า OnePlus Nord N10 5G กับ OnePlus N100 จะได้รับการอัพเดตเวอร์ชั่น Android แค่เวอร์ชั่นเดียวเท่านั้น แต่จะได้อัพเดตแพทช์ความปลอดภัยสองปี โดย OnePlus ระบุว่าเป็นไปตามมาตรฐานของมือถือรุ่นประหยัด และจะรับฟังความเห็นจากผู้ใช้ต่อไป
OnePlus Nord N10 5G กับ OnePlus N100 มาพร้อมกับ Oxygen OS 10.5 ครอบทับ Android 10 แปลว่าสองรุ่นนี้จะได้อัพเดตถึงแค่ Android 11 เท่านั้น แม้จะได้อัพเดตแพทช์ความปลอดภัย 2 ปี
นอกจากเวอร์ชั่นปกติตามท้องตลาดแล้ว OnePlus 8T ยังมีเวอร์ชั่นพิเศษ Cyberpunk 2077 Edition ที่จับมือกับ CDProjekt Red ทำออกมาเป็นธีมจากเกมชื่อดัง วางจำหน่ายในประเทศจีนอีกด้วย
OnePlus 8T Cyberpunk Edition ไม่ได้มีสเปกกล้องหรือสเปกภายในต่างจากเดิมแต่อย่างใด เป็นรุ่นแรม 12GB ความจุ 256GB และมีจุดแตกต่างที่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ตัวเครื่องเป็นสีดำขอบเหลืองตามสีธีมของเกม โลโก้ Cyberpunk ที่ฝาหลัง และโมดูลกล้องด้านหลังที่ใหญ่กว่าปกติพร้อมพิมพ์เลข 2077 ให้อารมณ์ Cyberpunk มากกว่ากว่าเดิม
ข้อเสียของโมเดลนี่คือไม่น่าจะใส่เคสสำหรับ OnePlus 8T ทั่วไปได้ รวมถึงยังไม่มีพูดถึงการวางจำหน่ายในต่างประเทศ ส่วนในประเทศจีน วางจำหน่าย 11 พฤศจิกายนนี้ในราคา 3,999 หยวน (ราว 18,700 บาท)
OnePlus แตกไลน์สมาร์ทโฟนราคาถูก 2 รุ่นโดยยังคงแบรนด์ Nord เอาไว้ในชื่อรุ่น OnePlus Nord N10 5G ที่เป็นรุ่นแพงกว่าประมาณหมื่นต้น ๆ และ N100 ที่เป็นรุ่นต่ำหมื่น
OnePlus Nord N10 5G (น่าจะเป็นรุ่น 5G ที่ถูกที่สุดตอนนี้) หน้าจอขนาด 6.49 นิ้ว FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 690 โมเด็ม 5G เป็น Snapdragon X51 รองรับเฉพาะคลื่น sub-6 แรม 6GB ความจุ 128GB (รองรับ microSD) แบต 4,300mAH รองรับ Warp Charge 30T สแกนลายนิ้วมือด้านหลังและได้ลำโพงคู่ รัน Android 10 มีรูหูฟัง
OnePlus เปิดราคา OnePlus 8T ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มาพร้อม Snapdragon 865 หน้าจอ 120Hz และ WarpCharge 65W ชาร์จจาก 0 ถึง 100% ได้ ภายในเวลา 39 นาที รัน Android 11 ครอบด้วย OxygenOS 11
เปิดจอง 21-29 ตุลาคม สั่งจองจะได้รับ E-VIP card สำหรับประกันจอแตก 1 ครั้งใน 1 ปี กระเป๋าเดินทาง และขวดน้ำ OnePlus วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 30 ตุลาคม มีสองความจุ สองราคา
หลัง OnePlus 8T เปิดตัวไปเมื่อวานนี้ ในวันนี้สื่อต่างประเทศหลายๆ เจ้าก็ทยอยเริ่มเปิดรีวิวกันออกมาแล้ว เพราะ OnePlus น่าจะส่งเครื่องให้ทดสอบตั้งแต่ก่อนเปิดตัว
คะแนนโดยรวมออกมาในเกณฑ์ดี กล้องโมโนโครมและหน้าจอแบบแบนรีเฟรชเรต 120Hz ที่เพิ่มเข้ามาถือว่าเป็นการอัปเกรดจาก OnePlus 8 (รุ่นไม่ Pro) เล็กน้อย ชิป Snapdragon 865 ที่แม้จะไม่ได้รุ่นพลัส แต่ก็ยังรวดเร็วอยู่ รวมถึง Oxygen OS 11 ที่ครอบทับอยู่บน Android 11 แม้จะเริ่มแตกต่างจาก Pure Android มากขึ้น แต่ก็ยังใช้งานได้อย่างลื่นไหล
นอกจาก OnePlus 8T ที่เปิดตัวไปเมื่อวันก่อนแล้ว ในประเทศอินเดีย OnePlus ยังนำหูฟัง in-ear ไร้สาย Bullet Wireless Z (แบบมีสายพาดคอ) ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2018 มาปรับแต่งใหม่ เป็น Bullets Wireless Z Bass Edition หรือรุ่นเน้นเสียงเบส โดยสเปกส่วนใหญ่เหมือนเดิมคือมี environmental noise cancellation ที่ไม่ใช่ ANC แต่เป็นการใช้จุกยางกันเสียง ใช้ไดรเวอร์ขนาด 9.2 มิลลิเมตร กันน้ำกันฝุ่น IP55 รองรับ Bluetooth 5.0
นอกจากการเน้นเสียงเบสตามชื่อแล้ว มีข้อแตกต่างอื่นอีกเล็กน้อย คือลดความหน่วงจาก 110ms ในรุ่นธรรมดาเหลือ 100ms รองรับ WarpCharge ชาร์จ 10 นาที ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง แต่แบตเตอรี่ลดลงจาก 20 ชั่วโมงในรุ่นปกติ เหลือ 17 ชั่วโมง เตรียมวางขายในอินเดีย 15 ตุลาคมนี้บนเว็บไซต์ OnePlus ก่อนลงเว็บไซต์ Amazon และ Flipkart วันที่ 16 ตุลาคม และวางขายทั่วไปวันที่ 2 พฤศจิกายน ในราคา 1,999 รูปี (ราว 860 บาท)
เรือธงรุ่นครึ่งปีหลังของ OnePlus มาแล้วกับ OnePlus 8T ด้วยหน้าจอ 6.55 นิ้วแบบ Fluid AMOLED รีเฟรชรท 120Hz รองรับ HDR10+ อัตราส่วน 20:9 ความสว่าง 1100nits ได้คะแนนจาก DisplayMate ที่ A+
กล้องหลังหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.7 เซ็นเซอร์ IMX586, เลนส์อัลตร้าไวด์ 16 ล้านพิกเซล กว้าง 123 องศา, เลนส์มาโคร 5 ล้านพิกเซลและเลนส์ถ่ายโมโนโครม 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.4 เซ็นเซอร์ IMX471
เว็บไซต์ Android Central อ้างแหล่งข่าววงในของ OnePlus ยืนยันข่าวว่า Carl Pei ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทลาออกไปเมื่อเร็วๆ นี้ หลังมีข่าวลือว่าเขาขัดแย้งกับ Peter Lau ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งอีกคน
OnePlus ก่อตั้งในปี 2013 โดย Carl Pei และ Pete Lau ซึ่งเคยทำงานร่วมกันที่ Oppo มาก่อน ตัวของ Pei เองเป็นคนจีนที่เติบโตในสวีเดน (เขาถือสัญชาติสวีเดน) เคยทำงานที่ Nokia และ Meizu ก่อนมาอยู่กับ Oppo แถมการที่เขาพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ทำให้เขากลายเป็นตัวแทนของแบรนด์ OnePlus ในโลกตะวันตก มากกว่าซีอีโอ Pete Lau ที่พูดภาษาอังกฤษไม่เก่งนัก
OnePlus เริ่มปล่อยรอม OxygenOS 11 รุ่นเสถียร ที่พัฒนาจาก Android 11 ให้กับมือถือตระกูล OnePlus 8 แล้ว
OxygenOS 11 มากับดีไซน์ UI แบบใหม่, Dark Mode, การตั้งค่า Ambient Display (always-on) ที่ละเอียดขึ้น, ปรับปรุง Zen Mode โหมดหยุดพักการใช้งานมือถือ เพิ่มธีมใหม่ เป็นต้น
ถัดจาก OnePlus 8 แล้ว มือถือที่จะได้อัพเดตตามมาในระยะถัดไปคือ OnePlus 7/7T, OnePlus 6/6T และ OnePlus Nord ส่วนรุ่นที่เก่ากว่านั้นอย่าง OnePlus 5/5T ไม่ได้ไปต่อแล้ว
ใกล้วันเปิดตัว OnePlus 8T เรือธงรุ่นอัพเดตรอบปลายปีของ OnePlus เข้ามาเรื่อยๆ (กำหนดเปิดตัว 14 ตุลาคม)
วันนี้ OnePlus เผยแพร่คลิปวิดีโอของ OnePlus 8T ให้เห็นหน้าตาเครื่องกันล่วงหน้า เครื่องที่นำมาโชว์เป็นเวอร์ชันสีเขียวโทนใกล้เคียงกับ OnePlus 8 (สีนี้ชื่อ Ultramarine Green) แต่ขยับตำแหน่งของโมดูลกล้อง จากตรงกลางมาชิดขอบด้านซ้ายบน เหมือนกับ OnePlus Nord
ข้อมูลของ OnePlus 8T เท่าที่เราทราบกันคือ ใช้หน้าจอ 120Hz และมีระบบชาร์จ 65 วัตต์ ที่เหลือคงต้องรอติดตามกันในงานแถลงข่าว 14 ตุลาคม
OnePlus 8 Series เตรียมปรับราคาใหม่ วันที่ 1 ตุลาคมนี้ จากราคาเปิดตัว OnePlus 8 ที่ 28,990 บาท เหลือ 25,990 บาท และ OnePlus 8 Pro จาก 34,990 บาท เหลือ 31,990 บาท มีจำหน่ายทาง AIS, JD Central, Lazada, Shopee และ Thisshop
OnePlus เผยข้อมูลของ Warp Charge 65W ระบบชาร์จที่จะมาพร้อมกับ OnePlus 8T ที่ใช้แบตเตอรี่ 4,500 mAh สามารถชาร์จได้ถึง 58% ภายใน 15 นาที ซึ่ง OnePlus ระบุว่า 58% คือใช้ได้เป็นวันแล้ว (A Day's Power in 15 minutes.) และชาร์จเต็มได้ภายใน 39 นาที
ตัวสายจะเป็นแบบ USB C-to-C ตัวที่ชาร์จรองรับการชาร์จหลายแบบ รวมถึงชาร์จแบบ PD 45W ด้วย ทำให้ชาร์จอุปกรณ์ได้หลายรูปแบบไปจนถึงโน้ตบุ๊กที่รองรับการชาร์จแบบ PD ผ่าน USB Type-C
ตัวที่ชาร์จมี encryption chip เพื่อป้องกันการล้วงข้อมูล และบน OnePlus 8T จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิถึง 12 จุด ทำงานควบคู่กับระบบระบายความร้อนแบบใหม่ เพื่อลดอุณหภูมิแบตเตอรี่ขณะชาร์จ
ต่อเนื่องจากข่าวศุลกากรสหรัฐยึด OnePlus Buds ที่สนามบิน JFK เพราะนึกว่า AirPods ปลอม ล่าสุดกรมศุลกากรสหรัฐแถลงยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเข้าใจผิด แต่ยึด OnePlus Buds เพราะละเมิดเครื่องหมายการค้าในแง่รูปลักษณ์สินค้าตามที่แอปเปิลเคยแจ้งเอาไว้
กรมศุลกากรระบุว่าแอปเปิลได้ยื่นข้อมูลเรื่องเครื่องหมายการค้าด้านรูปลักษณ์ (configuration trademark) ของ AirPods เอาไว้กับกรมศุลกากร ซึ่งเจ้าหน้าที่มีสิทธิยึดตามกฎโดยไม่จำเป็นต้องสนว่ากล่องหรือแบรนด์ข้างกล่องจะระบุว่าอะไร และไม่จำเป็นต้องแปะแบรนด์แอปเปิลข้างกล่อง ถึงจะเข้าข่ายการละเมิดเครื่องหมายการค้านี้
ความเหมือน AirPods ของ OnePlus Buds ไม่ได้จบแค่การล้อเลียนเฉย ๆ แล้วเมื่อศุลกากรของสหรัฐที่สนามบิน JFK แถลงยึด OnePlus Buds จากฮ่องกงว่า 20,000 ชิ้น เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็น AirPods ปลอม
ศุลกากรสหรัฐแถลงบนหน้าเว็บไซต์ว่า "CBP at JFK Seizes Counterfeit Apple Airpod Earbuds" คิดเป็นมูลค่า (AirPods) กว่า 400,000 เหรียญ พร้อมโชว์รูปกล่อง OnePlus Buds ที่มีชื่อสินค้าและโลโก้ OnePlus ชัดเจน โดยศุลกากรระบุในแถลงด้วยว่า การยึดของปลอมครั้งนี้ เป็นภาพสะท้อนของความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ศุลกากร
ขณะที่ทวิตเตอร์ OnePlus USA ทวีตตอบข่าวนี้ด้วยว่าให้คืนสินค้าเหล่านี้มา
หลังจาก OnePlus Nord ที่เป็นมือถือรุ่นกลางราคาเริ่มต้น 14,990 บาทไปแล้ว OnePlus ก็เตรียมเปิดตัวมือถืออีกรุ่น ที่ระดับราคา 200 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,230 บาท ภายในปีนี้ ถือเป็นมือถือรุ่นแรกของค่ายที่มีราคาต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาท
ข้อมูลที่หลุดออกมา ณ ตอนนี้คือ OnePlus ‘Clover’ (ชื่อรหัส) จะมาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด 720p ใช้ชิป Snapdragon 460 แรม 4GB หน่วยความจำภายใน 64GB รองรับ microSD มีกล้องหลังสามกล้อง กล้องหลัก 13MP และกล้อง 2MP อีกสองกล้อง (ยังไม่ปิดเผยชนิดของอีกสองกล้อง) แบตเตอรี่ให้มาถึง 6,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
หลัง OnePlus Nord เปิดราคาอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานและได้ลองจับเครื่องจริงทั้งสองสี คือ Blue Marble และ Gray Onyx มาด้วย จึงลองมาเล่าเป็นพรีวิวภาพรวมของเครื่องคร่าวๆ ให้ผู้ที่สนใจซื้อได้เห็นภาพเครื่องจริงมากขึ้น
OnePlus Nord มือถือรุ่นกลางจาก OnePlus ชิป Snapdragon 765G หน้าจอ 90Hz พร้อม 4 กล้องหลัง 2 กล้องหน้า เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมหูฟัง OnePlus Buds
OnePlus Nord เปิดจอง 21-27 สิงหาคมนี้ พร้อมรับของสมนาคุณมูลค่า 10,990 บาท วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 28 สิงหาคมเป็นต้นไป
ประเด็น Fortnite กำลังร้อนแรงหลัง Epic เริ่มสงครามด้วยการทำระบบจ่ายเงินเองบน Fortnite จนถูก Apple Store และ Play Store ถอดออกจากสโตร์ ก่อนที่ Epic จะฟ้องร้องทั้ง 2 บริษัททันที
ล่าสุดเอกสารฟ้องร้องการผูกขาด Google ทาง Epic อ้างว่าเคยมีข้อตกลงกับ OEM มือถืออย่าง OnePlus และ LG ให้ติดตั้ง Fortnite รวมถึงแอปของ Epic Games (เป็นแอป launcher เพื่อการติดตั้งแอปอื่น ๆ ของ Epic อีกทีโดยไม่ผ่าน Play Store) มาในเครื่องตั้งแต่โรงงาน พร้อมปรับแต่งให้ Fortnite แสดงผลเฟรมเรทได้ดีกว่าบนเครื่องอื่น ก่อนที่ทั้งสองดีลจะถูก Google บีบไม่ให้ OnePlus ทำตามข้อตกลง
OnePlus ที่ใช้ OxygenOS ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่ง UI ที่สะอาดสะอ้านที่สุด เกือบเทียบได้กับ Pure Android แต่ล่าสุด Max Weinbach คนเดียวกับที่เคยเจอโฆษณาบนมือถือ Samsung ก็ต้องทวิตแบบหงุดหงิดอีกครั้ง หลังพบเรื่องให้รำคาญใจ คือมือถือ OnePlus ของเขา อัพเดตแอป Instagram ผ่าน Facebook App Manager แทนที่จะเป็น Google Play Store ตามปกติ
นอกจาก OnePlus Nord แล้ว OnePlus ยังเปิดตัวหูฟัง true wireless สีสันสดใส OnePlus Buds แบตเตอรี่ 7 ชั่วโมง รวมเคสชาร์จได้ 30 ชั่วโมง เคสมีระบบชาร์จเร็ว ผ่าน USB-C ชาร์จแค่ 10 นาทีสามารถนำไปชาร์จหูฟังต่อได้ 10 ชั่วโมง และชาร์จจนเต็มได้ใน 80 นาที
ตัวหูฟังใช้ไดนามิกไดรเวอร์ ขนาด 13.4 มม รองรับ Dolby Atmos และมีระบบตัดเสียงรบกวนเข้าไมค์ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 รองรับระบบ Fast Pair และกันน้ำ IPX4 การควบคุมเป็นแบบสัมผัส โดยใช้การแตะที่ด้านหลังหูฟังเบาๆ
มีวางจำหน่ายสามสีคือ สีขาว เทา และฟ้าอมเขียว ราคา 79 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,500 บาท) แต่ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในไทย