ทำความรู้จักแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ สำหรับ B2B ชื่อ "แบ่งเบา" (Bangbow Platform) เตรียมเปิดตัวให้ใช้งานได้ในเดือนมีนาคมนี้ หลังทดลองระบบกับผู้ประกอบการ SMEs มาปีกว่า ด้วยการตลาดแบบไฮบริด คือการใช้ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเชื่อมต่อผู้ประกอบการไทย และตัวแทนทั่วประเทศ
ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มระบุว่าจะไม่เก็บค่า GP กับผู้ประกอบการตลอดชีพ แต่จะคิดเงินจากค่าพื้นที่สำหรับวางสินค้าบนแพลตฟอร์ม โดยจะเก็บค่าบริการเพื่อวางสินค้า 5 หน่วยขึ้นไป เดือนละ 2,500 บาท หรือปีละ 10,000 บาท
การทำงานของแพลตฟอร์มแบ่งเบา แบ่งได้ ดังนี้
รายงาน State of Create จาก Patreon พบครีเอเตอร์พยายามดิ้นรนเพื่อเข้าถึงผู้ติดตาม โดย 53% ยอมรับว่าทำได้ยากกว่าห้าปีที่แล้ว เนื่องจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เน้นดันคอนเทนต์ตามอัลกอริธึม และคอนเทนต์รูปแบบวิดีโอมากขึ้น
โดยเฉพาะตั้งแต่ที่ TikTok ได้รับความนิยม แพลตฟอร์มอื่นก็หันมาดันวิดีโอสั้น มีการเปิดตัวคอนเทนต์วิดีโอสั้น เช่น Reels จาก Instagram และ Shorts จาก YouTube
อย่างไรก็ตาม แม้วิดีโอสั้นจะขึ้นฟีดมากกว่า แต่ 52% ของผู้ใช้บอกว่าชอบวิดีโอยาวมากกว่า เพราะสนุกและดึงดูดความสนใจมากกว่า ที่สำคัญคือ ยอมจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์มากขึ้น
สตีเฟน คิง นักเขียนชื่อดัง ออกมาโพสต์ว่าจะยุติกิจกรรมต่าง ๆ บน X โดยบอกว่าตนพยายามที่จะอยู่บนแพลตฟอร์มนี้แล้วแต่นับวันบรรยากาศก็ยิ่ง Toxic ขึ้น และเชิญชวนให้ผู้ติดตามย้ายไปติดตามเขาที่ Threads แทน
ก่อนคิงจะออกมาโพสต์คราวนี้ก็มีบุคคลและหน่วยงานออกมายุติการใช้ X ไม่น้อย เช่น หนังสือพิมพ์ The Guardian, สโมสรฟุตบอลเยอรมัน St Pauli, Jamie Lee Curtis และนักข่าวโทรทัศน์ Don Lemon โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า X เป็นพื้นที่แห่งความเกลียดชังและข้อมูลบิดเบือน
ผู้ใช้ YouTube บางรายพบว่าการข้ามโฆษณายากขึ้น โดยมีคนโพสต์ใน Reddit ว่าตอนนี้เขาไม่เห็นตัวนับถอยหลังก่อนกดข้ามโฆษณาตามปกติ ส่วน Android Police ก็รายงานเพิ่มเติมว่าในมือถือก็เป็นแบบเดียวกันแล้ว
YouTube ยืนยันว่าไม่ได้ลบปุ่มข้ามออกไป แต่อาจลดองค์ประกอบบางอย่าง และตัวนับถอยหลังอาจปรากฏเป็นแถบความคืบหน้าที่ด้านล่างของหน้าจอแทน
นอกจากภาพสตีฟ จอบส์ ในเสื้อคอเต่าสีดำ อีกหนึ่งภาพเราน่าจะเคยเห็นจนชินตาคือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ในลุคเสื้อยืดเทา กางเกงยีนส์ ที่ใส่มายาวนาน 13 ปี (ก่อนหน้านั้นเขาอินกับเสื้อฮู้ด) พร้อมผมสั้นที่เป็นดั่งลายเซ็นของเขาไปแล้ว
แต่ในปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะพอจับสังเกตได้บ้างแล้วว่าซัคเคอร์เบิร์กดูมีสไตล์มากขึ้น แต่น่าจะเห็นกันแค่คร่าว ๆ ไม่ได้คิดว่ามีอะไรพิเศษ หรือมีอะไรต้องสนใจขนาดนั้น