ยาฮูจัดงานแถลงข่าวชื่อ Connecting You to What Matters Most เปิดตัวผลิตภัณฑ์เวอร์ชันใหม่หลายตัว

Yahoo! Mail

กูเกิลกำลังเริ่มทดสอบสถาปัตยกรรมสำหรับการค้นเว็บรุ่นใหม่ที่มีรหัสว่า Caffeine โดยระบบนี้จะรวมตั้งแต่ crawler, indexing และระบบจัดอันดับผลการค้นหา ผู้สนใจสามารถทดสอบได้ที่ http://www2.sandbox.google.com

Caffeine เป็นระบบที่ทำงานอยู่หลังฉาก หน้าตาของระบบรุ่นทดสอบยังเหมือนกูเกิลแบบปกติ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตอนนี้จะมุ่งไปที่ระบบดัชนีเว็บ (indexing) เป็นหลัก ระบบตัวใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้กูเกิลเก็บข้อมูลเว็บได้มากขึ้น ทำงานได้เร็วขึ้น และแน่นอนว่าผลการค้นหาที่ปรากฎย่อมเปลี่ยนแปลงไป เมื่อกูเกิลทดสอบ Caffeine เสร็จก็มีโอกาสสูงที่มันจะเข้ามาแทนระบบดัชนีเว็บตัวที่ใช้ในปัจจุบัน

หลังจากการเจรจาอันยาวนานเกือบ 3 ปี (รวมช่วงที่เป็นข่าว 2 ปี และช่วงก่อนหน้านั้น 1 ปี) สุดท้ายมหากาพย์เรื่องไมโครซอฟท์-ยาฮูก็ได้ข้อยุติ (ข่าวเก่า: ไมโครซอฟท์ตกลงร่วมมือด้านการค้นหากับยาฮูสำเร็จ) เนื่องจากข้อตกลงครั้งนี้ค่อนข้างซับซ้อน มาดูกันว่ามันมีความหมายอย่างไรกับชีวิตประจำวันของชาวเน็ตอย่างเราๆ ครับ

หลังข้อตกลงนี้ ใครจะทำอะไร

หลังจากมีข่าวออกมานานตั้งแต่ต้นปีที่แล้วและไม่สามารถตกลงกันได้เสียที วันนี้ไมโครซอฟท์ก็เผยแล้วว่าทำข้อตกลงกับยาฮูสำเร็จครับ

ข้อตกลงในคราวนี้นั้นสรุปได้ง่ายๆ ว่าไมโครซอฟท์จะดูแลระบบค้นหาของยาฮู (โดยใช้ Bing เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังในการค้นหา) ในขณะที่ยาฮูนั้นจะดูแลในส่วนของโฆษณาต่างๆ แทน โดยข้อตกลงนั้นมีกำหนดระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงนั้นจะค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าสำหรับระบบค้นหาและ 12 เดือนข้างหน้าสำหรับส่วนของโฆษณา

หากใครจำกันได้ ไมโครซอฟท์ได้เริ่มต้นการเจรจากับยาฮู! มาได้เกือบสองปีแล้ว นับตั้งแต่การพยายามเสนอซื้อหุ้นของยาฮู! ประมาณ 2-3 ครั้งแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ (แต่กระนั่นดีลระหว่างยาฮู! กับกูเกิลก็ไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกัน) แต่มาถึงวันนี้ก็มีข่าวลือหนาหูมากขึ้นว่าไมโครซอฟท์พยายามเจรจากับยาฮู! อยู่ทุกวี่ทุกวัน

ต่อจากข่าว Bing มีทราฟฟิกมากกว่า Digg, Twitter และ CNN ตอนนี้ถึงคิว Bing เปิดเผยสถิติของตัวเองแล้วว่าผ่านวันครบรอบ 1 เดือน Bing เป็นยังไงบ้าง

Bing บอกว่าจำนวน UIP รวมของตัวเองโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับ Live Search และจากโพลของ Bing เอง จำนวนที่ผู้ใช้ Bing บอกว่าจะ "บอกต่อ" ให้เพื่อนของตัวเองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (ไม่มีตัวเลขบอกว่าเท่าไร)

แม้ว่า Bing จะไม่สามารถโค่นกูเกิลลงได้ในชั่วข้ามคืน แต่ด้วยเวลาเพียง 1 เดือน Bing ก็เริ่มจากศูนย์จนมีทราฟฟิกโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และตอนนี้กลายเป็นเว็บที่มีคนเข้ามากเป็นอันดับ 13 จากการวัดของ Compete.com แล้ว (เป็นสถิติเฉพาะในสหรัฐ)

ตัวเลข UIP รวมของเดือนแรกที่เปิดตัวอยู่ที่ 49.57 ล้าน ซึ่งมากกว่า Digg (38.96 ล้าน), Twitter (23 ล้าน), CNN (28.54 ล้าน) และใกล้แซง Craigslist (53 ล้าน) รวมถึง Microsoft เอง (55 ล้าน)

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์อื่นๆ ของไมโครซอฟท์ยังอยู่ในอันดับสูงกว่านี้ คือ MSN (114 ล้าน) และ Live.com (79.4 ล้าน) เหตุที่ Live.com ยังแรงอยู่ก็เพราะบริการอื่นๆ ในตระกูล Live โดยเฉพาะ Windows Live Hotmail ยังใช้โดเมน live.com อยู่นั่นเอง

กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในการค้นหารูป โดยเราสามารถกรองรูปตามสัญญาอนุญาตในครีเอทีฟคอมมอนส์จากผลลัพท์ได้ เช่นค้นหารูปที่ใช้สัญญาอนุญาตประเภทแสดงที่มา และไม่ใช้เพื่อการค้า (by-nc) แต่ทั้งนี้ทางกูเกิลก็ได้ขึ้นคำเตือนไว้ว่าผลของการค้นหานั้น อาจจะไม่ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์ ผู้ใช้ควรจะตรวจสอบความถูกต้องด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง

วิธีการกรองรูปตามสัญญาอนุญาตในครีเอทีฟคอมมอนส์ ทำได้โดยไปที่ Google Images แล้วเข้าไปที่ "การค้นหารูปภาพขั้นสูง"

ปล. รู้สึกว่าชื่อสัญญาอนุญาตที่กูเกิลใช้จะไม่ตรงกับที่ใช้ในครีเอทีฟคอมมอนส์ไทยซักเท่าไหร่นะครับ

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ที่อาคารศูนย์ข้อมูล Fisher Plaza ในเมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐฯ ทำให้รบกวนการจ่ายพลังงานเข้าเซิร์ฟเวอร์หลายบริษัทด้วยกัน รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ที่ให้บริการ Bing Travel ต้องหยุดชะงักลงจนถึงวันนี้ (4 ก.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ) โดยในขณะนี้ (เวลาที่ประกาศข่าวใน Blognone) เว็บไซต์ Bing Travel ได้แสดงข้อความว่า:

"A fire occurred at Fisher Plaza in downtown Seattle just after midnight on Friday morning. The blown transformer knocked out power to the entire building, which is home to the Bing Travel servers. We're hard at work to restore service following this unexpected event."

สำหรับระบบไฟในอาคารศูนย์ข้อมูลดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว ตามการประกาศในเว็บไซต์ของบริษัท AdHost ผู้ที่ดูแลศูนย์ข้อมูลดังกล่าว

คุณ Tom Krazit ซึ่งจะเน้นทำข่าวเกี่ยวด้านการค้นหาข้อมูล การโฆษณาออนไลน์ของสำนักข่าว C|Net ได้ออกมาให้ความเห็นว่าไมโครซอฟท์ควรปรับปรุง Bing ให้รองรับในกรณีที่มีขาวแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ต ดังเช่นข่าวของคุณไมเคิล แจ็คสัน ที่เสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยคุณ Tom ได้ระบุไว้ตอนต้นว่า "ข่าวใหญ่ที่สุดของปีข่าวหนึ่งไม่ได้รับความสนใจจากไมโครซอฟท์"

One of the biggest news stories in years caught Microsoft's Bing a little off guard.

โดยหลังจากข่าวการเสียชีวิตได้แพร่กระจายออกไป กูเกิลถือเป็นรายแรกที่ถูกกระหน่ำด้วยด้วยการค้นหาข่าวดังกล่าวอย่างฉับพลัน สำหรับสถิติการค้นหาที่ตีพิมพ์โดยไมโครซอฟท์ก็ยืนยันเหตุการณ์นี้ดวยเช่นกัน (ดูรูปข้างล่าง) แต่สถิติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่าฟีเจอร์ Bing News ควรได้รับการปรับปรุงให้สามารถนำเสนอผลลัพธ์ที่ตรงประเด็นและเกี่ยวเนื่องกันมากกว่านี้ในช่วงฟีคที่จะมีการร้องขอการค้นหาข่าว

สำหรับ Bing นั้นได้มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า "news go big" โดยที่มันจะสามารถแสดงผลข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับข่าวในช่วงที่ข่าวนั่นแพร่กระจายไปอย่างรุนแรงได้อย่างรวดเร็ว (เช่นในกรณีของการเสียชีวิตของคุณไมเคิล แจ็คสัน) โดยทั่วไปแล้ว รูปภาพจะเป็นสิ่งแรกที่ Bing สนใจ แต่ผลลัพธ์ของฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถถูกปรับลดให้น้อยลงได้หากในช่วงเวลาที่การแพร่กระจายของข่าวดังกล่าวสร้าง "กิจกรรมที่ไม่เป็นปกติ" (ในข่าวใช้คำว่า unusual activity) ขึ้นมา

ไมโครซอฟท์เริ่มจริงจังกับ Twitter มากขึ้น เดิมทีแต่ละทีมภายในไมโครซอฟท์จะมีบัญชี Twitter ของตัวเอง และทำงานไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ว่าตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้ตั้งทีมประชาสัมพันธ์องค์กร ซึ่งมีพนักงานเต็มเวลา 4 คน ดูแลบัญชี @microsoft แล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่อัพเดตอะไรกันมาก แต่ก็คาดว่าไมโครซอฟท์จะเริ่มอัพเดตอย่างต่อเนื่องในเร็วๆ นี้

นับถึงวันนี้ Bing ได้กลายเป็นกระแสใหม่มาแรงชนิดที่ยาฮู! หรือกูเกิลยังต้องหันมามอง เนื่องจากยอดผู้ใช้งานที่เพึ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ถึงแม้จะห่างไกลจากคู่แข่งทั้งสองก็ตาม) แต่ทว่าไมโครซอฟท์คงไม่หยุดอยู่เพียงให้ Bing เป็นเครื่องมือค้นหาผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น ดูเหมือนในตอนนี้ทีมพัฒนากำลังพัฒนาให้ Bing สามารถเข้าถึงผ่านอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือได้สะดวก และให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับ Bing บนคอมพิวเตอร์อีกด้วย

หลังจากช่วงแรกของการเปิดตัว Bing ไปนั่นฟีเจอร์ SafeSearch ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ (ดูรีวิวฟีเจอร์ดังกล่าวได้ที่ รีวิว Bing เสิร์ชเอนจิ้นใหม่จากไมโครซอฟท์) โดยเฉพาะการค้นหาวีดีโอที่ยังแสดงวีดีโอที่ไม่เหมาะสมในผลลัพธ์ของการค้นหา (จนทำให้ Norton ออกมาบอกว่าให้บล็อกการเข้าถึง Bing ไปก่อน (ดูข่าวเก่า)) เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ผู้จัดการทั่วไปของ Bing ได้เปิดเผยผ่าน Bing Blog ว่าได้เปลี่ยนการแสดงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ (โดยได้ข่าวได้นิย

Eric Schmidt ซีอีโอของกูเกิล ให้สัมภาษณ์กับ Fox Business Network ถล่ม Bing เป็นชุด คัดมาเฉพาะอันเด็ดๆ

"It’s not the first entry for Microsoft. They do this about once a year."

แปล (นี่ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกของไมโครซอฟท์ พวกเขาออก search engine ใหม่ทุกปี (หมายถึง MSN กับ Live Search)

“We think search is about comprehensiveness, freshness, scale and size for what we do. It’s difficult for them to copy that.”

แปล (เราคิดว่าหัวใจสำคัญของ search คือต้องเพียบพร้อม, สดใหม่, รองรับผู้ใช้ที่ขยายตัวได้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราทำได้และประสบความสำเร็จ ไมโครซอฟท์อยากทำแบบเดียวกันแต่มันไม่ง่ายหรอก)

หลังจากปล่อยให้ Wolfram Alpha ออกมาเรียกเสียงฮือฮาได้สักพัก กูเกิลก็เริ่มโต้กลับด้วยเครื่องมือค้นหาแนวทางเดียวกัน (แม้ว่าจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว) ชื่อ Google Squared

Google Squared ยังเป็นบริการที่แปะตรา Labs อยู่ แนวคิดของมันคือการหาตัวเลข-ข้อมูลจริงแบบเดียวกับ Wolfram Alpha แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือผลการค้นหาจะออกมาเป็นตารางเปรียบเทียบ (ถึงได้ชื่อว่า Squared) ลองเล่นดูได้ตามนี้

ในขณะที่ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อยโฆษณา Bing (ดูข่าวเก่า โดยคุณ pawinpawin) บริษัท Symantec ผู้เป็นเจ้าผลงานบริการตัวกรองและติดตามการใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่าง OnlineFamily.Norton ได้ประกาศออกมาว่า Bing นั่นก็ไม่สามารถบล็อกการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้ (ลองดูเทคโนโลยี Safe Search ของ Bing ได้ที่ รีวิว Bing เสิร์ชเอนจิ้นใหม่จากไมโครซอฟท์ โดยผมเอง) โดยได้แนะนำให้ผู้ปกครองใช้ OnlineFamily.Norton บล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์ Bing ในช่วงเวลานี้ไปก่อน!

คนแถวๆ นี้น่าจะเล่น Bing กันหมดแล้ว (ถ้ายังก็ลองซะ ไม่ธรรมดาเลยล่ะ แต่ต้องเซ็ตประเทศเป็น USA ก่อนนะครับ) ตอนนี้เรามารู้จักกับหัวเรือสำคัญผู้สร้าง Bing กันดีกว่า

Qi Lu (น่าจะอ่านว่า "ฉี ลู่" ใครแม่นภาษาจีนช่วยยืนยัน) ฟังชื่อดูก็รู้ว่าเป็นจีน ปัจจุบันอายุ 47 ขวบ อดีตเคยเป็นหัวหน้าฝ่าย search technology ให้กับยาฮู เขาเป็นลูกหม้อของยาฮูมาตั้งแต่ยุค 1998 ช่วงหลังเขาเริ่มท้อแท้กับอนาคตของบริษัทเลยวางแผนจะพับเสื่อกลับเมืองจีน ระหว่างที่กำลังลังเลอยู่นั้น เขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งจากผู้ชายที่ชื่อว่าสตีฟ บัลเมอร์ และเรื่องทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น

มาแล้ว Bing เสิร์ชเอนจิ้นใหม่จากไมโครซอฟท์ ไม่ต้องรอถึงวันที่ 3 มิ.ย. (ข่าวเก่า) โดยเมื่อเข้าเว็บไซต์ www.live.com (รวมถึงการค้นหาผ่านทาง Search Bar บน Internet Explorer 7 ขึ้นไป และ Windows Live Toolbar) จะถูกโยนไปยังเว็บไซต์ www.bing.com โดยอัตโนมัติ

ลองดูรูปตัวอย่างที่ผมจับภาพหน้าจอมาแล้วกัน

ถ้าใครยังไม่รู้จัก Bing อ่าน Bing: อาวุธใหม่ไมโครซอฟท์

ส่วน Ask Blognone รอบนี้ไม่มีอะไรมาก ผมเห็น Betanews เค้าเล่นกันเลยอยากเล่นบ้าง กติการอบนี้คือตั้งชื่อใหม่ให้กับ Bing คนละหนึ่งชื่อเท่านั้น ลองสมมติตัวเองเป็นฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ดูว่าตั้งชื่ออย่างไรถึงจะโดน

หลังจากที่แพ้จากสงครามยก Live Search วันนี้ไมโครซอฟท์ก็ได้เผยในงาน D:All Things Digital แล้วว่าไมโครซอฟท์นั้นเตรียมเปิดตัวบริการค้นหาข้อมูลใหม่ที่มีชื่อว่า Bing (หรือชื่อเดิม Kumo) จริงตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ (ข่าวเก่า 1, 2, 3)

McAfee ได้รวบรวมคำค้นยอด (keyword) นิยม 2,600 คำ และทดสอบกับ search engine ยอดนิยม 5 ตัว จากนั้นนำผลลัพธ์จาก 5 หน้าแรกมาวิเคราะห์ สิ่งที่ได้คืออันดับคำค้นที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อไวรัส โทรจัน สปายแวร์ ฯลฯ สูง ผมคัดมาเฉพาะ 10 อันดับแรก (จำกัดพื้นที่เฉพาะค้นหาในสหรัฐ) ดังนี้

หลังจากทุ่มเงิน 300 ล้านดอลลาร์กับแคมเปญโฆษณา I'm PC อัดคู่แข่งอย่างแอปเปิลและได้ผลเป็นอย่างดี มีรายงานว่าเป้าหมายถัดไปของไมโครซอฟท์คือกูเกิล

เว็บไซต์ AdAge อ้างว่าไมโครซอฟท์จะอัดแคมเปญโฆษณาตัวใหม่มูลค่า 80-100 ล้านดอลลาร์ เพื่อประชาสัมพันธ์เครื่องมือค้นหาตัวใหม่ "Bing" (ที่เรารู้จักกันว่ามันชื่อ Kumo ตอนนี้ยังไม่มีข่าวไหนสามารถยืนยันชื่อจริงได้) โดยแหล่งข้อมูลวงในบอกว่าโฆษณาชุดนี้จะไม่ตีกูเกิลหรือยาฮูตรงๆ แต่จะเล่นประเด็นว่า search engine ในปัจจุบันยังไม่สามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้

หลายๆ คนน่าจะผ่านตาข่าว Kumo ซึ่งเป็นรหัสของ Windows Live Search รุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์กันบ้างแล้ว ตอนนี้มีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัว Kumo บนเวทีในงาน D:All Things Digital ซึ่งจะจัดขึ้นสัปดาห์หน้า (26-28 พ.ค.)

ในชื่อแขกรับเชิญนั้นมีสตีฟ บัลเมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์อยู่ด้วย ซึ่งคาดว่าบัลเมอร์จะเดโมการทำงานของ Kumo ให้ดูในระหว่างที่เขาขึ้นพูด

วันนี้ Wolfram Alpha ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ ถึงแม้จะช้าไปกว่ากำหนดการเดิมเล็กน้อย

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผู้ค้นหาข้อมูลจาก Live Search แล้วได้พบกับผลลัพธ์ที่ดูหนาตาไม่เหมือนกับผลลัพธ์จาก Live Search ทั่วไป ซึ่งหน้าตาผลลัพธ์ดูละไม้คล้ายคลึงกับ Kumo ที่ไมโครซอฟท์เคยปล่อยภาพจากการทดสอบภายใน (ดูจากได้จาก C|Net ทีนี่)

เครดิตภาพ: C|Net