Expedia เว็บจองโรงแรม-ตั๋วเครื่องบินรายใหญ่ของโลก (บริษัทในเครือยังมี Orbitz, Hotels.com, Trivago) ซื้อกิจการบริษัท HomeAway เว็บไซต์แชร์บ้าน คู่แข่งของ Airbnb ในราคา 3.9 พันล้านดอลลาร์

HomeAway เป็นเว็บแชร์บ้านที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2005 โดยเน้นไปที่การแชร์บ้านว่างหรือบ้านพักตากอากาศ ปัจจุบันบริษัทมีรายการบ้านพักใน 190 ประเทศ และขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ อยู่ก่อนแล้ว

Expedia ระบุว่า HomeAway ถือเป็นคู่แข่งในวงการเดียวกับ Expedia และแย่งส่วนแบ่งตลาดของบริษัทในเครือไป ทาง Expedia จึงตัดสินใจซื้อ HomeAway เข้ามาเป็นบริษัทในเครือด้วยอีกราย และต้องการใช้พลังการตลาดของ Expedia ผลักดันให้ HomeAway สร้างรายได้มากขึ้น

ที่ผ่านมา เรารู้จักแพลตฟอร์มภายใต้ “เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน” (sharing economy) มาพอสมควร อย่างเช่น Uber หรือ AirBNB มาคราวนี้เราจะมารู้จักกับแพลตฟอร์มที่ใช้แนวคิดนี้ แต่ไปเน้นที่เรื่องของ “อาหาร” แทน ซึ่งก็คือแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า BonAppetour ครับ

แนวคิดของแพลตฟอร์ม

กลุ่ม Digital Culture Thailand ร่วมกับมูลนิธิ Heinrich Böll Stiftung และ Siam Intelligence Unit จัดงานเสวนา Sharing Economy 'เศรษฐกิจแบ่งปัน' ร่วมแชร์ประสบการณ์และมุมมองเรื่องเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน ทั้งจากบริษัทผู้ประกอบการ ผู้สร้างรายได้จากบริการเหล่านี้ และนักวิชาการ

งานจัดวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคมนี้ เวลา 14:00 น. ที่ร้าน Books&Belongings สุขุมวิท 91 (รายละเอียดอ่านได้จาก Facebook Event)

ลองนึกภาพ จู่ๆ คุณก็อยากทำอาหาร อยากแสดงฝีมือเอาใจเจ้ากวางน้อยกับไม้แขวนเสื้อในมือ ทว่าขี้เกียจออกไปหาวัตถุดิบตามตลาดสด

ตอนนี้โลกเรามีอีคอมเมิร์ซแบบใหม่อย่าง Instacart เป็นระบบรับฝากซื้อของชำ (grocery) ไปส่งถึงบ้านภายในหนึ่งชั่วโมง แถมไม่สดมีคืนเงิน ที่บอกว่าเป็นระบบฝากซื้อเพราะโมเดลนี้ไม่มีสต๊อกของ แล้วเขาบริหารจัดการอย่างไร วันนี้ Blognone มีเรื่องราวของสตาร์ตอัพรายนี้มาฝากกัน

ในช่วงที่ผ่านมา กระแสการเติบโตของเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (sharing economy) อย่างเช่น AirBNB หรือ Uber ได้รับความนิยมมากขึ้นในบ้านเรา แต่ก็นำมาซึ่งปัญหาของข้อกฎหมายต่างๆ (กรณีของ Uber ในเมืองไทย ลองดูข่าวเก่าจากหมวดได้) ล่าสุดก็มาถึงกรณีของการปล่อยห้องชุด (เรียกภาษาไม่เป็นทางการว่า คอนโด) ให้เช่าแบบรายวันผ่านระบบทางเว็บไซต์อย่างเช่น AirBNB หรือ Agoda เป็นต้น

เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีประเด็นร้อนที่เกี่ยวกับ Airbnb อยู่หนึ่งเรื่อง นั่นก็คือบัญชีของหนึ่งในเจ้าของห้องเช่าในประเทศไทยซึ่งสามารถทำรายได้สูงมากมาโดยตลอด ถูกยกเลิก (terminate) จากทาง Airbnb โดยไม่ทราบสาเหตุ

นางฮิลลารี่ คลินตัน ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาพูดว่าหนึ่งในนโยบายของเธอ คือการจัดการกับบริษัทที่เอาเปรียบลูกจ้างของตัวเอง ด้วยวิธีการทำสัญญาจ้างในรูปแบบของผู้ถูกจ้างโดยไม่มีสัญญาจ้างงาน เพื่อที่จะเลี่ยงกฎหมายแรงงานต่าง ๆ

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัทใดออกมาก็ตาม แต่ค่อนข้างชัดเจนว่าเธอกำลังพุ่งเป้าไปที่บริษัทอย่าง Uber ที่ได้มีการทำสัญญา "จ้าง" กับลูกจ้างในรูปแบบของ "ผู้ให้บริการคู่สัญญา" ซึ่งจะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำและสวัสดิการแรงงาน

แนวคิดธุรกิจแบบ Sharing Economy กำลังเบ่งบานบนโลกออนไลน์ ใครมีทรัพยากรอะไรก็นำมาแลกเปลี่ยนกันบนนี้โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบซื้อ-ขาย-เช่าแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งโดย Uber, จ้างคนช่วยงานกับ TaskRabbit หรือการเช่าห้องพักทั่วโลกซึ่งผู้คนทั่วไปนำมาปล่อยเช่ากับ Airbnb เรามาอัพเดตเรื่องราวชีวิตของสตาร์ตอัพรายนี้กัน

โลโก้ Airbnb ปัจจุบัน (ที่มีเสียงวิพากษ์ว่าเหมือนอะไรบางอย่าง)

จากประเด็นข่าวเมื่อวานนี้ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกระบุ Uber ผิดกฎหมาย ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ความเห็นประเภทหนึ่งที่พบได้มาก (ไม่ว่าจะเป็นในระบบคอมเมนต์ของ Blognone เองหรือคอมเมนต์บนเว็บไซต์อื่นๆ) คือความเห็นลักษณะที่ว่า "กรมการขนส่งทางบกควรไปกำกับดูแลแท็กซี่ให้ดีก่อน แล้วค่อยมาเอาผิด Uber"

บทความนี้เขียนขึ้นเพื่ออธิบายว่าตรรกะข้างต้นเรื่องการกำกับดูแลแท็กซี่นั้นไม่มีอะไรผิด แต่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ Uber

อิทธิพลของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่เข้าไปสู่พรมแดนอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกไอที ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลง สำหรับแวดวงการขนส่งสาธารณะ ก็มีบริการหน้าใหม่อย่าง Uber ที่เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียกรถสาธารณะ (เช่น แท็กซี่) โดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย