Twitter และ Spotify ได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กัน โดยเพลงจาก Spotify สามารถฟังพรีวิวได้ 30 วินาทีบน Twitter Audio Card ทั้งบน Timeline และ Moments โดยต่อไปนี้ผู้ใช้ Twitter เมื่อเห็นเพลงจาก Spotify ขึ้นมา สามารถฟังพรีวิวได้จากบน Twitter เลย ไม่ต้องกดลิงก์เพื่อไปฟังเพลงจากเว็บ Spotify อีก (แต่เพลงเต็มก็ต้องกดตามลิงก์เข้าไปฟังเหมือนเดิม)
Audio Card ของ Twitter นั้นเปิดตัวตั้งแต่ปี 2014 เพื่อมาเสริม Twitter Card ที่โชว์พรีวิวสื่อต่างๆ เช่น รูปภาพ, คลิป, เว็บ ฯลฯ
ที่มา - TechCrunch
Spotify ได้ออก Family Plan ใหม่ ในราคา 14.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ใช้งาน Spotify Premium ได้ 6 บัญชี โดยตอนนี้เปิดให้ใช้ทุกประเทศที่มี Spotify เปิดให้บริการแล้ว (ยกเว้นประเทศแคนาดา)
สำหรับ Family Plan ใหม่ของ Spotify นี้ ผู้สมัครจะสามารถใช้สมาชิกแบบ Spotify Premium ได้จำนวน 6 บัญชีแยกกัน โดยแต่เดิม Spotify ก็มี Family Plan อยู่แล้ว คิดราคา 14.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 2 คน, 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 3 คน, 24.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 คน และ 29.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 5 คน เท่ากับว่า Family Plan ใหม่นี้ราคาถูกลงกว่า Family Plan ที่ราคาแพงสุดของเดิมครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
Spotify แพลตฟอร์มสตรีมเพลงออนไลน์กำลังทำซีรีส์ 12 ตอนของตนเองในรูปแบบวิดีโอ ว่าด้วยเรื่องดนตรีโดยเฉพาะ โดยได้นักแสดงอย่าง Tim Robbins และ Russell Simmons ผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลง Def Jam Records มาร่วมงาน หลังจากที่เซคชั่นวิดิโอเคยมีแต่คลิปของ BBC และ Comedy Central
รายการดังกล่าวนี้จะยาวไม่เกิน 15 นาที ใช้งานได้กับผู้ใช้ทั้งฟรีและเสียเงินในสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี และสวีเดน
Tom Calderone ผู้อำนวยการฝ่ายพันธมิตรด้านเนื้อหาของ Spotify ให้เหตุผลว่าดนตรียังสำคัญที่สุดอยู่ แต่พบว่าผู้ใช้ยังชอบและอยากได้อะไรเพิ่มอีก คำตอบวิดีโอ และต้องการให้คนที่มาใช้ Spotify เจออะไรที่มากกว่ารายชื่อเพลง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ YouTube และ Apple ได้
ที่มา - Bloomberg
Spotify ได้เปิดเผยยอดการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ ซึ่งตอนนี้เริ่มเข้าใกล้ 100 ล้านคนเข้าไปทุกที รวมถึงสถิติต่างๆ และทิศทางของบริษัทในอนาคต
Jonathan Foster ผู้บริหารระดับสูงของ Spotify ได้ให้สัมภาษณ์กับ Reuters เขากล่าวว่ามันสำคัญมากที่ Apple เข้ามาลงเล่นตลาดด้วย เพราะทำให้โปรไฟล์ของบริการสตรีมมิ่งดูดีขึ้น เพราะอุตสาหกรรมนั้นมันยากที่จะสร้างด้วยตัวเอง และตั้งแต่ Apple Music เปิดตัวมา เราก็เติบโตเร็วขึ้นและจำนวนผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ข้อมูลหลายอย่างของผู้ใช้ Spotify ถูกปล่อยออกสู่อินเทอร์เน็ต ทั้งชื่อบัญชีผู้ใช้, อีเมล, รหัสผ่าน, ประเภทบัญชีใช้งานและอื่นๆ ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปปล่อยบน Pastebin แต่ฝั่ง Spotify ยังไม่ออกมายอมรับว่ากำลังเผชิญปัญหาโดย Spotify ยืนยันว่าระบบไม่ได้ถูกแฮคและข้อมูลของผู้ใช้ยังปลอดภัยดีอยู่
จากการพิจารณาข้อมูลบน Pastebin นั้นไม่อาจระบุได้ว่าข้อมูลรายชื่อเหล่านี้ถูกรวบรวมมาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สิ่งที่บ่งชี้ให้เข้าใจได้ว่าเป็นรายชื่อผู้ใช้ Spotify ก็เพราะข้อมูลในหมวดประเภทบัญชีใช้งาน ซึ่งมีทั้งแบบ Family และ Premium นอกจากนี้ยังมีข้อมูลกำกับรายชื่อบัญชีผู้ใช้เหล่านี้ด้วยว่าจะมีการต่ออายุสมาชิกภาพโดยอัตโนมัติเมื่อใด และบัญชีถูกสร้างขึ้นจากประเทศไหน
มีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของวงการบอท เมื่อมีบัญชีทวิตเตอร์ชื่อ Lazyset ทำตัวเป็นบอทคอยจัดรายชื่อเพลงใน Spotify ให้ผู้ใช้ที่เมนชั่นหาบัญชีพร้อมระบุชื่อศิลปินที่อยากฟัง
เจ้าของบอทนี้คือ Grant MacLennan ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟของ NEU Studio เอเจนซี่จากสก็อตแลนด์และเป็นมือคีย์บอร์ดประจำวง The Internet ระบุว่าใช้ความสามารถของ streaming API จากฝั่งทวิตเตอร์เข้ากับ Spotify Discovery API ในการจับชื่อศิลปินกับเพลงที่เกี่ยวข้องเข้าหากัน ลองใช้กันดูครับ
ที่มา - Lazyset DJ ทาง The Next Web
บริการ music streaming อย่าง Spotify ก็เติบโตเรื่อยมาจนมีผู้ใช้แบบสมัครสมาชิกกว่า 30 ล้านราย มีบทสัมภาษณ์ Seth Farbman ซีเอ็มโอของบริษัทนี้ใน AdWeek ว่าด้วยเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้เพื่อมาปรับปรุงระบบ ชี้ชัดไปที่กลุ่มมิลเลนเนียล (หรือกลุ่มคน Gen Y นั่นเอง) ขอสรุปใจความดังนี้:
ที่มา - AdWeek
Daniel Ek ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Spotify ได้เผยผ่านทาง Twitter ของตนเองว่า ตอนนี้ Spotify มีผู้ใช้งานแบบจ่ายเงินเกินกว่า 30 ล้านคนแล้ว
จำนวนผู้ใช้งานแบบยอมจ่ายเงินของ Spotify เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 10 ล้านคนในปี 2014 มาเป็น 20 ล้านคนในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ในขณะที่ผู้ใช้งานแบบไม่จ่ายเงินนั้นเมื่อเกือบ 1 ปีก่อนก็มีเกิน 75 ล้านคนเข้าไปแล้ว
บริการเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง Spotify ประกาศหยุดสนับสนุนแอพบน Windows Phone 8.x โดยจะไม่พัฒนาแอพต่ออีกแล้ว แต่แอพยังใช้งานได้ต่อไป และยังดาวน์โหลดได้จาก Windows Store
Spotify ยังไม่ระบุว่าจะออกแอพบน Windows 10 หรือไม่
Spotify มีแอพบนแพลตฟอร์ม WP7 มาตั้งแต่ปี 2011 และออกแอพสำหรับ WP8 ในปี 2013
ที่มา - Windows Central
แอพส่งข้อความอย่าง Facebook Messenger เปิดตัวความร่วมมืออีกครั้งกับ Spotify ให้ผู้ใช้ส่งเพลงหรือรายชื่อเพลงในคลังหากันได้แบบส่วนตัวแล้ว รองรับแล้ววันนี้บน iOS และ Android ในประเทศที่รองรับ
คุณสมบัตินี้ซ่อนอยู่ในปุ่ม More ที่จะมีปุ่ม Spotify ให้เลือกใช้ เรียงต่อจากบริการอื่น ซึ่งจะพาผู้ใช้กลับไปยังแอพ Spotify ให้เลือกเพลงและส่งกลับเข้ามายังแอพ Messenger
ประเด็นอื่นเพิ่มเติม: Spotify เพิ่งประกาศว่ามีผู้ใช้แบบบอกรับสมาชิกแล้วกว่า 30 ล้านราย และเพิ่งเซ็นสัญญากับ Amazon ในการผูกบริการกับลำโพง Amazon Echo
วันก่อนเราเคยเล่าถึงกลไกของ Discover Weekly ซึ่งเป็นระบบแนะนำรายการเพลงที่เหมาะสมกับผู้ใช้ทุกสัปดาห์ ตอนนี้ Spotify เปิดตัวคุณสมบัติใหม่ชื่อว่า "Fresh Finds" แนะนำเพลงใหม่จากศิลปินที่ผู้ใช้ไม่เคยฟังมาก่อน ซึ่งคุณสมบัตินี้มีมาสักพักใหญ่แล้วก่อนเปิดตัววันนี้
รายชื่อเพลงในกลุ่ม Fresh Finds นี้ถูกเลือกจากอัลกอริทึมของ Spotify ที่ชี้ว่าเพลงไหนกำลังจะเป็นเพลงดังหรือเป็นกระแสหลักในอนาคต โดยอ่านเนื้อเพลง หาชื่อเพลงนี้ว่าถูกพูดถึงบนบล็อกและสื่อออนไลน์มากน้อยแค่ไหน ตลอดจนเสาะหาเพลงจากกลุ่มผู้ใช้ที่มีแนวโน้มเป็นผู้ชี้เทร็นด์ด้วย
ดูเหมือนว่าซัมซุงวางแผนที่จะบุกตลาด Music Streaming อย่างหนักอีกครั้ง เพราะมีข่าวลือออกมาว่าซัมซุงได้แอบเข้าไปคุยกับ Tidal เรื่องซื้อกิจการทั้งหมดแบบเงียบๆ เสียแล้ว
รายงานระบุเพิ่มว่านี่อาจเป็นการกระทำที่ใหญ่เกินไปมากสำหรับตัวซัมซุงเอง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงเงียบมาได้จนถึงทุกวันนี้ แต่เมื่อเอาไปถามกับทางซัมซุง ตัวแทนก็ระบุว่าจากกฎเรื่องการให้ความเห็นบริษัทก็ขอไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด
รายงานดังกล่าวมีการระบุเพิ่มว่า กูเกิล และ Spotify สนใจขอร่วมเป็นพันธมิตรกับ Tidal ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก Tidal มีจุดเด่นเรื่องการสตรีมเพลงแบบ Lossless การได้ Tidal มาเป็นพันธมิตรร่วมก็ยิ่งทำให้ Google Play Music และ Spotify แข็งแกร่งขึ้นนั่นเองครับ
Spotify เปิดตัวฟังก์ชั่นใหม่ในชื่อ Spotify Running ที่ทำงานร่วมกับแอพ Runkeeper ในการแนะนำเพลงให้เหมาะสมกับการฟังขณะวิ่งออกกำลังกาย กล่าวคือจัดการเรื่องสถิติการวิ่งและควบคุมเพลงได้ในตัว
วิธีใช้ตามที่แหล่งข่าวอธิบาย คือ ในแอพ Runkeeper ผู้ใช้สามารถเลือก Spotify เป็นตัวเล่นเพลง ซึ่งสามารถเลือกเล่นเพลงได้จากรายชื่อที่แอพจัดไว้ให้ หรือให้เลือกเพลงให้เหมาะกับจังหวะก้าววิ่งก็ได้ ซึ่งใช้ข้อมูลจากที่ Runkeeper เก็บ ซึ่งรองรับทั้งการวิ่งบนถนนจริงและวิ่งบนลู่ ตอนนี้รองรับแล้วบน iOS ส่วน Android ติดตามเร็วๆ นี้ครับ (วิดีโอดูสนุกมาก)
ช่วงนี้เราเห็นข่าวการย้ายระบบเซิร์ฟเวอร์ขึ้นคลาวด์กันบ่อยครั้ง เช่น Netflix ปิดเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ย้ายไปใช้ AWS อย่างสมบูรณ์, Bitly ย้ายไปใช้คลาวด์ของ IBM
บริการเพลงออนไลน์ Spotify เป็นบริการตัวล่าสุดที่ตัดสินใจย้ายระบบทั้งหมดขึ้นคลาวด์ โดยเลือกใช้ Google Cloud Platform รันระบบทุกอย่าง
Spotify บอกว่าการย้ายมาใช้คลาวด์ ช่วยแก้ปัญหาการซื้อหรือเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูล รวมถึงเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนี้การใช้คลาวด์ยังช่วยให้ส่งข้อมูลเพลงไปยังผู้ใช้ทั่วโลกได้ง่ายขึ้น
ประกาศไปตั้งแต่กลางปีก่อนว่า Spotify กำลังจะยกเครื่องครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับตลาดสตรีมเพลงที่กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการรองรับเพลงความละเอียดสูง ระบบเล่นเพลงสำหรับคนรักการออกกำลังกาย และการรองรับวิดีโอ ซึ่งในวันนี้บริการอย่างหลังสุดได้เริ่มเปิดให้บริการแล้วหลังจากทดสอบในวงแคบๆ มาหลายเดือน
Spotify ได้เข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพ 2 บริษัท คือบริษัท Soundwave และ Cord Project
บริษัทแรกคือ Soundwave เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการค้นหาเพลง มีแอพที่ถูกติดตั้งแล้วกว่า 1.5 ล้านครั้งใน 190 ประเทศ โดยซีอีโอ Brendan O'Driscoll กล่าวว่าบริการ Soundwave จะปิดตัวลงอย่างถาวร สิทธิบัตรและเทคโนโลยีจะถูกรวมเข้ากับ Spotify โดยข้อมูลของ Soundwave จะเป็นประโยชน์ให้ Spotify ทราบว่าผู้คนในตลาดเกิดใหม่จะชอบฟังเพลงอะไร
ส่วน Cord Project เปิดตัวในปี 2014 มีแอพแชทสำหรับส่งข้อความเสียงชื่อ Cord มีผู้ใช้กว่า 1 ล้านคน ซึ่งทีมจาก Cord Project จะไปอยู่ในทีมของ Spotify ซึ่งทีมนี้จะเน้นในเรื่องการ "กระตุ้นความสนใจในประสบการณ์คอนเทนต์" (compelling content experience)
ใครที่กำลังอ่าน Blognone ระหว่างต่อคิวรอซื้อลาเต้เวนติ 1 แถม 1 ข่าวนี้เกี่ยวกับคุณครับ เมื่อ Starbucks ร้านกาแฟรายใหญ่ประกาศจับมือกับ Spotify บริการฟังเพลงออนไลน์ ให้ลูกค้าในร้านเปิดแอพ Starbucks แล้วสืบค้นว่าเพลงที่เปิดอยู่ในร้านคือเพลงใด และเก็บกลับไปฟังต่อเป็นรายชื่อเพลงบน Spotify ได้ เริ่มแล้วที่ร้านรายนี้ 7,500 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกา เสิร์ฟให้สมาชิก My Starbucks Rewards Loyalty Program ซึ่งเป็นผู้ใช้ Spotify กว่าสิบล้านรายได้ใช้แล้ว เป็นการร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมที่น่าสนใจดีครับ
ตอนนี้บัญชี Starbucks ใน Spotify จัดเพลง 500 เพลงไว้กว่า 19 รายชื่อเพลง ส่วนตัวเลขผู้ใช้แอพ ฝั่ง Starbucks มี active user ที่ 16 ล้านราย, Spotify เปิดเผยที่ 75 ล้านราย
บริการสตรีมเพลงอย่าง Spotify เปิดตัวความสามารถใหม่ ที่สามารถบอกความหมายของเพลงเพิ่มเติมจากเนื้อเพลงได้แล้ว
ด้วยความร่วมมือกับ Genius เว็บไซต์บริการเนื้อเพลงและข้อมูลเพลงแบบ crowdsourcing ที่จะมาช่วยบอกความหมายของเพลงแต่ละเพลงบน Spotify พร้อมกับเปิดตัวเพลย์ลิสต์ใหม่ชื่อ "Behind the Lyrics (Hip Hop)" และมีเพลงของ Pusha T, Tinashe และ Diplo จะได้เจิมความสามารถนี้ได้แล้ว และจะตามด้วยกลุ่มเพลงฮิตอื่นๆ ต่อไป
นอกจากความหมายเพิ่มเติมจากเนื้อเพลงแล้ว ยังจะมีเรื่องราว เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากศิลปินและกลุ่มสังคมบน Genius มาแสดงผลด้วย ที่มาข่าวระบุว่าเริ่มใช้ได้แล้วบน iPhone รุ่นใหม่กว่า 4s ขึ้นไปครับ
ถ้าจำกันได้เมื่อเดือนตุลาคม Tim Cook เคยออกมาประกาศว่าบริการสตรีมเพลง Apple Music มีผู้จ่ายเงินรายเดือนมากถึง 6.5 ล้านคน หลังจากเปิดตัวมาครบ 6 เดือนก็มีรายงานชิ้นใหม่ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 10 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย
รายงานชิ้นดังกล่าวออกมาจากแหล่งข่าวของ Financial Times ซึ่งถ้ามองว่ายอดดังกล่าวเป็นของจริง จะถือว่าแอปเปิลทำผลงานได้ดีมาก เมื่อเทียบกับ Spotify ยักษ์ใหญ่ในวงการที่ใช้เวลากว่า 6 ปีในการทำยอดผู้ใช้ทะลุ 10 ล้านคนเมื่อปี 2014 (ปัจจุบันอยู่ที่ 20 ล้านคน)
สมัยก่อน ถ้าอยากจะเปิดโลกฟังเพลงกระแสใหม่ๆ อาจต้องฟังรายการ ซอนนี่แอนด์นอร์ คลื่นแฟต 104.5 หรือใหม่หน่อยก็เข้ากรุ๊ปแชร์เพลง ซึ่งส่วนใหญ่จะแปะลิงก์เพลงบนยูทูบ, SoundCloud แลกกันฟัง
ตอนนี้เรามาถึงยุค Music Streaming เป็นใหญ่ ฟังก์ชั่นแนะนำเพลงที่ตรงจริตผู้ฟังอย่าง Discover Weekly ของ Spotify (หรือแท็บ For You ใน Apple Music) ก็เริ่มมีบทบาทกับนักฟังที่ชอบเปิดโลกตัวเองอยู่เสมอๆ และวันนี้มีเรื่องราวเผยไต๋ของ Spotify จาก QZ มาเล่าสู่กันฟังครับ ว่าระบบเลือกเพลงเด็ดรายสัปดาห์ เขาทำงานกันอย่างไร
ที่มา - QZ
แพลตฟอร์มฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งอย่าง Spotify กล่าวในบล็อกโพสต์ล่าสุดของตนว่า กำลังพิจารณาปรับปรุงการจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์เพลงแก่ศิลปินใหม่ จากเดิมที่มีปัญหาพัลวันอยู่กับการจัดการลิขสิทธิ์ของแต่ละประเทศ เพลงบางเพลงยังขาดข้อมูลที่แน่นอนว่าใครถือลิขสิทธิ์ บางครั้งรายได้อาจตกที่ค่าย ผู้เผยแพร่ หรือนักแต่งเพลง บางครั้งเพลงถูกตัดออกมาเผยแพร่แล้วแต่ยังตกลงกันเรื่องลิขสิทธิ์ไม่ได้ ฯลฯ
อิจฉาประเทศที่ใช้ Spotify ได้แล้วจริงๆ เมื่อค่ายนี้เปิดตัวฟังก์ชั่น Spotify Party เล่นเพลงในลิสต์ที่คัดและจัดเรียงมาแล้วให้เหมาะกับปาร์ตี้ งานเลี้ยงวาระต่างๆ
ผู้ใช้เริ่มจากเซ็ตเพลงที่แอพเตรียมไว้ให้ ซึ่งจัดโดย Diplo ดีเจและโปรดิวเซอร์นามระบือ ร่วมด้วยดีเจรายอื่นๆ ที่เปิดเพลงบีทท่วงทำนองเดียวกันได้เนียนต่อเนื่อง จากนั้นผู้ใช้สามารถปรับแถบอารมณ์ (mood) ในแอพ แล้วเพลงถัดไปจะเปลี่ยนอย่างไม่เสียอารมณ์ และใน Play Queue ก็ระบุว่าปรับปรุงใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น ไม่รบกวนเพลงที่กำลังเล่น
พร้อมใช้งานแล้วบน iOS และ Android ครับ
หลังจากยอมให้ผู้ใช้ฟังเพลงอย่างเท่าเทียมกันทั้งแบบเสียเงิน และฟรีแบบมีโฆษณาอยู่นาน ล่าสุด Wall Street Journal รายงานว่า Spotify กำลังจะจำกัดบางเพลงให้เฉพาะผู้ใช้แบบเสียรายเดือนแล้ว
ข้อมูลดังกล่าวทาง Wall Street Journal อ้างว่าได้มาจากแหล่งข่าวภายในบริษัท โดยเหตุผลที่ Spotify ต้องเปลี่ยนแนวทางในครั้งนี้ ก็เพื่อให้สามารถต่อรองกับบรรดานักร้องชื่อดังได้ง่ายขึ้น หลังจากช่วงหลัง Spotify พลาดอัลบัมดังไปหลายครั้ง ที่หนักสุดดูจะเป็น 1989 ของ Taylor Swift ตามมาด้วย 25 ของ Adele
เรื่องเดโมกราฟฟิก สถิติ ข้อมูลตัวเลขเหล่านี้เป็นอาหารชั้นดีของนักการตลาดผู้หิวโหยข้อมูล จะได้นำไปคิดค้นกลยุทธ์เม็ดใหม่ๆ ออกมาให้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย และตอนนี้ Spotify บริการสตรีมเพลงออนไลน์ (ยังไม่มีบริการในไทยอย่างถูกต้อง)ก็มีเครื่องมืออย่าง Fan Insight ให้ค่ายเพลงและศิลปินนำข้อมูลไปใช้ได้แล้ว
Fan Insight ของ Spotify จะแสดงข้อมูลคนฟังเพลงของศิลปินรายนั้นๆ ว่าเป็นใคร อยู่ที่ส่วนใดของโลก รวมถึงแสดงการเติบโต ชี้วัดยอดเอนเกจเมนต์ว่าเป็นอย่างไร ตลอดจนบอกพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้ฟังด้วยว่าเป็นแฟนตัวยงหรือแค่กดผ่าน บอกอีกว่าเพลงของศิลปินรายนี้อยู่ในเพลย์ลิสต์ใดในระบบบ้าง
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงอย่าง Spotify (ขณะนี้ยังใช้งานในประเทศไทยอย่างถูกต้องไม่ได้) เพิ่มฟังก์ชั่น Concerts เข้ามาในแอพ เพื่อคอยบอกผู้ใช้ว่าศิลปินที่ผู้ใช้ฟังอยู่ กำลังจะมาแสดงคอนเสิร์ตในละแวกผู้ใช้ ซึ่งเปิดดูข้อมูลนี้ได้จากเมนู Browse ได้ทันที และถ้ากำลังเดินทาง ก็สามารถเปลี่ยนพื้นที่การค้นหาได้ ซึ่งข้อมูลคอนเสิร์ตจะดึงจาก Songkick ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลคอนเสิร์ตศิลปินรายหนึ่ง
Spotify จะเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้ว่านิยมฟังเพลงแนวใด ศิลปินไหน ต่อยอดจาก Discover Weekly ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นแนะนำเพลงตามจริตที่เปิดตัวไปก่อนหน้า