ถ้าจำกันได้เมื่อเดือนตุลาคม Tim Cook เคยออกมาประกาศว่าบริการสตรีมเพลง Apple Music มีผู้จ่ายเงินรายเดือนมากถึง 6.5 ล้านคน หลังจากเปิดตัวมาครบ 6 เดือนก็มีรายงานชิ้นใหม่ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 10 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย
รายงานชิ้นดังกล่าวออกมาจากแหล่งข่าวของ Financial Times ซึ่งถ้ามองว่ายอดดังกล่าวเป็นของจริง จะถือว่าแอปเปิลทำผลงานได้ดีมาก เมื่อเทียบกับ Spotify ยักษ์ใหญ่ในวงการที่ใช้เวลากว่า 6 ปีในการทำยอดผู้ใช้ทะลุ 10 ล้านคนเมื่อปี 2014 (ปัจจุบันอยู่ที่ 20 ล้านคน)
สมัยก่อน ถ้าอยากจะเปิดโลกฟังเพลงกระแสใหม่ๆ อาจต้องฟังรายการ ซอนนี่แอนด์นอร์ คลื่นแฟต 104.5 หรือใหม่หน่อยก็เข้ากรุ๊ปแชร์เพลง ซึ่งส่วนใหญ่จะแปะลิงก์เพลงบนยูทูบ, SoundCloud แลกกันฟัง
ตอนนี้เรามาถึงยุค Music Streaming เป็นใหญ่ ฟังก์ชั่นแนะนำเพลงที่ตรงจริตผู้ฟังอย่าง Discover Weekly ของ Spotify (หรือแท็บ For You ใน Apple Music) ก็เริ่มมีบทบาทกับนักฟังที่ชอบเปิดโลกตัวเองอยู่เสมอๆ และวันนี้มีเรื่องราวเผยไต๋ของ Spotify จาก QZ มาเล่าสู่กันฟังครับ ว่าระบบเลือกเพลงเด็ดรายสัปดาห์ เขาทำงานกันอย่างไร
ที่มา - QZ
แพลตฟอร์มฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งอย่าง Spotify กล่าวในบล็อกโพสต์ล่าสุดของตนว่า กำลังพิจารณาปรับปรุงการจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์เพลงแก่ศิลปินใหม่ จากเดิมที่มีปัญหาพัลวันอยู่กับการจัดการลิขสิทธิ์ของแต่ละประเทศ เพลงบางเพลงยังขาดข้อมูลที่แน่นอนว่าใครถือลิขสิทธิ์ บางครั้งรายได้อาจตกที่ค่าย ผู้เผยแพร่ หรือนักแต่งเพลง บางครั้งเพลงถูกตัดออกมาเผยแพร่แล้วแต่ยังตกลงกันเรื่องลิขสิทธิ์ไม่ได้ ฯลฯ
อิจฉาประเทศที่ใช้ Spotify ได้แล้วจริงๆ เมื่อค่ายนี้เปิดตัวฟังก์ชั่น Spotify Party เล่นเพลงในลิสต์ที่คัดและจัดเรียงมาแล้วให้เหมาะกับปาร์ตี้ งานเลี้ยงวาระต่างๆ
ผู้ใช้เริ่มจากเซ็ตเพลงที่แอพเตรียมไว้ให้ ซึ่งจัดโดย Diplo ดีเจและโปรดิวเซอร์นามระบือ ร่วมด้วยดีเจรายอื่นๆ ที่เปิดเพลงบีทท่วงทำนองเดียวกันได้เนียนต่อเนื่อง จากนั้นผู้ใช้สามารถปรับแถบอารมณ์ (mood) ในแอพ แล้วเพลงถัดไปจะเปลี่ยนอย่างไม่เสียอารมณ์ และใน Play Queue ก็ระบุว่าปรับปรุงใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น ไม่รบกวนเพลงที่กำลังเล่น
พร้อมใช้งานแล้วบน iOS และ Android ครับ
หลังจากยอมให้ผู้ใช้ฟังเพลงอย่างเท่าเทียมกันทั้งแบบเสียเงิน และฟรีแบบมีโฆษณาอยู่นาน ล่าสุด Wall Street Journal รายงานว่า Spotify กำลังจะจำกัดบางเพลงให้เฉพาะผู้ใช้แบบเสียรายเดือนแล้ว
ข้อมูลดังกล่าวทาง Wall Street Journal อ้างว่าได้มาจากแหล่งข่าวภายในบริษัท โดยเหตุผลที่ Spotify ต้องเปลี่ยนแนวทางในครั้งนี้ ก็เพื่อให้สามารถต่อรองกับบรรดานักร้องชื่อดังได้ง่ายขึ้น หลังจากช่วงหลัง Spotify พลาดอัลบัมดังไปหลายครั้ง ที่หนักสุดดูจะเป็น 1989 ของ Taylor Swift ตามมาด้วย 25 ของ Adele
เรื่องเดโมกราฟฟิก สถิติ ข้อมูลตัวเลขเหล่านี้เป็นอาหารชั้นดีของนักการตลาดผู้หิวโหยข้อมูล จะได้นำไปคิดค้นกลยุทธ์เม็ดใหม่ๆ ออกมาให้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย และตอนนี้ Spotify บริการสตรีมเพลงออนไลน์ (ยังไม่มีบริการในไทยอย่างถูกต้อง)ก็มีเครื่องมืออย่าง Fan Insight ให้ค่ายเพลงและศิลปินนำข้อมูลไปใช้ได้แล้ว
Fan Insight ของ Spotify จะแสดงข้อมูลคนฟังเพลงของศิลปินรายนั้นๆ ว่าเป็นใคร อยู่ที่ส่วนใดของโลก รวมถึงแสดงการเติบโต ชี้วัดยอดเอนเกจเมนต์ว่าเป็นอย่างไร ตลอดจนบอกพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้ฟังด้วยว่าเป็นแฟนตัวยงหรือแค่กดผ่าน บอกอีกว่าเพลงของศิลปินรายนี้อยู่ในเพลย์ลิสต์ใดในระบบบ้าง
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงอย่าง Spotify (ขณะนี้ยังใช้งานในประเทศไทยอย่างถูกต้องไม่ได้) เพิ่มฟังก์ชั่น Concerts เข้ามาในแอพ เพื่อคอยบอกผู้ใช้ว่าศิลปินที่ผู้ใช้ฟังอยู่ กำลังจะมาแสดงคอนเสิร์ตในละแวกผู้ใช้ ซึ่งเปิดดูข้อมูลนี้ได้จากเมนู Browse ได้ทันที และถ้ากำลังเดินทาง ก็สามารถเปลี่ยนพื้นที่การค้นหาได้ ซึ่งข้อมูลคอนเสิร์ตจะดึงจาก Songkick ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลคอนเสิร์ตศิลปินรายหนึ่ง
Spotify จะเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้ว่านิยมฟังเพลงแนวใด ศิลปินไหน ต่อยอดจาก Discover Weekly ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นแนะนำเพลงตามจริตที่เปิดตัวไปก่อนหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศเผยว่า Adele และทีมงานกำลังคุยกับ Spotify เพื่อให้ผู้ใช้ที่สามารถฟังอัลบั้ม 25 ได้มีเฉพาะผู้ใช้แบบจ่ายเงินเท่านั้น ส่วนผู้ใช้แบบ Freemium (ฟรีมีโฆษณา) จะไม่ได้ฟังอัลบั้มนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้มีโอกาสฟังเพลงของเธอลดลงจากผู้ใช้ Spotify ทั้งหมด 75 ล้านคนเหลือเพียง 20 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่าทาง Spotify จะไม่ยอม
หากย้อนกลับไปหลายปีก่อน ช่วงที่ Adele ออกอัลบั้ม 21 ในปี 2011 เธอก็เคยขอให้ Spotify สตรีมเพลงให้เฉพาะผู้ใช้แบบเสียเงินเท่านั้นเหมือนกัน และ Spotify ได้ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากแบ่งคลังเพลงออกเป็นหลายส่วน แต่ตอนนั้น Adele ยังไม่มีชื่อเสียงนัก ส่วน Spotify ก็ยังเน้นให้บริการในยุโรป โดยหลังจากที่อัลบั้ม 21 วางขายทำให้เธอมีชื่อเสียงมากขึ้น
Daniel Ek ซีอีโอ Spotify กล่าวในงานสัมมนาที่ประเทศแคนาดา ระบุว่าตั้งแต่ Apple Music เปิดตัวนั้น จำนวนผู้ใช้งาน Spotify ก็ยังคงเพิ่มขึ้นแบบทำสถิติใหม่ทุกสัปดาห์ แต่ไม่ได้ให้ตัวเลขว่าเติบโตมากน้อยเพียงใด
ปัจจุบัน Spotify มีผู้ใช้งานแบบเสียเงิน 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน อยู่ประมาณ 20 ล้านคน ซึ่งมีราคาเท่ากับ Apple Music ในต่างประเทศ
Ek บอกว่าปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้จำนวนผู้ใช้ Spotify ยังเติบโตได้ดีคือความร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ซึ่ง Spotify มีแคมเปญร่วมกับเครือข่ายมือถือกว่า 40 แห่งทั่วโลกแล้ว
ที่มา: Bloomberg
Spotify เพิ่งออกนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ โดยมีส่วนหนึ่งที่กล่าวว่า "เมื่อขออนุญาตจากผู้ใช้แล้ว Spotify จะเก็บข้อมูลที่เก็บอยู่บนมือถือของคุณ เช่น รายชื่อ, รูปภาพ หรือไฟล์สื่ออื่นๆ ได้" ทำให้สื่อหลายแห่งนำเรื่องนี้ไปวิจารณ์อย่างหนัก เช่น Wired บอกว่านโยบายใหม่ของ Spotify น่ากลัว
ปกติ Spotify เก็บเงินค่าสมาชิก 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ผู้ที่สมัครผ่าน App Store จะต้องจ่ายเงิน 12.99 ดอลลาร์เพื่อหักส่วนแบ่งไปให้ Apple โดยตอนนี้ Spotify ได้ออกคำแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาสมัครผ่านเว็บแทนการสมัครผ่าน App Store
Spotify แนะนำวิธีแก้ปัญหาโดยให้ปิด auto-renew ก่อน และรอจนหมดเดือนค่อยไปสมัครผ่านเว็บในราคา 9.99 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถประหยัดเงินไปได้เดือนละ 3 ดอลลาร์
คาดว่าที่ Spotify แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้การจ่ายเงินผ่านเว็บแทน เนื่องจากผู้ใช้ iOS จะเห็นคร่าวๆ ว่า Spotify นั้นมีค่าบริการแพงกว่าและอาจไปสมัคร Apple Music แทน แต่การลดค่าสมัครบน iOS รายได้ของ Spotify ก็จะลดลงเนื่องจากโดน Apple หักส่วนแบ่ง 30%
Spotify ออกมาแสดงความแข็งแกร่ง หลังเจอกับคู่แข่งอย่าง Apple Music โดยบริษัทเปิดเผยสถิติลูกค้ารอบล่าสุดดังนี้ (สถิติรอบเก่า เดือน พ.ค. 2014, สถิติตอนปลายปี 2014)
หลังการเปิดตัว Apple Music ที่มีราคาแบบกลุ่ม 14.99 ดอลลาร์ ใช้งานได้ 6 คน ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Spotify ออกมาประกาศว่าจะลดราคาลงมาให้อยู่ระดับเดียวกัน
ราคาของ Apple Music แบบคนเดียวอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน เท่ากับ Spotify และคู่แข่งรายอื่นในตลาด แต่ราคาแบบกลุ่มของ Spotify นั้นแพงกว่ามากคือ 14.99 ดอลลาร์ต่อ 2 คน และ 29.99 ดอลลาร์ต่อ 5 คน (ราคาเฉพาะในสหรัฐ)
ตัวแทนของ Spotify ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทตั้งราคาแตกต่างกันในแต่ละประเทศ และปัจจุบัน บริการในสวีเดนก็มีสมาชิกแบบกลุ่ม 5 คนที่ราคาประมาณ 20 ดอลลาร์อยู่แล้ว บริษัทจะปรับลดราคาในตลาดอื่นลงมาเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่บอกชัดว่าเมื่อไร
Spotify ผู้นำด้านบริการฟังเพลงออนไลน์ ประกาศยกเครื่องบริการที่มีอยู่ เพื่อสู้ศึกอันเข้มข้น โดยเมื่อไม่กี่วันก่อน บริการคู่แข่งอย่าง Deezer ที่ซื้อ Stitcher ผู้ให้บริการพ็อดคาสท์ ชื่อดังและประกาศผนวกบริการพ็อดคาสท์ เข้ากับ Deezer เมื่อวานนี้ และเพื่อต่อกรกับ Tidal ที่เพิ่งลุยตลาดด้วยการสตรีมมิ่งด้วยความละเอียดแบบสูง (FLAC) และมีมิวสิกวิดีโอ
วันนี้ Spotify แถลงข่าวเปิดตัวลูกเล่นใหม่เพื่อสู้ศึกครั้งใหม่ ประกอบไปด้วย
บริการเพลงเพื่อคุณ
The Financial Times รายงานว่าสหภาพยุโรปกำลังจับตาการเจรจากันระหว่างแอปเปิลกับค่ายเพลงต่าง ๆ เพื่อบริการสตรีมมิ่งเพลงของแอปเปิล โดยทางฝั่งของสหภาพยุโรปในตอนนี้ได้เริ่มสอบถามค่ายเพลงถึงรายละเอียดการเจรจากันดังกล่าวแล้ว
ในยุคที่คอนเทนต์ส่วนใหญ่ต่างก็อยู่บนอินเทอร์เน็ตกันหมดแล้ว บริการสตรีมเพลงผ่านอินเทอร์เน็ตอย่าง Spotify ก็อยู่ในช่วงขาขึ้นจากกระแสความนิยม รวมถึงฝั่งค่ายเพลงที่ยินดีร่วมมือเพื่อกระตุ้นตลาดจากที่กำลังตกต่ำให้มีชีวิตชีวามากขึ้น
ในวันนี้โซนี่ประกาศจับมือกับ Spotify เปิดตัวบริการใหม่ PlayStation Music บริการฟังเพลงออนไลน์รูปแบบใหม่สำหรับใช้ทดแทนบริการ Music Unlimited เดิมที่โซนี่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดยบริการใหม่จะสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น PS3, PS4 และ Xperia ได้ทั้งหมด
สำหรับบริการนี้ โซนี่จะใช้ฐานของ Spotify เป็นฐานหลัก ซึ่งผู้ใช้จะสามารถโอนย้ายเพลย์ลิสต์จากเดิมมาไว้ที่บริการใหม่เพื่อฟังต่อ หรือใช้เพลย์ลิสต์สำเร็จรูปของทั้ง PlayStation Music และ Spotify ในการฟังเพลงได้ในทันที อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถใช้งานบริการนี้แบบต่อเนื่องบนอุปกรณ์ที่ Spotify รองรับได้อีกด้วย
บริการเพลงออนไลน์ Spotify เผยสถิติผู้ใช้รอบล่าสุด นับถึงสิ้นปี 2014
Spotify มีสัดส่วนสมาชิกแบบจ่ายเงินประมาณ 1 ใน 4 ของผู้ใช้งานทั้งหมดมานานแล้ว ประเด็นเรื่องยอดสมาชิกและรายได้ของ Spotify อยู่ในความสนใจของวงการเพลงมาโดยตลอด หลังจากศิลปินดัง Taylor Swift ตัดสินใจถอดเพลงทั้งหมดออกจาก Spotify ด้วยเหตุผลว่าได้รับส่วนแบ่งน้อยเกินไป
Uber ได้ประกาศความร่วมมือกับ Spotify ผู้ให้บริการสตรีมเพลงรายใหญ่ โดยผู้ใช้บริการรถยนต์สามารถเลือก playlist ที่อยากฟังและสตรีมเข้าไปในรถยนต์ขณะเดินทางไปยังจุดหมาย
บริการนี้จำเป็นต้องใช้บัญชี Spotify แบบพรีเมียม เมื่อเรียกรถ Uber สามารถเลือกเปิดเพลงจาก playlist ของ Spotify ได้ทันที พอเปิดประตูรถก็จะได้ยินเสียงเพลงตอนขึ้นรถ ถึงแม้ว่าผู้ขับรถไม่อยากฟังเพลงของคุณก็จำเป็นต้องทนฟัง แต่หากรถคันไหนไม่เข้าร่วมบริการนี้จะไม่มีออฟชั่นเปิดเพลงในหน้าเรียกรถ
Daniel Ek ซีอีโอ Spotify เขียนบล็อกตอบโต้หลัง Taylor Swift ตัดสินใจถอดเพลงทั้งหมดออกจากระบบ พร้อมกับข่าวว่า Spotify จ่ายเงินให้ศิลปินน้อยมาก โดย Ek ระบุว่า Spotify จ่ายเงินให้ศิลปินแล้วรวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2008 และ 1 พันล้านดอลลาร์ก็เป็นการจ่ายในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเท่านั้น สะท้อนแนวโน้มการเติบโตของการฟังเพลงสตรีมมิ่งได้ดี
ในตอนแรก ศิลปินหลายรายมีท่าทีที่ไม่แน่ใจกับบริการสตรีมมิ่งเพลงอย่าง Spotify ซึ่งสร้างรายได้ให้ศิลปินเพียงน้อยนิดต่อการฟังเพลงหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ยังมีความไม่มั่นใจว่าบริการดังกล่าวจะทำให้เสี่ยงต่อการนำไปละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ศิลปินบางรายก็ได้ตัดสินใจถอดอัลบั้มตัวเองออกจาก Spotify ด้วยเหตุผลดังกล่าว
แต่ล่าสุด Cobalt Music Publishing บริษัทที่เป็นตัวแทนให้แก่ศิลปินอย่าง Paul McCartney บอกว่าศิลปินจากค่ายตัวเองได้รับรายได้ค่าส่วยจาก Spotify ในยุโรปมากกว่าจาก iTunes ถึง 13 เปอร์เซ็นต์
ในช่วงประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ เริ่มมีบริการสตรีมมิ่งเพลงมากหน้าหลายตาเข้ามาในไทยมากขึ้น อย่างเช่น MixRadio (ในช่วงที่ยังคงใช้ชื่อว่า Nokia Music), Deezer สัญชาติฝรั่งเศส (ที่จับมือกับ dtac), KKBox สัญชาติไต้หวัน (ที่จับมือกับ AIS) หรือแม้แต่ Rdio ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อช่วงกลางปีนี้ แต่ทว่ากลับยังไม่มีเจ้าพ่อในวงการนี้อย่าง Spotify เลยแม้แต่น้อย
มีรายงานจากแหล่งข่าววงในว่ากูเกิลเคยมีแผนจะเข้าซื้อ Spotify บริษัทผู้ให้บริการสตรีมเพลงแบบเก็บค่าบริการรายเดือนที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้ล่าสุดอยู่ที่ 40 ล้านราย จ่ายเงินรายเดือน 10 ล้านราย เพื่อมาเติมเต็มในส่วนของบริการเพลงที่กูเกิลยังจุดไม่ติดในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น Spotify ได้ประกาศว่ามีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคนแล้ว และเป็นสมาชิกรายเดือน (paying subscriber) ถึง 10 ล้านคน โดยมีสถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจดังนี้
Anthony Bay ซีอีโอของ Rdio ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ในงาน SXSW 2014 ว่า Rdio เตรียมถอดระบบ The Echo Nest ออกจากระบบของ Rdio เนื่องจากดีล Spotify ซื้อกิจการ The Echo Nest ทำให้ Rdio เกรงว่าอาจจะมีข้อมูลการจัดลิสต์เพลงจากคู่แข่งมาอยู่ในบริการของตัวเอง
ทั้งนี้จากข่าวดีล Spotify ซื้อกิจการ The Echo Nest นั้นมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า The Echo Nest จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Spotify แม้ว่าดีลนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งาน API ของ The Echo Nest ก็ตาม แต่ก็ย่อมส่งผลกระทบไปยังผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงที่เป็นคู่แข่งกับ Spotify ค่อนข้างมากพอสมควรเลยทีเดียว