มีรายงานว่าแอปฟังเพลงสตรีมมิ่ง Tidal เตรียมปลดพนักงานอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองของปีนี้ โดย Jack Dorsey ซีอีโอ Block ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของ Tidal ได้แจ้งกับพนักงานถึงแผนดังกล่าว
อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter บอกว่าการปลดพนักงานรอบนี้ เพื่อให้โครงสร้างองค์กรของ Tidal กลับไปอยู่ในโหมดสตาร์ทอัป มีจำนวนพนักงานที่น้อยลง การดำเนินการและตัดสินใจทำได้รวดเร็วขึ้น
พนักงานที่ได้รับผลกระทบในรอบนี้เป็นฝ่ายดูแลบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดทั้งหมด ซึ่ง Dorsey บอกว่าจากนี้ Tidal จะใช้วิศวกรรมและการออกแบบนำองค์กร ฝ่ายเหล่านี้จึงถูกตัดออกไป
Tidal เป็นบริการสมัครสมาชิกรายล่าสุดที่ประกาศขึ้นราคา โดยขึ้นจาก 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือนเป็น 10.99 ดอลลาร์ เริ่มมีผล 1 สิงหาคมนี้
ปีที่แล้วเราเห็น Apple Music ขึ้นราคานำไปก่อนแล้ว ตามด้วย Amazon Music ขึ้นราคาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เหลือเพียง Spotify ที่ยังคงราคาเดิมไว้ในตอนนี้ แต่บริษัทก็ประกาศว่าจะออกแพ็กเกจ Hi-Fi ภายในปีนี้
บริการสตรีมมิ่งเพลง Tidal ประกาศปรับแพลนครั้งใหญ่ โดยรอบนี้ Tidal เพิ่มแพลนสตรีมมิ่งแบบฟรีมีโฆษณาเป็นครั้งแรก และปรับ Tidal HiFi แยกเป็น 2 แบบ
สำหรับแผนฟรีมีโฆษณา Tidal เรียกว่า Tidal Free ซึ่งแพลนนี้จะมีให้บริการเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น คุณภาพสตรีมมิ่งเพลงจะอยู่ที่ 160kbps
Tidal เปิดตัวแอปบน Apple Watch เป็นครั้งแรก มาพร้อมคุณสมบัติที่ผู้สมัครใช้งานสามารถสตรีม และควบคุมการเล่นเพลงได้โดยตรงจากตัว Apple Watch ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ iPhone โดยตัวแอปสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน App Store ใน watchOS นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดเพลงเพื่อฟังแบบออฟไลน์ได้อีกด้วย
ในการเปิดใช้งาน ต้องตั้งค่าครั้งแรก โดยเข้าไปที่ลิงก์และกรอกรหัสให้ตรงกันจึงเริ่มเปิดใช้งานได้
สำหรับฟีเจอร์ฟังเพลงโดยตรงผ่าน Apple Watch นี้ Spotify ก็เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันก่อน
ที่มา: Engadget
Square บริษัทผู้ให้บริการระบบจ่ายเงิน ที่มี Jack Dorsey ซีอีโอ Twitter เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นซีอีโอบริษัทนี้ด้วย ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ใน Tidal บริการฟังเพลงสตรีมมิ่ง ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ โดย Square จะจ่ายเป็นเงินสดและหุ้นของบริษัทมูลค่ารวม 297 ล้านดอลลาร์
Jay-Z ศิลปินผู้ก่อตั้ง Tidal จะเข้ามาเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของ Square จากดีลนี้ ทั้งนี้ Tidal มีหุ้นส่วนเป็นศิลปินชื่อดังหลายคน โดยทั้งหมดจะยังคงถือหุ้น Tidal ต่อไป และ Tidal จะมาเป็นบริษัทในเครือของ Square แต่ยังบริหารงานอย่างอิสระต่อไป
สำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่า Square แพลตฟอร์มจ่ายเงินออนไลน์ ที่มี Jack Dorsey ซีอีโอ Twitter เป็นซีอีโออีกบริษัท ได้เจรจาเพื่อขอซื้อกิจการ Tidal บริการฟังเพลงสตรีมมิ่ง ที่มีศิลปิน Jay-Z เป็นเจ้าของอยู่
ฟังดูบริการจ่ายเงินกับฟังเพลงอาจไม่เกี่ยวข้องกันเท่าใดนัก ในรายงานระบุว่าการซื้อ Tidal เป็นแผนการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจของ Square
Music Business Worldwide รายงานว่าตอนนี้ Amazon กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบสตรีมมิ่งเพลงความละเอียดสูงซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ TIDAL โดยคาดว่าจะเปิดตัวบริการใหม่ได้ภายในช่วงท้ายปีนี้
บริการใหม่จาก Amazon นี้ คาดว่าจะเก็บค่าใช้บริการราว 15 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยชูจุดขาย “คุณภาพดีกว่าซีดี” ซึ่งแน่นอนว่าบริการใหม่นี้จะเป็นคู่แข่งกับ TIDAL ทันที ซึ่งล่าสุด Amazon ก็เพิ่งเปิดให้บริการ Amazon Music แบบฟรีมีโฆษณาสำหรับผู้ใช้ Echo หมายความว่าหากเปิดบริการนี้จริง ก็จะเท่ากับ Amazon มีบริการสตรีมมิ่งแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ฟรี, จ่ายเงิน ไปจนถึงพรีเมียมคุณภาพเสียงดี เป็นคู่แข่งกับทั้ง Pandora, Spotify, Apple Music และ TIDAL
บริการสตรีมมิ่งเพลง Tidal เริ่มกระบวนการสอบสวนภายใน เนื่องจากสงสัยการหลุดของข้อมูลสถิติการเล่นเพลงต่าง ๆ
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์นอร์เวย์ Dagens Næringsliv (DN) ได้นำฮาร์ดไดรฟ์ข้อมูลภายในของ Tidal ไปให้ Norwegian University of Science and Technology วิเคราะห์ข้อมูล และพบว่า Tidal ได้ปรับตัวเลขจำนวนครั้งในการเล่นเพลงของ Lemonard และ The Life of Pablo ให้ดูสูงขึ้นมาก (จากรายงานเขียนว่านับร้อยล้านครั้ง) และ Tidal ต้องจ่ายนักร้องทั้งสองคือ Beyoncé และ Kanye West สูงขึ้น
บริการสตรีมมิ่งเพลง Tidal ที่มีจุดขายคือมีตัวเลือกเพลงคุณภาพระดับ lossless ประกาศจัดโปรโมชันเริ่มต้นในวันคริสต์มาสนี้ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้บริการได้ฟรี 12 วัน และเข้าถึงคอนเทนต์ทุกชนิดแบบที่ลูกค้าเสียเงินได้รับ รวมทั้งในตัวเลือกระดับ lossless ด้วย โดยในช่วง 12 วันนี้ Tidal ยังเตรียมปล่อยซีรี่ส์ตอนใหม่ให้ได้ชมอีกด้วย
ปัจจุบัน Tidal มีเงื่อนไขพื้นฐานสำหรับผู้สมัครใหม่อยู่แล้วคือทดลองใช้ฟรี 30 วัน แต่โปรโมชันนี้แตกต่างไปตรงที่ผู้ใช้ไม่ต้องใส่ข้อมูลบัตรเครดิตการ์ดลงไปทำให้ไม่ต้องพะวงว่าจะยกเลิกไม่ทัน
มีรายงานจากเว็บไซต์นอร์เวย์ Dagens Næringsliv ว่า Tidal ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงกำลังประสบกับปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากการเติบโตของจำนวนผู้ใช้เริ่มคงที่ โดยตอนนี้บริษัทมีเงินทุนสำรองใช้จ่ายให้เหลืออยู่รอดได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น
ในรายงานกล่าวว่า เมื่อปีที่แล้ว Tidal น่าจะสูญเงินไป 44 ล้านดอลลาร์ก่อนหักภาษี (อย่างไรก็ดี Spotify ซึ่งมีรายได้ถึง 3 พันล้าน ปีที่แล้วก็ขาดทุนไป 581 ล้านเช่นกัน) ซึ่งก่อนหน้านี้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนโดย Sprintนั้นทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจเป็นเวลา 12-18 เดือน
Billboard ประกาศปรับวิธีการจัดอันดับเพลงฮิตในอเมริกา มีผลตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป โดยที่ผ่านมา Billboard นำข้อมูลการฟังเพลงสตรีมมิ่งมาใช้อยู่แล้ว แต่ด้วยความหลากหลายของบริการสตรีมมิ่ง จึงมีการปรับการให้น้ำหนักของการฟังสตรีมมิ่งแต่ละแบบ
โดย Billboard แบ่งบริการสตรีมมิ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ เสียเงิน (Apple Music, Spotify, Tidal), มีโฆษณา (Spotify, YouTube) และรายการวิทยุ (Pandora) ซึ่งอันดับเพลง Billboard Hot 100 จะให้น้ำหนักข้อมูลจากกลุ่มเสียเงินสูงกว่ากลุ่มอื่น (ปัจจุบันเท่ากัน) และอันดับอัลบั้ม Billboard 200 ก็ปรับไปในแนวทางเดียวกัน
บริการสตรีมเพลง Tidal ขายหุ้นหนึ่งในสามให้กับ Sprint ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับ 4 ของสหรัฐฯ ในราคา 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดีลนี้จะทำให้ลูกค้าของ Sprint 45 ล้านรายเข้าถึงบริการของ Tidal รวมไปถึง exclusive content ที่ยังไม่ประกาศที่เตรียมจะให้แก่ลูกค้า Sprint โดยเฉพาะ
การเข้าซื้อหุ้นนี้ถือเป็นการต่อสายป่านเงินทุนให้กับ Tidal ที่ต้องแข่งกับรายใหญ่อย่าง Amazon, Apple และ Spotify โดย Tidal พยายามสร้างความแตกต่างให้บริการของตัวเองผ่าน exclusive content ซึ่งในปีที่ผ่านมา Kanye West และ Rihanna ได้ปล่อยอัลบั้มใหม่ให้สตรีมบน Tidal ก่อนบริการอื่น
Tidal ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับแอพบนมือถือเรียกว่า Track Edit เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขความเร็วเพลงบนแอพ Tidal ได้ทันที
สำหรับฟีเจอร์ Track Edit นี้จะสามารถแก้ไขความยาวและจังหวะความเร็วของดนตรีได้บนแอพมือถือ เพียงกดปุ่มตัวเลือกขณะกำลังเล่นเพลงใดก็ได้ และเมื่อแก้เพลงเสร็จแล้วก็สามารถบันทึกลง playlist ได้ทันที ซึ่งฟีเจอร์นี้ Tidal จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้ทีละกลุ่ม
ที่มา - The Verge
Kanye West แร็ปเปอร์ชื่อดังได้เอ่ยความคิดของเขาต่อเรื่อง Apple Music และ Tidal ผ่าน Twitter ถึงเรื่องการช่วงชิงคอนเทนต์แบบ exclusive ของทั้งสองบริการสตรีมมิ่งเพลงกัน
West นั้นเป็นคนหนึ่งที่ออกอัลบั้มให้กับ Tidal แบบ exclusive ซึ่งเขาบอกว่าการที่แต่ละบริษัทแย่งชิงคอนเทนต์แบบ exclusive นั้นเป็นการทำร้ายเกมในวงการเพลง โดยเขาต้องการให้ทั้งสองบริษัทสงบศึกกัน แนะนำให้ Jay-Z เจ้าของ Tidal และ Tim Cook ซีอีโอ Apple รวมถึงเหล่าคนสำคัญทั้งสองฝ่ายมาพบกัน
Tidal ได้ออกอัพเดตล่าสุดเวอร์ชัน 1.14.0 บน iOS และ 1.11.0 บน Android โดยมีฟีเจอร์ที่สำคัญคือรองรับการสตรีมผ่าน Chromecast เป็นที่เรียบร้อย
การรองรับการสตรีมผ่าน Chromecast ของ Tidal นั้นจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถเล่นเพลงบนโทรทัศน์หรือระบบเสียง เพียงแค่อัพเดตแอพและสตรีมเสียงผ่าน Chromecast ได้ทันที
นอกจากนี้ในอัพเดต Tidal ยังมีการปรับปรุงคิวการเล่นเพลง รวมถึงแก้บั๊กบางอย่างด้วย
BuzzAngle Music ได้เผยรายงานผลการวิเคราะห์อุตสาหกรรมเพลงในอเมริกาช่วงครึ่งปีแรกของปี 2016 จากสถิติที่เก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งยอดการสตรีมมิ่งและยอดขายผ่านช่องทางต่าง ๆ
ข้อมูลจากรายงานเผยว่าชาวอเมริกันใช้งานสตรีมมิ่งเพลงผ่านบริการต่าง ๆ เช่น Spotify, Tidal, Apple Music เป็นจำนวน 114 ล้านครั้ง สูงขึ้นจากปี 2015 ถึง 107% และการสตรีมมิวสิควิดีโอผ่านบริการอย่าง YouTube อยู่ที่ 95 ล้านครั้งเพิ่มขึ้น 23% โดยยอดรวมของการสตรีมมิ่งทั้งเพลงและวิดีโอนั้นเพิ่มจากปีที่แล้ว 58%
สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า Apple กำลังพูดคุยถึงการเข้าซื้อกิจการสตรีมมิ่งเพลง Tidal ของแรปเปอร์ Jay Z โดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ ซึ่งการพูดคุยนี้ยังถือว่าเป็นขั้นต้นและยังไม่ใช่ดีลแต่อย่างใด
บริการสตรีมเพลงอีกเจ้าที่ชูเรื่องคุณภาพเสียงระดับไฮเดฟอย่าง Tidal เปิดบริการมาครบ 1 ปี ประกาศตัวเลขสมาชิกว่าครบ 3 ล้านรายแล้ว จากการเปิดให้บริการ 46 ประเทศ (มีประเทศไทยด้วย) สาระสำคัญที่น่าสนใจมีดังนี้
ที่มา - PR Newswire, Billboard
เมื่อไม่กี่วันก่อน เพิ่งมีข่าวลือว่า ซัมซุงสนใจซื้อบริษัทเพลงสตรีมมิ่ง Tidal ล่าสุดบริษัทออกมาปฏิเสธข่าวนี้เรียบร้อยแล้ว ว่าข่าวลือนี้ไม่เป็นความจริง
อย่างไรก็ตาม ในอีกทางก็มีข่าวลือว่าซัมซุงเตรียมปิดบริการเพลง Milk Music ของตัวเองในไม่ช้า (เปิดตัวในปี 2014) หลังซัมซุงปรับยุทธศาสตร์ด้านคอนเทนต์ของตัวเอง โดยเพิ่งปิดบริการ Milk Video เมื่อปีที่แล้ว จากเดิมที่ซัมซุงมีแผนจะใช้แบรนด์ Milk ขยายไปยังดิจิทัลคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ
ดูเหมือนว่าซัมซุงวางแผนที่จะบุกตลาด Music Streaming อย่างหนักอีกครั้ง เพราะมีข่าวลือออกมาว่าซัมซุงได้แอบเข้าไปคุยกับ Tidal เรื่องซื้อกิจการทั้งหมดแบบเงียบๆ เสียแล้ว
รายงานระบุเพิ่มว่านี่อาจเป็นการกระทำที่ใหญ่เกินไปมากสำหรับตัวซัมซุงเอง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงเงียบมาได้จนถึงทุกวันนี้ แต่เมื่อเอาไปถามกับทางซัมซุง ตัวแทนก็ระบุว่าจากกฎเรื่องการให้ความเห็นบริษัทก็ขอไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด
รายงานดังกล่าวมีการระบุเพิ่มว่า กูเกิล และ Spotify สนใจขอร่วมเป็นพันธมิตรกับ Tidal ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก Tidal มีจุดเด่นเรื่องการสตรีมเพลงแบบ Lossless การได้ Tidal มาเป็นพันธมิตรร่วมก็ยิ่งทำให้ Google Play Music และ Spotify แข็งแกร่งขึ้นนั่นเองครับ
เว็บไซต์ Ars Technica พยากรณ์ "Deathwatch" หรือบริษัท-แพลตฟอร์มไอทีที่น่าจะ "ตาย" ในปี 2016 หลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาด-ประสบปัญหาทางการเงินต่อเนื่องมานาน
และแล้วปัญหาระหว่าง Tidal กับแอปเปิลก็เริ่มก่อตัวขึ้นจนได้ เมื่อระหว่างรายการสดของ Lil Wayne อย่าง Hurricane Katrina ที่ออกอากาศสดผ่าน Tidal นั้น ถูกแอปเปิลก่อกวนอย่างหนักจนทำให้ไม่สามารถออกอากาศได้ในช่วงที่ Drake ขึ้นมาร้องเพลงของตน จนกระทั่งเมื่อ Drake ลงจากเวที รายการถึงจะกลับมาออกอากาศตามปกติ
โดยในช่วงระหว่างการถูกก่อกวน Tidal ได้ตัดสินใจขึ้นข้อความแจ้งผู้ใช้ว่า ขณะนี้เกิดปัญหาการก่อกวน (Interfere) กับศิลปินจากแอปเปิล และไม่ยอมให้ออกอากาศรายการต่อ ซึ่งต่อมา NYP ได้เผยว่า การก่อกวนที่ว่าของแอปเปิล คือการข่มขู่ว่าจะเดินเรื่องตามกฎหมายและฟ้องเรียกค่าปรับสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทันทีที่ Drake ออกอากาศ สำหรับความเสียหายในสิ่งที่ Drake กำลังจะทำในครั้งนี้
บริการฟังเพลงออนไลน์ Tidal ตอบโต้การมาเยือนของ Apple Music ด้วยแพ็กเกจสมาชิกแบบครอบครัว (Family Plan) โดยสมาชิกในครอบครัวคนต่อมาที่สมัคร Tidal จะได้ส่วนลด 50% จากราคาปกติ และใช้ได้มากที่สุด 4 บัญชีต่อครอบครัว (ไม่นับบัญชีแรก)
การคิดราคาของ Tidal แปลว่าสมาชิกคนแรกต้องจ่ายราคาเต็ม (179 บาทต่อเดือนสำหรับบริการระดับปกติ) ส่วนสมาชิกคนที่สองจนถึงคนที่ห้าจะจ่ายเพิ่มคนละ 89.50 บาทต่อเดือน ในกรณีที่อยากได้เพลงคุณภาพสูงแบบ HiFi ก็จะเป็น 358 บาทกับ 179 บาทตามลำดับ
สมาชิกคนแรกของครอบครัวจะมีสถานะเป็นแอดมิน คอยบริการจัดการสมาชิกคนที่เหลือ สมาชิกแต่ละคนจะมีล็อกอินแยกของตัวเอง และเล่นเพลงได้อย่างอิสระเหมือนสมาชิก Tidal ทั่วไป
ปัจจุบันการซื้อหาและฟังเพลงผ่านอินเตอร์เน็ตนั้นได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะบริการ music streaming ที่ทำให้เราฟังเพลงที่ต้องการในราคาแบบเหมาจ่ายรายเดือนที่ไม่แพงมากนัก แต่ก็ต้องแลกกับคุณภาพเสียงที่สูญเสียไปจากการบีบอัดข้อมูลระหว่างการสตรีมมิ่ง
พอดีผมได้รับโอกาสจากทาง Blognone ในการรีวิว TIDAL ซึ่งเป็นบริการ music streaming ที่ชูจุดขายเรื่องการบีบอัดข้อมูลแบบ lossless เพื่อคงคุณภาพเสียงจากต้นฉบับเอาไว้ครับ
TIDAL บริการเพลงออนไลน์ที่มี Jay Z นักร้องชื่อดังเป็นผู้ผลักดัน (อ่านรายละเอียดในข่าวเก่า Tidal บริการสตรีมมิ่งเพลงรายใหม่จาก Jay Z) เปิดบริการในประเทศไทยแล้ว
TIDAL เป็นบริการเพลงสตรีมมิ่งที่มีเพลงให้เลือกกว่า 25 ล้านเพลง วิดีโออีก 75,000 คลิป มีแพ็กเกจให้เลือก 2 แบบ
รองรับการใช้งานบน Android, iOS, เว็บ และสามารถเชื่อมต่อไปออกลำโพงหรือเครื่องเสียงสมัยใหม่ได้ด้วย
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์