รวมข่าว Twitter (X) อัปเดตล่าสุด

หนังสือชีวประวัติ Elon Musk ที่เขียนโดย Walter Isaacson เล่าถึงช่วงที่ Musk เริ่มเข้าทำงานที่ Twitter (ตอนนี้เปลี่ยนเป็น X) เขาได้สั่งให้พนักงานไปค้นหาประวัติการคุยใน Slack ของพนักงานคนอื่น เพื่อดูว่ามีพนักงานคนไหนบ้าง ที่มีแนวโน้มพูดลับหลังไม่ดีต่อ Musk ซึ่ง Keyword ที่ใช้ในการค้นหาคือ “Elon” ต่อมาพนักงานเหล่านั้นก็โดนไล่ออก

Musk เคยประกาศว่าเขาสนับสนุน “Free Speech Absolutist” และการเข้าซื้อ X ก็เพื่อสร้างพื้นที่ให้คนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลายได้

Walter Isaacson ออกหนังสือชีวประวัติของ Elon Musk เล่าถึงเหตุการณ์การขนย้ายเซิร์ฟเวอร์ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2022 Elon Musk ต้องการย้ายเซิรฟ์เวอร์ออกจากเมืองซาคราเมนโตไปที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน เพราะไม่อยากเสียค่าใช้จ่าย 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ได้รับเสียงค้านจากผู้จัดการเนื่องจากการขนย้ายมีปัจจัยเรื่องความหนาแน่นของแร็คและพลังงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นห้องที่ใช้จัดเก็บเซิร์ฟเวอร์ต้องมีการปรับปรุงก่อน ไม่สามารถย้ายได้ในระยะเวลา 6-9 เดือน แต่ Elon Musk อยากให้ขนย้ายเสร็จภายใน 30 วันเท่านั้น

NewsWhip บริการเก็บสถิติการใช้งานโซเชียล ติดตามบัญชีผู้ใช้ Twitter/X กว่า 300,000 คน และพบว่าการโพสต์ลิงก์ข่าวจาก The New York Times สื่อที่ท่านผู้นำไม่ชอบ จะมีผลต่อค่ารีช หรืออัตราการแสดงผลข้อความนั้นอย่างมีนัยสำคัญ

ตัวอย่างคนดังที่แชร์ลิงก์คือ Barack Obama แชร์บทความจาก The New York Times และมีค่ารีชประมาณ 8-9 แสนผู้ใช้งานที่มองเห็น ในขณะที่ Obama คนเดียวกันแชร์บทความจาก Politico มีคนเห็น 13 ล้านครั้ง

การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 ไล่เลี่ยกับการค้นพบว่าการกดเข้าลิงก์ The New York Times หรือเว็บคู่แข่ง Threads จะโดนหน่วงเวลา 5 วินาที

TechCrunch รายงานว่า Twitter/X เริ่มแสดงโฆษณาแบบไม่มีป้ายกำกับบอกว่าเป็นโฆษณา (Ad หรือของเดิมใช้คำว่า Promoted) เป็นโพสต์เนียนๆ เหมือนข้อความทั่วไปที่ไม่ใช่โฆษณา

TechCrunch ทดลองแล้วยืนยันว่าพบโพสต์โฆษณาเนียนๆ ที่ตัดคำว่า Ad ตรงมุมขวาบนออกไปจริงๆ โดยจุดสังเกตว่าเป็นโฆษณาแอบเนียนหรือไม่ คือโฆษณาไม่มีตัวเลขแสดงเวลาที่โพสต์ และสามารถเช็คโดยกดปุ่ม ... ที่มุมขวาบน หากยังมีเมนูแบบเดียวกับโฆษณา เช่น Why this ad? ก็เท่ากับว่าเป็นโฆษณา

ที่มา - TechCrunch

ก่อนหน้านี้ Elon Musk บอกว่าจะทดสอบรถโดยการขับไปหา Mark Zuckerberg และถ้าเจอก็จะเริ่มสู้ทันทีพร้อมถ่ายทอดสดให้ทุกคนดู และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Elon Musk ได้ถ่ายทอดสดผ่าน X ขณะขับรถที่ Palo Alto แคลิฟอร์เนีย โดยการถือโทรศัพท์ขณะขับ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายใน California แต่เจ้าหน้าที่ไม่ออกใบสั่งปรับ เนื่องจากไม่เห็นการกระทำด้วยตนเอง

ปกติแล้วในแคลิฟอร์เนีย หากเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นคนผู้ขับขี่ถือโทรศัพท์อยู่ในมือ เจ้าหน้าที่สามารถออกใบสั่งกับผู้ขับขี่ได้ เพราะป็นการละเมิดกฎหมาย hands - free

Elon Musk เจ้าของ X หรือในชื่อเก่า Twitter ได้ปรากฏตัวในงานแข่งกัน World Championship รอบสุดท้ายของเกม Valorant และทันทีที่ภาพในงานตัดไปเห็น Elon Musk ผู้ชมอยู่ที่ในงานก็ต่างพากันร้องโห่ใส่ Elon Musk พร้อมกู่ร้องว่า “เอา Twitter คืนมา”

แม้ว่า Elon Musk จะปรากฏตัวสั้น ๆ เพียง 4 วินาทีแต่เสียงกู่ร้องกลับโห่ยาวกว่านั้น จนทำให้เหล่าพิธีกรต้องดึงประเด็นให้คนกลับมาสนใจการแข่งขันเกมต่อ ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกปล่อยใน X โดยผู้ใช้นาม Jake Lucky ซึ่งตอนนี้มียอดเข้าชมมาก 7 ล้านวิวแล้ว

อดีตประธานาธิบดี Donald Trump กลับมาโพสต์ Twitter/X เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง หลังจากได้ปลดแบนบัญชีเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

โพสต์คัมแบ็คของ Trump เป็นภาพถ่าย Mug Shot (ภาพถ่ายตอนโดนคดี) ของเขา หลังโดนข้อหาในรัฐจอร์เจียเรื่องพยายามล้มผลการเลือกตั้งปี 2020 (เฉพาะส่วนของรัฐจอร์เจีย) และเข้ามอบตัวเมื่อคืนนี้ตามเวลาบ้านเรา

ในโพสต์ของ Trump ยังมีข้อความว่า Election Interference Never Surrender! พร้อมลิงก์ไปยังเว็บไซต์ส่วนตัวของเขา donaldjtrump.com

ขณะที่เขียนข่าว โพสต์นี้มีคนไลค์ 7.2 แสนครั้ง, รีโพสต์ 2.5 แสนครั้ง, จำนวนวิว 63.3 ล้านวิว

เว็บไซต์ Mashable รายงานหลังการวิเคราะห์ข้อมูลรายละเอียดผู้ติดตามของ Elon Musk ที่มีโปรแกรมเมอร์อิสระที่ชื่อ Travis Brown รวบรวมเอาไว้บน Github ซึ่งพบว่า เกือบๆ ครึ่งของจำนวนผู้ติดตาม (followers) บัญชี @elonmusk เป็นบัญชีที่ไม่มีผู้ติดตาม (0 followers)

จากจำนวนผู้ติดตาม Elon Musk กว่า 153,209,283 บัญชี (ณ ช่วงเวลาที่ Brown เก็บข้อมูล) Mashable พบว่ามี 65.3 ล้านบัญชีหรือราว 42% ของจำนวนผู้ติดตาม Musk ไม่มีผู้ติดตามเลย ขณะที่บัญชีที่มีไม่ถึง 10 ผู้ติดตาม ก็มีถึง 112 ล้านบัญชี หรือราว 72%

Fortune รายงานอ้างอิงข้อมูลที่ได้รับมาว่า Twitter / X เตรียมจะแสดงผลลิงก์ที่โพสต์ลงแพลตฟอร์ม แบบไม่มีพาดหัว ทำให้เหลือแค่ URL และภาพประกอบเท่านั้นที่จะเห็นได้บนฟีด

สาเหตุก็น่าจะหนีไม่พ้น ความพยายามของ Musk ที่บีบให้คนอยู่บนแพลตฟอร์มเป็นหลัก อย่างก่อนหน้านี้ก็มีการหน่วง
การโหลตเว็บจากลิงก์คู่แข่ง ขณะที่ล่าสุด Musk เองก็บอกว่า "นักข่าวที่ต้องการอิสรภาพในการเขียนข่าวและรายได้ที่มากขึ้น ควรมาเขียนโดยตรงบนแพลตฟอร์ม" ซึ่งก็เป็นท่าทีที่สอดคล้องกับข่าวลือจาก Fortune

บัญชี @Support ของ X อัพเดตปัญหาที่ระบบไม่แสดงรูปภาพในโพสต์ (หรือทวีต) ตั้งแต่ก่อนเดือนธันวาคม 2014 ที่มีรายงานก่อนหน้านี้ ว่าปัญหาดังกล่าวแก้ไขแล้ว

@Support บอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากบั๊ก ทำให้ไม่สามารถแสดงรูปภาพก่อนปี 2014 ในโพสต์ แต่ไม่มีรูปภาพหรือข้อมูลใดที่สูญหาย โดยผู้ใช้งานจะทยอยเห็นภาพตามปกติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

มีรายงานการพบปัญหาใน X หรือ Twitter เดิม โดยโพสต์เก่าที่มีรูปภาพอยู่ในเนื้อหา หรือมีลิงก์ในข้อความ จะไม่แสดงรูปภาพหรือรูปพรีวิว ซึ่งปัญหาดังกล่าวพบมาหลายวันแล้ว แต่ไม่กระทบทุกโพสต์ จึงคาดว่า X ก็กำลังแก้ปัญหานี้อยู่

โดย The Verge พบว่าโพสต์หรือทวีตที่มีปัญหาไม่แสดงรูปภาพ เป็นโพสต์ก่อนช่วงธันวาคม 2014 ซึ่งจะแสดงลิงก์ t.co ในข้อความ และไม่มีรูปภาพขึ้นมา ทั้งนี้เดิม Twitter ไม่มีบริการแนบรูปภาพในทวีต โดยมาเพิ่มระบบแนบรูปของตนเองในปี 2011 หลังให้บริการมา 5 ปี

Scott Galloway อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) โพสต์บน Threads ไม่พอใจที่ถูกล็อกออกจากแอป X ไม่ให้เข้าบัญชีของตัวเองเป็นเวลา 17 วัน หลังจากปฏิเสธเข้าพบ Elon Musk เนื่องจาก Galloway มีการทำพอดแคสต์พูดถึงเขา แต่ Musk รู้สึกว่าตัวเองโดนโจมตี อย่างไม่เป็นธรรม

ก่อนหน้านี้ Galloway ได้วิจารณ์ Musk อย่างต่อเนื่องหลังจากที่ Musk เข้ามาบริหาร Twitter (X) ในปีที่แล้ว อย่างในบทความบน Huffington Post ว่า Musk ขาดความสง่างาม และยังโพสต์ว่า Elon จะเป็นตำนาน ถ้าเขาไม่เริ่มทวีต (อยู่เฉยๆ ยังดีกว่า ประมาณนั้น) รวมไปถึงยังแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นของ Reuters เกี่ยวกับระยะการขับขี่ของรถ Tesla และพูดถึงความทะเยอทะยานของ Musk ที่ต้องการเปลี่ยน Twitter ให้กลายเป็น Everything App

X Pro หรือ TweetDeck เดิม จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อใช้งานแล้ว โดยต้องเป็นสมาชิก X Premium (Twitter Blue เดิม) ก่อนถึงจะใช้งานได้

การเปลี่ยนแปลงของ TweetDeck เกิดขึ้นมาสักระยะแล้ว เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม จู่ๆ TweetDeck เวอร์ชันเก่าใช้งานไม่ได้ และมี TweetDeck เวอร์ชันใหม่ที่ฟีเจอร์ต่างไปบ้างเล็กน้อยมาแทน โดยบอกว่าเปิดให้ทดลองใช้ฟรี 30 วัน จากนั้นจะใช้ได้แต่คนที่เป็นสมาชิก Twitter Blue แบบเสียเงินเท่านั้น

จากการลองเข้า URL ของ TweetDeck (https://tweetdeck.twitter.com) ตอนนี้พบหน้าบังคับให้จ่าย Twitter Blue ราคา 3,300 บาท/ปี (ลดเหลือ 2,900 บาท/ปีชั่วคราว) ดังภาพ

เป็นอีกการเปลี่ยนแปลงของ Twitter ไปสู่ X ที่เกิดขึ้นแน่แค่เมื่อใด และก็น่าจะเริ่มแล้ว โดยเริ่มมีคนพบว่าเมื่อกดแชร์ URL จากแอป X ใน iOS พบว่า URL กลายเป็น x.com แล้ว จากเดิมที่เป็น twitter.com

ณ ขณะเขียนข่าวนี้ URL ที่มาจากการแชร์ผ่านหน้าเว็บ และแอปบน Android ยังได้ twitter.com เหมือนเดิม

ทั้งนี้เมื่อเข้าผ่าน URL ที่เป็น x.com ก็ยังคง redirect ไปที่ twitter.com เหมือนเดิม ซึ่งคงเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในเร็ว ๆ นี้

ที่มา: The Verge

CNBC สัมภาษณ์พิเศษ Linda Yaccarino ซีอีโอ X ซึ่งมารับไม้ต่อจาก Elon Musk ในหลายประเด็น ทั้งอำนาจหน้าที่ ซึ่งหลายคนสงสัยว่าใครกำกับดูแลบริษัทกันแน่ ไปจนถึงการตัดสินใจรีแบรนด์ Twitter มาเป็น X

ไอเดียของ X เกิดขึ้นนานแล้ว

Yaccarino บอกว่าไอเดียเรื่อง X ที่ต้องการเป็น Everything App มีมานานแล้ว ในตอนที่บริษัทประกาศว่าตนจะมารับตำแหน่งซีอีโอในเดือนมิถุนายน ภารกิจหนึ่งก็คือการร่วมมือกับ Elon เพื่อเปลี่ยน Twitter มาสู่ X

Jeremy Vaught เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ @music ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2007 สมัยบุกเบิก ประกาศว่าเขาถูกบริษัท X Corp ยึดบัญชี @music ไปดื้อๆ ด้วยเหตุผลว่าชื่อนี้เป็นของบริษัท และเสนอชื่อใหม่ 3 ชื่อให้เขาเลือกแทน ได้แก่ @musicmusic @music123 @musiclover ซึ่ง Jeremy บอกว่าล้วนเป็นชื่อที่มีเจ้าของอยู่แล้วเช่นกัน สุดท้ายเขาจึงเลือกชื่อ @musicfan แทน

การยึดบัญชี @music คืนนั้นคล้ายกับกรณีของบัญชี @X ก่อนหน้านี้ ที่เจ้าของบัญชีเดิมบอกว่าไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด และเป็นการเสนอชื่อบัญชีใหม่ให้แทน

ส่วนบัญชี @music ตอนนี้มีไอคอน X โผล่มาด้านหลังแล้ว และโพสต์รูปภาพศิลปินดัง Ed Sheeran ถือป้ายตัว X โดยยังไม่บอกว่าจะนำไปใช้ทำอะไร

บริษัท X Corp ยังเดินหน้ารีแบรนด์ส่วนต่างๆ ของ Twitter เป็นแบรนด์ X อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือ TweetDeck ไคลเอนต์อีกตัวของ Twitter เปลี่ยนชื่อเป็น XPro แล้ว

บัญชี TweetDeck ของเดิมก็เปลี่ยนมาใช้ @Pro แทน แต่ URL ที่เข้าใช้บริการยังเป็น tweetdeck.twitter.com เหมือนเดิม

ที่มา - 9to5google

แอป X/Twitter ใน App Store ของ iOS ได้ออกอัพเดตเวอร์ชันล่าสุด หลังจากอัพเดตก่อนหน้านี้เปลี่ยนโลโก้จากนกสีฟ้ามาเป็น X สีดำ โดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ แอปเปลี่ยนชื่อใน Store เป็น X อย่างเป็นทางการ

ที่เรื่องนี้สำคัญเพราะว่าแอปเปิลมีกฎข้อหนึ่งสำหรับนักพัฒนาแอปบน App Store นั่นคือชื่อแอปต้องมีความยาวอย่างน้อย 2 ตัวอักษร การตั้งชื่อแอปด้วยตัวอักษรจึงไม่สามารถทำได้ แต่ตอนนี้ Twitter เปลี่ยนชื่อเป็น X สำเร็จแล้ว จึงอาจมีคำร้องขอพิเศษไปที่แอปเปิล ซึ่งตัวแทนของแอปเปิลยังไม่ได้ออกมาชี้แจงในประเด็นนี้

ในอัพเดตล่าสุด X ได้แก้ไขแท็กไลน์ของแอปจากเดิม Let’s talk มาเป็น Blaze Your Glory!! อีกด้วย

X หรือ Twitter เดิม ประกาศว่าโครงการแบ่งรายได้จากโฆษณาให้กับครีเอเตอร์ ได้เปิดให้ครีเอเตอร์ที่เข้าเงื่อนไขทุกคนสมัครเข้าร่วมได้แล้วทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งบัญชีครีเอเตอร์ในประเทศไทยด้วย โดยสมัครได้ผ่านหัวข้อ Monetization ในหน้า Settings

ก่อนหน้านี้ Elon Musk ซีทีโอและเจ้าของ X เคยประกาศว่าจะเริ่มจ่ายส่วนแบ่งรายได้โฆษณาให้ครีเอเตอร์ จากโฆษณาที่แสดงท้ายทวีต ซึ่งมีครีเอเตอร์บางรายได้รับเงินส่วนนี้แล้ว

เงื่อนไขของบัญชีครีเอเตอร์ที่สามารถเข้าร่วมโครงการแบ่งรายได้จากโฆษณานี้ได้แก่

หลังจากแอป Twitter บน Android เปลี่ยนเป็น X ตามนโยบายของ Elon Musk วันนี้แอปฝั่ง iOS ก็เปลี่ยนมาเป็น X เช่นกัน

ทั้งนี้ ชื่อและภาพตัวอย่างบน App Store, แอปบน Apple TV รวมถึงการพรีวิวขนาดตัวอักษรในการตั้งค่า ยังคงมีอัตลักษณ์ของ Twitter อยู่ ซึ่งคงต้องรอการอัพเดทต่อไป

ที่มา: The Verge, การสังเกตด้วยตนเอง

Esther Crawford อดีตหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ Twitter Blue ซึ่งทำงานกับ Twitter มาตั้งแต่ปี 2020 จากการขายสตาร์ทอัพ Squad จนมาเป็นไวรัลโด่งดังจากภาพนอนที่ออฟฟิศเพื่อให้ทันกำหนดส่งงาน ในยุคที่ Elon Musk เข้ามาซื้อกิจการ Twitter แต่ต่อมาก็ถูกปลดออกในเวลาต่อมา ได้โพสต์เล่าเรื่องราวช่วงเวลาทำงานกับ Twitter มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ

กระบวนการรีแบรนด์ Twitter ไปสู่ X ของ Elon Musk ยังคงดำเนินต่อไป โดยล่าสุดเขาโพสต์ข้อความถึงแนวทางการใช้งานว่า เร็ว ๆ นี้ แพลตฟอร์มจะมีเฉพาะ Dark Mode ให้ใช้งาน เพราะมันดีกว่า

ปัจจุบัน Twitter ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะใช้โหมดปกติพื้นสีขาว หรือ Dim พื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม หรือ Lights Out พื้นหลังสีดำ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานต่างกรณีกันไป โพสต์ข้อความดังกล่าวของ Musk มีผู้แสดงความเห็นแย้งหลายคนว่าการมีเฉพาะ Dark Mode จะมีปัญหาการใช้งานมากในที่แจ้ง เป็นต้น

เวลาที่ทุกคนรู้ว่ามาถึงแน่แค่เมื่อไหร่ ในที่สุดก็มาถึงแล้ว

แอป Twitter บน Android ได้อัพเดตเวอร์ชันล่าสุดบน Play Store ซึ่งเปลี่ยนไอคอนของแอปและชื่อแอปเป็น X ตามการรีแบรนด์ที่เกิดขึ้นในตัวแอปและบนเว็บก่อนหน้านี้

นอกจากนี้หน้าสกรีนช็อตของแอปก็ถูกปรับธีมสีด้วย จากเดิมพื้นหลังสีฟ้า มาใช้พื้นหลังสีดำ หน้าแอปทั้งหมดที่แสดงก็ใช้โลโก้ใหม่ X

กระบวนการเปลี่ยนผ่านรีแบรนด์จาก Twitter ไปสู่ชื่อใหม่ X ยังคงดำเนินต่อไป โดยล่าสุดบัญชี @Twitter ได้โอนข้อความเนื้อหาทั้งหมดมาเป็น @X เรียบร้อยแล้ว

บัญชีบริการตัวอื่นของ Twitter ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเช่นกัน โดย Twitter Blue บริการ subscription เปลี่ยนชื่อเป็น @XBlue (Blue Subscription) ส่วนบัญชีอย่าง @TwitterSupport, @TwitterDev และ @TwitterAPI ตอนนี้มีชื่อใหม่คือ @Support, @Xdevelopers และ @API

หลังจากที่ Twitter รีแบรนด์จากโลโก้รูปนกฟ้าเป็นตัวอักษร X สีดำ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Elon Musk ได้อัปเดตโลโก้ X อีกครั้งให้ตัวอักษรหนาขึ้นกว่าเดิม แต่แล้ว Musk ก็บอกว่าจะยกเลิกการเปลี่ยนแปลงพร้อมบอกว่า ไม่ชอบแท่งหนาจะกลับไปใช้แบบเดิม ส่วนตัวโลโก้จะเปลี่ยนไปตามเวลา

ที่มาโลโก้นี้เกิดจากการที่ Elon Musk ทวีตข้อความว่าจะรีแบรนด์ Twitter ถ้าใครส่งโลโก้รูป X ที่ดีพอภายในคืนนี้ เราจะเผยแพร่ทั่วโลกทันทีในวันพรุ่งนี้ ต่อมา Musk ก็มีการโพสต์คลิปวิดีโอโลโก้รูป X ที่ออกแบบโดย Sawyer Merritt