รวมข่าว Twitter (X) อัปเดตล่าสุด

หลังจากที่เมื่อวาน Twitter เพิ่งจะเพิ่มฟีเจอร์แสดงทวีตที่คุณอาจพลาดเมื่อไม่อยู่ไปนั้น วันนี้ก็ถึงคิวของ "Tweet translation" หรือฟีเจอร์แปลภาษาข้อความทวีตบ้างครับ

วิธีการใช้งานก็คล้ายคลึงกับฟีเจอร์นี้ใน Facebook โดยทวีตใดที่ไม่ใช่ภาษาเดียวกับภาษาที่เราตั้งค่าเอาไว้ จะมีไอคอนรูปโลกปรากฏอยู่ เมื่อเข้าไปดูในทวีตนั้น แล้วคลิกหรือแตะที่ "View translation" คำแปลของข้อความทวีตในภาษาที่เราตั้งค่าไว้ก็จะแสดงที่ด้านล่างของทวีตนั้นๆ ซึ่งในส่วนของการแปลภาษานั้นอำนวยการโดย Bing Translator เจ้าเก่าครับ

ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานแล้วในหน้าเว็บ Twitter, แอพ Twitter for iOS, Twitter for Android และ Tweetdeck

วันนี้ Twitter ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า While you were away... โดย Twitter ได้อธิบายว่าเป็นฟีเจอร์เก็บทวีตสำคัญตอนที่เราไม่ได้ดู Timeline จากปัจจัยหลายอย่างมาแสดงให้ โดยที่ยังไม่เสียบรรยากาศสภาพความเป็น real-time ของ Twitter

ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการแล้วสำหรับผู้ใช้ Twitter บน iOS หลังจากได้ทดสอบมาสักพัก ส่วนบนเว็บและแอพบน Android จะตามมาทีหลัง

ที่มา - Twitter Blog

หลังจากที่มีข้อมูลแอพ Twitter Beta บน Windows Phone หลุดออกมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยแอพดังกล่าวได้เน้นการใช้งานความสามารถ Social Extensibility ที่มาพร้อมกับ Windows Phone 8.1 วันนี้ Twitter ก็ได้อัพเดตความสามารถดังกล่าวเข้าสู่แอพหลักแล้วครับ

Twitter ประกาศเข้าซื้อ ZipDial บริษัทการวิเคราะห์การตลาด และแบรนด์บนอุปกรณ์พกพาสัญชาติอินเดีย โดยไม่เปิดเผยมูลค่าการเข้าซื้อครั้งนี้

ในโพสต์บนเว็บไซต์ทางการของ Twitter ระบุว่าการเข้าซื้อ ZipDial จะช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเนื้อหาบน Twitter ได้ง่ายขึ้น จากความสามารถของ ZipDial ที่มีผลงานพัฒนาแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ง่าย ใช้งานได้หลายอุปกรณ์ เพื่อเข้าถึงผู้คนได้มหาศาล

นอกจากการตลาดที่เด่นแล้ว ZipDial ยังมีผลงานเด่นคือการสร้างวิธีการให้แบรนด์สามารถให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมได้แบบฟรีๆ ด้วยการยิงเบอร์ (หรือ missed call) เพื่อร่วมสนุกกับแคมเปญของแบรนด์ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ Twitter เองก็เคยจับแคมเปญแบบนี้กับ ZipDial มาก่อน

Twitter จัดงานประกวดสตาร์ตอัพของตัวเองเป็นครั้งแรกโดยใช้ชื่องานว่า "Hatch" (กกไข่ หมายถึงการฟูมฟักบริษัทหน้าใหม่) เงื่อนไขการส่งบริษัทเข้าประกวดคือ

บัญชี @CENTCOM หรือ U.S. Central Command ถูกแฮกโดยกลุ่มที่อ้างว่าเป็น ISIS จากนั้นโพสภาพรายการข้อมูลส่วนตัวของทหารหลายหน่วยเพื่อข่มขู่ พร้อมกับแฮกบัญชียูทูบ

ตอนนี้ทางทวิตเตอร์ได้ระงับบัญชีนี้ไปแล้ว

จนตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่ากลุ่มแฮกเกอร์ยึดบัญชีทั้งทวิตเตอร์และยูทูบได้อย่างไร

ที่มา - @CarlaBabbVOA

ระบบวิดีโอของ Twitter ที่อัพโหลดผ่าน Twitter โดยตรง จะสามารถแก้ไขและโพสต์วิดีโอได้ (โดยปกติตอนนี้ถ้าผู้ใช้จะแชร์วิดีโอตัวเองใน Twitter จะชอบไปใช้ Vine) แต่ระบบที่สามารถอัพโหลดผ่าน Twitter ได้นั้นจะได้วิดีโอความยาว 20 วินาทีต่อคลิป

ก็น่าจะเป็นอะไรที่ทำให้การเล่น Twitter สนุกมากขึ้น ระหว่างนี้ก็ดูรายละเอียดอื่นๆ จากหน้า FAQ ไปก่อน

ที่มา - Re/code

ทีม Developer Advocacy ของ Twitter ประกาศว่าตอนนี้ได้แบ่งปันโค้ดบางส่วนบน GitHub ตามที่นักพัฒนาเรียกร้องกันเข้ามาผ่านหน้าเว็บ TwitterDev เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่ทาง Twitter เคยประกาศว่ากำลังเตรียมรองรับวิดีโอในรูปแบบของวิดีโอทั่วไป (ไม่ใช่คลิปสั้นไม่เกิน 6 วินาทีแบบ Vine) มาถึงตอนนี้ก็เริ่มมีข้อมูลของบริการตัวนี้ออกมาบ้างแล้วครับ

จากข่าวเก่า Twitter เตรียมแสดง "ทวีตที่เราไม่ควรพลาด" ในหน้าไทม์ไลน์ ข่าวนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปจากข่าวเดิม เพียงแต่มีผู้ใช้บางส่วนเริ่มได้เห็นทวีตที่อาจพลาดช่วงไม่ได้เปิดอ่านกันมากขึ้น (Twitter ใช้คำว่า While you were away) ซึ่งอาจจะทำให้รู้สึกแปลกๆ ไปบ้างเพราะทวีตเหล่านั้นปรากฎมาแทรกไทม์ไลน์เดิมๆ แต่ก็พบว่ามีผู้ใช้บางส่วนก็รู้สึกชอบ ไม่ได้แอนตี้อะไร

ที่มา - TechCrunch

William Shatner นักแสดงชายสัญชาติแคนาเดียนอเมริกัน ทวีตสกรีนช็อตจาก iPhone ของเขาไปยัง Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์, ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Square เพื่อรายงานเกี่ยวกับโฆษณาบัญชี MasterCard ในรายชื่อบุคคลที่เขากำลังติดตามอยู่ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้กดติดตามแต่อย่างไร (ซึ่งไม่ควรจะมี)

โฆษณาบัญชี MasterCard ยังคงตามมาหลอกหลอนในหน้าผู้ที่กำลังติดตามอยู่ของ Dwayne Johnson (หรือที่เรารู้จักกันดีในฉายา The Rock) ซึ่งโดยปกติแล้ว "The Rock" จะติดตามแค่คนเดียว (นั่นก็คือ มูฮัมหมัด อาลี นักมวยชื่อดัง) ทว่ากลับมีโฆษณาบัญชี MasterCard โผล่มาด้วย แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว จะพบว่า "The Rock" ติดตามแค่คนเดียวจริง ๆ และไม่มี MasterCard อยู่ในลิสต์นี้เลย

จากก่อนหน้านี้ที่ Sony Pictures ขู่ฟ้องสื่อต่างๆ หากเผยแพร่เนื้อหาอีเมลที่ถูกแฮค คราวนี้เป็นคิวของทาง Twitter ที่ได้รับจดหมายจาก Sony Pictures ให้ลบทวีตที่เผยแพร่รูปภาพเอกสารของบริษัทที่ถูกแฮค พร้อมทั้งแบนแอคเคาท์นั้นด้วย มิเช่นนั้นทาง Sony Pictures จะดำเนินคดีกับ Twitter

เนื้อความสำคัญในจดหมายที่ถูกส่งในกับทาง Twitter เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาระบุว่า หากข้อมูลที่ถูกแฮคไป ยังคงถูกเผยแพร่ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดบน Twitter ทาง Sony คงจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะให้ Twitter รับผิดชอบความเสียหายดังกล่าว

จากข่าวเก่า Twitter ทดสอบแสดงข้อมูลสถิติของแต่ละทวีต ก็พบว่าในแอพ Twitter for iPhone ได้ความสามารถนี้แล้ว โดยจะสามารถดูสถิติของแต่ละทวีตได้ เช่น มีคนเห็นทวีตนี้กี่คน มีคนคลิกที่ชื่อหรือรูปโปรไฟล์เรากี่คน และอื่นๆ แต่ว่าตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวยังไม่รองรับบนแอพแอนดรอยด์ ก็อาจจะต้องรอกันสักหน่อย

ที่มา - The Next Web

เว็บไซต์ Business Insider รายงานข่าววงในว่า Twitter จะจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Foursquare ด้านข้อมูลสถานที่ในข้อความทวีต โดยจะประกาศเรื่องนี้ในปี 2015

ทั้ง Foursquare และ Twitter ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้ แต่ในเอกสารนำเสนอต่อนักลงทุนของ Twitter มีกล่าวถึงฟีเจอร์ด้านสถานที่หลายอย่างในอนาคต เช่น การเช็คอินแบบ Foursquare ในข้อความทวีต, การแนะนำสถานที่ในบริเวณใกล้เคียง และการจัดเนื้อหาให้เหมาะกับพิกัดปัจจุบันของผู้ใช้

มีรายงานจาก Adweek ว่า Twitter กำลังพิจารณาว่าจะเล่นวิดีโอที่แสดงบน Timeline ของผู้ใช้อัตโนมัติ

เนื่องจากตอนหลัง Twitter เป็นพาร์ทเนอร์กับ ESPN และผู้ให้บริการด้านวิดีโอรายอื่น ซึ่งผู้ให้บริการเหล่านี้ได้แนบวิดีโอไปกับทวีตนับปีแล้ว และ Twitter ก็ได้ใช้ระบบ Amplify กับวิดีโอเหล่านั้น โดยระบบเล่นวิดีโออัตโนมัติจะมาตอบโจทย์นี้คือผู้ใช้จะเห็นโฆษณาผ่านระบบ Amplify มากขึ้น

จากข่าว Instagram ประกาศตัวเลขผู้ใช้งาน 300 ล้านคน ซึ่งแซง Twitter ที่สิ้นสุดไตรมาสสามมีผู้ใช้งานอยู่ 284 ล้านคน เท่ากับเป็นการตอกย้ำอัตราเติบโตของ Twitter ที่ช้าลงมาก โดย Fortune ได้สัมภาษณ์ Evan Williams ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter และปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นบอร์ด Twitter เพื่อขอความเห็นในประเด็นนี้

Twitter เปิดเว็บไซต์ย้อนดูปี 2014 #YearOnTwitter พาทุกคนย้อนดูว่าห้วงปีที่ผ่านมามีเรื่องราวอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบนโลกแห่ง Twitter บ้าง ไม่ว่าจะเป็นมหกรรมฟุตบอลโลก, กระแสเรียกร้องเพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็กสาวชาวไนจีเรียที่ถูกผู้ก่อการร้ายจับเป็นตัวประกัน, การลงมติแยกตัวเป็นรัฐอิสระของสกอตแลนด์, การประท้วงในฮ่องกง รวมถึงการประท้วงเรื่องเหตุการณ์ในเมือง Ferguson ที่เกี่ยวพันกับการเหยียดสีผิวในสหรัฐอเมริกา

ราว 2 สัปดาห์ก่อนเพิ่งมีการเปิดเผยว่า Twitter จะเก็บข้อมูลว่าผู้ใช้มีแอพอะไรในอุปกรณ์บ้าง ซึ่งอาจมีคนสงสัยว่า Twitter จะอยากรู้ไปทำไม (แต่บางคนอาจพอเดาทางได้ตั้งแต่ตอนนั้น) มาวันนี้ความจริงก็กระจ่างแล้วว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่มาเสริมระบบโฆษณาของ Twitter ที่จะทำให้นักโฆษณาสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ว่าต้องการให้ใครมองเห็นโฆษณาของตนเองบ้าง โดยใช้เกณฑ์การคัดกรองกลุ่มเป้าหมายจากข้อมูลแอพที่ใช้งานนั่นเอง

Twitter เวอร์ชันแอพสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android มีฟีเจอร์ใหม่เป็นฟิลเตอร์สำเร็จรูปสำหรับการแต่งรูปสวยทันใจก่อนทวีตข้อความ

การใช้งานฟิลเตอร์ตกแต่งภาพนี้ยังสามารถปรับระดับ "ความเข้ม" ของฟิลเตอร์ได้ด้วย โดยเมื่อผู้ใช้เลือกภาพที่จะใส่ฟิลเตอร์ได้แล้ว แตะที่ปุ่มฟิลเตอร์หนึ่งครั้งเพื่อเรียกใช้ และแตะอีกครั้งเพื่อให้แถบปรับระดับความเข้มของฟิลเตอร์ปรากฏขึ้นมา เพียงเท่านี้ผู้ใช้ก็สามารถเลื่อนปุ่มบนแถบดังกล่าวเพื่อปรับแต่งรูปได้ตามความต้องการ

แต่ก่อนหากไม่พอใจทวีตใดๆ เราสามารถเลือกได้ว่าจะรายงาน, บล็อก หรือปิดกั้น (mute) ทวีต ให้จบๆ ไป แต่ตอนนี้สามารถรายงานโดยระบุคำอธิบายว่าทำไมถึงรายงานทวีตนี้ได้แล้ว และสามารถแจ้งรายงานทวีตผ่านมือถือได้ง่ายขึ้นเช่นกัน (ดูคลิปอธิบายวิธีรายงานทวีตได้ท้ายเบรก)

นอกจากนี้ในหน้าโปรไฟล์ หากเข้าไปที่ส่วนของการตั้งค่า จะพบรายชื่อบัญชีที่เราได้ทำการบล็อกไว้ ซึ่งในตรงนี้ก็สามารถจัดการคนที่บล็อกด้วยการอันบล็อก หรือจะซ้ำหนักเข้าไปกว่าเดิมด้วยการแจ้งรายงานไปยัง Twitter ก็ทำได้เช่นกัน

ที่มา - Twitter

มีผู้ใช้บางรายพบว่าเมื่อดูทวีตในแอพ iOS จะมีปุ่มที่กดไปแล้วสามารถดูข้อมูลสถิติของทวีตนั้นๆ เช่น ค่า impression, ค่าการมีปฏิสัมพันธ์ และอัตราการมีปฏิสัมพันธ์ พร้อมข้อมูลสถิติอื่นๆ เช่น มีคนคลิกลิงก์ในทวีตกี่คน มีคนกดขยายทวีต (เพื่อดูรูปหรือข้อมูลสื่อที่ลง) กี่คน

หากฟีเจอร์นี้ได้ปล่อยให้ใช้โดยทั่วไปจริงก็น่าจะดีกับนักการตลาดหรือคนที่ใช้ทวิตเตอร์เพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ จะได้วิเคราะห์ว่าควรจะทวีตอะไรที่ดีครับผมเหมาะสมครับท่านกันได้

ที่มา - TechCrunch

เพื่อให้การศึกษาข้อมูลของผู้ใช้เพื่อหาลู่ทางทำเงินจากการขายโฆษณาเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น Twitter จึงมีแผนที่จะเก็บข้อมูลรายชื่อแอพที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดในมือถือด้วย โดยผู้ใช้บางส่วนจะได้เห็นข้อความแจ้งเตือนในหน้าไทม์ไลน์ และสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้

ทั้งนี้ iOS และ Android นั้น อนุญาตให้นักพัฒนาภายนอกสามารถเก็บข้อมูลผู้ใช้ในลักษณะนี้ได้ เช่น นักพัฒนาสามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ทุกเวลาและเรียกดูรายชื่อแอพที่กำลังเปิดอยู่ในสมาร์ตโฟน หากนักพัฒนาติดต่อไปยังอุปกรณ์บ่อยพอ ก็จะได้รายชื่อแอพทั้งหมดที่ผู้ใช้มี แต่นักพัฒนาจะได้แค่รายชื่อแอพเท่านั้น จะไม่ได้เข้าถึงข้อมูลภายในแอพแต่อย่างใด

Twitter เริ่มพยายามจะหาลู่ทางทำเงินมากขึ้นเรื่อยๆ และเนื่องจากตลาดการซื้อขายในออนไลน์กำลังเติบโตได้ดี Twitter ก็เลยพยายามสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ขายเข้าถึงผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น โดย Offers ก็มีลักษณะคล้ายๆ กับเจ้าอื่น คือเป็นโฆษณาเสนอส่วนลดที่ปรากฎในหน้าไทม์ไลน์ ซึ่งหากผู้ใช้สนใจข้อเสนอดังกล่าว ก็สามารถกดรับข้อเสนอและจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้เลย

เบื้องต้นฟีเจอร์นี้ยังเปิดให้ใช้เฉพาะในอเมริกา ก็ต้องมารอดูว่าจะเปิดให้ใช้ทั่วโลกหรือไม่

ที่มา - Twitter

เมื่อไม่นานมานี้ Twitter เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้สำหรับค้นหาทวีตแบบสาธารณะได้ทั้งหมดอย่างไร้ข้อจำกัดใดๆ ซึ่งก็ดูจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่กลับกลายเป็นข่าวร้ายสำหรับนักพัฒนา หลังจากมีรายงานว่าแอพ Twitter ที่ทำโดยนักพัฒนาภายนอกจะไม่สามารถใช้งาน API ส่วนนี้ได้

การจำกัดการเข้าถึง API ในส่วนนี้เป็นแนวทางเดียวกับที่ Twitter เคยทำเมื่อครั้งจำกัด token การใช้งาน Twitter บนแอพภายนอกเมื่อปีก่อน โดยเหตุผลก็คงหนีไม่พ้นการดึงผู้ใช้กลับมาสู่แอพหลักของ Twitter เอง เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูล และแสดงโฆษณาได้สะดวกขึ้น

ระบบของทวิตเตอร์มีข้อความสาธารณะ (ที่เรียกว่า "ทวีต") และข้อความส่วนตัว (direct message) ที่อาจชวนให้สับสนระหว่างกันอยู่บ้าง ล่าสุด Anthony Noto ซีเอฟโอของทวิตเตอร์ก็ "พลาด" เผลอทวีตเรื่องลับๆ ของบริษัทออกสู่สาธารณะ

ความน่าสนใจอยู่ที่ข้อความของ Noto พูดถึงการซื้อกิจการบริษัทไม่ระบุนามแห่งหนึ่ง (โชคดีที่ไม่มีชื่อหลุดออกมา) โดยเขาโพสต์ว่าทวิตเตอร์ควรซื้อบริษัทนี้ และเขามีแผนเจรจากับผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนั้นที่จะมาพบกันในช่วงเดือนธันวาคมแล้ว

วงการสื่อไอทีคาดกันว่าบริษัทที่ Noto หมายถึงคือ Mic News เว็บข่าวสำหรับคนรุ่นใหม่ ต้องรอดูกันว่าแม่นแค่ไหนครับ