Mozilla และ National Science Foundation ได้ร่วมมือกันจัดตั้งโครงการ Wireless Innovation for a Network Society (WINS) พร้อมสนับสนุนเงินรางวัลให้กับผู้ชนะ
โครงการ WINS นี้คือโครงการแข่งขันการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้ โดยมีการแข่งขันสองประเภท ประเภทแรกคือ off-the-grid เป็นการเชื่อมต่อในสถานการณ์ภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉินใด ๆ และอีกประเภทคือ smart community networks จะเป็นการใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานเดิม แต่ขยายการเชื่อมต่อให้เข้าถึงพื้นที่ห่างไกลได้ดียิ่งขึ้น
X ส่วนงานวิจัยของ Alphabet เผยว่า รัฐอานธรประเทศของอินเดียเตรียมจะเข้าซื้อเทคโนโลยีไร้สายใหม่ที่กำลังพัฒนา เพื่อใช้ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกับประชาชนนับล้านภายในรัฐโดยไม่ต้องลากสายเคเบิล
ภายใต้สัญญานี้ จะมีการติดตั้งกล่องส่งสัญญาณจำนวนกว่า 2,000 กล่องห่างกันทุก 20 กิโลเมตร ตามเสาหรือหลังคาเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับพื้นที่ที่มีประชากรพำนักอยู่ โดยไอเดียของโครงการนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือและ Wi-Fi
เมื่อเดือนมิถุนายนเคยมีรายงานว่ากูเกิลเล็งใช้ Gigabit Wi-Fi ที่ความถี่ 5GHz แทนการลากสายไฟเบอร์เข้าบ้าน ล่าสุดกูเกิลได้ส่งรายงานถึง FCC ว่าจะทดสอบเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งถูกแก้ไขรายละเอียดบางส่วนออกไปเนื่องจากยังเป็นความลับทางการค้า โดยข้อมูลใหม่นี้ระบุว่ากูเกิลเตรียมใช้สัญญาณไร้สายที่ความถี่ระหว่าง 3.3 และ 3.8GHz แทน 5GHz ตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ในรายงานที่เผยแพร่ต่อสาธารณชนถูกเซ็นเซอร์ข้อมูลสำคัญๆ ออกไปหลายส่วน เช่นรายละเอียดของการทดสอบ, รายชื่ออุปกรณ์ที่จะใช้, ข้อมูลเสาอากาศ รวมถึงรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆ
กูเกิลจะทดสอบเทคโนโลยีดังกล่าวในรัฐแคลิฟอร์เนีย, โคโลราโด, แคนซัส, เนบราสกา, นอร์ทแคโรไลนา, ยูทาห์ และเวอร์จิเนีย และคาดว่าจะเป็นบริการในอนาคตของ Google Fiber แทนการลากสายไฟเบอร์เข้าบ้านลูกค้าแต่ละหลัง ซึ่งจะประหยัดค่าเดินสายและค่าติดตั้งไปได้มาก
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า Google Fiber เล็งจะขยายบริการ Google Fiber เป็นแบบบรอดแบรนด์ไร้สาย ล่าสุด Eric Schmidt ประธานบริษัท Alphabet ออกมาให้รายละเอียดแล้วว่าน่าจะเป็นการใช้ Gigabit Wi-Fi
จุดเด่นของ Gigabit Wi-Fi คือใช้มาตรฐาน 802.11ac และปล่อยบนคลื่นความถี่ 5GHz เท่านั้น แต่ส่งข้อมูลได้เร็วกว่า เพียงแต่จุดอ่อนของการใช้คลื่นความถี่ 5GHz คือความสามารถในการทะลุทะลวงสิ่งกีดขวางค่อนข้างต่ำ ซึ่งคาดว่า Google จะใช้เทคโนโลยีนี้ในการส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายไปยังชุมชนหรือหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกล เพราะจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการลากสายไฟเบอร์เข้าไปยังตัวบ้าน
สหภาพยุโรปประกาศแผนความร่วมมือในการแปลงคลื่นย่าน 2000 (ช่วงคลื่น 1920-1980 MHz และ 2110-2170 MHz เรียกในระบบ 3G ว่า 2100) ที่ใช้ให้บริการ UMTS หรือบริการ 3G ไปเป็นบริการ 4G ภายในปี 30 มิถุนายน 2014
ประเทศในเครือสหภาพยุโรปใช้คลื่นช่วงนี้ให้บริการ UMTS มาตั้งแต่ปี 1999 ก่อนจะกำหนดให้ครอบคลุมทั่วยุโรปมาตั้งแต่ปี 2002
ยังไม่มีการกำหนดว่าจะใช้เทคโนโลยีอะไร แต่สหภาพยุโรปก็มีแผนชัดเจนว่าจะทำให้เทคโนโลยีในคลื่นย่านนี้เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันได้ทั้งภูมิภาค ในแง่นี้ดูเหมือน LTE จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้เปรียบที่สุดในตอนนี้
คลื่นทั้งสองช่วงจะทำให้สหภาพยุโรปมีคลื่นสำหรับให้บริการบรอดแบนด์เพิ่มอีก 120 MHz รวมแล้วจะมีคลื่นให้บริการบรอดแบนด์รวมถึง 1000 MHz
เอกสารหลุดจาก ITU หรือสหภาพโทรคมนาคมนานาชาติอ้างว่า ITU เตรียมที่จะเก็บภาษีพิเศษเฉพาะบริการที่ใช้แบนด์วิธสูงอย่าง Facebook และ Netflix โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบนด์วิธที่เกิดขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มที่พยายามผลักดันภาษีดังกล่าวได้แก่นักล็อบบี้ยิสต์ต่าง ๆ ที่ทำให้กับบริษัทโทรคมนาคมใหญ่ยักษ์หลายรายของยุโรป ซึ่งกลุ่มนี้คือกลุ่มเดียวกันที่เชื่อว่ากูเกิล และผู้ให้บริการทางด้านเนื้อหาต่าง ๆ ก็ควรจะรับภาระรายจ่ายที่เกิดขึ้นจากบริการเหล่านี้ด้วย
บ้านของคุณยายอายุ 48 ปีจะเป็นบ้านหลังแรกที่ทำการติดตั้ง Super WiFi Hotspot ซึ่งเป็นระบบ WiFi ที่ใช้คลื่นทีวี UHF เก่าที่ไม่ได้มีการใช้งานแล้วในสหรัฐหลังจากการเปลี่ยนระบบโทรทัศน์มาเป็นระบบดิจิตอล มาใช้ประโยชน์ในการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายให้กับชุมชนที่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ต่ำ โดยการสร้าง Super WiFi Hotspot ในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัย Rice และกลุ่ม Technology For All (TFA) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรท้องถิ่น โดยคาดว่าชาวสหรัฐอาจจะได้เห็น Super WiFi Hotspot มากขึ้น
ในขณะที่วันนี้ (11 มิ.ย. 2553) กทช. เปิดรับฟังความเห็นเพื่อกำหนดทิศทางการออกใบอนุญาต Broadband Wireless Access (BWA) หรือที่เรามักจะรู้จักกันในนาม WiMAX การประมูลคลื่นความถี่ในย่าน 2.3 GHz สำหรับ BWA ในอินเดียก็เพิ่งจบลงเช่นกันหลังจากผ่านมา 16 วัน 117 รอบ ด้วยมูลค่ารวมกว่า 2.84 แสนล้านบาท ทะลุทุกการคาดการณ์อีกแล้ว
คณะกรรมาธิการการสื่อสารของสหรัฐอเมริกา (FCC) เปิดเผยว่า แผนในการเปิดให้บริการบรอดแบนด์ฟรีคืบหน้าไปอีกมากแล้ว หลังจากเปิดให้มีการรับฟังความเห็นสาธารณะมากว่า 2 ปีแล้ว และกำลังจะนำเข้าเสนอเป็นครั้งสุดท้ายใน FCC ก่อนลงมติต่อไป
หากแผนดังกล่าวได้รับการรับรองโดย FCC ในวันที่ 18 ธันวาคม 2551 แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการส่งเรื่องไปยังว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา พิจารณาภายหลังจากเข้าปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้แล้ว ภายในปีหน้าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้บริการบรอดแบนด์ฟรีทั่วประเทศ
รายงานจาก UMTS Forum ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมบรอดแบนด์ไร้สาย (mobile broadband) เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2551 ระบุว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้มือถือ 3G บนโครงข่าย UMTS ซึ่งใช้เทคโนโลยี WCDMA เกือบ 400 ล้านรายแล้ว
ขณะนี้ผู้ใช้ UMTS/WCDMA มีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ใน 10 ของตระกูล GSM/UMTS (ประกอบด้วย GSM, EDGE, WCDMA และ HSPA) ที่มีการใช้งานทั่วโลกกว่า 3.3 พันล้านราย
หากนับรวมการให้บริการ 3G บนโครงข่าย CDMA2000 1xEV-DO ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้กว่า 100 ล้านรายด้วยแล้ว จะทำให้มีผู้ใช้ 3G ทั่วโลกกว่า 400 ล้านรายทีเดียว