เว็บไซต์ Re/code อ้างข้อมูลวงในว่า Alphabet กำลังจัดองค์กร Google X ใหม่ เปลี่ยนชื่อเป็น "X" เพียงอย่างเดียว พร้อมเปิดเผยโลโก้ใหม่เป็นรูปตัว X สีเหลืองด้วยเลย (ข่าวจริงแท้แค่ไหน ทาง Alphabet ยังไม่ยืนยัน)
ภารกิจของ X จะยังเหมือนเดิมคือคิดใหญ่ทำใหญ่ (หรือที่เรียกว่าโครงการ moonshot คือใหญ่ระดับส่งยานขึ้นดวงจันทร์) โดยมีสถานะเป็น "ศูนย์บ่มเพาะ" (incubator) ของเครือ Alphabet ทั้งหมด ถ้าโครงการไหนมีศักยภาพไปต่อได้ในเชิงธุรกิจ มันก็จะเลื่อนชั้นกลายเป็นบริษัทใหม่ในเครือ Alphabet ต่อไป ตัวอย่างบริษัทลูกของ Alphabet ที่เคยเป็นโครงการของ X มาก่อนคือ บริษัทด้าน Life Science ที่ได้ชื่อว่า Verily
กูเกิลจัดทัพหน่วยงานด้านหุ่นยนต์ใหม่ โดยดึงโครงการหุ่นยนต์และโดรน 2 โครงการมาอยู่ใต้ร่มของ Google X
โครงการแรกคือ Project Titan การสร้างโดรนดาวเทียมวงโคจรสูง (high-altitude satellite drone) ที่ได้มาจากการซื้อ Titan Aerospace ถูกย้ายมารวมกับโครงการ Project Wing โดรนส่งพัสดุ ใต้ร่ม Google X เหมือนกัน
เพิ่งออกมาเผยแนวคิดใช้โดรนส่งสินค้าไปเมื่อช่วงปลายปีก่อนในแผน Project Wing ตอนนี้กูเกิลออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะเปิดให้บริการนี้ในปี 2017 ที่จะถึงแล้ว
ประกาศทางการดังกล่าวมาจาก David Vos หัวหน้าทีม Project Wing นั่นเอง โดย Vos บอกสั้นๆ ว่าได้วางเป้าหมายให้โครงการนี้สร้างโมเดลธุรกิจ และพร้อมเปิดให้บริการในปี 2017 ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทั้งชนิดโดรนที่ใช้ และบริเวณที่จะไปเปิดให้บริการ ทั้งนี้ทั้งนั้นทางทีม Project Wing ระบุว่าเริ่มทดสอบบินในออสเตรเลียไปบ้างแล้ว
ความต่างของโดรนที่พัฒนาโดยกูเกิลที่รู้กันตอนนี้คือ สามารถส่งสินค้าโดยร่อนลงไปจอดที่พื้นเพื่อส่งได้ ต่างกับโดรนเจ้าอื่นๆ ที่ใช้วิธีการปล่อยลงมากลางอากาศแทน
Sergey Brin ผู้ก่อตั้งกูเกิล ออกมาประกาศว่าบริษัทโฮลดิ้ง Alphabet จะมีสมาชิกใหม่คือทีมวิจัยด้าน life science (บางคนแปลว่า "ชีววิทยาศาสตร์") ซึ่งเคยอยู่ในสังกัดของ Google X จะแยกตัวออกมาเป็นบริษัทใหม่
บริษัทแห่งใหม่ยังไม่มีชื่อเรียก แต่จะทำงานวิจัยด้าน life science ในสาขาต่างๆ ทั้งการวิจัยและการทดลองใช้จริงกับการแพทย์ต่อไป โดย Andy Conrad หัวหน้าทีมจะนั่งเก้าอี้ CEO ของบริษัทใหม่แห่งนี้
ผลงานของทีมนี้ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังคือ คอนแทคเลนส์อัจฉริยะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ตรวจระดับน้ำตาลจากน้ำตาโดยไม่ต้องเจาะเลือด
ที่มา - +Sergey Brin
Bloomberg รายงานว่า Google X แผนกพัฒนานวัตกรรมของกูเกิลได้ทำสายรัดข้อมืออัจฉริยะของตัวเอง โดยออกแบบมาเพื่อใช้งานทางการแพทย์โดยเฉพาะ ต่างกับของเจ้าอื่นๆ ที่ทำมาสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
สายรัดข้อมือของกูเกิลมีฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการวัดชีพจร จับจังหวะการเต้นหัวใจ วัดอุณหภูมิผิวหนัง รวมถึงข้อมูลรอบตัวอื่นๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เที่ยงตรง ซึ่งวางตัวมาเพื่องานการแพทย์ทั้งใช้เก็บข้อมูลจากผู้ป่วยเพื่อดูอาการ หรือเพื่องานวิจัยที่ต้องการข้อมูลจากคนไข้แบบนาทีต่อนาที
ถัดจากโครงการรถยนต์ไร้คนขับ กูเกิลเริ่มฝันถึงอนาคตของ "เครื่องบินไร้คนขับ" บ้างแล้ว
Dave Vos หัวหน้าทีมโดรนส่งพัสดุ Project Wing ในสังกัด Google X ขึ้นเวทีงานสัมมนาด้านอากาศยานไร้คนขับของสมาคม Association of Unmanned Vehicle Systems International โดยเขากล่าวถึงอนาคตของธุรกิจการบินที่ไม่ต้องใช้มนุษย์เป็นนักบินอีกต่อไป แต่เปลี่ยนมาเป็นระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์แทน
อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์ของ Vos ยังอีกยาวไกล และเขาบอกเพียงว่าน่าจะได้เห็นอนาคตแบบนี้ภายในช่วงอายุของเขาเอง
Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่า Google X ตั้งทีมวิจัยเรื่องเทคโนโลยีแบตเตอรี่โดยเฉพาะ ทีมวิจัยนี้ยังมีขนาดเล็ก แต่มี Dr. Ramesh Bhardwaj ผู้เชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่ (เคยทำงานกับแอปเปิล) เป็นหัวหน้าทีม ทีมเริ่มพัฒนาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2012 แต่ยังไม่เปิดเผยผลงานว่าประสบความสำเร็จเรื่องใดแล้วบ้าง
Bhardwaj เคยพูดในงานสัมมนาเกี่ยวกับแนวโน้มของวงการแบตเตอรี่ ที่จะนำเทคโนโลยี solid-state, thin-film มาใช้แทนของเหลวแบบในปัจจุบัน ช่วยให้แบตเตอรี่บางลง ดัดงอได้ง่าย ปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์พกพามากขึ้น
หนังสือพิมพ์ The New York Times มีบทสัมภาษณ์ Astro Teller หัวหน้าห้องวิจัย Google X ของกูเกิล
จำข่าวเรื่องงานวิจัยสร้างอนุภาคนาโนไหลตามกระแสเลือดเพื่อตรวจหามะเร็งที่ทีม Google X กำลังทำอยู่ได้ไหม ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า Google X ลงทุนทำผิวหนังมนุษย์เทียมเพื่อใช้ทดสอบการทำงานของอนุภาคที่ว่านี้ด้วย
เว็บไซต์ The Atlantic ได้มีโอกาสบุกเข้าไปชมสถานที่ทำงานของ Google X และสัมภาษณ์ทีมงานเกี่ยวกับงานวิจัยที่ว่านี้ ทั้งยังมีโอกาสได้พบกับชิ้นส่วนแขนมนุษย์ที่ Google X ทำเทียมขึ้นมาเพื่อเลียนแบบร่างกายและใช้ทดสอบการทำงานของอนุภาคนาโนสุดมหัศจรรย์ซึ่งจะทำงานควบคู่กับกำไลหามะเร็งที่ Google X พัฒนาขึ้นมาควบคู่กัน
ทีม Google X เริ่มมีผลงานพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพร่างกายมนุษย์ออกมามากขึ้น ไล่ตั้งแต่การพัฒนารอยสักดิจิทัลและเม็ดยาดิจิทัลที่สานต่องานพัฒนาจากทีมของ Motorola เดิม รวมทั้งการสร้างคอนแทคเลนส์วัดปริมาณน้ำตาลในเลือด ล่าสุด Google ก็ได้ประกาศเรื่องโครงการใหม่ของทีม Google X ในการสร้างอนุภาคนาโนที่สามารถไหลกระจายตัวไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายผ่านทางกระแสเลือดเพื่อทำหน้าที่ตรวจหาเนื้อร้ายที่จะกลายเป็นมะเร็ง
Wall Street Journal รายงานว่าหนึ่งในงานวิจัยและพัฒนาของทีม Google X ขณะนี้มีเรื่องหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ยักษ์ที่สร้างจากจอแสดงผลขนาดเล็กมาต่อเข้าด้วยกัน
Google X นั้นมีการแบ่งทีมวิจัยและพัฒนาออกเป็นทีมย่อยมากมายหลายหลาก หนึ่งในนั้นคือทีมพัฒนาเทคโนโลยีจอภาพซึ่งนำโดย Mary Lou Jepsen ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ One Laptop Per Child ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Pixel Qi บริษัทสตาร์ทอัพผลิตจอภาพที่แสดงผลได้ดีแม้อยู่กลางแดด
Sebastian Thrun ผู้ก่อตั้งทีม Google X ที่รับผิดชอบงานโครงการเทคโนโลยีใหม่ของ Google หลายโครงการ ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว โดยแม้เจ้าตัวจะไม่ได้ระบุชัดว่าลาออกไปทำอะไร แต่ก็เชื่อกันว่าสาเหตุหลักของการตัดสินใจในครั้งนี้ก็เพื่อที่เจ้าตัวจะได้ทุ่มเทเวลาให้กับงานสตาร์ทอัพด้านการศึกษาที่ชื่อว่า Udacity
Thrun ได้เปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวในหน้า LinkedIn ของตนเองตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (แต่เพิ่งจะมีคนสังเกตเห็น) ว่าเขาได้ออกจากตำแหน่งรองประธานของ Google รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ โดยจะยังคงทำงานร่วมกับทีม Google X ต่อไปในฐานะที่ปรึกษาเท่านั้น
ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้แต่งตั้ง Megan Smith ซึ่งทำงานในตำแหน่งรองประธานทีม Google X คนปัจจุบันขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา
การทำหน้าที่เป็นผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกานั้น มีทั้งเรื่องการให้คำปรึกษาแก่ผู้นำประเทศ ตลอดจนมีส่วนร่วมกับการวางนโยบายการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา โดยตำแหน่งนี้มีขึ้นครั้งแรกจากการแต่งตั้งของประธานาธิบดี Barack Obama ในปี 2009
Google เปิดเผยงานคิดค้นอีกอย่างหนึ่งของทีม Google X ด้านการพัฒนาโดรนเพื่อใช้งานสำหรับส่งพัสดุ ภายใต้ชื่อ Project Wing
โดรนที่ Google พัฒนาขึ้นนี้มีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ โดยรูปร่างของมันมีปีกคล้ายเครื่องบิน และมีใบพัด 4 ตัว ในขณะออกตัวและลงจอดตัวโดรนจะวางตัวในแนวตั้ง โดยจะอาศัยใบพัดเป็นตัวควบคุมการเคลื่อนที่ขึ้นและลงในแนวดิ่งคล้ายเฮลิคอปเตอร์ แต่ในขณะเคลื่อนที่ในแนวราบกลางอากาศ ตัวโดรนจะวางตัวในแนวนอนคล้ายเครื่องบินโดยใบพัดจะดูดอากาศผ่านปีกเพื่อสร้างแรงยกใต้ปีก (หลักการเดียวกับการขับเคลื่อนของเครื่องบินจริง)
กูเกิลประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัทดีไซน์ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์อย่าง Gecko Design โดย Jacques L. Gagne ประธานของ Gecko Design บอกว่า ทีมของพวกเขาจะเข้าไปร่วมงานกับทีม Google X ซึ่งเป็นทีมที่ทำงานเกี่ยวกับด้านการพัฒนานวัตกรรมแปลกใหม่
ทั้งนี้การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวของกูเกิลในครั้งนี้ ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของการเข้าซื้อกิจการแต่อย่างไร แต่นี่อาจจะเป็นสัญญาณว่า ผลิตภัณฑ์ชิ้นหน้าที่พัฒนาใน Google X จะมีดีไซน์ที่ดีขึ้นครับ
ที่มา: The Next Web
นับวันกูเกิลเริ่มที่จะสอดผสานเอาเทคโนโลยีที่มีในมือเข้ากับเรื่องต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องเทคโนโลยีทางการแพทย์ มีรายงานมาว่ากูเกิลเริ่มเก็บข้อมูลทางการแพทย์จากกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครกว่า 175 คน และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ โดยใช้ชื่อโครงการว่า Project Baseline ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้หน่วยงาน "กูเกิลเอ็กซ์ (Google X)" ที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในด้านอื่นนอกเหนือจากเรื่องที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
หลังจากที่เปิดตัวคอนแทคเลนส์อัจฉริยะไปเมื่อต้นปี ล่าสุดทางกูเกิลประกาศจับมือกับ Novartis บริษัทยายักษ์ใหญ่สัญชาติสวิต ในการร่วมพัฒนาคอนแทคเลนส์นี้ โดยพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาให้ตรวจวัดระดับน้ำตาล และให้รองรับสายตาสำหรับคนสายตายาว
ทางฝั่งกูเกิลจะอาศัยองค์ความรู้เกี่ยวกับดวงตาและเลนส์จาก Alcon แผนก eye care ของ Novartis ในการพัฒนาคอนแทคเลนส์ โดยเป้าหมายของความร่วมมือ นอกจากคอนแทคเลนส์จะสามารถวัดระดับน้ำตาลจากน้ำตาแล้ว จะสามารถรองรับสายตายาวได้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดีทางกูเกิลและ Novartis ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะเปิดตัวหรือวางขายคอนแทคเลนส์นี้เมื่อใด
หากยังพอจำกันได้ ปีที่แล้ว Google ได้ประกาศโครงการที่ชื่อว่า Project Loon ซึ่งเป็นโครงการใช้บอลลูนเป็นตัวกระจายและส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยหนึ่งปีที่ผ่านมาทาง Google ได้มีการปรับปรุงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาการบินและการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต ให้สามารถใช้บินได้นานและการเชื่อมต่อมีสิทธิภาพและง่ายมากขึ้น โดย Google คาดหวังว่าอีกภายใน 1 ปี จะสามารถใช้งานได้จริง
หากยังจำกันได้ Project Loon คือโครงการของ Google ที่จะใช้บอลลูนเป็นเครื่องมือแผ่ขยายพื้นที่ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงกลางปีก่อน ล่าสุดมีข่าวลือว่า Google กำลังทดสอบปล่อยสัญญาณ LTE ด้วยบอลลูนของ Project Loon ในเขตมลรัฐ Nevada
ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันดีว่า Google ได้ทดสอบการใช้บอลลูนเพื่อปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ในเขตประเทศนิวซีแลนด์ โดยอาศัยการส่งคลื่นในย่านความถี่ 2.4GHz แต่ตอนนี้ Google ได้รับอนุญาตจาก FCC เพื่อขอใช้งานคลื่นวิทยุในย่านความถี่เดียวกันกับที่มีการให้บริการ 4G LTE ในขณะนี้ โดยจะมีการปล่อยสัญญาณวิทยุทั้งจากภาคพื้นดิน และจากสถานีที่อยู่เหนือพื้นดิน 65,000 ฟุต
ทีม Google X ของ Sergey Brin เปิดตัวโครงการ Smart Contact Lens คอนแทคเลนส์ฝังชิป เซ็นเซอร์ขนาดจิ๋ว และเสาอากาศไร้สายที่ช่วยวัดระดับน้ำตาลใน "น้ำตา" สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
กูเกิลบอกว่าคอนแทคเลนส์ตัวนี้จะช่วยแก้ปัญหาการต้องเจาะเลือดเพื่อเช็คระดับน้ำตาลอยู่บ่อยๆ โดยเปลี่ยนวิธีไปตรวจวัดจากน้ำตาแทน ตัวคอนแทคเลนส์รุ่นต้นแบบใช้วิธีฝังชิปและเซ็นเซอร์ไว้ตรงกลางระหว่างเลเยอร์ของคอนแทคเลนส์สองชั้น และวัดระดับน้ำตาลทุกหนึ่งวินาที
Bloomberg รายงานว่าเมื่อไม่นานที่ผ่านมาทีมวิจัย Google X ของ Google ได้ส่งตัวแทนเข้าพูดคุยกับฝ่ายงานอุปกรณ์ด้านการแพทย์ของ FDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา) โดยคาดว่าการเข้าพูดคุยในครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลงานสิ่งประดิษฐ์ใหม่จาก Google X นั่นเอง
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของ FDA ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับอุปกรณ์ใหม่ของ Google ที่ทำงานสัมพันธ์กับดวงตาและหัวใจ ซึ่งอาจมีความเกี่ยวพันกันกับผลงานของ Brian Otis หนึ่งในสมาชิกทีม Google X ผู้ถือสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์คอนแทคเลนส์ที่ทำงานเป็นเซ็นเซอร์จับสัญญาณชีพโดยสื่อสารแบบไร้สาย
ผลงานน้องใหม่ของ Google X ครับ เมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) กูเกิลได้เปิดเผยรายละเอียดโครงการใหม่ในชื่อว่า Project Loon ที่อาศัยบอลลูนในการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายไปยังพื้นที่ห่างไกล
บอลลูนนี้ไม่ใช่บอลลูนธรรมดา (แหงล่ะ) ตัวบอลลูนค่อนข้างใส ติดแผงโซลาร์เซลล์ ระบบสำหรับรับและกระจายสัญญาณ รวมถึงอุปกรณ์ควบคุมการลอยด้วยการเพิ่มหรือลดระดับความสูง
Jeff Huber รองประธานอาวุโสด้านภูมิศาสตร์และการพาณิชย์ ได้ย้ายไปยังหน่วยงานใหม่ Google X
การย้ายตำแหน่งของ Huber เกิดขึ้นเพียง 1 วันให้หลังจากที่ Andy Rubin ย้ายออกจากทีม Android และแท้จริงแล้ว Rubin กับ Huber จะได้ไปร่วมงานกันโดยตรงในทีมโครงการใหม่ Google X
ทีม Google X จะเน้นการพัฒนานวัตกรรมที่แปลกใหม่จากผลิตภัณฑ์เดิม โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาหัวเรือหลักของทีมนี้ก็คือ Sergey Brin หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Google นั่นเอง และแน่นอนว่าผลงานเด็ดของโครงการ Google X ก็มีทั้ง Google Car และ Google Glass รวมอยู่ด้วย