By: mk 
on 21 August 2020 - 10:29
Tags:
นอกจากคดี Epic Games ฟ้อง Google Play Store กรณีส่วนแบ่ง 30% ยังมีนักพัฒนาสาย Android อีกกลุ่มที่รวมตัวกันฟ้องกูเกิลข้อหาผูกขาดแบบเดียวกัน แถมยังเรียกค่าเสียหายจากกูเกิลด้วย (คำฟ้องของ Epic ไม่เรียกค่าเสียหายเป็นตัวเงินจากทั้งแอปเปิลและกูเกิล)
การฟ้องร้องแบบกลุ่มนี้ดำเนินเรื่องโดยบริษัททนาย Hagens Berman Sobol Shapiro LLP และเชิญชวนให้นักพัฒนารายอื่นๆ มาเข้าร่วมฟ้องด้วย (เพื่อรับค่าเสียหายจากกูเกิลด้วยกัน หากชนะคดี) เนื้อหาในคำฟ้องเป็นเรื่องการผูกขาดช่องทางการจัดจำหน่ายแอพบน Android ที่ถึงแม้สามารถทำ sideload ได้ แต่ก็โดนมาตรการ Google Play Protect กีดกัน ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกับที่ Epic เจอกับ Fortnite จนต้องยอมเอาขึ้น Play Store
ที่มา - Android Police
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ในกรณีถ้าฟ้องชนะต่อให้สามารถเลือกเปิดหรือปิด Google Play Protect ผมก็เลือกเปิดนะ
ผมว่า google ควรให้เป็นตัวเลือกนั่นแหล่ะคือมันไม่เหมือน Apple ที่เขาปิดแต่แรกอันนี้มันเหมือนโดนหลอกล่อว่าเปิดกว้างแต่ไปๆมาๆกลับลำซะงั้น
รอฟังแนวคิดเปรียบเทียบกับบ้าน คอนโด ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ตลาด ฯลฯ ต่อครับ
5555 อย่าแขวะสิ
ไม่ได้แขวะครับ แต่อ่านแล้วเพลินดี บางคนแย้งแบบ PC สุดๆ สุดแล้วยังสุดได้อีก เพลินจริงๆ
+555
รอติดตามด้วยคนครับ
รอด้วย
คนเทียบคิดหนักแล้วครับตอนนี้ ไม่รู้จะไปเทียบตรงไหน 5555555555555
อยากขายของบนทางเท้าริมถนน มีทั้งแบบค่าที่ฟรีกับจ่ายส่วย ?
แลกกับความปลอดภัยของผู้ซื้อที่อาจต้องไปเดินบนถนนเสี่ยงโดนสอยแทน
พอเทียบได้ไหม
เหมือนซื้อที่ดินในหมู่บ้าน ที่เข้าใจว่าต้องขอน้ำ-ไฟ มาติดตั้งเอง
พอสร้างเสร็จ กลับโดนผู้ใหญ่บ้านเดินมาบอกว่า
ต้องขอใช้น้ำ-ไฟ ผ่านบ้านเค้าเท่านั้น ห้ามขอไฟหลวงใช้เอง
แล้วบวกค่าใช้เพิ่มจากหลวง 30% เป็นค่าดูแล
ได้มะ ๆ
ไม่ได้สิ อันนั้นคือมุมของผ้ใช้
ยังไม่เคยเห็นใครเทียบกับtaxi เหมือนซื้อรถ(iPhone)มาขับแล้วToyota(Apple)ขอส่วนแบ่งค่าโดยสารเพิ่ม30%ทั้งที่ต้องจ่ายค่าผ่อนรถอยู่แล้วแถมเวลาซ่อม(เขียนโปรแกรม)ต้องซ่อมที่ศูนย์เท่านั้น(Macbook)ห้ามไปซ่อมที่อู่(PC)ซึ่งรถยี่ห้ออื่น(Android)เขาก็ซ่อมใช้งานกันได้ ไม่ได้เป็นการรักษาผลประโยชน์ลูกค้าตามอ้างในสื่อแต่เป็นการทำธุรกิจแบบ key.mai.hai.mha.drag(สุภาษิตแถวบ้าน)คือเอาทุกเม็ดเก็บทุกหน่วย โดยที่บางคนตะโกนบอกว่าไม่พอใจก็ไปอ๊อกเหล็กสร้างรถมาขับเอาเองสิ โดยที่คุณไม่ได้คำนึงว่ามันเป็นการรังแก"ผู้ที่มีศักยภาพน้อยกว่าในสังคม"รึปล่าว เหมือนเวลาบริษัทหลายๆแห่งต้องการลดต้นทุน เขาเลือกที่จะลงกับแรงงานก่อน ลดเงิน บีบออก โอฟรี มากกว่าที่จะใช้เทคโนโลยี แต่อย่างAppleนี่ลดต้นทุนด้วยการใช้เทคโนโลยีและหักคอคนตัวเล็กๆ บริษัทถึงได้มีมูลค่าแตะ 2 Billion USD ไปแล้วไง
เทียบแบบนี้ไม่ถูกครับ Apple Google ลงทุนทำแพล็ตฟอร์มเป็นแสนๆล้าน แล้วเปิดให้เช่า iPhone เหมือนบูทขายของ นักพัฒนาคือเช่าเขาขาย ไม่ได้ไปซื้ออะไรทั้งสิ้น นักพัฒนาจ่ายค่าเช่าแค่ปีละ 4 พันบาทเท่านั้น นอกนั้นไม่เสียอะไรเลยนอกจากต้นทุนพัฒนาของตัวเอง
ทุกบูท iPhone ลูกค้าก่อนที่จะเข้าต้องจ่ายค่าสร้าง
บูทให้กับ Apple ก่อนที่จะเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้
ซื้อแล้วจะเอาไปเล่นที่บูท Android ก็ไม่ได้
เมื่อ Apple สร้างบูท iPhone มีฟีเจอร์ใหม่
ลูกค้าต้องจ่ายค่าบูทใหม่ด้วยตัวเองและหาทางขายบูทเก่าเอง
เทียบกับประเทศต้องมาแล้วแหละ
:-)
ไม่มีฟ้องร้องที่ apple ไม่ยอมให้พัฒนา app ios บน os อื่นบ้างเหรอครับ
อยากทำบน windows อะ ?
มีหรอครับ ผมเห็นแอพดังๆส่วนใหญ่ก็ลงทั้ง iOS ทั้ง Android
ถ้าหมายถึง MacOS ผมไม่เคยใช้ ไม่ทราบ
หมายถึง ถ้าจะ build app ของ ios อะครับ
มันต้องใช้ mac os เท่านั้น อยากให้มันเปิดให้สามารภ build จาก windows มาก ๆ
เพราะตอนนี้มันเหมือนบังคับซื้อ Macbook
ผมเข้าใจว่าเค้าน่าจะอยากได้ iMovies Garageband iWork Photos อะไรพวกนี้มั้งครับ
อยากได้ Xcode ครับ
ถ้าผมเป็น apple คงไม่ปล่อย
ผมพิมพ์ทิ้งไว้ไม่ทันได้กดส่ง แล้วมาส่งทีหลังครับเลยไม่เห็นเม้น
ส่วนตัวผมขอ System Preference มาแทน Control Panel ก็พอแล้วครับ 555
+100000 อยากให้มี Xcode บน windows เหมือนกัน
ได้ยินว่ามันห่วยที่สุดในปฐพีนี่ครับ
แล้วถ้ามันมาบน Windows จริงก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำแอป iOS ได้นะ
ต่อไปกฎหมายใครเป็นเจ้าของ platform ต้องถูกควบคุมอย่างใกล้ชิด เพราะมันเอี้อการผูกขาดได้โดยง่าย
ห้ามเจ้าของ store พรีโหลดแอปของตัวเองก็พอครับ น่าจะถูกใจ dev แต่ลำบากลูกค้า
ต่อไปคงมี 2 เมนู setting กับ app store ที่เหลือต้องโหลดเอา
ทำเป็นหน้าจอเลือกแบบ IE เมื่อสิบปีก่อนก็ได้ครับ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
อ่าว แก้กติกาหน่อยเร็วววว ทำตามไม่ได้
ส่วนแบ่งการตลาดเยอะ น่าจะเข้าข่ายโดนกฎหมายได้ง่ายกว่ากรณี Apple
That is the way things are.
.