ผู้อ่าน Blognone คงคุ้นกับข่าวไมโครซอฟท์ไล่เซ็นสัญญาสิทธิบัตรกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ Android หลายราย แต่หนึ่งรายที่ไม่ยอมเซ็นกับไมโครซอฟท์ก็คือ Barnes & Noble (ซึ่งทำ Nook) และจบลงด้วยไมโครซอฟท์ยื่นฟ้อง Barnes & Noble
ทางทนายของ Barnes & Noble ก็แก้เกมกลับโดยยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานด้านต่อต้านการผูกขาด ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และล่าสุดมีสไลด์ของ Barnes & Noble หลุดออกมาสู่สาธารณะ (เอกสารยื่นวันที่ 12 กรกฎาคม 2011)
เอกสารนี้เผยให้เห็นรายละเอียดของ "สิทธิบัตร" ที่ไมโครซอฟท์นำมาเจรจา/ฟ้องกับ Barnes & Noble ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสิทธิบัตรชุดเดียวที่ใช้เซ็นสัญญากับผู้ผลิต Android รายอื่นๆ (ซึ่งไมโครซอฟท์ไม่เคยเปิดเผย) ใครสนใจก็เอาเลขสิทธิบัตรไปค้นต่อกันตามสะดวก
ทนายของ Barnes & Noble ระบุว่า การใช้สิทธิบัตรมา "ข่มขู่" ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ Android เป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์การต่อสู้กับโอเพนซอร์สที่ไมโครซอฟท์ดำเนินมายาวนาน โดยอ้างถึงคดีอื่นๆ ที่ไมโครซอฟท์ฟ้อง Motorola, TomTom และ Salesforce.com ด้วย
เอกสารทั้งหมดมีจำนวน 29 หน้า ดูได้ตามลิงก์ที่มาครับ
ที่มา - GeekWire
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ถ้าไมโครซอฟท์แพ้ขึ้นมา ล้มทั้งยวงแน่
ขอให้แพ้ ขอให้แพ้ เอาสิทธิบัตรมาใช้ทำแบบนี้น่าเกลียดสุดๆ
ก็มันของ Microsoft นี่ครับไม่ผิดที่จะเอามาใช้นะครับ
แล้วสิทธิบัตรต้องใช้แบบไหนหรอครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แบบ apple ยังจะดีซะกว่า
ยังไงครับ ?
ไมโครซอฟเอามาเรียกเก็บเงินส่วนแอปเปิลฟ้องไม่ให้ขาย
แล้วถ้าเป็นสิ่งที่คิดค้นขึ้นมาเอง ผู้คิดค้นไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกเก็บเงินในทรัพสินทางความคิดได้เลยเหรอครับ ?
ดูใช้งานไม่ค่อยต่างกันเท่าไรนะ -_-"
ขอให้ ms ชนะ
แล้ว?
Barnes & Noble ก็แพ้
รอมานานแล้ว ให้มีคนลุกขึ้นมาต่อสู้กับแนวทางการใช้กฎหมายอย่างเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่าง MS ทำ
Android สู้สู้
ผมมองว่าเจ้าของสิทธิบัตรมีสิทธ์ ที่จะใช้สิทธิ์บัตรของตัวเองมาทำแบบนี้ครับ ซึ่ง Microsoft ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการฟ้องแต่เริ่มจากการเจรจา ซึ่งเมื่อเจรราแล้วไม่ลงตัว สุดท้ายก็จบกันที่การฟ้องแบบนี้ล่ะครับ
เห็นด้วยครับ ถ้าเสียเวลาพัฒนามาแล้วคนอื่นเอาไปละเมิดทำอะไรก้ได้ จะให้จดไปทำไมละครับ
แต่ในทางกลับกัน ก็ควรจะป้องกันการฟ้องร้องสิทธิบัตรกันพร่ำเพรื่ออย่างทุกวันนี้นะครับ โดยเฉพาะพวกบริษัทสิทธิบัตร ซื้อมาเอาไปฟ้องคนโน้นคนนี้ไปทั่ว
ระบบสิทธิบัตรเกิดขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาครับ ไม่ใช่ใครจะเอาอะไรของใครไปใช้ก็ได้ แต่สถานการณ์ทุกวันนี้มันตรงกันข้าม มีแต่คนเอาสิทธิบัตรของคนอื่นไปใช้ แล้วก็มีพวกที่เอาแต่ฟ้องอย่างเดียว
อย่าง Microsoft ผมว่าไม่ใช่บริษัทประเภทข้างต้น อย่างน้อยก็มีเจรจาก่อน เอาสิทธิบัตรโน้นแลกสิทธิการใช้งานกับสิทธิบัตรนี้ หรือจ่ายเงิน เป็นต้น ซึ่งหลายบริษัทก็ยอมอย่างที่เป็นข่าวไป แสดงว่าข้อเสนอต้องเกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ลงท้ายด้วยการฟ้องร้องก็สมเหตุสมผลแล้วครับ
เคยเห็น mk กล่าวไว้หลายหนในประเด็นแยกแยะระหว่าง สิทธิบัตรงานประดิษฐ์ และ สิทธิบัตรซอฟท์แวร์ นะครับ
กลยุทธกงจื้อถวายเศียร ช่างอำมหิตนัก
MS จะแพ้ได้ยังไงในเมื่อกฏหมายออกมาให้จดสิทธิบัตรเพื่อป้องกันสิทธิ
แต่ patent บางอันดูแปลกเหมือนกัน place loading icon in browser, จำลองเมาส์โดยอุปกรณ์ที่ไม่ใช่เมาส์ (นิ้วมือนี่นับรึเปล่าฟะ อุปกรณ์ที่ไม่ใช่เมาส์)
Voice ?
Google : Microsoft ใช้สิทธิบัตรเมื่อผลิตภัณฑ์นั้นเริ่มไม่ประสพความสำเร็จ
...แม้แต่บิลเกตส์ ก็เคยแสดงความกังวลต่อ "สิทธิบัตรซอฟท์แวร์" มาแล้วเมื่อ 20 ปีก่อนว่า "บริษัทยักษ์ใหญ่จะจดแต่สิทธิบัตรในเรื่องง่ายๆ แล้วก็มาดูดกำไรจากพวกเราไป" แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับตรงกันข้าม
ซักวัน M$ จะได้รับบทเรียน
ผมว่ามันไม่ถูกต้องนะครับ
สิทธิบัตรที่เหมือนกับการใช้คร่าวๆ แบบนี้มันเหมือนจดตีกันไว้
ถ้าผมอ่านผิดยังไงขออภัยครับ
อ่านแต่ละอันแล้วแบบ... มิน่าล่ะถึงไม่เคยยอมเปิดเผยว่าฟ้องไรบ้าง
ไอ่เราก็นึกว่าฟ้องเรื่อง exchange โถ่เอ้ย!!
ในที่สุดก็มีคนมาคอมเมนต์ประเด็นนี้เสียที
อ่าน patent แล้วเข้าใจผู้ผลิตเลยว่าทำมัยเค้าถึงเลือก ยอมๆไปเหอะ ก็มันเล่นจดแบบ common ขนาดนั้น = =