คดีระหว่างออราเคิลกับกูเกิล ส่วนของสิทธิบัตรมีคำตัดสินแล้ว โดยคณะลูกขุน 10 คนลงมติว่ากูเกิลไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรของออราเคิล
สำหรับคดีส่วนสิทธิบัตรนี้ ออราเคิลฟ้องกูเกิลข้อหาละเมิดสิทธิบัตร 2 ใบ รวมประเด็นที่ละเมิด 8 ประเด็น ผลของคำตัดสินนี้ทำให้ประเด็นเรื่องสิทธิบัตรตกไป และเหลือแค่ประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์เท่านั้น (อ่านข่าวเก่า สรุปความคืบหน้าคดี Oracle vs Google ประกอบ)
คดีส่วนลิขสิทธิ์ที่ไต่สวนไปก่อนหน้าแล้ว สรุปว่าลูกขุนเสียงแตก ไม่สามารถลงมติประเด็นสำคัญคือเรื่อง fair use (การใช้งานอย่างเป็นธรรม) ได้ สถานการณ์ตอนนี้คือ William Alsup ผู้พิพากษาของคดีนี้จะดำเนินการต่อเอง โดยสิ่งที่ Alsup จะตัดสินก่อนคือคำถามว่า "API มีลิขสิทธิ์หรือไม่"
ถ้า Alsup ตัดสินว่า API ไม่มีลิขสิทธิ์ ออราเคิลจะเหลือประเด็นเดียวที่เรียกค่าเสียหายได้คือการที่กูเกิลก็อปปี้โค้ด rangecheck() จำนวน 9 บรรทัด ซึ่งค่าเสียหายสูงสุดอยู่ที่ 150,000 ดอลลาร์
ถ้า Alsup ตัดสินว่า API มีลิขสิทธิ์ คดีน่าจะถูกไต่สวนใหม่โดยคณะลูกขุนชุดใหม่
ผู้พิพากษา Alsup ยังไม่ระบุว่าจะตัดสินเรื่องนี้เมื่อไรกันแน่ คาดว่าอย่างเร็วคือสัปดาห์หน้าครับ (เกร็ดเล็กน้อยของคดีนี้คือ Alsup พูดในศาลว่าเป็นคดีทางแพ่งที่ใช้เวลาไต่สวนนานที่สุดเท่าที่เขาเคยตัดสินมา
เบื้องลึกของการตัดสินใจของคณะลูกขุน อ่านได้จาก Ars Technica
Comments
แปลว่า ถ้าตัดสินว่า API ไม่มีลิขสิทข์ และ กูเกิลยอมจ่าย 150,000 ดอลลาร์ คดีฟ้องร้องนี้ก็จบทุกอย่างเลยใช่ไหมครับ
แล้วก็เอา 9 บันทัดนั้นออกซะ!
^
^
that's just my two cents.
ประมาณนั้นล่ะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ใช่ครับ ส่วน 9 บรรทัดนั้นกูเกิลเอาออกไปนานแล้วครับ
งานนี้ยังมีการประเมินกันว่าออราเคิลจ่ายค่าทนายและค่าเตรียมเอกสารต่างๆ ไปเป็นหลักสิบล้านดอลลาร์เลยทีเดียว - Ars
ยังงี้ ออราเติลจะสามารถเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องกับกูเกิลได้อีกไหมครับ เมื่อเป็นฝ่ายชนะคดีในส่วนนั้น
ได้รึเปล่าผมไม่ทราบ แต่ผมเห็นว่า "ไม่โดนกูเกิลด่ากลับก็บุญแล้ว" กูเกิลก็เสียค่าทนายเหมือนกันนะครับ
ก็รวมอยู่ในส่วนของค่าเสียหายที่เรียกร้องไปน่ะครับ (ตอนแรกเรียกร้องประมาณ 6-7 พันล้านดอลลาร์) เท่าที่ผมเข้าใจ ค่าทนายจะมีส่วนของค่าธรรมเนียมปกติ และส่วนแบ่งของค่าเสียหายในกรณีฟ้องชนะ
เรื่องนี้เลยมีหลายคนประเมินว่า Oracle เลือกยุทธศาสตร์พลาด นอกจากไม่ได้เงินเยอะอย่างที่คิดแล้วยังเสียชื่อเสียงในโลกของ Java ด้วย
แล้วถ้าศาลตัดสินว่า API มีลิขสิทธ์ มันจะมีผลยังไงบ้างครับ จะกระทบต่อบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ google หรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นเช่นนั้น สงสัยว่า Wine จะแย่แน่ๆ
ที่โดนแน่ๆ คือการที่บริษัทใดๆ จะสร้าง API ที่เข้ากันได้กับบริษัทอื่น จะต้องขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร (และเสียเงิน) ก่อนครับ
เรื่องนี้คือกูเกิลทำ Android API ที่เข้ากันได้กับ Java API (แต่โค้ดภายในไม่เหมือนกันเลย) ซึ่งก็ยังโต้กันอยู่ว่ากูเกิลสามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือเปล่า โดยออราเคิลบอกว่าต้องขอก่อน
ผมกลัวว่าในอนาคตเนี่ย ถึงแม้ว่าจะเป็น API ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย อาจจะคนละภาษากันเลย แต่ว่าดันมีฟังก์ชั่น/คลาสที่มีชื่อเหมือนกัน/ใกล้เคียงกัน ก็อาจจะมองว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิกัน และกลายเป็นเรื่องทางกฎหมายกันอีกน่ะครับ
ก็เหมือนกับลิขสิทธิวรรณกรรม อะไรทำนองนี้น่ะ
ดีใจที่สุด
จะมีรับเงินใต้โต๊ะมั้ยนะ
หึ หึ หึ ดีใจแท้เหลา
ป.ล. โดนส่วนตัว ผมชื่นชอบ Google และเกลียด Oracle เป็นการส่วนตัวครับ เพราะงั้นไม่ขอคอมเมนท์มาก
จากหลักลานเหลือแค่หลักแสน ทำไม่เพื่อ จ่ายค่าจ่างทนายก็หมดแล้ว
ใครผิดใครถูกว่าไปตามนั้น แต่ผมเกลียด Oracle เป็นการส่วนตัว หึหึ !!
ใครๆ ก็เกียด Oracle