ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาว่า SoftBank ยักษ์ใหญ่ไอทีในญี่ปุ่นมีแผนจะซื้อหุ้น Sprint เครือข่ายมือถือรายใหญ่อันดับสามของสหรัฐฯ ล่าสุด SoftBank ได้ตกลงเข้าซื้อหุ้น 70% ของ Sprint เป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ราคา 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคานี้สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันในตลาดหุ้น 27%
น่าสนใจเหมือนกัน ที่ค่ายมือถืออันดับต้น ๆ ของสหรัฐหลาย ๆ รายส่วนใหญ่กลายเป็นบริษัทจากต่างประเทศหมดแล้ว หากมาดู Verizon ค่ายอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ หุ้น 45% มี Vodafone จากสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าของ ส่วน T-Mobile ก็เป็นของ Deutsche Telekom จากเยอรมนี
ที่มา - BusinessInsider
Comments
จะมีชนชั้นกลางสหรัฐออกมาบอกว่า "ขายชาติ" มั้ยนะ เกินครึ่งนะนั้น 70%
กฎหมายห้ามต่างชาติเป็นเจ้าของธุรกิจเกินสัดส่วน เป็นอะไรที่ประเทศพัฒนาแล้วไม่ค่อยนิยมใช้กันครับ (มาเลเซียเองเพิ่งปรับเป็น 70%)
@TonsTweetings
ซักวันจะเหลือแต่ตัว พวกไม่รักชาติแบบนี้ล่ะจะทำประเทศล่มจม ผลประโยชน์ของชาติให้่างชาติมาทำกำไรได้อย่างไร
ว่าแล้ว..
ฮา
เอาแบบพม่าไหมครับ ปิดประเทศไปเลย ต่างชาติจะได้ไม่ต้องมาลงทุน
อ่านแล้วเพลีย
grab popcorn
พอตัานการผูกขาดจากธุรกิจในประเทศ โอกาสจากนอกประเทศเลยมีเยอะ
ป.ล.เปิดประเด็นการเมืองเดี๋ยวมียาว อิอิ
From US to Japan Already.
เอิ่ม...
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จะมีดราม่าการเมืองในนี้มั้ยเอ่ย
ใครช่วยอธิบายทีครับว่าทำไมธุรกิจผู้ให้บริการในธุรกิจนี้ในประเทศที่พัฒนาแล้วถึงได้ถูกบริษัทข้ามชาติเทคไป กำไรของธุรกิจไม่ได้สูง? แนวโน้มไม่ค่อยสดใส?
เดาว่ารัฐบาลเขาคงเก็บภาษีรายได้แพงมากๆ เลยยอมให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นเกินครึ่งได้ และภาษีที่เก็บมาได้ก็คงใช้ประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนอย่างทั่วถึงจริงๆ
ญี่ปุ่นเงินแข็งโป๊ก ในขณะที่อเมริกันเงินเหลวเอา ๆ ก็เลยมีเงินเหลือพวกจะซื้อได้มั้ง 555
หากกิจการกำไรดีจริงและอนาคตก็ยังสดใส คนซื้อก็ต้องให้ค่าพรีเมี่ยมเยอะจริงๆ เจ้าของเดิมถึงจะขายถ้า?
ใครมีบทวิเคราะห์เรื่องธุรกิจเหล่านี้ในอเมริกาบ้างครับ
ทีดีลอย่างนี้เกิด
ถ้าเป็นข่าวว่าค่ายโทรศัพท์ของจีนเข้าซื้อมั่ง สหรัฐก็กันสุดก้นโด่ง บอกว่าล้วงความลับ
ก็แน่สิครับ อีกอย่าง ญี่ปุ่นเองก็สงบเสงี่ยมพอตัวหลังสงครามโลก (จริง ๆ ตอนปิดประเทศก่อนสงครามก็สงบนะ เล่นเอาเดาไม่ออก)