Mark Shuttleworth ผู้ก่อตั้ง Ubuntu ได้กล่าวถึง iOS และ Android ว่าเป็นกำลังสำคัญในการโค่น Microsoft จากที่เคยยึดครองตลาดของระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ลงมาได้
Shuttleworth เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2004 ว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการพัฒนาระบบปฏิบัติการที่เขายกให้เป็น "บั๊กหมายเลข 1" นั่นก็คือสภาพของตลาดพีซีที่ถูกครอบงำด้วย Windows ของ Microsoft แทบทั้งหมด ซึ่งเขาเชื่อว่านั่นจะทำให้ทิศทางการพัฒนาระบบปฏิบัติการนั้นไม่เปิดกว้างเท่าที่ควร แต่ในตอนนี้ Shuttleworth คิดว่าบั๊กตัวเป้งของเขาได้ถูกกำจัดไปเรียบร้อยแล้ว จากการผนึกกำลังกันของ iOS และ Android
Shuttleworth กล่าวว่าในปัจจุบันอุปกรณ์พกพานั้นมีอิทธิพลต่อผู้คนไม่แพ้พีซี และหากนับรวมแพลตฟอร์มทุกรูปแบบแล้วถือได้ว่า Microsoft ไม่ได้เป็นผู้นำเดี่ยวอีกต่อไป เขาเองไม่เกี่ยงว่าใครคือผู้พลิกตลาดที่แท้จริง แต่สิ่งที่เขาสนใจคือขณะนี้ได้เกิดสภาพการแข่งขันของระบบปฏิบัติการแต่ละค่ายขึ้นแล้ว และนั่นย่อมส่งผลสำคัญต่อ Ubuntu เองด้วย
Shuttleworth ชี้ให้เห็นตัวอย่างผลจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดว่า บริษัทอย่าง Microsoft เองก็มีท่าทีเปิดกว้างต่อซอฟต์แวร์จากนักพัฒนาภายนอกมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นการทำงานกับ Azure ของ Microsoft ที่เขาเคยกล่าวว่ารู้สึกดีที่ได้ร่วมงานด้วย
ที่มา - The Verge
Comments
แถมไม่พอ M$ ก็มาโค่นตัวเองเล่นด้วยตระกูล Series 8 ด้วย ช่างประจวบเหมาะจริงๆ
ผมชอบ 8 นะ ตัวอักษรนวลตาดี แต่ที่ไม่ชอบคือ ปุ่ม Start หายไปนี่แหละ เล่นเกมส์ก็มันส์ เสียเงินไปพันกว่าบาทละ
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
มีเหตุผล
:-)
แต่ ubuntu touch ยังต้องทำการบ้านเยอะกว่านี้อีกมาก ถ้าอยากเข้าร่วมแข่งขันในตลาดนา
Monopoly เป็นเรื่องอันตราย
ดังนั้นทั้งApple ที่เที่ยวจดสิทธิบัตรงี่เง่า และGoogle ที่พยายามเข้าถึงชีวิตคนทั่วโลกพึงต้องระวัง
เพราะโลกมันมีสมดุลของมันเอง ยิ่งสูงตกมายิ่งเจ็บ
<3 like
อื้ม..ใช่เลย การมาของสองระบบนี้ เปลี่ยนอะไรไปเยอะมาก
โห WP8 app กับ WinRT apps นี่เปิดมากเลยนะครับ!
เปิด API เฉพาะ Nokia เท่านั้นครับ
Azure ครับ เปิดแล้วทำให้พัฒนาต่อสะดวก
น่าจะขอบคุณ หน่วยงานรัฐบาลหลาย ๆ แห่ง ด้วยนะ
ที่ไม่ยอมจำกัดตัวเอง กับ Microsoft Office อีกต่อไป
ใช่แล้วครับ ขนาดเมืองไทย ยังไม่เอา angsana news เลยครับ
angsana news --ข่าวอังษณา //ต้องใช้เวลาสักพักในการเข้าใจ
แต่ของไทยยังผูกพันค่อนข้างมาก
กับรูปแบบไฟล์ของ Microsoft Office น่่ะสิครับ
ทั้ง ๆ ที่ควรสนับสนุนรูปแบบของ Open Document ได้แล้ว
ต้องส่งเสริมให้ใช้ LibreOffice ครับ
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ผมว่าบางทีเป็นที่ตัว LibreOffice หรือ OpenOffice เองด้วยนะที่ทำให้มันไม่ได้รับความนิยม...
คือผมก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไรนะครับก็เคยพยายามใช้ ลองใช้ ทดลองใช้ (ทุกวันน้ก็ยังใช้อยู่) ในการทำเอกสารสำหรับงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่งานออฟฟิต ยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของผมผมว่ามันยังใช้ยากอยู่ ยกตัวอย่างซักสองสามข้อมนะครับ
1. ตอนที่เราใส่เลขลำดับหัวข้อ (Numbering) หรือ Bullets ใน MS Office ปกติมันจะเริ่มที่ระยะ 0.63 cm ถ้าต้องการให้เริ่มที่ 0 cm เราสามารถคลิกไอคอนเลื่อนมาทางซ้ายได้ที่ 0 cm พอดี แต่ใน LibreOffice นี่มันจะเลยหน้ากระดาษไปเลย ต้องเข้าไปกำหนดค่าใน Paragraph ซึ่งผมว่ามันสร้างความยุ่งยากมากขึ้น
2. การแทรกรูปภาพ ผมว่าการปรับวางตำแหน่งหลังการแทรกรูปเข้าแล้วมันกะเกณฑ์ยากเกินไป
3. การ Clip รูป ต้องเข้าไปกำหนดระยะการคลิปในไดอะล็อก ซึ่งมันดูไม่สมเหตุสมผลเลย
อันนี้ก็เป็นข้อคิดเห็นเล็กน้อยจากประสบการณ์ครับ...
ปล.ใครที่ใช้ Google Docs แทนการใช้ MS Office ได้นี่ผมถือว่าเก่งมากๆ เลยนะ ผมใช้แล้วบอกตามตรงว่า เพลีย! แต่ก็นะมันขึ้นอยู่กับลัษณะงานของแต่ละคนด้วย พอดีผมต้องใช้ทำพวกคู่มือเป็นส่วนใหญ่เรื่องที่กล่าวมาก็เลยเป็นเรื่องสำคัญน่ะครับ...
ปัญหาอยู่ที่ LibreOffice มันไม่เสถียรครับ ขนาด save ด้วย LibreOffice แล้วเปิดอีกที บางทีหน้ามันยังไม่ตรงของเดิมเลยครับ แต่ก็พยายามใช้มันอยู่นะ
พวกป้าๆลุงๆ พวกนั้นเขาถึงทางตันของการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆแล้ว
ที Facebook ยังเล่นเป็น เฮอ
ทำไมหรือเอาคนละตลาดกันมารวมกันอ่ะ iOS และ Android ถ้าว่าจะโค่นผมมองว่าคือโนเกียมากกว่า MS อ่ะ
ก็อย่างที่รมต.ไอซีทีเราบอกไงครับ มี Windows, iSO, Android
ถ้า Mark Shuttlewort ได้ฟังคงน้ำตาร่วง ว่า linux ตูหายไปไหน
..: เรื่อยไป
เพราะการมาของ iOS, Android ทำให้คนใช้เวลากับหน้าจอของ Windows น้อยลง จน Windows ต้องพยายามง้อไม่ให้คนหลุดไปมากกว่านี้ไงครับ
มองตรง ๆ มันไม่เกี่ยว แต่มันก็มีส่วนที่เกี่ยวกันอยู่เหมือนกันนะครับ ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
+1 ผมเองก็รู้สึกใช้เวลากับ notebook-windows น้อยลงกว่าเดิมเยอะมากๆ ครับ ทุกวันนี้เปิดเน็ต เปิด blognone เปิด facebook เสิร์ช google ก็ใช้มือถือ android ตลอด เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ได้ใช้คอมทำงาน ก็แทบจะกอง notebook ไว้เฉยๆ เลย มือถือมันตอบโจทย์เกือบครบแล้ว
ว่าไปยังแปลกใจตัวเอง ที่เปิดคอมน้อยลงมากจริงๆ รู้สึกได้เลยว่าความสำคัญมันน้อยลง
แต่จะแครกจะเจลทีก็ต้องพึ่งเค้าอยู่ดีอะ
ubuntu 12 13 ใช้ยากมาก ผมยังสร้างซ็อตคัดมาหน้าจอไม่เป็นเลย กดเข้าโปรแกรมมันไปซ่อนไหนซะหมด -*-
ทำไมรู้สึกเหมือนเป็นนางอิจฉาที่ชอบพูดประมาณว่า
ถ้าชั้น(ubuntu)ไม่ได้(marketshare)แก(microsoft)ก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน(ส่วนใครจะได้ไปชั้นไม่สน)
และตอนพูดก็ต้องทำตาโตปากบิดปากเปี้ยวไปด้วย
+1 แรง
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ในอนาคตก็ยังมีเกมดังๆ อีกหลายเกมก็จะมาลง Linux ด้วย อย่างเช่นเกม Football Manager 2014 เป็นต้น
ถ้าอย่างนี้จะถือว่าปิดบั๊กเบอร์ 1 ได้หรือยังเนี่ย?
ปิดไปแล้วครับ โดย Mark Shuttleworth เป็นคนปิดบั๊กนี้เองพร้อมกับ comment ที่เป็นข่าวนี้น่ะแหละครับ
pittaya.com
จะเรียกว่ายืมมือคนอื่นหรือตัวเองทำไม้ได้ดีนะ
งานในระดับออฟฟิศยังต้องพึ่งไมโครซอฟท์อีกเยอะ แต่ก็ยอมรับว่ากำลังของวินโดว์อ่อนลงไปมาก อาจจะเกิดจากฝีมือตัวเองที่ออกผลิตภัณฑ์มาไม่ตอบสนองต่อผู้ใช้ในด้านดี และถึงแม้ด๋อยจะมาแรงแต่ก็ยังจ่ายให้ไมโครซอฟท์อยู่ดี
ผมว่าในส่วนนี้ ผู้ใช้งานจริงส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้หรอกคับว่าจ่าย (คนจ่ายตัวจริงคือผู้ผลิต HW ซึ่งก็บวกมาในราคาสินค้ามาอยู่แล้ว)
ที่สำคัญ ถึงแม้ MS จะได้เงินจากตรงนี้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้คงไว้ซึ่งอิทธิพลในการชักนำตลาด หรือมีอิทธิพลต่อผู้ใช้งานโดยรวมได้เท่ากับที่เคยมีแต่ก่อนนะครับ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
Mark Shuttleworth ดีใจที่ MS ไม่ได้ผูกขาดเจ้าเดียวอีกต่อไป มีความหลากหลายมากขึ้น ส่วน ubuntu เองก็ต้องพัฒนาอีกมากมาย
" เขาเองไม่เกี่ยงว่าใครคือผู้พลิกตลาดที่แท้จริง แต่สิ่งที่เขาสนใจคือขณะนี้ได้เกิดสภาพการแข่งขันของระบบปฏิบัติการแต่ละค่ายขึ้นแล้ว "
ปล.บางคอมเม้นเกือบพาผมหลงประเด็นไปด้วย = ='
WE ARE THE 99%
ผมมาจากอนาคต ปี 2021 ครับ
Windows 8 จะเละไม่เป็นท่า
Microsoft จะเปลี่ยน CEO คนใหม่
และเข้าร่วม Open Source Foundation
เปิดกว้างโลกด้วยการทำให้ .NET เป็น Cross Platform
ทำให้วงการพัฒนา Software ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่อนาคตที่ผมอยู่ตอนนี้ MS น่ารักมาก และ Ubuntu ก็นัก MS เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง