กูเกิลประกาศขยายเวลาการแปลงคอนโทรลเลอร์ของ Stadia แพลตฟอร์มคลาวด์เกมมิ่งที่ปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2023 อีกครั้ง ซึ่งเดิมกูเกิลกำหนดเวลาถึงสิ้นปีนี้ โดยจะขยายออกไปถึงสิ้นปีหน้า 31 ธันวาคม 2025
กูเกิลประกาศขยายเวลาให้ลูกค้าที่ซื้อคอนโทรลเลอร์ของ Stadia แพลตฟอร์มคลาวด์เกมมิ่งที่ปิดตัวไปเมื่อต้นปี ในการแปลงคอนโทรลเลอร์ให้เชื่อมต่อบลูทูธธรรมดาได้ จากเดิมกำหนดภายในสิ้นปีนี้ เป็นภายในสิ้นปีหน้า 2024
คอนโทรลเลอร์ของ Stadia ใช้การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เท่านั้น ซึ่งหลังประกาศปิดตัว Stadia กูเกิลได้ออกเฟิร์มแวร์ เพื่อให้คอนโทรลเลอร์นี้สามารถนำไปใช้งานต่อได้ด้วยการเชื่อมต่อกับบลูทูธ เป็นการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
การแปลงคอนโทรลเลอร์มาเชื่อมต่อด้วยบลูทูธต้องทำผ่านเว็บแอพพลิเคชันของกูเกิล และเมื่ออัพเดตเฟิร์มแวร์ไปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาได้
แม้กูเกิลปิดบริการ Stadia ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ล่าสุด Dov Zimring อดีตผู้บริหารทีม Stadia ต้องไปให้การกับ FTC ในฐานะ "คู่แข่ง" บริการคลาวด์เกมมิ่งของไมโครซอฟท์ เพื่อพิจารณาว่าไมโครซอฟท์มีพฤติกรรมผูกขาดในตลาดคลาวด์เกมมิ่งหรือไม่ ช่วยให้เราได้เห็นข้อมูลของ Stadia เพิ่มอีกหลายอย่าง
Phil Harrison หัวหน้าทีม Stadia โครงการคลาวด์เกมมิ่งฝันใหญ่ของกูเกิลที่เพิ่งปิดตัวลงไป ลาออกจากกูเกิลไปเรียบร้อยแล้วแบบเงียบๆ โดยหน้าเพจ LinkedIn ของเขาบอกว่าทำงานกับกูเกิลถึงเดือนเมษายน 2023 และยังไม่มีข้อมูลว่าจะไปทำอะไรต่อ
Phil Harrison เป็นผู้บริหารวงการเกมที่เคยอยู่กับทั้งโซนี่และไมโครซอฟท์ โดยเขาทำงานกับโซนี่ตั้งแต่ปี 1992-2008 ตำแหน่งสุดท้ายเป็นหัวหน้า SCE Worldwide Studios คุมสตูดิโอเกมทั้งหมดในเครือ จากนั้นย้ายมาอยู่กับทีม Xbox ยุโรประหว่างปี 2012-2015 และงานล่าสุดคือรับผิดชอบธุรกิจเกมของกูเกิลระหว่างปี 2018-2023
หลังจากล้มเหลวกับบริการคลาวด์เกมมิ่ง Stadia จนต้องปิดตัว กูเกิลปรับทิศทางใหม่ นำเทคโนโลยีจาก Stadia มาให้บริการบริษัทเกมอื่นๆ แทน ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า Google Cloud for Live Service Games
บริการภายใต้ร่มของ Google Cloud for Live Service Games เป็นผลิตภัณฑ์ที่กูเกิลมีอยู่ก่อนแล้ว แต่นำมาจัดชุดใหม่ให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มบริษัทเกม ที่ต้องการเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่รองรับเกมแนว Live Service ที่มีผู้เล่นจำนวนมหาศาล
Stadia บริการคลาวด์เกมมิ่งของกูเกิลจะปิดตัวในวันนี้ 18 มกราคม 2023 ถือเป็นอีกหนึ่งบริการของกูเกิลที่ต้องกลายเป็นตำนานลงหลุมศพกันไป
ฝั่งของผู้เล่นที่ซื้อคอนโทรลเลอร์ Stadia ไปแล้วก็สามารถอัพเดตเฟิร์มแวร์ให้เป็นคอนโทรลเลอร์ Bluetooth ธรรมดาได้ ตามที่กูเกิลสัญญาไว้ (ค่าเกมและคอนโทรลเลอร์จะคืนเงินให้เต็มจำนวน เท่ากับได้คอนโทรลเลอร์มาฟรี)
กูเกิลโพสต์ข้อความผ่านบัญชี @Stadia ยืนยันว่าจะออกอัพเดตเฟิร์มแวร์ให้คอนโทรลเลอร์ Stadia นำไปเชื่อมกับอุปกรณ์อื่นผ่าน Bluetooth ได้ ตามที่ผู้ใช้เรียกร้อง
เดิมทีคอนโทรลเลอร์ Stadia ใช้เชื่อมกับเซิร์ฟเวอร์ของ Stadia โดยตรงผ่าน Wi-Fi เท่านั้น ดังนั้นเมื่อเซิร์ฟเวอร์ Stadia จะปิดตัว 18 มกราคม 2023 ย่อมทำให้คอนโทรลเลอร์กลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ การอัพเดตเฟิร์มแวร์ให้นำไปใช้เป็นคอนโทรลเลอร์เล่นเกมผ่านพีซีด้วย Bluetooth ย่อมแก้ปัญหานี้ได้
นโยบายของกูเกิลยังจะคืนเงินให้ผู้ที่ซื้อคอนโทรลเลอร์ Stadia รวมถึงซื้อเกมบน Stadia ด้วย (เท่ากับว่าได้คอนโทรลเลอร์มาใช้งานฟรี)
Ubisoft ยืนยันกับเว็บไซต์ The Verge ว่าลูกค้าที่ซื้อเกมของ Ubisoft บน Stadia ที่จะปิดตัวในเดือนมกราคม 2023 จะสามารถย้ายสิทธิในตัวเกมไปเล่นบนพีซี ผ่าน Ubisoft Connect ได้ด้วย โดยจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้
นโยบายของกูเกิลคือคืนเงินให้ผู้เล่นทั้งหมด ดังนั้นผู้เล่นที่ซื้อเกมของ Ubisoft ผ่านระบบของกูเกิล ก็ "น่าจะ" ได้เกมฟรีไปเลย คือกูเกิลจ่ายค่าเกมคืนให้ และ Ubisoft ให้เล่นเกมต่อบนพีซี แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเซฟและสถานะของเกมจะตามไปด้วยหรือไม่
จากประเด็นกูเกิลประกาศปิดบริการ Stadia ในเดือนมกราคม 2023 แม้ว่ากูเกิลจะคืนเงินค่าฮาร์ดแวร์และค่าเกมให้ทั้งหมด แต่ลูกค้าที่ซื้อ Stadia Controller ไปแล้วก็มีประเด็นว่า มันจะกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะใช้ได้แค่กับบริการ Stadia เพียงอย่างเดียว
Stadia Controller เป็นจอยเกมไร้สายที่มี Wi-Fi และ Bluetooth ในตัว แต่มันถูกล็อคให้สื่อสารตรงไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Stadia เท่านั้น เมื่อเซิร์ฟเวอร์ปิดไป มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ผู้เล่นที่ซื้อจอย Stadia ไปแล้วจึงเรียกร้องให้กูเกิลอัพเดตเฟิร์มแวร์ทิ้งทวนให้ เพื่อใช้เป็นจอยเกมไร้สายธรรมดาๆ กับเกมอื่นๆ ได้ หรือไม่ก็เปิดซอร์สเฟิร์มแวร์ เพื่อให้ชุมชนนักพัฒนาสามารถนำไปดัดแปลงกันเองได้
หลังจากลือกันมาหลายครั้ง กูเกิลก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเตรียมปิด Stadia บริการเล่นเกมแบบสตรีมมิ่ง ซึ่ง Phil Harrison ผู้จัดการทั่วไปของ Stadia ให้เหตุผลว่า แพลตฟอร์มมีจำนวนผู้เล่นน้อยกว่าที่บริษัทต้องการ
กูเกิลจะชดเชยให้ลูกค้าของ Stadia โดยฮาร์ดแวร์ที่ซื้อผ่าน Google Store และเกมกับคอนเทนต์ที่ซื้อผ่าน Stadia Store จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน ผู้เล่นยังสามารถเล่นเกมต่อไปได้ถึงวันที่ 18 มกราคม 2023
บริการคลาวด์เกมมิ่ง Stadia เป็นบริการของกูเกิลที่มีข่าวลือว่าจะโดนปิดทิ้งมาโดยตลอด (ข่าวลือรอบก่อนหน้านี้) ล่าสุดบัญชี @KilledbyGoogle ที่ตามเก็บสถิติการปิดบริการของกูเกิล อ้างแหล่งข่าว "อดีตเพื่อนร่วมงาน" (old coworker) ของสมาชิกในเครือรายหนึ่งว่ากูเกิลจะปิด Stadia (อีกแล้ว) โดยรอบนี้จะปิดในช่วงสิ้นสุดฤดูร้อนนี้ หรือช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
ถึงแม้แหล่งข่าวดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก แต่การที่ Stadia มีข่าวว่าจะถูกปิดมาตลอด ก็ทำให้กลุ่มลูกค้าหลายคนเชื่อว่าจะโดนปิดจริงๆ ทำให้คราวนี้ บัญชี @GoogleStadia ออกมาตอบโต้ข่าวลือโดยตรง โดยเล่นมุขล้อว่า "อดีตเพื่อนร่วมงาน" คนเดียวกันนี้ไปฟังงานสัมมนาของกูเกิลอันเดียวกัน และพบว่าสามารถเล่นเกม Wavetale ได้ฟรีบน Stadia Pro ถือโอกาสโฆษณาซะเลย
หลังจากกูเกิลประกาศเปิดเทคโนโลยีสตรีมเกมของ Stadia ให้บริษัทอื่นใช้งานเมื่อต้นปีนี้ (ก่อนหน้านั้นเคยให้บริการเกม Batman: Arkham Knight ให้ลูกค้า AT&T) ล่าสุดกูเกิลได้ลูกค้าแล้วคือ Capcom
Capcom นำเทคโนโลยีของ Stadia มาให้บริการลองเล่น Resident Evil Village แบบเดโมผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (ยังรองรับแค่บางประเทศ ไม่มีไทย) ทุกคนสามารถเล่นได้ฟรี โดยไม่ต้องลงทะเบียนและไม่ต้องติดตั้งเกมใดๆ เปิดเบราว์เซอร์แล้วเล่นได้เลย ใช้กับอุปกรณ์ใดก็ได้ ทั้งพีซี สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต
กูเกิลจัดงานสัมมนา Google for Games Developer Summit 2022 สำหรับนักพัฒนาเกมทั้งบน Android และ Stadia
กรณีของ Stadia นั้นยังไม่ประกาศข่าวเลิกทำ แต่ประกาศนำเทคโนโลยีเบื้องหลังของ Stadia ไปเป็นบริการตัวหนึ่งของ Google Cloud เพื่อให้ลูกค้าองค์กรเช่าใช้งาน ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
เมื่อต้นปี 2019 กูเกิลเปิดตัวบริการคลาวด์เกมมิ่ง Stadia อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมโชว์ฟีเจอร์ชมการสตรีมเกมบน YouTube แล้วกดเข้าไปเล่นเกมนั้นได้ทันที
เวลาผ่านมาแล้ว 3 ปีเต็ม ฟีเจอร์นี้ของ Stadia/YouTube กลับยังไม่เกิดขึ้นจริง
ล่าสุดมีคนไปเจอว่า Amazon Luna บริการคลาวด์เกมมิ่งของ Amazon ที่เปิดตัวทีหลังคือปี 2020 แซงหน้า Stadia ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์แบบเดียวกันบนแพลตฟอร์มสตรีมเกม Twitch แล้ว
เว็บไซต์ Business Insider รายงานข่าววงในว่าบริการคลาวด์เกมมิ่ง Stadia ของกูเกิล ถูกลดความสำคัญในฝั่งคอนซูเมอร์ลง (deprioritized) โดยกูเกิลหันไปโฟกัสที่การนำเทคโนโลยีสตรีมมิ่งของ Stadia ไปขายให้บริษัทเกมอื่นๆ แทน
ตามข่าวบอกว่ากูเกิลเรียกเทคโนโลยีสตรีมมิ่งของ Stadia ว่า Google Stream และกำลังเจรจาขายไลเซนส์ให้บริษัทเกมอย่าง Capcom, Bungie และบริษัทเครื่องกีฬา Pelotron นำไปใช้งาน โดยตอนนี้ทีม Stadia ใช้เวลาสัดส่วนเพียง 20% กับตัวบริการเกมเดิม อีก 80% มาทุ่มทำ Google Stream แทนแล้ว
ซัมซุงเป็นผู้ผลิตสมาร์ททีวีรายที่สอง (ต่อจาก LG) ที่ประกาศรองรับการเล่นเกมผ่านคลาวด์ โดยรองรับบริการ 3 ตัวคือ Google Stadia, NVIDIA GeForce Now และ Utomik แพลตฟอร์มเกมอินดี้
บริการคลาวด์เกมมิ่งจะอยู่ใน Gaming Hub ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ของสมาร์ททีวีซัมซุงปี 2022 โดยซัมซุงระบุว่าจะมีบริการของค่ายอื่นเพิ่มเข้ามาอีกในอนาคต (น่าจะมี xCloud ด้วยเพราะประกาศลงสมาร์ทโฟนซัมซุงไปก่อนแล้ว)
LG ประกาศรองรับการเล่นเกมผ่านคลาวด์ Google Stadia บนสมาร์ททีวีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ webOS ของตัวเองแล้ว
วิธีการเล่นจำเป็นต้องมีคอนโทรลเลอร์ที่ Stadia รองรับ ซึ่งจะเป็น Stadia Controller โดยตรง หรือจะใช้คอนโทรลเลอร์จากคอนโซลอื่น ทั้ง DualShock 4, Xbox One Controller, Switch Pro Controller หากไม่มีจริงๆ จะใช้ virtual controller บนหน้าจอสมาร์ทโฟนก็ได้เช่นกัน
โมเดลการคิดเงินเป็นไปตามมาตรฐานของ Stadia ทุกประการ คือมีบัญชีแบบฟรีที่มีเกมให้เล่นเล็กน้อย (เช่น Destiny 2), บัญชีแบบ Pro ที่มีเกมฟรีให้เล่นประมาณ 30 เกม หรือจะจ่ายเงินซื้อเป็นรายเกมบน Stadia
AT&T โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้ามือถือของตัวเองเล่นเกม Batman: Arkham Knight ได้ฟรีในแบบสตรีมมิ่ง (จำเป็นต้องมีเบอร์ AT&T Wireless เพื่อยืนยันตัวตน)
เบื้องหลังระบบสตรีมของ AT&T ใช้เอนจินของ Google Stadia (ที่มีเกม Batman: Arkham Knight ให้เล่นอยู่แล้ว) ถือเป็นครั้งแรกที่กูเกิลเปิดระบบ Stadia ให้พาร์ทเนอร์รายอื่นนำไปใช้งานภายใต้แบรนด์ตัวเอง (whitelabel) และอาจเป็นตัวอย่างโมเดลการหารายได้วิธีใหม่ๆ ของ Stadia ในอนาคต
กูเกิลประกาศข่าวเกี่ยวกับการนำเกมลง Stadia มีประเด็นสำคัญ 2 เรื่องคือ
วันนี้ บริการคลาวด์เกมมิ่ง Stadia เปิดให้เล่นบน Chromecast with Google TV และ Android TV บางรุ่น ตามที่กูเกิลประกาศไว้
เว็บไซต์ 9to5google ลองเล่น Stadia บนอุปกรณ์เหล่านี้แล้วพบว่าประสบการณ์ใช้งานโดยรวมค่อนข้างดี เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพ Stadia จาก Play Store, ล็อกอินบัญชีกูเกิล, เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์รุ่นที่รองรับ ก็เริ่มต้นเล่นได้ทันที ความเห็นของ 9to5google มองว่าอินเทอร์เฟซโดยรวมดี ลื่นไหลกว่าเวอร์ชัน Chromecast Ultra ที่ออกมาก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม Stadia เวอร์ชัน Google TV/Android TV ยังไม่รองรับการซื้อเกมโดยตรง เล่นได้เฉพาะเกมในไลบรารีที่ซื้อไว้ก่อนแล้ว ถ้าหากต้องซื้อเกมเพิ่มจำเป็นต้องไปซื้อบนแอพเวอร์ชันมือถืออีกที
Peter Wyze หัวหน้าทีมสตูดิโอเกมของ Xbox ให้สัมภาษณ์กับ Polygon ว่า ทีมได้ดึงตัว Kim Swift อดีตดีไซน์ไดเรกเตอร์ของ Google Stadia และหนึ่งในผู้สร้างเกม Portal กับ Left 4 Dead เพื่อมาเตรียมสร้างทีมที่จะโฟกัสในด้านประสบการณ์การเล่นเกมบนคลาวด์ของ Xbox หลัง Google Stadia ทยอยปิดสตูดิโอเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
บริการคลาวด์เกมมิ่ง Stadia ประกาศรองรับอุปกรณ์ Chromecast with Google TV ของกูเกิลเองแล้ว โดยจะเริ่มปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ในวันที่ 23 มิถุนายน
นอกจากนี้ Stadia ยังประกาศรองรับอุปกรณ์กลุ่ม Android TV อีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่
Andrew Wilson ซีอีโอของ EA ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Fortune ถึงอนาคตของวงการคลาวด์เกมมิ่ง ระบุว่าเขายังเชื่อว่าคลาวด์เกมมิ่งก็คืออนาคตของวงการเกมอย่างไม่ต้องสงสัย (“it’s a foregone conclusion”) แต่ระบุว่าคงต้องใช้เวลาพัฒนาสักระยะก่อนจะไปถึงจุดนั้น
หลัง Google ปิดสตูดิโอสร้างเกมของ Stadia จน Jade Raymond ผู้สร้างซีรีส์ Assassin’s Creed ต้องออกไปตั้งสตูดิโอใหม่พร้อมทีมงานบางส่วน แถม John Justice หัวหน้าทีมผลิตภัณฑ์ของ Stadia ก็ลาออกไปแล้ว
Google ยืนยันกับ 9to5Mac ว่า John Justice รองประธานและหัวหน้าทีมผลิตภัณฑ์ Stadia ที่อยู่กับ Google มาตั้งแต่ปี 2019 ลาออกจากบริษัทแล้ว ก่อนหน้านี้เขาทำหน้าที่ดูแลประสบการณ์ของผู้ใช้บน Stadia และเป็นผู้เปิดเผยฟีเจอร์และเกมใหม่ๆ ที่กำลังพัฒนาบน Stadia หลายครั้ง ก่อนจะให้สัมภาษณ์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ว่าจะไม่พูดถึงฟีเจอร์ก่อนเปิดตัว เพื่อป้องกันการพูดไว้แล้วทำตามไม่ได้