Adobe Systems รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามตามปฏิทินบริษัท มีกำไรสุทธิ 195.1 ล้านดอลลาร์ ลดลง 15% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แต่ก็ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ ส่วนรายได้รวมนั้นเพิ่มขึ้น 2.3% เป็น 1.01 พันล้านดอลลาร์ โดย Adobe อธิบายว่าสาเหตุที่กำไรลดลงนั้นมาจากการมีค่าใช้จ่ายหุ้นสวัสดิการสำหรับพนักงานเพิ่มขึ้นมา และยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีลดลง
ซีอีโอ Shantanu Narayen กล่าวว่าแม้จะมีความกังวลว่า HTML5 จะมาลดทอนความสำคัญของ Flash ลง แต่เขากลับมองว่านี่ถือเป็นโอกาสที่สำคัญครั้งใหญ่สำหรับ Adobe และบริษัทได้เพิ่มเงินลงทุนในด้านซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับ HTML5 ถึงสองเท่าตัว
หลังจาก Microsoft ระบุว่า IE 10 ในโหมด Metro จะไม่สามารถใช้งานปลั๊กอินอื่นๆ ได้ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาหลายด้าน แต่สำคัญสุดก็เกี่ยวกับ Flash อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความขัดแย้งเรื่อง Flash ระหว่างแอปเปิลกับ Adobe คงจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายหลัง เนื่องจาก iOS มีฐานผู้ใช้มากจน Adobe ต้องยอมง้อ และถึงแม้ว่า iOS จะยังไม่ยอมรับ Flash แต่นั่นอาจไม่ใช่ปัญหาแล้ว
Adobe ออก Flash Media Server (ซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมวิดีโอไปยัง Flash) รุ่นใหม่ล่าสุด 4.5 ซึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือมันสามารถสตรีมวิดีโอไปยัง iPad/iPhone ได้โดยไม่ต้องมี Flash ติดตั้งเอาไว้ (เข้าใจว่าสตรีมผ่าน HTML5 แทน)
Adobe ออกแอพ-บริการตัวใหม่ชื่อ Carousel (อ่านว่า คารูเซล แปลว่าม้าหมุนในภาษาฝรั่งเศส) ซึ่งอธิบายแบบง่ายๆ มันคือ "Dropbox สำหรับรูปภาพ" (ส่วน Adobe บอกว่ามันคือ Lightroom รุ่นบนมือถือ)
Adobe Carousel จะเป็นแอพพลิเคชันที่อยู่บนหลายแพลตฟอร์ม (จะเริ่มจาก iOS/Mac OS X แล้วมี Android/Windows ตามมาในปีหน้า) ไฟล์ภาพทั้งหมดจะถูกเก็บอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของ Adobe และเราสามารถเข้าถึงรูปภาพทั้งหมดของเราได้ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไร
Adobe ออกซอฟต์แวร์ตัวใหม่ โค้ดเนม "Muse" (ในอนาคตจะใช้ชื่ออื่น) ซึ่งเป็นเครื่องมือออกแบบเว็บไซต์ความสามารถสูง ที่สำคัญคือใช้การลากแล้ววางทั้งหมด ไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่ตัวเดียว
Muse ถูกเขียนขึ้นบนแพลตฟอร์ม AIR และในอนาคตจะให้บริการแบบเสียค่าสมาชิกรายเดือนเท่านั้น (เดือนละ 20 ดอลลาร์ ช่วงเบต้าจะยังฟรีหมด) กำหนดออกรุ่นจริงช่วงต้นปี 2012
ถึงแม้จะสร้างด้วย AIR แต่ Muse ก็มีฟีเจอร์มากมายตามที่โปรแกรมสร้างเว็บไซต์พึงมี เช่น สร้าง sitemap, master page, gallery, lightbox ฯลฯ สามารถนำวิดีโอจาก YouTube หรือโค้ดของ Google Maps มาใส่ได้โดยตรง ทำงานร่วมกับ Photoshop ได้ และรองรับฟีเจอร์ของ CSS3 อย่างปุ่มขอบโค้ง
อธิบายแบบง่ายๆ Adobe Edge คือ Adobe Flash Professional แต่เป็นภาค HTML5/JavaScript/CSS3 แทนที่จะเป็น ActionScript หน้าที่ของมันเหมือนกันคือสร้างแอนิเมชันและเนื้อหาแบบอินเทอร์แอคทีฟ
Adobe เปิดตัว Edge เมื่อปีที่แล้ว และวันนี้ได้ออกรุ่น Early Preview มาให้ทดสอบ ฟีเจอร์ก็ตามมาตรฐานของโปรแกรมตระกูลนี้ มีเครื่องมือสร้างแอนิเมชันและเอฟเฟคต์ต่างๆ มาให้ โค้ดส่วนของแอนิเมชันจะแยกจาก HTML และเก็บในรูป JSON
เมื่อพัฒนาเสร็จจนออกรุ่นจริง ก็น่าจะถูกรวมเข้ากับชุด Creative Suite เช่นเดียวกับรุ่นพี่อีกหลายราย
Adobe ประกาศปิดร้านขายแอพ InMarket ที่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2010 (ข่าวเก่า) เพราะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาด
InMarket เป็นร้านขายแอพที่สร้างด้วย AIR ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะมือถือ แต่รวมไปถึงทีวี พีซี แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆ (ที่รัน AIR ได้) โดย Adobe หวังว่ามันจะเป็นร้านขายแอพแบบข้ามแพลตฟอร์มที่ช่วยลดปัญหาให้นักพัฒนา
แนวทางใหม่ของ Adobe คือสนับสนุนนักพัฒนาให้ขายแอพผ่านช่องทางที่นิยมในตลาดแทน แต่อำนวยความสะดวกผ่านเครื่องมืออย่าง Flash Builder 4.5 และ Flash CS5.5 ที่เขียนแอพครั้งเดียวทำงานได้ทั้งบน Android/iOS
ระบบปฏิบัติการ Mac OS X Lion กลายเป็นฝันร้ายของ Adobe ไปเสียแล้ว เพราะมีรายงานว่าโปรแกรมหลายตัวในชุด Creative Suite มีปัญหาที่แตกต่างกันไปบน Lion เนื่องจากการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมของระบบปฏิบัติการ
โปรแกรมทุกตัวในชุดจะมีปัญหากับ Java, การเก็บไฟล์ใน Library, scrollbar และตัวรายงานการแครช
ส่วนปัญหาของโปรแกรมแต่ละตัวมีดังนี้
สำหรับนักพัฒนาอย่าเพิ่งดีใจไป เพราะสิ่งที่ออกมาให้ทดลองนั้นเป็นเพียง runtime สำหรับ Mac OSX และ Windows เท่านั้น สำหรับ AIR 3 SDK ยังไม่ได้ถูกแจกจ่ายออกมาให้นักพัฒนา
ในการออกรุ่นทดสอบนี้สำหรับทดสอบความเข้ากันได้กับ Adobe AIR รุ่นย้อนหลัง
ให้เราได้ร่วมทดลองใช้งานกับแอพพลิเคชันที่สร้างโดย Adobe AIR รุ่น 2.7
ว่าพบปัญหาหรือไม่ก่อนที่ Adobe จะออก AIR 3 SDK ตามออกมาภายหลัง
สิ่งที่พัฒนาขึ้นใน Adobe AIR 3 ที่เด่นชัดก็คือ
ต่อจากข่าวเก่า Adobe ถึงผู้ใช้ Final Cut Pro X "ยินดีต้อนรับ" ทางค่าย Adobe ก็ปล่อยของตามมาอีกขั้น โดยลดราคาโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ Premiere Pro ให้ 50% สำหรับคนที่อยาก "switch"
เงื่อนไขของ Adobe คือคนที่เป็นเจ้าของ Final Cut Pro (ไม่ระบุเวอร์ชัน เข้าใจว่าได้หมด) และ Avid Media Composer สามารถซื้อ Adobe Premiere Pro หรือโปรแกรมชุดใหญ่สำหรับนักตัดต่อ Adobe CS5.5 Production Premium ในราคาถูกกว่าราคาเต็ม 50% ภายใน 30 กันยายนนี้
ปัญหาของผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ Final Cut Pro X ของแอปเปิล (ข่าวเก่า) เป็นโอกาสทองของคู่แข่งอย่าง Adobe กับซอฟต์แวร์ Premier Pro
เมื่อวันก่อน Adobe จึงออกวิดีโอชุดใหญ่บนช่อง Adobe TV โดยใช้ชื่อว่า "Switching to Adobe Premier Pro CS5" สอนการใช้งาน Premier Pro หลายประเด็นตั้งแต่การใช้งานเบื้องต้น ช็อตคัต การตัดต่อเสียง ฯลฯ
นอกจากนี้ Adobe ยังมีบทสัมภาษณ์มืออาชีพด้านการถ่าย-ตัดต่อภาพยนตร์หลายคน ว่า "ย้าย" มาใช้ Premier Pro แล้วมีความสุขอย่างไรบ้าง
เมื่อเดือนเมษายนที่ Adobe ออก CS5.5 หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ของ Flex 4.5 และ Flash Builder 4.5 คือการสร้างแอพแล้วพอร์ตออกมาเป็นแอพ Android ได้ (ตัวแอพจะต้องรันผ่าน AIR อีกทีนะครับ)
วันนี้ Adobe ได้ออกตัวอัพเดตของ Flex 4.5 และ Flash Builder 4.5 สำหรับการพอร์ตแอพบน iOS (ทั้ง iPad/iPhone) และ BlackBerry Tablet OS (ที่ใช้ใน PlayBook แล้ว) ตัว Flash Builder นั้นเสียเงินแต่ Flex เป็นโอเพนซอร์สที่ดาวน์โหลดได้ฟรี
Adobe ออก AIR 2.7 ทั้งบนเดสก์ท็อป มือถือ และแท็บเล็ต โดยฟีเจอร์ส่วนมากมาจาก Flash Player 10.3 ที่ออกเมื่อเดือนก่อน และปรับปรุงประสิทธิภาพหลายจุดสำหรับเวอร์ชัน iOS โดยกรณีที่ดีที่สุด แอพจะทำงานเร็วขึ้นถึง 4 เท่า - Adobe
ซีอีโอของอโดบี คุณ Shantanu Narayen ได้ให้สัมภาษณ์กับ WSJ ระหว่างงาน D9 ว่า "ในมุมมองของเรา ความขัดแย้งกับแอปเปิล (ซึ่งทำให้อโดบีหยุดการสนับสนุน Flash บน iOS) ได้จบลงแล้ว" นอกจากนั้นเขายังเสริมว่าอโดบี
จะเปิดรับและให้สนับสนุนมาตรฐาน HTML5
อีกด้วย
ใครที่สนใจประเด็นว่าทำไมแอปเปิลจึงขัดแย้งกับอโดบีสามารถอ่านได้จากข่าวเก่าครับ
ที่มา: Wall Street Journal ผ่าน BGR
Kaspersky Lab เปิดเผยสิบอันดับช่องโหว่ของแอพพลิเคชันที่มีผลกระทบด้านความปลอดภัยมากที่สุดประจำไตรมาสแรกของปีนี้ โดยเรียงตามร้อยละของคอมพิวเตอร์ที่ถูกตรวจจับได้ว่าได้รับผลกระทบ ผลปรากฏว่าสามอันดับแรกตกเป็นของ Adobe Reader (หนึ่งรายการ) กับ Adobe Flash Player (สองรายการ) จาก Adobe และตามด้วยอันดับที่สี่และห้าคือ JDK และ JRE จากออราเคิล
ในสิบอันดับนี้โดยรวมแล้วมีแอพฯ จาก Adobe อยู่ถึงห้ารายการ ออราเคิลมีอยู่สองรายการ นอกนั้นเป็นแอพฯ จากแอปเปิล, Winamp และไมโครซอฟท์อีกคนละหนึ่งรายการ
Flash Player อัพเกรดอีกครั้งเป็นรุ่น 10.3 ตัวจริง หลังจากที่เคยออก 10.3 Beta เมื่อเดือนมีนาคม โดยมีของใหม่ได้แก่
ร่างมาตรฐาน CSS3 จะต่างไปจาก CSS1 และ CSS2 เพราะจะแยก "โมดูล" ออกเป็นส่วนๆ ซึ่งมีระดับความก้าวหน้าของมาตรฐานไม่เท่ากัน (ปัจจุบันมีโมดูลจำนวนหลายสิบตัว ดูสถานะได้จาก CSS current work)
ข่าวนี้จะพูดถึงโมดูลตัวหนึ่งชื่อ CSS3 Regions Module ซึ่งเสนอโดย Adobe ครับ
CSS3 Regions จะกำหนดการไหลของข้อความ (text flow) ไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่เรากำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยให้การออกแบบสิ่งพิมพ์บนเว็บทำได้หลากหลายมากขึ้น และข้อความเว็บจะคล้ายกับข้อความบนหน้านิตยสารมากขึ้น (ดูภาพประกอบ)
เมื่อช่วงแรกที่ Adobe ปล่อย Flash Player 10.2 มีคนตาดีแอบสังเกตเห็นว่า Adobe ระบุฟีเจอร์ที่ได้รับการเพิ่มเติมนั้นต้องการ Android 3.1 มิใช่ Android 3 (Honeycomb) แต่อย่างไร (ลองดูภาพที่ท้ายข่าวประกอบ) แต่ต่อมา Adobe คงรีบมาแก้เป็น Android 3 ตามระเบียบ
หาก Android เลขรุ่น 3.1 เป็นเรื่องจริง สิ่งนี้ก็จะเป็นหลักฐานว่ากูเกิลและเหล่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์คงกำลังพัฒนา Android รุ่นใหม่สำหรับแท็บเล็ตอยู่ ยังไงก็คงต้องติดตามข่าวกันต่อไป
Adobe ออก Flash Player 10.2.157.51 ซึ่งถือเป็นรุ่นจริงบน Android 3.0 Honeycomb โดยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
ที่มา - Flash Platform Blog, Android Central
หลังจากพบช่องโหว่สำคัญตัวใหม่ใน Flash Player อะโดบีได้ทำการตรวจสอบแก้ไขจนในที่สุดได้ออกมาเปิดเผยว่าจะออกตัวแก้บักสำหรับ Windows, Macintosh, Linux และ Solaris ภายในวันศุกร์นี้ และพิเศษสุดสำหรับผู้ใช้ Google Chrome จะได้รับการอัปเดตเพื่ออุดช่องโหว่นี้ภายในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ผ่านฟีเจอร์อัปเดตอัตโนมัติ
จากแถลงการณ์ อะโดบีกล่าวไว้ชัดเจนว่าได้ทดสอบความเข้ากันได้กับระบบต่างๆ เป็นอย่างดีแล้ว ทั้งในระบบปฏิบัติการที่กล่าวไปแล้วข้างต้น รวมทั้ง Android เช่นกัน
Adobe แจ้งเตือนบั๊กความปลอดภัยที่จะเปิดช่องให้กับแฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้ โดยทาง Adobe พบว่ามีแฮกเกอร์ใช้บั๊กนี้ในการเข้าควบคุมเครื่องปลายทางแล้วด้วยการฝังไฟล์ SWF เข้าไปในไฟล์ Word (.doc)
ดูเหมือนบั๊กนี้จะเป็นรูปแบบเดียวกับบั๊กที่ใช้เจาะบริษัท RSA (1, 2) โดยในครั้งนั้นแฮกเกอร์อาศัยการฝังไฟล์ SWF เข้าไปในไฟล์ Excel
Adobe อ้างว่า Adobe Reader X ไม่ได้รับอันตรายจากบั๊กนี้เนื่องจากไฟล์เอกสารถูกเปิดใน sandbox ทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถโจมตีระบบโดยรวมได้ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหลายคนไม่เห็นด้วยกับการเสนอข้อมูลเช่นนี้
Adobe เปิดให้ผู้ใช้สามารถสมัครใช้ซอฟต์แวร์ในชุด Creative Suite ในแบบรายเดือน และรายปี โดยโปรแกรม(เถื่อน)ยอดนิยมอย่าง Photoshop จะคิดค่าบริการรายเดือนที่ 49 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,500 บาท ค่าบริการทั้งหมดดูได้ที่เว็บของ Adobe
อันนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ใช้ของเถื่อนอยู่ แต่ว่าใช้ไม่บ่อย เดือนละ 1,500 บาท ถ้ารับงานถ่ายรูปมา คงไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไป
ที่มา TechCrunch
จากที่มี ข่าวลือ ว่า Adobe จะเปิดตัว Creative Suite 5.5 วันนี้มันมาแล้วครับ
Creative Suite 5.5 หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า CS5.5 ถือเป็นซอฟต์แวร์ตระกูล CS รุ่นแรกที่มี .5 ห้อยท้าย (นับตั้งแต่จัดรวมชุด CS เป็นต้นมา) โดยทาง Adobe เองก็ประกาศนโยบายการออกรุ่นแบบใหม่ไปพร้อมๆ กัน คือรุ่นหลัก (CS5, CS6) จะออกทุกๆ สองปี (เดิมออกทุก 18 เดือน) ส่วนรุ่น .5 หรือ mid-cycle จะออกมาคั่นระหว่างกลางเพื่อให้ตามเทคโนโลยีของตลาดกันทัน พูดง่ายๆ ว่าเราจะเห็น CS รุ่นใหม่ออกทุกปี โดยเป็นรุ่น .0 กับ .5 สลับกันไปนั่นเอง
CS5.5 จะแบ่งเป็น 5 รุ่นย่อยเหมือนกับ CS5 ได้แก่
หลังจาก RSA ถูกแฮกและถูกขโมยข้อมูลเกี่ยวกับ SecurID ไปเมื่อเดือนที่แล้ว ทาง EMC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ RSA ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมของการแฮกครั้งนี้แล้ว
ที่ผ่านมาเราเห็นซอฟต์แวร์ตระกูล Photoshop บนอุปกรณ์พกพาในรูป Photoshop Express (รุ่นบน iOS, รุ่นบน Android) ซึ่งก็ยังมีความสามารถไม่มากนัก แต่ในงาน Photoshop World ทาง Adobe ได้เดโม Photoshop รุ่นใหม่บน iPad ที่แต่งภาพแบบมีเลเยอร์ได้แล้ว
ดูวิดีโอสาธิตการใช้งานได้จากเว็บไซต์ Photography Bay
ตอนนี้ Adobe ยังแค่ออกมาเดโม และไม่ยอมให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับ Photoshop รุ่นนี้