หลังจากมีข่าว Kindle จะยืมหนังสือได้ในเร็วๆ นี้ หลายเดือนผ่านไป ทาง Amazon ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้ Kindle ยืมหนังสือกันได้แล้ว
เจ้าของหนังสือจะไม่สามารถเข้าถึงหนังสือเล่มนั้นๆ ได้ในช่วงที่ถูกยืมอยู่ (แล้วถ้าผมปิด Wireless ก่อนสั่งให้ยืม?) และผู้ที่ยืมไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของเครื่อง Kindle แค่เพียงเปิดบัญชีกับ Amazon แล้วใช้ผ่านโปรแกรม Kindle ที่มีอยู่หลากหลายแพลตฟอร์มได้ทันที มีกำหนดระยะเวลายืม ๑๔ วันและมีการแจ้งเตือนผู้ยืม ๓ วันสุดท้ายก่อนหมดระยะเวลายืม และสามารถคืนก่อนครบกำหนดได้อีกด้วย
ในช่วงนี้สามารถให้ยืมได้ในกรณีที่เจ้าของหนังสืออยู่ในสหรัฐอเมริกา และประเทศที่ผู้รับหนังสือมีหนังสือเล่มนั้นๆ ขายเท่านั้นครับ
เรื่องปวดหัวประจำงานเทศกาลของหลายๆ คนคงเป็นเรื่องของการเลือกของขวัญให้ถูกใจคนรับซึ่งไม่ว่าจะเลือกดีอย่างไรก็มักจะพลาดเอาจนได้เสมอๆ ทางออกที่ง่ายกว่าคือการให้คูปองเงินสดไปแทน แต่ก็ดูน่าประทับใจน้อยกว่า ล่าสุดของ Amazon ก็ได้รับสิทธิบัตรใหม่ที่เป็นทางออกที่ดูดีกว่าให้กับทุกฝ่ายแล้ว ด้วยการอนุญาตให้ผู้รับสามารถขอเปลี่ยนของขวัญได้ทันทีแม้จะยังไม่ได้รับของก็ตาม
เมื่อผู้รับรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้รับอะไรแล้วไม่ต้องการของชิ้นนั้น ผู้รับสามารถขอเปลี่ยนของ, เพิ่มเงิน, หรือขอคูปองเงินสดมาเก็บไว้ ก่อนที่ของจะถูกส่งมาถึงบ้าน โดย Amazon จะให้เลือกได้ว่าจะส่งคำขอบคุณกลับไปยังผู้ให้ของขวัญแล้วแจ้งว่าได้เปลี่ยนของไปแล้ว หรือจะปล่อยให้คนให้ไม่รับรู้
Amazon ออกมาประกาศความสำเร็จของ Kindle 3 โดยบอกว่าเป็น "ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด" นับตั้งแต่ Amazon เปิดบริษัทมา (แชมป์เก่าคือ Harry Potter and the Deathly Hallows) แต่ยังไม่ยอมเผยยอดขายรวมของ Kindle เช่นเคย ส่วนหนังสือที่ขายดีที่สุดคือ The Girl with the Dragon Tattoo
Amazon ยังบอกว่าวันที่ขายสินค้าดีที่สุดคือ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งขายสินค้าทุกอย่างได้ 13.7 ล้านชิ้นในวันเดียว คิดเป็นวินาทีละ 158 ชิ้น
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ให้ข้อมูลว่าลูกค้าที่ซื้อ Kindle มักจะซื้อแท็บเล็ตที่ใช้จอ LCD ด้วย แสดงให้เห็นว่าสองตลาดนี้ไม่ทับซ้อนกัน
Amazon ปกปิดยอดขายของ Kindle มาโดยตลอด ทุกอย่างต้องพึ่งการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์หรือตัวเลขหลุดมาจากคนวงในเท่านั้น
ในปีที่แล้วมีข่าวหลุดมาว่า Kindle มียอดขาย 2.4 ล้านเครื่อง ส่วนปีนี้นักวิเคราะห์ประเมินว่าตัวเลขจะอยู่ราวๆ 4-5 ล้านเครื่อง แต่ล่าสุดมีแหล่งข่าววงในของ BusinessWeek บอกว่ายอดขายอาจสูงถึง 8 ล้านเครื่อง (ยอดขาย iPad ระหว่างเดือนเมษายนที่เปิดตัว จนถึงเดือนกันยายนคือ 7.46 ล้านเครื่อง อันนี้เทียบให้เห็นภาพมากขึ้นครับ)
Amazon ยังบอกว่าจะออก Kindle for WP7 ในเร็วๆ นี้ เสริมทัพอุปกรณ์ที่รองรับให้มากขึ้นไปอีก
ที่มา - BusinessWeek
Amazon Mechanical Turk เป็นแพลตฟอร์มสำหรับทำ crowdsourcing ที่ค่อนข้างดังตัวหนึ่ง รูปแบบของมันจะคล้ายๆ กับตลาดนัดแรงงาน แต่เป็นงานขนาดเล็กๆ ที่ทำได้ผ่านอินเทอร์เน็ต (เช่น จ้างคนรวบรวมหรือค้นข้อมูล) และจ่ายเงินด้วยอัตราไม่เยอะนัก ประโยชน์ของมันคือช่วยให้ทำงานที่ต้องใช้แรงคนได้เร็วและสะดวกขึ้น
ผลการสำรวจตลาดเพลงออนไลน์ในไตรมาสที่สามของปี 2010 จากบริษัท NPD พบว่าแอปเปิลยังเป็นเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่ง 66.2% เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ 63.2%
อันดับสองคือ Amazon MP3 ซึ่งเข้าตลาดช้ากว่า iTunes เป็นเวลา 4 ปี อยู่ที่ 13.3% เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 11% ส่วนที่เหลือๆ ก็เป็นพวกรายเล็กต่างๆ
ช่วงหลัง Amazon หันมาใช้กลยุทธด้านราคาที่ถูกกว่า iTunes พอสมควร แต่ถ้านับจำนวนเพลงแล้ว iTunes ยังมีเยอะกว่ามาก อย่างไรก็ตาม ตลาดเพลงออนไลน์เริ่มอิ่มตัวและโตช้ามากคือ 0.3% จากปีก่อน
ที่มา - WSJ
เมื่อเดือนกันยายน Amazon เปิดบริการ Kindle for the Web ซึ่งเป็นการ "พรีวิว" บทแรกของหนังสือให้อ่านบนเว็บ โดยมีเป้าหมายเพื่อขายหนังสือเป็นหลัก (ถือเป็น affiliate แบบหนึ่ง)
วันนี้ Amazon ขยายความสามารถของ Kindle for the Web ให้เป็น "ตัวอ่านอีบุ๊ก" เหมือนกับ Kindle Reading Apps บนอุปกรณ์พกพาชนิดต่างๆ ที่เปิดตัวมาก่อนแล้ว เพียงแต่คราวนี้มันอยู่บนเว็บโดยตรงเท่านั้น
ข่าว Google/Groupon เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสำเร็จตามคาดก็จะทำให้กูเกิลติดอาวุธหนักทันที เจ้าตลาดอีคอมเมิร์ซเดิมอย่าง Amazon จึงต้องเตรียมตัวรับมือ โดยลงทุนใน LivingSocial บริษัทคู่แข่งของ Groupon
ตามข่าวบอกว่า Amazon จะลงทุนใน LivingSocial เป็นเงิน 175 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทาง LivingSocial จะนำเงินก้อนนี้ไปขยายกิจการให้ครอบคลุมทั่วโลก (ปัจจุบันให้บริการเพียง 3-4 ประเทศ) และคาดว่าจะมีรายรับรวม 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2011
เพิ่งมีข่าว WikiLeaks ย้ายเซิร์ฟเวอร์ไปใช้บริการ Amazon Web Services เพื่อหลบ DDoS ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ปรากฎว่าต้องย้ายออกแล้วครับ เหตุผลก็คงไม่ใช่อย่างอื่น เป็นเพราะข้อมูลที่ WikiLeaks เผยออกมานั้นส่งผลกระทบต่อรัฐบาลสหรัฐอย่างมากนั่นเอง
วุฒิสมาชิกของสหรัฐ Joe Lieberman เปิดเผยว่า เขาได้รับแจ้งจาก Amazon ว่าได้หยุดให้บริการแก่ WikiLeaks แล้ว พร้อมทั้งเสริมว่าไม่ควรมีบริษัทอเมริกันแห่งใดให้ความช่วยเหลือแก่ WikiLeaks อย่างสิ้นเชิง
ทาง Amazon ยังไม่ออกมาให้ข้อมูลใดๆ ส่วน WikiLeaks ตอนนี้ย้ายกลับไปยังโฮสต์เก่าที่สวีเดนแล้ว
Amazon ประกาศลดราคา Kindle 2 (รุ่นเก่า) อีกครั้งในเทศกาลขอบคุณพระเจ้าวันพรุ่งนี้ โดยลดจาก 144 ดอลลาร์ ลงไปเหลือเพียง 89 ดอลลาร์เท่านั้น สินค้ามีจำนวนจำกัด
นี่เป็นดีลที่ผมลำบากใจมากครับ ว่าจะคว้าเลยดี หรือรอลุ้นว่า Kindle 3 จะลดราคากับเขาบ้างดี?
ที่มา - Amazon
Amazon Elastic Compute Cloud (Amazon EC2) ได้เปิดตัวบริการโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ประเภทใหม่ชื่อว่า Cluster GPU Instances ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถใช้พลังประมวลผลจากโปรเซสเซอร์กราฟิก NVIDIA Tesla GPU ได้ โดยเซิร์ฟเวอร์ประเภทนี้มาพร้อมกับ Tesla M2050 (Fermi) จำนวน 2 หน่วย, โปรเซสเซอร์ Intel Nahalem X5570 ทั้งหมด 8 คอร์, หน่วยความจำหลัก 22 กิกะไบต์, พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 1,690 กิกะไบต์ และมาพร้อมกับ 10 Gigabit Ethernet อีกทั้งสนับสนุนการพัฒนาโปรแกรมด้วย CUDA และ OpenCL
ในตอนนี้ Cluster GPU Instances เปิดให้บริการโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ได้เพียงในสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันออก (US - North Virginia) และสนับสนุนแค่เพียง Linux มีราคาค่าเช่าที่ 2.10 เหรียญต่อชั่วโมง
Kindle กำลังขายดีในประเทศจีนอย่างเงียบๆ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ของมันคือมันหลบเลี่ยงการบล็อกเว็บได้โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ผ่านทางเครือข่าย Whispernet ของ Amazon
ตัว Kindle นั้นไม่มีขายในจีนและทาง Amazon ไม่ส่งไปยังประเทศจีน อย่างไรก็ตามมีเครื่องลักลอบนำเข้าไปเสมอ โดยผู้ค้ารายหนึ่งระบุว่าเขาขายได้ถึง 300 เครื่องภายในเดือนเดียว
ตัว Whispernet นั้นจะอาศัยผู้ให้บริการท้องถิ่นแต่เชื่อมต่อทุกอย่างผ่านทาง Amazon ทำให้ไม่สามารถบล็อกเว็บแยกกันได้ และแม้จะไม่มีขายในประเทศจีน แต่ Whispernet กลับสามารถใช้งานในจีนได้ไม่มีปัญหา ทำให้ชาวจีนที่ใช้งาน Kindle สามารถใช้งานเว็บ Twitter และ Facebook ได้โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
เมื่อสามวันก่อน อเมซอนประกาศโปรโมชั่นใหม่ "AWS Free Usage Tier" ให้ลูกค้าใหม่ทุกรายจะได้สิทธิ์ใช้บริการในกลุ่ม Amazon Web Services (AWS) เพื่อการประมวลผลบนกลุ่มเมฆบน EC2 ฟรี 1 ปี (เริ่มต้น 1 พ.ย.นี้) ประกอบด้วย Amazon S3, Amazon Elastic Block Store, Amazon Elastic Load Balancing และ AWS data transfer
ไฮไลต์โปรโมชั่นดังกล่าวมีดังนี้
Amazon แจ้งฟีเจอร์ใหม่ของ Kindle ที่จะออกอัพเดตภายในปีนี้ นั่นคือการ "ยืม" หนังสือระหว่างผู้ใช้ Kindle ด้วยกัน โดยหนังสือหนึ่งเล่มสามารถยืมได้ 14 วัน ระหว่างนั้นเจ้าของหนังสือจะไม่สามารถอ่านหนังสือของตัวเองได้
ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องให้สำนักพิมพ์ (หรือเจ้าของลิขสิทธิ์) เป็นคนเลือกว่าหนังสือเล่มใดสามารถยืมได้ (คู่แข่งอย่าง Nook มีฟีเจอร์ยืมหนังสือมาก่อนแล้ว)
นอกจากนี้ Amazon ยังประกาศว่าลูกค้า Kindle ที่บอกรับสมาชิกหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร สามารถนำไปอ่านบนโปรแกรม Kindle บนอุปกรณ์อื่นๆ ได้ในไม่ช้า
Amazon เพิ่มความสามารถของโปรแกรม Amazon Mobile for iPhone ให้สแกนบาร์โค้ดของสินค้า เพื่อเช็คราคาเทียบกับสินค้าบน Amazon.com ได้
Amazon ถือเป็นร้านค้าปลีกสินค้าออนไลน์รายใหญ่ของโลก การที่ Amazon มีสินค้าหลากหลายจะยิ่งช่วยให้เราเทียบราคาของได้ง่ายขึ้น และถ้าพบว่าของบน Amazon ถูกกว่า ผู้ใช้ก็สามารถกดสั่งซื้อได้จากมือถือเลย ช่วยให้ Amazon ขายของได้มากขึ้น
หลายคนอาจบอกว่าฟีเจอร์นี้ควรมีตั้งนานแล้ว
ที่มา - App.Tapper
ในแวดวงสิ่งพิมพ์นั้นมี "ช่องว่าง" ของงานเขียนขนาดกลาง ความยาวระหว่าง 10,000-30,000 คำ (ประมาณ 30-90 หน้า) เพราะเป็นงานเขียนที่ยาวเกินกว่าจะเป็นบทความในนิตยสาร แต่ก็สั้นเกินกว่าจะรวมเล่มเป็นหนังสือ ทางออกของเจ้าของเรื่องเหล่านี้มักเป็นการรวมงานหลายๆ ชิ้นเข้าเป็นหนังสือหนึ่งเล่ม หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องยืดความยาวออกไปให้พอดีกับจำนวนหน้าของหนังสือ ส่งผลให้บางทีคุณภาพของงานแย่ลง (เพราะยืดนั่นเอง)
Amazon เห็นช่องว่างในตลาดนี้ จึงประกาศ "Kindle Singles" สำหรับขายเรื่องขนาดสั้นเป็นเรื่องๆ โดยไม่ต้องรวมเล่ม Kindle Singles จะเป็นหมวดใหม่ใน Kindle Store แยกจากหนังสือโดยเฉพาะ และขาย-เปิดให้ดาวน์โหลดเหมือนอีบุ๊กอื่นๆ บน Kindle Store
Wall Street Journal อ้างว่ามีคนได้รับการบรรยายจาก Amazon ว่าจะเปิดตัวหน้าร้านขายแอพลิเคชั่นใหม่สำหรับแอนดรอยเร็วๆ นี้ ซึ่งหากเป็นจริง นี่จะเป็นครั้งแรกที่บริษัทขนาดใหญ่ลงมาแข่งขันกับกูเกิลโดยตรง
ข่าวอ้างว่า Amazon เตรียมเก็บส่วนแบ่งเป็นค่าจัดการสำหรับแอพลิเคชั่น 30% เช่นเดียวกับกูเกิล โดยมีจุดแข็งคือผู้ใช้ของ Amazon กว่า 80 ล้านคนพร้อมบัตรเครดิตที่พร้อมจะจ่ายเงินอยู่ทุกเมื่อ
สำหรับการรีวิวครั้งนี้ผมขอข้ามรายละเอียดทั่วไปนะครับ เพราะเกรงว่าจะทำให้คนอ่านเบื่อเพราะมีรีวิวออกมาสองชิ้นแล้ว (ของคุณ pittaya และของคุณ zybernav) เอาเป็นเขียนแนวอารมณ์ที่ได้ใช้งานว่ารู้สึกยังไงมากกว่า ไม่รอช้าเข้าเรื่องเลยดีกว่า
Kindle DX Graphite (ที่ในนี้หลังจากนี้ของเรียกย่อว่า Kindle DXG จะได้ดูไม่รกยาวไป) เปิดกล่องมาก็เป็นเช่นนี้ล่ะครับลองดูเทียบขนาดกับ Kindle 3 ดูบ้าง
เทียบกับขนาด Artbook ทั่วไป
TechCrunch รายงานข่าววงในว่า Amazon เตรียมเปิด Android Market ของตัวเองในเร็วๆ นี้ รายละเอียดเท่าที่มีคือ
Amazon ส่งเสริมการขายหนังสือบน Kindle Store ยิ่งๆ ขึ้น โดยออกแคมเปญ Kindle for the Web
Kindle for the Web คือการแปะโค้ด embed บนเว็บไซต์ทั่วไป แต่แทนที่จะเป็นโฆษณาหรือวิดีโอที่เราคุ้นเคยกัน กลับเป็นตัวอย่างหนังสือจาก Kindle Store แทน โดยหนังสือจะมีให้ทดลองอ่านฟรีเฉพาะบทแรกเท่านั้น ดูตัวอย่างท้ายข่าว
สำหรับเว็บไซต์หรือบล็อกที่อยากหารายได้ ทาง Amazon ยังรวม Kindle for the Web เข้ากับโครงการ affiliate ที่มีอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าใครกดเข้าไปซื้อหนังสือผ่านตัวอย่างที่เราแปะเอาไว้ เราก็ได้ส่วนแบ่งจาก Amazon เช่นกัน
สองยักษ์แห่งวงการอีบุ๊กเริ่มปะทะกันแล้ว เมื่อ Amazon ออกโฆษณาสำหรับ Kindle โดยแสดงให้เห็นแท็บเล็ตหน้าตาคุ้นหน้าคุ้นตาอันหนึ่ง ที่อ่านกลางแสงแดดจ้าๆ ไม่ดีเท่ากับ Kindle ที่ใช้จอ E Ink
ข่าวจบสั้นๆ แค่นี้ ที่เหลือดูวิดีโอโฆษณากันเอาเองครับ
ที่มา - CrunchGear
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริการโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ของอเมซอนในนามว่า EC2 นั้นเคยเปิดตัว instance type ประเภท Cluster Compute เพื่อการประมวลผลสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ [ข่าวเก่า]
สำหรับเดือนนี้ อเมซอนก็ได้เปิดตัว instance type ประเภทใหม่ล่าสุดชื่อ Micro Instance ที่มาพร้อมหน่วยความจำเพียง 613 เมกะไบต์ เพื่อการโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ที่มีภาระการประมวลผลน้อยหรือมีทราฟิกการให้บริการไม่สูงมาก ตัวอย่างเช่น การโฮสต์เว็บไซต์ที่มีจำนวนผู้เข้าชมน้อย เป็นต้น โดยอเมซอนคิดค่าบริการสำหรับโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ประเภท Micro Instance เพียงชั่วโมงละ 2 เซนต์ สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น Linux หรือ Unix และ 3 เซนต์ สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น Windows
ก่อนหน้านี้มีคนระแคะระคายว่า Amazon จะบุกวงการเกม เพราะเริ่มมีคนเห็นหน้ารับสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับ "digital video games business"
ล่าสุดข่าวนี้ยิ่งยืนยันมากขึ้น เมื่อ Andre Vrignaud ซึ่งมีตำแหน่ง director of game platform strategy ของไมโครซอฟท์ ได้โบกมือลาไปอยู่กับ Amazon เรียบร้อย เขาเขียนลงบล็อกว่ายังพูดอะไรไม่ได้มากตอนนี้ แต่เราจะได้เห็นข้อมูลกันในเร็วๆ นี้แน่นอน
ที่มา - CNET
หนึ่งในประกาศของแอปเปิลเมื่อคืนที่ผ่านมา คือการลดราคา "เช่า" รายการทีวี จากเดิมตอนละ 2.99 ดอลลาร์ลงมาเหลือ 99 เซนต์ โดยใช้ดูกับ Apple TV ได้ หรือจะดูผ่านคอมด้วย iTunes ก็ได้
คู่แข่งในวงการอย่าง Amazon ซึ่งมีบริการ Video on Demand ก็ไม่หวั่น โดยเพิ่มบริการดูทีวีในราคา 99 เซนต์เท่ากัน แต่เหนือกว่าตรงที่เป็น "ซื้อขาด" ไม่ใช่เช่าแบบของแอปเปิล
Amazon เริ่มส่งมอบเครื่อง Kindle 3 ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม พร้อมระบุว่าเป็น Kindle รุ่นที่ขายดีที่สุด โดยตั้งแต่ช่วงที่เปิดตัว Kindle กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดบน amazon.com และ amazon.co.uk ชนิดว่าขายดีกว่าสินค้าชนิดอื่นๆ รวมกันเสียอีก อย่างไรก็ตาม Amazon ไม่เปิดเผยยอดขายเป็นตัวเลขว่าขายได้แล้วเท่าไร