นอกจาก Kindle Fire แล้ว วันนี้ Amazon ยังได้เปิดตัว Kindle รุ่นใหม่อีกภายใต้ชื่อ Kindle Touch โดยมีราคาวางขายอยู่ที่ 139 ดอลลาร์สำหรับรุ่นที่ไม่มีโฆษณา และ 99 ดอลลาร์สำหรับรุ่นมีโฆษณา (149 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 3G)
ข่าวต่อหลังจากที่มีข่าวหลุดของแท็บเล็ต Kindle Fire ออกมาก่อนงานแถลงข่าวจะเริ่มขึ้นจริงเล็กน้อยนะครับ
ขณะที่เขียนข่าวนี้เป็นช่วงที่เปิดให้สื่อได้ทดลองใช้งานอุปกรณ์จริงๆ (hands-on) ซึ่งวันนี้อเมซอนไม่ได้เปิดตัวสินค้าเพียงชิ้นเดียว แต่เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ถึง 4 ชิ้นด้วยกัน พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อีก 1 ตัว ขอแจกแจงเป็นรายการโดยมีข้อมูลพอสังเขปดังนี้ (อ่านต่อพร้อมวิดีโอเปิดตัวด้านใน)
สำนักข่าว Bloomberg ปล่อยข่าวของแท็บเล็ต Kindle Fire มาก่อนการแถลงข่าวในคืนนี้
แท็บเล็ตตัวนี้ใช้หน้าจอขนาด 7" รองรับมัลติทัชสองจุด, พื้นที่เก็บข้อมูล 8GB, ไม่มีกล้องหรือไมโครโฟน, ไม่มี 3G ต่อได้แต่ Wi-Fi เท่านั้น ฟังดูจำกัดมาก แต่จุดขายของมันคือ ราคา เพียง 199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6 พันบาท
Kindle Fire ใช้ระบบปฏิบัติการ Android รุ่นปรับแต่งพิเศษ และผูกกับบริการสารพัดชนิดของ Amazon ไม่ว่าจะเป็น Amazon Appstore, Kindle e-book และมีสมาชิก Amazon Prime (บริการส่งของด่วน+สตรีมหนังเพลง) ให้ทดลองใช้ 30 วัน (ราคาเต็ม 79 ดอลลาร์ต่อปี)
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon ให้สัมภาษณ์ว่า "เราไม่มองว่ามันเป็นแท็บเล็ต มันคือบริการของเราต่างหาก"
ข่าวลือนาทีสุดท้ายก่อนงานแถลงข่าวของ Amazon คืนนี้ ซึ่งอาจจะเป็นผลเสียต่อ Amazon Tablet ที่คาดว่าจะเปิดตัววันนี้เสียด้วย
ข่าวลือรอบล่าสุดก่อนที่ Amazon จะแถลงข่าววันพรุ่งนี้ (28 ก.ย. ตามเวลาสหรัฐ)
Amazon Tablet ที่พูดกันมานานเป็นปี และมีข่าวลือหลายครั้งว่าเราจะได้เห็นมันภายในปีนี้
ล่าสุดทาง Amazon ได้ส่งบัตรเชิญนักข่าวร่วมงานแถลงข่าวในวันพุธหน้า 28 กันยายน โดยไม่บอกว่าจะแถลงข่าวเรื่องอะไรบ้าง ความเป็นไปได้มากที่สุดมี 2 แบบคือ Kindle รุ่นใหม่ที่เป็นจอสัมผัส หรือ Kindle Tablet ที่ว่ากันว่าเป็นผลิตภัณฑ์อีกตัวหนึ่ง (หรือว่าเปิดตัวพร้อมกันสองอย่างเลย?)
ใครรอ Amazon Tablet อยู่ก็อดใจรอต่อกันอีกนิด พุธหน้ารู้กันครับ
ที่มา - This is my next
Amazon ประกาศวันนี้ว่าผู้ใช้งานอุปกรณ์ Kindle และแอพ Kindle บนแพลตฟอร์มต่างๆ สามารถยืมหนังสือในรูปแบบ Kindle ได้แล้วจากห้องสมุดมากกว่า 11,000 แห่งในอเมริกา โดยสามารถใช้ Whispersync กับหนังสือที่ยืมในรูปแบบ Kindle นี้ได้ด้วย และข้อมูลอย่าง บันทึกเพิ่มเติมหรือไฮไลท์ ก็จะยังอยู่เมื่อผู้ใช้งานยืมหนังสือในคราวถัดไป หรือซื้อหนังสือเล่มจริง ซึ่ง Amazon กล่าวว่าปกติแล้วหนังสือที่ยืมในห้องสมุดจะมาขีดเขียนอะไรลงไปไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับหนังสือ Kindle นี้
ในส่วนขั้นตอนการยืมนั้น ผู้ใช้งานเพียงค้นหาหนังสือที่ต้องการจากเว็บของห้องสมุดที่เปิดให้บริการนี้ และเลือกส่งหนังสือมายัง Kindle จากนั้นผู้ใช้งานก็รอรับหนังสือส่งเข้ามาใน Kindle ได้เลย
Amazon Appstore ถูกมองว่าจะมาเป็นคู่แข่ง Android Market ของกูเกิลอย่างสมน้ำสมเนื้อ แต่ขณะนี้มันยังให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เริ่มมีผู้ใช้บางประเทศรายงานเข้ามาว่าสามารถซื้อแอพจาก Amazon Appstore กันได้บ้างแล้ว (ถึงแม้ว่าข้อมูลในบางประเทศจะยังขัดกันอยู่ว่าตกลงได้หรือไม่ได้กันแน่) ประเทศที่รายงานเข้ามาได้แก่ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ แคนาดา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ เวเนซุเอลา ไอร์แลนด์ ฟินแลนด์ ออสเตรีย เอสโตเนีย โรมาเนีย โปแลนด์
Amazon ยังไม่มีประกาศใดๆ ในเรื่องนี้ ทำให้เดากันว่าช่วงนี้อาจเป็นช่วงลองระบบของ Amazon เองมากกว่า
ถ้าใครจำได้ใบรับรอง FISMA ที่เป็นใบรับรองสำหรับหน่วยงานของรัฐที่ต้องการซื้อบริการโครงสร้างพื้นฐานจากเอกชนนั้นเคยเป็นเรื่องเป็นราวระหว่างกูเกิลและไมโครซอฟท์มาก่อน แต่วันนี้ค่ายอเมซอนก็ประกาศว่าตัวเองได้รับใบรับรอง FISMA Moderate เรียบร้อยแล้ว
ตัว Google Apps นั้นได้รับ FISMA Moderate มานานแล้ว ส่วนบริการของอเมซอนหลายตัวเช่น EC2, S3, และ VPC นั้นก่อนหน้านี้เคยได้รับใบรับรอง FISMA Low มาแล้ว และก็มีลูกค้าเป็นหน่วยงานรัฐอยู่แล้วกว่า 100 รายการเช่น Recovery.gov, Treasury.gov, หรือ Federal Register 2.0
บ้านเรายังไงก็ต้องเดินไปทางเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเตรียมการออกมาตรฐานเช่นนี้ไว้บ้าง
หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่า Amazon กำลังเจรจากับสำนักพิมพ์หลายราย เพื่อเปิดบริการเช่าอีบุ๊กแบบเหมาจ่ายรายปี
บริการนี้จะมีลักษณะเดียวกับการใช้เช่าวิดีโอ-ดีวีดีของบริษัท Netflix นั่นคือลูกค้าจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปี โดยมีโควต้าในการยืมวิดีโอจำนวนหนึ่ง (เช่น 3-5 เรื่อง) กระบวนการคือลูกค้าเลือกวิดีโอผ่านหน้าเว็บ ได้รับวิดีโอทางไปรษณีย์ ดูจนจบแล้วส่งคืนทางไปรษณีย์ ก็จะได้โควต้าคืนกลับมาเพื่อวิดีโอเรื่องอื่นต่อไป
กรณีของ Amazon คาดว่ามันจะอยู่บนแพลตฟอร์มอีบุ๊ก Kindle ที่มีอยู่แล้ว โดยเปลี่ยนจากการส่งไปรษณีย์เป็นสิทธิในการโหลดอีบุ๊กมาอ่านแทน แต่ระบบการนับโควต้าน่าจะคล้ายๆ กัน
ข้อได้เปรียบของยักษ์ใหญ่ที่มีบริการหลายชนิด ก็คือสามารถแถม/พ่วงโปรโมชันระหว่างบริการต่างๆ ของตัวเองได้ง่าย
คราวนี้ Amazon เริ่มจับคู่บริการใหม่ของตัวเอง 2 อย่างเข้าด้วยกัน นั่นคือ Amazon Appstore (แอพมือถือ) กับ AWS (กลุ่มเมฆ) โดยโปรโมชันล่าสุด ออกมาเชิญชวนให้นักพัฒนาแอพบน Android ส่งแอพขึ้นไปขายที่ Amazon Appstore เพราะจะแถมเครดิตมูลค่า 50 ดอลลาร์ในการรันแอพพลิเคชันบน AWS ด้วย
Amazon ได้เริ่มทดสอบหน้าแรกของเว็บซึ่งถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดแล้ว ผู้ที่เข้ามาในเว็บบางรายจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วโดยทาง Amazon ไม่ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่าจะมีผลกับผู้เข้าเว็บทุกคนเมื่อใด
การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สังเกตได้คือหน้าแรกของเว็บสะอาดขึ้น มีช่องเสิร์ชที่ใหญ่ขึ้น มีปุ่มแยกหมวดสินค้าน้อยลง คงเหลือเพียงสินค้ากลุ่มที่จำหน่ายในรูปแบบดิจิตอลอย่างหนังสือ เพลง เป็นต้น ส่วนหมวดสินค้าทั้งหลายที่เป็นแบบจับต้องได้อย่างเสื้อผ้า ของเล่น อุปกรณ์กีฬานั้นถูกยุบรวมไปไว้มุมซ้ายบนทั้งหมด
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวคาดการณ์ว่า iCloud เช่าบริการจาก Microsoft Azure และ Amazon S3? ซึ่งล่าสุดเว็บไซต์ The Register รายงานข้อมูลวงในว่า iCloud นั้นรันอยู่บน AWS และ Azure จริงๆ โดยแบ่งส่วนข้อมูลของผู้ใช้กระจายไปยังบริการทั้งสองตัวสลับกัน
The New York Times รายงานว่าแท็บเล็ต Android ของ Amazon ที่จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้นั้นจะขายที่ราคาต่ำกว่าไอแพ็ดรุ่นถูกสุดของแอปเปิล ที่ขายที่ราคา 499 ดอลลาร์ทุกวันนี้ "หลายร้อยดอลลาร์"
โดยแหล่งข่าวของอ้างว่า Amazon จะเปิดตัวแท็บเล็ตดังกล่าวช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยสูตรความสำเร็จสำหรับ Amazon ในตลาดแท็บเล็ตคือการตัดราคาคู่แข่งรายอื่น ๆ
จุดขายของแท็บเล็ตของ Amazon นอกจากจะเป็นใช้ระบบปฏิบัติการ Android แล้ว ยังมีบริการต่าง ๆ ของ Amazon เช่น Amazon Appstore, ร้านขายหนังสือ Kindle และบริการ Cloud Drive นอกจากนี้ BGR เคยรายงานไว้ว่า Amazon มีแผนที่จะขายแท็บเล็ตทั้งรุ่นแพงกว่าและรุ่นถูก และหนึ่งในนี้จะเปิดตัวภายในไม่กี่สัปดาห์นี้แน่นอน
ทีมนักวิจัยที่พัฒนา Globus ซึ่งเป็นมิดเดิ้ลแวร์ที่กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาระบบกริดเพื่อแชร์ทรัพยากรกันระหว่างหลายๆ หน่วยงานเข้าด้วยกัน ได้ประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์ Globus Provision เพื่อใช้ในการติดตั้งระบบ Globus บนการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ Amazon EC2 โดยการใช้ Globus Provision จะช่วยให้การติดตั้ง Globus บนระบบกลุ่มเมฆทำได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการบัญชีผู้ใช้และรวมถึงการตั้งค่าต่างๆ เช่น NFS/NIS
ผู้อ่านหลายคนแถวนี้ที่ทำงานเกี่ยวกับด้านเว็บไซต์น่าจะคุ้นเคยกับ memcache กันดีอยู่แล้ว ในฐานะซอฟต์แวร์ช่วยเหลือด้านการแคชข้อมูลไว้ในหน่วยความจำของเซิร์ฟเวอร์ เพื่อช่วยลดภาระการทำงานของฐานข้อมูล
ทางด้าน Amazon เพิ่งเปิดตัวบริการใหม่ ElastiCache (ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเบต้า) ซึ่งเป็นบริการจัดการแคชที่ใช้โปรโตคอลที่เข้ากันได้กับ memcache หมายความว่าโปรแกรมเก่าที่เขียนให้ใช้กับ memcache สามารถนำไปรันกับ ElastiCache ได้ทันที มีระบบตรวจสอบความผิดปกติและกู้คืนให้อัตโนมัติ สามารถมอนิเตอร์การทำงานได้จากบริการ CloudWatch ของ Amazon เอง
ปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งของการประมวลผลผ่านกลุ่มเมฆ คือความเสี่ยงที่ข้อมูลขององค์กร (ซึ่งไปอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ) จะรั่วไหล ทำให้องค์กรที่มีข้อมูลสำคัญๆ โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ ยังลังเลที่จะใช้บริการประมวลผลผ่านกลุ่มเมฆอยู่
Amazon ในฐานะหัวหอกเรื่องกลุ่มเมฆ จึงแก้ปัญหานี้โดยออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ AWS GovCloud ที่มีความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับหน่วยงานภาครัฐบาลของสหรัฐ
หลักการของ AWS GovGloud ก็คือบริการของ AWS ตามปกติ แต่กำหนดเขตพื้นที่ (region ของ AWS) ให้เซิร์ฟเวอร์อยู่ในสหรัฐ และเข้าถึงได้เฉพาะทราฟฟิกจากสหรัฐเท่านั้น ทำให้ AWS GovCloud ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐ และเอื้อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถใช้ AWS GovCloud ได้มากขึ้น
สำนักงานทนายความ Hagens Berman ได้ยื่นฟ้องแบบกลุ่มทั่วประเทศต่อแอปเปิลและสำนักพิมพ์ 5 สำนักได้แก่ HarperCollins Publishers, Hachette Book Group, Macmillan Publishers, Penguin Group Inc., และ Simon & Schuster Inc. โดยระบุว่าทั้งหมดร่วมกันกำหนดราคาอีบุ๊กตายตัว
Amazon ได้เปิดตัวเว็บแอพ Kindle Cloud Reader ที่จะทำให้ผู้อ่านที่ใช้ Kindle อยู่แล้วสามารถที่จะเข้าถึงหนังสือของตัวเองได้ผ่านหน้าเว็บ โดยเว็บแอพนี้สามารถใช้งานได้บน Chrome, Safari และ Safari บน iPad คาดว่าบริการดังกล่าวมาเพื่อแก้ปัญหากรณีแอปเปิลไม่ยินยอมให้มีการซื้อขาย In-App Purchase แบบไม่ผ่านระบบของแอปเปิล
สำหรับผู้ใช้ไอแพ็ด ทาง TechCrunch รายงานว่าหน้าตาของเว็บแอพนี้แทบจะใช้แทนแอพ Kindle เองได้เลย เพราะนอกจากการใช้งานที่ให้ความรู้สึกเกือบเหมือน native app แล้ว ตัว Kindle Store เองได้ถูกปรับแต่งให้ทำงานบนไอแพ็ดได้ดีกว่าการซื้อผ่านหน้าเว็บแบบปกติอีกด้วย
ความพยายามในการปกป้องเครื่องหมายการค้า "App Store" ของแอปเปิลดูจะไม่ประสบความสำเร็จนักในสหรัฐฯ แต่ดูเหมือนในเยอรมันจะเริ่มมีข่าวดีให้กับแอปเปิลและข่าวร้ายกับอเมซอนเมื่ออเมซอนประกาศหยุดรับแอพพลิเคชั่นใหม่จากนักพัฒนาในเยอรมันแล้ว โดยระบุว่าเป็นผลมาจากการดำเนินคดีของแอปเปิล
อย่างไรก็ดี Amazon Appstore ยังคงดำเนินการต่อไป เพียงแต่นักพัฒนาจะไม่สามารถเพิ่มแอพพลิเคชั่นใหม่ได้เท่านั้น และยังไม่มีความชัดเจนว่าการตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากการดำเนินการใดของแอปเปิล
ที่มา - PC Magazine
รายงานผลประกอบการ Amazon ไตรมาสที่สองแสดงรายได้ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจาก 6.57 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วมาเป็น 9.91 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 51 แต่ตัวเลขกำไรกลับลดลงเล็กน้อยจาก 207 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วเหลือ 191 ล้านดอลลาร์ในปีนี้
เหตุผลที่ผลกำไรกลับน้อยลงเนื่องจาก Amazon ต้องลงทุนเพิ่มเติมเพื่อรองรับธุรกิจที่ขยายตัว โดยตอนนี้ Amazon กำลังสร้างศูนย์กระจายสินค้าถึง 15 แห่งพร้อมกัน ทำให้รายจ่ายการดำเนินการสูงขึ้นไล่ไปกับรายได้
รายได้ 9.91 พันล้านดอลลาร์แบ่งออกเป็นสองฝั่งคือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอื่นๆ เป็นมูลค่า 5.89 พันล้านดอลลาร์ และสินค้าประเภทสื่อ, หนังสือ, ซีดี, และดีวีดี เป็นมูลค่า 3.66 พันล้านดอลลาร์
เว็บไซต์ Digitimes ของไต้หวันรายงานข่าวว่า กระแสความนิยมในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทำให้บริษัทออกแบบชิ้นส่วนและแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวันจำนวนหนึ่ง เตรียมผลิตชิ้นส่วนสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ราคาถูกและจับตลาดล่าง (ราคาขายที่ 100-200 ดอลลาร์)
บริษัทกลุ่มนี้ได้แก่ Elan Microelectronics, ITE Tech, Weltrend Semiconductor, Sitronix Technology, Egalax-empia Technology (EETI) และ ILI Technology (Ilitek)
ชิ้นส่วนเหล่านี้จะตัดฟีเจอร์บางอย่างที่อาจจะไม่จำเป็นมากนักออกไป เช่น ลดจำนวนจุดสัมผัสของหน้าจอมัลติทัชจาก 10 จุดลงเหลือ 2 จุด ซึ่งพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป
Amazon จะเริ่มเปิดให้นักเรียนเช่าหนังสือเรียนผ่านทาง Kindle ได้แล้ว โดยผู้เช่าสามารถจะประหยัดเงินได้มากถึง 80% จากราคาขายหนังสือเรียนปกแข็ง สำหรับเรื่องราคาของการเช่าหนังสือเรียนเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเช่า โดยผู้เช่าสามารถจะเลือกได้ตั้งแต่ 30 วันไปจนถึง 360 วัน
โดยในขณะนี้หนังสือเรียนจากสำนัก John Wiley & Sons, Elsevier และ Taylor & Francis รองรับการเช่าบน Kindle แล้ว โดยมีหนังสือเรียนที่รองรับการเช่ารวมทั้งสิ้นหลายหมื่นเล่ม
ส่วนคนที่ชอบขีดเขียนหรือใช้ปากกาเน้นคำจากหนังสือเรียนก็ไม่ต้องกังวล หากถึงเวลาต้องคืนหนังสือเหล่านี้ เพราะ annotation ทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ใน Kindle และผู้ใช้สามารถที่จะเรียกออกมาดูได้ทุกครั้งผ่านทางเว็บ
ข่าว Amazon Tablet เริ่มหนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน จากที่ Wall Street Journal ได้รายงานข้อมูลบางส่วนไปแล้ว ทางหนังสือพิมพ์ The New York Times ได้อ้างข้อมูลจากพนักงานของ Amazon ที่ไม่เปิดเผยชื่อคนหนึ่ง ว่าบริษัทมีปัญหาในการผลิตมากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก
ปัญหาเรื่องฮาร์ดแวร์มาจากจอสัมผัส Amazon ต้องการนำเทคโนโลยีจากบริษัท Touchco ซึ่งสร้างเลเยอร์รับการสัมผัสได้ในราคาถูกมาใส่ แต่ปรากฏว่าพอนำมาใส่ในจอของ Kindle แล้วความคมชัดและความเข้มของตัวอักษรลดลง
Amazon เตรียมที่จะวางขายแท็บเล็ต Android ขนาดเก้านิ้วของตัวเองแล้วในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ แม้ว่าหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่แท็บเล็ตอีกยี่ห้อหนึ่ง แต่แหล่งข่าวของ Wall Street Journal ได้ชี้ว่าบริการต่าง ๆ ของ Amazon เองเช่น MP3 Store, ร้านขายเพลง, ภาพยนตร์, หนังสือ และ App Store ก็สามารถเข้าถึงได้โดยตรงผ่านแท็บเล็ตตัวนี้ ทำให้มันกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงทางด้านคอนเทนท์กับสินค้าตระกูล iOS
ในรายงานเดียวกันนี้ยังได้กล่าวถึง Kindle รุ่นใหม่ ที่จะมาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีนแล้ว แต่หน้าจอก็ยังคงเป็น e-ink ขาว-ดำเหมือนเดิม