ข่าวนี้ถือเป็นทิศทางที่น่าสนใจของโอเปอเรเตอร์ในต่างประเทศ ที่หันมาให้บริการด้านความปลอดภัยแก่ลูกค้ามือถือของตัวเอง
Verizon โอเปอเรเตอร์เบอร์หนึ่งของสหรัฐ เปิดบริการใหม่ชื่อ Verizon Mobile Security โดยใช้เอนจินจากบริษัทความปลอดภัย McAfee และ Asurion ช่วยกรองไวรัสและแอพอันตรายแก่ลูกค้า Android ของตัวเอง ตัวบริการแบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้
กูเกิลประกาศการซื้อกิจการบริษัทความปลอดภัย VirusTotal โดยไม่เปิดเผยมูลค่า
VirusTotal ให้บริการตรวจสอบไฟล์และ URL ที่อาจเป็นอันตราย โดยก่อนหน้านี้กูเกิลก็เคยใช้บริการของ VirusTotal ในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง (แต่ไม่ได้เปิดเผยทั่วไป) อยู่บ้างแล้ว
ในการซื้อกิจการครั้งนี้ VirusTotal ระบุว่าระบบตรวจสอบมัลแวร์ของตัวเองเมื่อไปอยู่บนโครงสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่งของกูเกิล ย่อมทำงานได้รวดเร็วและรองรับผู้ใช้งานได้มากขึ้น ส่วนโครงสร้างการบริหารจะยังเป็นอิสระจากตัวบริษัทหลักของกูเกิล
ช่วงนี้เราเริ่มเห็นโปรแกรมดังๆ หลายตัวออกรุ่นอัพเดตรอรับ Windows 8 กันบ้างแล้ว (เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าโลกของวินโดวส์ยังกว้างใหญ่มาก) ในฝั่งของซอฟต์แวร์ความปลอดภัยมีข่าวของ AVG 2013 ไปแล้ว ฝั่งบริษัทใหญ่อย่าง Symantec ก็ไม่ช้าไปกว่ากัน
Symantec ประกาศอัพเดตซอฟต์แวร์ตระกูล Norton ของตัวเองทั้ง 3 ระดับคือ Norton Antivirus, Norton Internet Security, Norton 360 ให้ทำงานร่วมกับ Windows 8 ฝั่งเดสก์ท็อปได้เต็มที่ ของใหม่ในรุ่นนี้คือปรับแต่งความเร็วการเปิด-ปิดเครื่อง รองรับจอสัมผัส ระบบตรวจสอบ scam และป้องกันอันตรายจากเครือข่ายสังคมต่างๆ ทั้งหมดวางขายแล้วในราคา 39.99, 79.99, 89.99 ดอลลาร์ตามลำดับ
บริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัย AVG อัพเดตผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเองครบทั้งชุด สำหรับ AVG 2013 เวอร์ชันบนพีซีแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย ได้แก่
ผู้ใช้งาน Avira Antivirus จำนวนหนึ่งออกมาแจ้งปัญหาด้านการใช้งานหลังจากพวกเขาทำการอัพเดตซอฟต์แวร์แอนติไวรัสและพบว่าคอมพิวเตอร์ของเขาไม่สามารถบูทและใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าปัญหานี้เป็นข้อผิดพลาดของ ProActiv ซึ่งเป็นส่วนการทำงานหนึ่งของแอนติไวรัส โดยเมื่อมีการอัพเดตที่ผิดพลาดแล้ว โปรแกรมจะไปบล็อคการทำงานของโพรเซสของระบบปฏิบัติการ ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
ข่าวดีก็คือข้อผิดพลาดนี้จะไม่พบใน Avira Antivius รุ่น Free Edition ครับ เพราะ ProActiv จะมีเฉพาะในรุ่นที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่านั้น ซึ่งล่าสุดข้อผิดพลาดนี้ได้รับการแก้ไขแล้วโดยการปิดในส่วนการทำงานของ ProActiv ครับ
Microsoft Security Essentials (MSE) โปรแกรมแอนติไวรัสจากไมโครซอฟท์ออกเวอร์ชันใหม่ 4.0 แล้ว หลังจากที่ปล่อยตัว beta มาตั้งแต่ปลายปี 2011 โดยมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมที่เห็นชัดเจนที่สุดคือระบบตรวจจับอัตโนมัติที่จะชี้ว่าไวรัสบางตัวอยู่ในระดับสูงสุด (higly harmful) โดยไม่ถามผู้ใช้อีกต่อไป
วิธีการอัพเดต MSE สามารถทำได้ที่ Windows Update ซึ่งรองรับต่ำสุดที่ Windows XP เหมือนเดิมครับ
ที่มา - cnet
Trend Micro ได้ทำการเผยแพร่ซอร์สโค้ดของโปรแกรมแอนตี้มัลแวร์ฟรี HijackThis แล้วผ่านทาง Sourceforge ภายใต้ GPL เวอร์ชัน 2
โดยทาง Merijn Bellekom ผู้สร้าง HijackThis ได้แสดงความคิดเห็นว่านี่จะเป็นผลดีต่อการพัฒนาของโปรแกรม เพราะจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถพัฒนาโปรแกรมที่มีความเฉพาะเจาะจงต่อประเภทของมัลแวร์ได้ดียิ่งขึ้น โดยผลงานชิ้นนี้ของ Bellekom ถูกซื้อกิจการโดย Trend Micro ในปี 2007 และได้รับความแพร่หลายในการใข้งานอย่างสูง
AVG Technologies บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสชื่อดังจากเนเธอร์แลนด์ ยื่นจดทะเบียนขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก คาดว่าจะใช้สัญลักษณ์ "AVG" ในการขายหุ้น
โมเดลธุรกิจของ AVG คือ "freemium" หรือการแจกซอฟต์แวร์รุ่นมาตรฐานให้ใช้ฟรี และหาเงินจากรุ่นเพิ่มความสามารถ โดยปัจจุบัน AVG มียอดผู้ใช้ซอฟต์แวร์ 106 ล้านราย (นับถึง 30 กันยายน 2011) และมีสมาชิกแบบจ่ายเงิน 15 ล้านราย บริษัทมีรายได้จากค่าสมาชิก 130.1 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้จากด้านอื่นๆ 68.02 ล้านดอลลาร์
ข่าวนี้เป็นภาคต่อของข่าว มัลแวร์ใน Android เพิ่มขึ้นกว่า 472 เปอร์เซ็นต์ตามรายงานของ Juniper นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า Chris DiBona พนักงานฝ่ายโอเพนซอร์สของกูเกิลออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาเหล่านี้ ผ่าน Google+ ของเขาเอง มีประเด็นดังนี้
เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายงานว่าไม่สามารถเข้าถึง Google Chrome ได้หรือกระทั่งไฟล์โปรแกรมดังกล่าวหายไปจากเครื่อง หลังจาก Microsoft Security Essentials (MSE) แจ้งเตือนว่าพบมัลแวร์ PWS:Win32/Zbot และผู้ใช้ทำการสั่งลบมัลแวร์ดังกล่าวออกไป
เว็บไซต์ AV-Test ซึ่งเป็นสถาบันทดสอบโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอิสระ นำซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสจำนวน 22 ตัวมาทดสอบ โดยใช้กรณีทดสอบตามสภาพใช้งานจริงๆ ของผู้ใช้ (real world test) ผลปรากฏว่ามีซอฟต์แวร์ที่ "ผ่านเกณฑ์" ขั้นต่ำของ AV-Test จำนวน 17 ตัว
สำหรับ Microsoft Security Essentials หรือ MSE ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ไมโครซอฟท์แจกฟรีสำหรับผู้ใช้วินโดวส์แท้ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของ AV-Test แต่กลับได้คะแนนส่วนของการป้องกันไวรัสและมัลแวร์ใหม่ๆ ไม่เยอะนัก (2.5 เต็ม 6 อันดับรองบ๊วย) ได้คะแนนส่วนการซ่อมแซมระดับปานกลางคือ 3.5 เต็ม 6 และได้คะแนน usability (ไม่หน่วงเครื่องและไม่แจ้งผิด) เกือบเต็ม 5.5 เต็ม 6
Microsoft Security Essentials หรือ MSE ออกรุ่น 2.0 ตัวจริงในวันนี้ โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้ทันที หรือสั่งอัพเกรดแล้วบูตเครื่องอีกครั้ง โดยรุ่นนี้มีความสามารถสำคัญสามประการคือ
เช่นเดิมคือ MSE นั้นฟรีสำหรับผู้ใช้ตามบ้านและบริษัทที่เครื่องน้อยกว่า 10 เครื่อง
เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนผมได้รับโอกาสจาก Blognone ตามข่าว "รายงาน PC Tools เปิดตัวสินค้าตระกูล 2011 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ให้รีวิวโปรแกรม PC Tools Internet Security ต้องขอโทษทางทีมงานด้วยนะครับที่ช้ามากๆ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ผมได้โหลดไฟล์ติดตั้งมากจากเว็บไซต์ www.pc-tools.com ตอนโหลดมาจากเว็บเร็วมากขนาดไม่กี่ KB จากนั้นผมก็ติดตั้งโปรแกรมในช่วงการติดตั้งมันก็ไปโหลดตัวติดตั้งอีกครั้งหนึ่ง (คงเหมือนเป็นเรื่องปกติของโปรแกรมสมัยนี้)
หลังจากโหลดไฟล์เสร็จตัวโปรแกรมก็ขึ้นข้อความต้อนรับ
อ่านหัวข่าวก็น่าจะเดาเรื่องกันต่อได้นะครับ บริษัทแอนตี้ไวรัส AVG เข้าซื้อกิจการบริษัทหน้าใหม่ DroidSecurity จากอิสราเอล คิดเป็นมูลค่า 4.1 ล้านดอลลาร์
DroidSecurity ก็ทำธุรกิจตามชื่อบริษัท โดยโปรแกรม ANTIVIRUSFree เป็นหนึ่งในโปรแกรมยอดนิยมบน Android Market มียอดดาวน์โหลดเกิน 4.5 ล้านครั้งแล้ว
อีกไม่นานเราคงเห็นมันเปลี่ยนชื่อเป็น AVG for Android
ที่มา - TechCrunch
ปัญหาเรื่อง Microsoft Security Essentials กับบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสยังมีอยู่เรื่อยๆ
ล่าสุดไมโครซอฟท์เริ่มเสนอ MSE ให้กับผู้ใช้วินโดวส์ผ่าน Microsoft Update (เป็นซูเปอร์เซ็ตของ Windows Update) ในสหรัฐและสหราชอาณาจักร ถึงแม้จะเป็น optional update แต่คู่แข่งในวงการอย่าง Trend Micro ก็ไม่พอใจกับเรื่องนี้
ผู้บริหารของ Trend Micro ออกมาอัดไมโครซอฟท์ว่านี่เป็น "การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม" ส่วนผู้บริหารของไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่านี่เป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ และเป็นเพียงทางเลือก ไม่ได้บังคับแต่อย่างใด
เมื่อวานนี้ทาง PC Tools ได้จัดงานเปิดตัวเปิดตัวสินค้าในตระกูล 2011 ซึ่งเป็นการอัพเดตตามรอบปรกติในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยที่มักเปลี่ยนเวอร์ชั่นกันใหญ่ๆ ปีละครั้งอยู่แล้ว เรืองตัวสินค้านั้นเราน่าจะหามาลองเล่นกันได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม งานเปิดตัวครั้งนี้นอกจากการแสดงซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่กำลังจะวางขายแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้เป็นการแสดงตัวว่าบ้านเรา (จริงๆ แล้วทั้งภูมิภาค) จะมีคู่แข่งในตลาดเพิ่มเติมกันแล้ว
เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเราคงจะทราบกันดีว่า ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย MSE 2.0 Beta ผ่าน MS Connect ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ใช้ในบางประเทศเข้าไปโหลดมาทดสอบได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่า เขาใช้วิธีการเช็คจาก IP หรือเช็คจากการตั้งค่าประเทศใน Windows Live ID ซึ่งทำให้ผมที่ใช้ Windows Live ID ของสหรัฐฯ อยู่ สามารถเข้าไปโหลดมาทดลองได้ ก็เลยว่าถือเป็นการดี เก็บมาบอกเล่าให้ชาว Blognone ได้ฟังกันครับ
ตอนนี้ยังสามารถเข้าไปโหลดได้อยู่นะครับ ใครสนใจไปโหลดมาได้จาก Microsoft Connect ได้เลยครับ
ผมเชื่อว่าผู้อ่าน Blognone คงไม่มีใครไม่รู้จัก Norton โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยอดนิยม Norton Antivirus (หรือถ้าใครแก่พอจะทัน Norton Commander ก็ไม่ว่ากันนะครับ :P)
แม้ว่าจะเป็นเจ้าตลาดมานาน แต่ภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ตรา Norton ในสายตาของพวกเรา คงหนีไม่พ้นประโยคทำนองว่า "ช้า กินแรงเครื่องมาก น่ารำคาญ จับไวรัสได้น้อย" อันเนื่องมาจากความประทับใจใน Norton รุ่นเดิมๆ ที่สร้างชื่อ (เสีย) ไว้มาก
หลายคนจึงหนีไปใช้ผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัส (หรือรักษาความปลอดภัยที่เป็นมากกว่าแอนตี้ไวรัส) ค่ายอื่นๆ ซึ่งก็มีตัวเลือกมากมายในตลาด รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ฟรีอย่าง Microsoft Security Essentials, AVG หรือ Avast! เป็นต้น
อัพเดตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาของ BitDefender ตั้งแต่รุ่น 2008 เป็นต้นมาเกิดความผิดพลาดทำให้โปรแกรมตรวจว่าไฟล์ของวินโดวส์ และของตัว BitDefender เองเป็นไฟล์อันตราย ตัวโปรแกรมจึงจับไฟล์ทั้งหมดเข้าเขตกักกัน (quarantine) ทำให้เครื่องบูตไม่ขึ้น
การแก้ไขในกรณีที่ยังไม่ได้อัพเดตให้ปิดการแสกนไวรัสและสั่งอัพเดตล่าสุดเสียก่อนที่จะใช้งานต่อ หรือผู้ที่ถูกผลกระทบแล้วให้เข้าไปยังเว็บของ BitDefender เพื่อโหลดซีดีกู้ระบบมาแก้ไขต่อไป
งานนี้อาจจะร้ายกว่าไวรัสจริงๆ ซะอีก
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วโลกรวมถึงชาวไทยสามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Microsoft Security Essentials ชุดป้องกันมัลแวร์ตัวใหม่ที่เป็นภาษาท้องถิ่นได้แล้ว
ใครที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่ หากหน้าเว็บภาษาอังกฤษ ให้คลิกปุ่ม Download Now แล้วเลือก Locale or Language เป็น Thai ตามลำดับ
ที่มา: Notebook SPEC
Facebook จับมือกับ McAfee แจก McAfree Internet Security พร้อมอายุใช้งานฟรี 6 เดือน เพียงแค่กดเป็น fan ในหน้าของ McAfeeเท่านั้น (6 เดือนต่อจากนั้นได้ส่วนลด 30%)
ในหน้าของ McAfee บน Facebook ไม่มีประเทศไทยให้เลือก แต่ผมลองกดๆ ดูก็ดาวน์โหลดไฟล์ได้ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ต้องใส่ข้อมูลที่อยู่และบัตรเครดิตบ้างตามสมควร (ของฟรีนิ แต่ใส่มั่วๆ ได้นะ) ไฟล์ติดตั้งเป็น .exe ขนาด 1.2MB แปลว่าเป็น networked install โหลดไฟล์กันเพิ่มต่อไป นี่เป็นแผนการตลาดที่น่าสนใจอันหนึ่งของ McAfee
ขึ้นชื่อว่า Kaspersky หลายๆ คนคงรู้จักดีในฐานะโปรแกรมตรวจจับไวรัสที่โด่งดังบนวินโดวส์ และ ณ ตอนนี้เจ้าโปรแกรมนี้ก็ได้ขึ้นฝั่งแมคเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าผู้ใช้แมคส่วนใหญ่ (รวมทั้งแอปเปิลเอง) มักจะมั่นใจกับระบบปฏิบัติการ OSX ในระดับหนึ่ง แต่จากรายงานของ Kaspersky นั้นพบว่าตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมานั้นมีรอยรั่วใน OSX หลายจุดที่อาจทำให้ถูกจู่โจมได้โดยง่าย Kaspersky จึงได้ออก Anti-Virus รุ่นสำหรับแมคที่สามารถป้องกันได้ทั้งไวรัส, หนอนอินเทอร์เน็ต และโทรจันไม่แตกต่างไปกับรุ่นที่อยู่บนวินโดวส์ รวมทั้งยังใช้ฐานข้อมูลที่อัพเดตบ่อยทุกชั่วโมงเหมือนกับรุ่นวินโดวส์ด้วย
หลังจากที่ออกรุ่นเบต้าอยู่ได้ร่วมปี (ข่าวเก่า) วันนี้ Panda Cloud Antivirus ก็ได้หลุดจากสถานะเบต้ามาเป็นรุ่นจริงแล้วครับ
ทวนกันอีกที โปรแกรม Antivirus แจกฟรีตัวนี้นั้นจำเป็นจะต้องอาศัยการติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์กลุ่มเมฆของ Panda ในการสแกนไวรัส แต่เมื่ออยู่ในสถานะที่ไม่ได้ต่อกับอินเทอร์เน็ต ก็ยังปกป้องไวรัสที่ค้นพบใหม่ๆ ได้จากการเทียบกับฐานข้อมูลเล็กๆ ที่ดาวน์โหลดเอาไว้ครับ และเนื่องจากตัวสแกนจริงๆ อยู่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นตัวโปรแกรมฝั่งผู้ใช้จะกินทรัพยากรระบบน้อยกว่าโปรแกรมอื่นๆ ซึ่งจากการทดสอบของ CNET นั้นพบว่าใช้แรมเพียง 56 MB ขณะสแกน และ 9 MB ขณะที่เปิดไว้เฉยๆ (โปรแกรมอื่นๆ ขณะสแกนนั้นกินราวๆ 150 MB)
AV-Test องค์กรทดสอบและให้คำปรึกษาระบบรักษาความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสากล ได้ทดสอบ Microsoft Security Essentials (MSE) ตัวจริง เมื่อวันที่ 29-30 ก.ย. ที่ผ่านมา มีการทดสอบและผลการทดสอบดังนี้
หลังจากไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Security Essentials (MSE) รุ่นจริง ให้ดาวน์โหลดฟรี คำถามที่หลายๆ คนมีแน่คือผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสตัวอื่นๆ จะว่ายังไงกันบ้าง คำตอบมาแล้วไม่ต้องรอนาน
Symantec ผู้ผลิตโปรแกรมตระกูล Norton มองโลกในแง่ดีว่า MSE จะไม่มีที่ยืนในตลาดแอนตี้ไวรัสที่แข่งกันรุนแรง เพราะ MSE พัฒนามาจาก OneCare ที่ได้รับเสียงตอบรับด้านความปลอดภัยและการตรวจเจอไวรัสไม่ดีนัก
ESET เจ้าของ NOD32 บอกว่าการมีโปรแกรมฟรีให้ผู้ใช้ติดตั้งย่อมดีกว่าไม่ติดตั้งอะไรป้องกันเลย และ MSE ไม่กระทบอะไรกับ NOD32 เนื่องจากจับคนละตลาด NOD32 นั้นแข่งในตลาดผลิตภัณฑ์เสียเงินที่ปรับแต่งได้มากกว่าและมีฟีเจอร์มากกว่า